เจมส์-ครูก้อย เปิดมุมคลั่งรักรับวาเลนไทน์ มองการทะเลาะเป็นการโต้วาที

เจมส์ เรืองศักดิ์ ควง ครูก้อย นัชชา เปิดมุมคลั่งรักรับวันวาเลนไทน์ 7 ปียังหวานฉ่ำ แม้จะรักกันมากแต่ก็มีเรื่องให้ทะเลาะกัน แต่คู่นี้มองการทะเลาะเป็นการโต้วาที

เจมส์-ครูก้อย เปิดมุมคลั่งรักรับวาเลนไทน์ มองการทะเลาะเป็นการโต้วาที

คู่รักดัง เจมส์ เรืองศักดิ์ และ ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ เผยเคล็ดลับใช้ชีวิตคู่ 7 ปี รักหวานฉ่ำ ในรายการ "ตีสิบเดย์" ทางช่อง 3 ออกอากาศเมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีเคล็ดลับเด็ดในการดูแลความรักด้วยการรักษาวัฒนธรรมความเป็นแฟน หาเงินได้เท่าไหร่ก็ยกให้เมีย เปย์เมียหมด เพราะครูก้อยเป็นศรีภรรยาที่ดี

แม้จะรักกันมากแต่ก็มีเรื่องให้ทะเลาะกัน แต่คู่นี้มอง "การทะเลาะ" เป็น "การโต้วาที" สนุกสุดมัน จนพิธีกรรายการตีสิบเดย์ "วิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์" และ "แพท ณปภา ตันตระกูล" อิจฉาตาร้อนในความรักของทั้งคู่ และออกคำเตือนว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการทะเลาะกันของสามีภรรยา หากตกลงกันไม่ได้เหมือนบ้านนี้

โดย เจมส์ เรืองศักดิ์ ได้เปิดใจว่า 7 ปีที่ผ่านมา ความรักมีแต่เพิ่มขึ้น ไม่มีลดลง เพราะผมมีความรู้สึกว่าถ้าเรารักด้วยความตั้งใจรัก เรารู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้เราจะทำให้เขารู้สึกเป็นคนที่โชคดีในทุกๆ ปี มีความรู้สึกปลอดภัยขึ้น มีความสุขมากขึ้นทุกๆ ปี อันนี้จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมมีความรักมากขึ้นหรือหวานมากขึ้น

รักษาวัฒนธรรมความเป็นแฟนแม้จะแต่งงานแล้ว

ทั้งคู่ยังคงรักษาวัฒนธรรมความเป็นแฟน แม้จะแต่งงานแล้ว โดยพากันไปเที่ยวตลอดทุกเทศกาล วาเลนไทน์มีดอกไม้ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ดอกไม้วาเลนไทน์ไม่เคยขาดมาทุกปี แม้กระทั้งบางปีที่ เจมส์ เรืองศักดิ์ ไปทำงานต่างประเทศ ไปเล่นคอนเสิร์ตดอกไม้ก็ส่งมาให้ครูก้อยตลอด

ครูก้อย เล่าว่า มีจีบกัน มีอ้อนกัน ต้องหาเรื่องให้ชุ่มชื่นหัวใจตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการทำเซอร์ไพรส์กันบ้าง หรือว่าชวนไปดูหนัง ดินเนอร์ เซอร์ไพรส์ ทั้งที่ๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่จะเซอร์ไพรส์คืออะไร แต่ก็ยังทำให้รู้สึกเหมือนตอนที่เป็นแฟนกัน เรียกว่า "รักษาวัฒนธรรมความเป็นแฟน" เอาไว้เดี๋ยวมันหายไป มีของขวัญให้กันทุกเทศกาลวันวาเลนไทน์ วันครบรอบ วันจดทะเบียน วันขอแต่งงาน วันหมั้น วันเข้าพระราชทานน้ำสังข์ วันแต่งงาน แยกหมด อีกหนึ่งอย่างคือเขาต้องจำให้ได้ ทบทวนให้เขาทุกปี ของขวัญไม่ต้องใหญ่ เล็กๆ น้อยๆ ต่างหูอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็พอใจแล้ว

"เจมส์ เรืองศักดิ์" ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีสายเปย์ ให้แต๊ะเอีย 999,999 บาท

เจมส์: ของผมเนี่ย เงินจะไม่มีความหมายเลยนะ ถ้าเราไม่ได้ใช้เงินกับคนที่เรารัก เพราะฉะนั้นผมมีความรู้สึกว่าเราเป็นผู้ชาย เรามีความภาคภูมิใจที่ได้ออกไปทำงานข้างนอก กลับมาแล้วหอบสิ่งนี้มาให้กับคนที่เรารักมากที่สุด มันเป็นความสุข นอกจากการได้ใช้เงิน คือความสุขของการได้ให้เมีย

วันเกิดครูก้อยปีที่ผ่านมาให้ที่ดินติดหาด จ.นครศรีธรรมราช มูลค่า 40 ล้านบาท ครูก้อยแค่เปรยที่ดินแปลงนั้นก็มา

ครูก้อย: คือช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด เราก็หอบครอบครัวกลับไปนครศรีธรรมราช ทีนี้ไปเที่ยวทะเลเห็นที่ดินริมหาดปักป้ายขาย ภาพในฝันก็ออกมาเลยคือ บ้านพักตากอากาศริมหาด เลยบอกพี่เจมส์ว่า "ปะป๊า อยากได้บ้านริมหาดมากเลยอะ ถ้าพี่จะให้ของขวัญอะไรน้องใดๆ เอาที่ดิน อย่างอื่นไม่เอา" เราก็พูดขำๆ ไป พูดเปรยๆ

เจมส์ : เขาเปรยแปลงนั้นแต่สายตาเขากวาดรอบเลยครับ ผมก็เลยไปติดต่อซื้อ ที่เขาประกาศขายก็ไม่ยากหรอกครับ แต่ที่ข้างๆ ที่เขายังไม่ประกาศนี่สิครับ ต้องไปติดต่อขอเจ้าของที่ แล้วการที่เราไปซื้อที่โดยที่เขายังไม่ได้ประกาศขาย เราต้องยินดีจ่ายเขาเพื่อให้ได้มันมา สุดท้ายมันเลยจบที่ตัวเลขนั้นครับ คำขวัญผมคือ “จะเปย์จนกว่าเมียจะรัก”

แต่ลึกๆ แล้วผมคิดว่าภรรยาเขามองการณ์ไกล การที่จะซื้อสิ่งของอะไรที่มันฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองมูลค่าลดลงเรื่อยๆ แต่สิ่งนี้ถ้าซื้อเอาไว้มูลค่ามันเพิ่มขึ้นเอา ก็เลยมองเห็นวิสัยทัศน์ของเขาในระยะยาว แต่หลังๆ วิสัยทัศน์ชักจะบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ครับ (หัวเราะ)

สร้างบ้านด้วยเงินสด 45 ล้านบาท ยกให้ครูก้อย

ครูก้อย: บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเราทั้งคู่และก็น้องเมดา ที่นี่เป็นบ้านที่เราร่วมการสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่เราชอบ คือก้อยกับพี่เจมส์ชอบแนวมินิมอลเหมือนกัน และเราทั้งคู่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่น คือเราไปญี่ปุ่นกันบ่อยมาก คือสไตล์ในบ้านก็จะมีความเป็นญี่ปุ่น โล่งโปร่งสบาย ใช้เวลา 3 ปี ในการสร้างบ้านหลังนี้

เจมส์: หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ตั้งใจเก็บหอมรอมริบมาเรื่อยๆ แล้วก็ผมเป็นคนที่ถ้าหากว่าไม่มีเงินมากพอที่จะทำ ก็จะไม่พยายามที่จะไปผ่อน ไปสร้างภาระหนี้สิน ก็เลยตัดสินใจว่าโอเค สดเลยละกัน

ครูก้อย: พี่เจมส์เขาเป็นคนที่ไม่ฟุ่มเฟือยเลยค่ะ นี่คือนิสัยของเขา พี่เจมส์คือไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่ออกรายการทีวี เขาจะใส่รองเท้าแตะ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น นาฬิกา เขาก็ใส่นาฬิกาออกกำลังกาย

เจมส์: จริงๆ แล้วผมมองว่า ถ้าหากว่าเราตั้งใจทำงานทำมาหากินที่ดีแล้วเนี่ย เรื่องของการรู้จักที่จะเก็บมัน มีความรู้เรื่องการบริหารการเงินอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้ผมมีวันนี้นะครับ

แม้จะรักหวานชื่น แต่ก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่คู่นี้กลับมอง "การทะเลาะ" เป็น "การโต้วาที" สนุกสุดมัน

เจมส์: เราก็มีทะเลาะกันครับ ทะเลาะกันแรงด้วยครับ ไม่ใช่เบาๆ ทะเลาะกันแบบความเห็นไม่ตรงกัน อะไรต่างๆ นานา เต็มไปหมด

ครูก้อย : แต่ความแรงของเราคือสนุกนะ ชอบให้มีการทะเลาะ เพราะในจิตใจของครูก้อยไม่ได้เรียกว่าเป็นการทะเลาะ แต่เรียกว่าเป็น “การดีเบต” เป็นการ “โต้วาที” ครูก้อยจะมีความบันเทิงในการระบายสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา ไม่ชอบการเก็บ ไม่ชอบอะไรที่เก็บงำซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ จะไม่ชอบเลย มีอะไรก็จะพูดออกมา ซึ่งอดีตเขาจะเป็นคนเงียบเพราะเขาอาจจะรักษาสถาบันครอบครัวไม่ให้เกิดการวิวาท แต่ว่าตอนหลังพอเขารู้ว่าสไตล์ คือสไตล์ครูก้อยแบบว่าเชิญชวนให้ทะเลาะ บู๊ล้างผลาญ บ้านเราคือ ถ้าคนนึงเป็นไฟ อีกคนเป็นน้ำมันค่ะ สาดใส่กัน

เจมส์: ทฤษฎีนี้ค่อนข้างผาดโผน แต่ละครอบครัวที่นำไปใช้ต้องใช้วิจารณญาณนิดนึง คือต้องมีเป้าหมายร่วมกันก่อนว่า เผากันยังไงสุดท้ายต้องไม่เลิกกันนะ สุดท้ายเป้าหมายร่วมกันคือ จะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขนะ แต่การเผาเราจะเผาเพื่อต้องการที่จะกำจัดสิ่งที่เป็นมลพิษออกให้หมด ข้อดีของวิธีนี้คือ เรื่องเดิมไม่ถูกกลับมาพูดใหม่ มันถูกเผาไหม้ไปแล้ว สุดท้ายสาดกันยังไงบทสรุปก็คือเราต้องยอมเมีย

ครูก้อย: จะบอกเขาไปเลยว่า สุดท้ายพี่ต้องเอาอย่างนี้นะ ว่าถ้าพี่ไม่อยากให้เกิดการทะเลาะนะ โอเคครั้งหน้าพี่จะไม่ทำอย่างนี้นะ 1 2 3 4 และสุดท้ายพี่ต้องบอกว่า โอเค กติกาของเรายังมีเหมือนเดิมนะ ก็คือ “เชื่อฟังเมีย”

เจมส์ : ข้อ 1 เชื่อฟังเมีย ข้อ 2 ตามใจเมีย ข้อ 3 ถ้าจำไม่ได้ให้ไปท่อง 2 ข้อแรก สุดท้ายก็ต้องแบบนั้นทุกครั้ง คือผมมีความรู้สึกว่าสุดท้ายเราจะเลือกความถูกต้อง หรือว่าจะเลือกความสัมพันธ์

โดย เจมส์ เรืองศักดิ์ ได้เล่าถึงเหตุผลว่า ทำไมถึงรักเมียมาก ทั้งรัก ทั้งยอมเป็นทาสรักเมีย เพราะความดีของครูก้อย 90% ของครูก้อย คือ ดูแลดีมาก

ขณะเดียวกัน ครูก้อย ก็บอกว่า "ทางบ้านครูก้อย พ่อ แม่ ญาติทุกคน รักพี่เจมส์มาก ถ้านั่งกันอยู่ในวงครอบครัว ถ้าพี่เจมส์ลุกไปเข้าห้องน้ำ แม่จะพูดว่า “ก้อยหาไม่ได้แล้วนะลูก เขยแบบนี้หาไม่ได้แล้ว” ถ้าพี่เจมส์ลุกปุ๊บ “ก้อย...” ขับรถแวะเซเว่นพี่เจมส์ลงปุ๊บ แม่ก็พูด “ก้อย...” อีกละ พูดทุกวัน พูดทุก 5 นาทีที่เขาลุกออกจากสถานการณ์ที่คนรวมกัน แม่หนูรักเขามาก เขารักเป็นลูกเลยค่ะ รักเหมือนลูกในไส้เลยค่ะ พี่เจมส์ดูแลแม่ดูแลพ่อ ดูแลทุกคน แม้กระทั่งเพื่อนของครูก้อยเขาก็ดูแล เขาไม่ใช่คนที่ดูแลที่แบบว่า คือจ่ายเงินให้ทุกเดือนไม่ใช่นะคะ ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ เขาก็ดูแล เขาเป็นคนแบบนั้น

ในฝั่งบ้าน "เจมส์ เรืองศักดิ์" ก็ปลื้มครูก้อยไม่แพ้กัน "พ่อแม่ผมก็พูดเหมือนกัน เมียแบบนี้หาไม่ได้แล้วนะ เพราะครูก้อยไม่ใช่แค่ดูแลตัวเรา ดูแลคุณพ่อคุณแม่ ดูแลญาติพี่น้องเราด้วย คิดดูเขาต้องใช้ความรักมากแค่ไหนดูแลได้ทั้งหมด นี่คือเหตุผลที่ผมรักเขามาก"

กำลังวางแผนมีลูกคนที่ 2

ครูก้อยกำลังเตรียมตัวใส่ตัวอ่อน วางแผนไว้ประมาณ มี.ค. หรือ เม.ย. นี้ เพราะมีตัวอ่อนที่คัดโครโมโซมผ่านแล้ว 2 ตัว เพศหญิง 1 เพศชาย 1 เนื่องจากทั้งคู่อยู่ในกระบวนการทำอิ๊กซี่ หรือมีภาวะมีบุตรยากนั่นเอง

โดย เจมส์ เรืองศักดิ์ และ ครูก้อย นัชชา ยังได้ฝากอวยพรเนื่องในวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ให้ทุกคนมีความสุขในความรัก ทุกความสัมพันธ์ รักพ่อ รักแม่ รักแฟน รักภรรยา รักลูก รักเพื่อน รวมถึงรักประเทศชาติด้วย.

คุณกำลังดู: เจมส์-ครูก้อย เปิดมุมคลั่งรักรับวาเลนไทน์ มองการทะเลาะเป็นการโต้วาที

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด