โฉมใหม่ Coro field ราชบุรี ที่มาพร้อมฟาร์มกัญชง และ The Thousand Moods of Plant
พาไปชม Coro field ราชบุรี โฉมใหม่ ที่มาพร้อมฟาร์มกัญชง และ The Thousand Moods of Plant
หลังจากเปิดทำการในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากว่า 7 ปี ส่งท้ายปี 2565 นี้ ฟาร์มเมลอนชื่อดัง Coro filed อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ขอเริ่มต้นการก้าวสู่ปีใหม่ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่มุ่งสู่การเป็นธุรกิจ mental wellness แต่ยังคงแก่นกลางที่มีคำว่า plant เป็นหัวใจสำคัญ เปิดตัวครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2565 ผ่านกิจกรรมภายใต้คอนเซปต์ “The Thousand Moods of Plant” ที่นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในหมวด CBD หรือ สารสกัดจากกัญชง เวลาเดียวกันยังเสิร์ฟภาพลักษณ์ใหม่ผ่านกิจกรรมภายในฟาร์มกัญชงที่นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่กระบวนการปลูกไปจนถึงการนำไปใช้ประโยชน์
“ตั้งแต่ ค.ศ.2009 วันแรกที่เราเปิด Coro field ตอนนั้นคำว่า
‘การท่องเที่ยวเชิงเกษตร’ ยังเป็นอะไรที่กำกวมมาก
เรายังคิดกันอยู่เลยว่าจะรอดไหม อย่างเดียวที่เรารู้คือ ณ
วันนั้นเราทำดีที่สุดแล้ว เราเปิดมาจนมีจุดเปลี่ยนสำคัญคือตอนค.ศ.
2019
คือสมัยก่อนทุกปีเราจะตั้งงบไว้ก้อนหนึ่งเพื่อให้เราได้ลองทำอะไรใหม่ๆ
ตอนแรกเราลองกับร้านอาหารแล้วเจ๊ง ถัดมาเปิดร้านขนมก็เจ๊งต่อ ในปี
2019 เราเลยตัดสินใจไปออกงาน Thaiflex ด้วยแบรนด์ Coro field
ในคอนเซปต์ snack that save the world ตอนไปออกมีคนสนใจขนมเราเยอะมาก
เรานำ waste
หรือขยะที่เหลือจากการเกษตรมาทำเป็นขนมให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
แต่ตอนนั้นด้วยความที่เรายังทำกันไม่เป็น
เราทำโปรดักต์ที่มีอายุเก็บได้แค่ 7 วัน สุดท้ายเราก็ขายไม่ได้
แต่งานนั้นเป็นที่มาของสิ่งที่ทำให้พวกผมกลับมาทำการบ้านกันต่อ
จนเจอคำว่า plant base จนสุดท้ายได้กลายมาเป็นแบรนด์ Plante ที่เป็น
plant based protein หรือโปรตีนจากพืชขึ้นมา”
พอท-มิตรดนัย สถาวรมณี หนึ่งในผู้ก่อตั้งเล่าถึงภาพรวมของธุรกิจในมือ ซึ่งในปัจจุบันมีด้วยกันสามแบรนด์หลักที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรทั้งหมด ได้แก่ SG Weltech แบรนด์ปุ๋ยที่ปัจจุบันหันมาโฟกัสกับเทคโนโลยีการเกษตรและ AI Farming มากขึ้น แบรนด์ Plante – plant based protein การเปลี่ยนพืชเป็นโปรตีนเทรนด์ใหม่ในอุตสาหกรรมอาหารที่หลายคนเริ่มจะคุ้นหูกันอยู่แล้ว และส่วนสุดท้ายคือ Coro field โฉมใหม่ที่เรากำลังจะพูดถึงในครั้งนี้
“สำหรับ Coro field จริงๆ พอเราทำมาถึงวันนี้
ผมคิดว่าเราตั้งต้นขึ้นมาด้วยสิ่งที่อยากทำให้คนมีความสุขมากขึ้น
ถึงจุดหนึ่งเราเลยรู้สึกว่าถ้ามีเจตนาที่ดี
มันจำเป็นต้องให้คนเดินทางมาหาเราไหม
เลยตั้งโจทย์ใหม่ขึ้นมาว่าถ้าเราไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว
แต่เป็นแบรนด์ที่ทำให้คนมีชีวิตและจิตวิญญาณที่ดีขึ้นล่ะ
ผมมีความเชื่ออยู่แล้วว่า plant มีพลังในหลายๆ
มุมหรือถ้าพูดให้เข้าใจง่ายคือธรรมชาติบำบัด
ปีนี้เราเลยตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเข้าสู่
mental wellness โดยเริ่มจากสิ่งที่เรียกว่า CBD (cannabinoid)
หรือสารสกัดจากต้นกัญชง”
หากพูดให้เข้าใจง่าย การได้ไปเยี่ยมชมฟาร์มของ Coro filed
เป็นเหมือนกับการพาเราไปยังจุดเริ่มต้นและขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดความเข้าใจว่ากว่าจะออกมาเป็นสารสกัดในผลิตภัณฑ์
หรือการได้มาซึ่งผลผลิตที่เรียกว่า organic premium hemp
ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง ไฮไลต์จุดแรกคือโรงเพาะ 3
หลังที่เรียกว่า corofield
lab เป็นโรงเพาะที่ผสมผสานความเป็นนิทรรศการขนาดย่อมๆ เข้าไปด้วย
ในโรงเพาะทั้ง 3 หลังจะเรียงไปตั้งแต่ต้นกัญชงขนาดเล็ก
ขนาดกลางและขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นความต่างของระยะการเติบโต
ไปจนถึงเทคโนโลยีแบบ IOT smartfarmเพื่อควบคุมปริมาณแสง คุณภาพอากาศ
การจ่ายน้ำและปุ๋ยผ่านระบบเซนเซอร์
ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่บันทึกได้แบบเรียลไทม์ สามารถดูค่าต่างๆ อาทิ
ปริมาณความชื้นหรือแสงได้ตลอดผ่านทาง corofield.com/farm/hemp/dashboard/COROHE09
ซึ่งที่ทาง Coro field
เรียกจุดนี้ว่าแล็บก็เพราะว่ามีแพลนพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงและมีราคาที่เข้าถึงได้ออกมา
ฉะนั้นระหว่างการเพาะปลูกที่นี่จึงเป็นห้องทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ไปด้วยในตัว”
สำหรับโรงเรือนที่ 3
ซึ่งเป็นต้นกัญชงในระยะเติบโตที่สุดจะเป็นการจัดแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของต้นกัญชง
12 สายพันธุ์ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยแต่ละต้นมีประโยชน์ที่ต่างกัน
เช่นสายพันธุ์ของไทยจะมีลักษณะของต้นที่สูงใหญ่กว่า
เหมาะแก่การนำไปทำเส้นใยและสิ่งทอ
ทำให้ต้องมีโครงสร้างของต้นที่ใหญ่และแข็งแรง
ต่างกันกับสายพันธุ์ต่างถิ่นที่นิยมใช้ช่อดอกมากกว่า
จุดนี้จะเชื่อมต่อไปยังส่วนต่อไปที่ชื่อว่าโซน sense &
space รวบรวมข้อมูลและความแตกต่างของกัญชงทั้ง 12
สายพันธุ์ในโรงเพาะเอาไว้
แต่นอกเหนือจากเรื่องข้อมูลทางด้านการเกษตรที่จัดแสดง ทาง Corofield ยังเบลนด์เรื่องราวของกัญชงเข้ากับไลฟ์สไตล์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ รวมถึง 12 เมนูพิเศษจากกัญชงที่ได้ เชฟแวน-เฉลิมพล โรหิตรัตนะ แห่งร้าน DAG และ เชฟแบล็ก-ภานุภน บุลสุวรรณ แห่ง Blackitch เชียงใหม่ มาสร้างสรรค์ให้ในสไตล์ western
เมนูแนะนำเราขอยกให้ Pesto pasta with grilled chicken พาสตาเพสโตรสจัดอย่างไทยเสิร์ฟคู่กับไก่ย่างเกลือสตุกัญชง ซึ่งเป็นเกลือที่ได้จากการเคี่ยวใบกัญชงปั่นผสมน้ำก่อนจะนำน้ำกัญชงมาเคี่ยวกับเกลือจนแห้งกลายเป็นผงสำหรับปรุงอาหารส่วนใครไม่ถนัดรสจัดมีอีกหนึ่งเมนูที่ไม่อยากให้พลาดคือ Baked rice with hemp butter and scallop ข้าวอบเนยกัญชงโฮมเมด ซึ่งเป็นเนยที่ทำจากใบกัญชงตากแห้ง ก่อนจะนำไปผ่านการอบเพื่อกระตุ้นสารสำคัญในใบที่อุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียสและ sousvide กับเนยต่อจนเซตติงออกมาเป็นเนยกัญชงในเมนูนี้ ปิดท้ายไปด้วยความสดชื่นของเครื่องดื่ม refreshing drink ที่ประกอบไปด้วยใบกัญชงสด ความหอมของใบสะระแหน่ ผสมกับความเปรี้ยวซ่าของมะนาวโซดาช่วยรีเฟรชความสดชื่นได้ตามที่ชื่อบอกไว้เลย
สำหรับใครที่ยังสับสนระหว่าง กัญชง กัญชา หรืออยากศึกษาคุณสมบัติของกัญชงสายพันธุ์ต่างๆ อย่างลึกยิ่งขึ้น โฉมใหม่ของ Coro field เป็นอีกโรงเรียนการเกษตรขนาดย่อมที่มีข้อมูลตั้งแต่ปลูกถึงการสร้างมูลค่าอย่างครบครัน
Fact File
- Coro filed ที่ตั้งอยู่ที่ ถนนราชบุรี-ผาปก ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดทำการทุกวัน วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 9.00-17.30 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 9.00-18.00 น. โทร. 085-592-4954 เว็บไซต์ : https://corofield.com Facebook: www.facebook.com/corofieldTH
- กัญชา และ กัญชง เป็นพืชชนิดเดียวกันแต่จำแนกเป็นต่างชนิดย่อย
เมื่อใช้คำว่า “พืชกัญชา” โดยทั่วไปหมายถึงทั้งกัญชาและกัญชง
ในเอกสารต่างประเทศมักใช้คำว่า Cannabis แต่หากระบุเจาะจงลงไป
กัญชาจะหมายถึงชนิดย่อย indica เรียกในภาษาทั่วไปคือ marijuana
ส่วนชนิดย่อย sativa หมายถึงกัญชง หรือ hemp
นอกจากนี้การแยกแยะกัญชากับกัญชงยังพิจารณาจากปริมาณสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
คือ THC (delta-9-Tetrahydrocannabinol) ด้วย โดยกัญชาจะสร้าง THC
มากกว่ากัญชง ทำให้กัญชงเป็นที่ยอมรับในการนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ
มากกว่า เพราะไม่มีผลกระทบเรื่องการเสพติด
แต่การจะปลูกหรือพัฒนาในเชิงพาณิชย์นั้นต้องได้รับการอนุญาตจากภาครัฐก่อน
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ โฉมใหม่ Coro field ราชบุรี ที่มาพร้อมฟาร์มกัญชง และ The Thousand Moods of Plant
คุณกำลังดู: โฉมใหม่ Coro field ราชบุรี ที่มาพร้อมฟาร์มกัญชง และ The Thousand Moods of Plant
หมวดหมู่: เที่ยวทั่วไทย