จูเน่ เพลินพิชญา แอบกดดันหลังเตรียมทำงานเพลงอีกครั้ง

เป็นอีกหนึ่งสาวที่มีแฟนๆ คอยติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ได้เจอ จูเน่ เพลินพิชญา ที่งาน KING POWER MAHANAKHON GRAND OPENING… THE MAHANAKHON OF LIVES มหานคร หนึ่งเดียวของทุกคน ก็ไม่พลาดที่จะอัปเดตเรื่องงานของนักแสดงสาวคนสวย ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า

เป็นยังไงบ้างเราได้ใช้สกิลจากที่มีมา?
ก็เป็นงานแรกที่หนูต้องรื้อฟื้น ทั้งร้อง เต้นทั้งแสดงด้วย (ยิ้ม) เป็นครั้งแรกเลยที่มีโอกาสได้เล่นอะไรเชิงมิวสิคัล ก็ตื่นเต้นมากแล้วก็ท้าทายมากๆ มีการนัดกันซ้อมกว่าจะได้เป็นโชว์วันนี้

แต่จริงๆ ก็มีพื้นฐานมาก่อนหน้านี้แล้ว?
ก็พอมีงูๆ ปลาๆ (ยิ้ม) พอมาเข้าสู่โลกที่เป็นมิวสิคัล มันก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งค่ะ การแสดงสำหรับบนเวที เราก็ต้องเรียนรู้หลายอย่างเพิ่มเติมเยอะมาก

สำหรับเรามันยากตรงไหน?
หนูว่ามันคือการที่เราต้องทำทุกอย่างให้ได้ดีพร้อมกันทั้ง 3 อย่างไม่ว่าจะร้องเต้น แสดง มันคือการต้องซ้อมให้ร่างกายมันไปเป็นหนึ่งอันเดียวกันอะไรแบบนี้

ท้าทายตัวเองเยอะแค่ไหน?
เยอะเหมือนกันนะ โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นใจมากกว่า เพราะว่าอย่างที่หลายๆ คนเห็นต่อให้เราเคยเรียนมาก่อน เคยร้องเพลง แต่มันก็นานมากๆ เหมือนกันที่ไม่ได้มาเตะอะไรพวกนี้ (คืนวิชาแล้ว?) นิดนึง (หัวเราะ) เขินๆ อายๆ นิดนึง แต่ทีมงานน่ารักมาก ทุกคนที่ทำงานในวันนี้ด้วยคือทุกคนมืออาชีพมากๆ แล้วเราก็สนุกมากเลยทำให้บรรยากาศตั้งแต่ในการซ้อมมันสนุกมากๆ รู้สึกแฮปปี้สบายๆ

ตั้งแต่ขึ้นเวที นาย ณภัทร เจฟ ซาเตอร์ แล้วก็จูเน่ ยืนจับมือกัน?
ใช่ ตอนแรกนึกว่าจะมารวมกัน เหมือนให้หายใจเข้าออก ให้กำลังใจกันวันนี้เราทำเต็มที่เราซ้อมมาอย่างดีแล้ว

แสดงว่าไม่สามารถฝากความหวังไว้ที่ใครเลย ต้องสร้างความหวังให้ตัวเอง?
หนูชอบหลอกพี่ๆ เพราะหนูเด็กสุดเลย หนูจะบอกว่า ถ้ามีแก้อะไรหนูตามพี่ๆ นะคะ (ยิ้ม) บอกพี่นาย เดี๋ยวหนูมองพี่อยู่นะอะไรแบบนี้ (หัวเราะ) ทุกคนน่ารักมากๆ

แสดงว่าสกิลเราไม่ต้องใช้แล้วที่เคยมีมา?
หนูว่าสุดท้ายแล้วมันคือเรื่องของมู้ดโดยรวมด้วยแหละ เพราะว่างานอย่างที่เห็นกัน มันคือการมาเฉลิมฉลองให้กับมหานครเนอะ มู้ดแบบไปด้วยความสนุกสนานอะไรแบบนี้ ก็คือกำลังใจที่เราได้รับก่อนขึ้นเวที

แล้วจริงๆ เราอยากกลัวไปร้องเพลงอีกครั้งไหมสำหรับเรา?
แอบคิดอยู่เหมือนกันค่ะ คิดว่าปีหน้าน่าจะได้ฟังกัน (ยิ้ม)

มันเป็นความรู้สึกว่าอยากทำ เพราะได้แสดงมาแล้วทั้งปี?
ด้วยค่ะจริงๆ เป็นเรื่องความมั่นใจด้วยแหละ และก็เป็นเรื่องไทม์มิ่งที่เราแบบ พอผ่านช่วงเวลาที่ได้ไปลองทำนู้นทำนี่ร้องเพลง เต้นมาแล้วมาแสดงด้วยจริงๆ เราก็มีหลายความชอบและยังคงอยากเก็บไว้ทั้งการแสดงการร้องเพลงอยากจะลอง และเราก็อยากจะมีแนวเพลงหรือ มีข้อความอะไรที่เราอยากจะบอกจะสื่อสารออกมา เพราะเราก็มองว่าเป็นเหมือนชิ้นงานศิลปะชิ้นงานการแสดงของเรา เพลงก็เป็นอีกอย่างที่เราอยากลองดูว่ามันจะมีคนฟังเพลงแบบนี้ไหมอ่ะค่ะ

แล้วคิดไว้ว่าถ้าได้ทำจะเป็นแนวไหน?
อยากให้คนที่มาดูช่วยกันโหวตดีกว่าจริงๆ แอบมีคิดในใจ แต่ว่าก็มีตั้งคำถามลงในอินสตาแกรมสตอรี่ ว่าคิดว่าทำเพลงทำแนวไหนดีก็อยากรู้เหมือนกันว่าในมุมมองคนอื่นจะเป็นไง เราดูเป็นแนวไหนดูเป็นสายเต้นดูเป็นสายแบบน่ารักๆ หรือมีบางคนบอกให้เราทำเพลงเศร้าเพลงดาร์กก็มี

เราได้มั้ยหรือ ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์?
จริงๆ มีหลายไอเดียมากที่อยากทำ แต่ก็เดี๋ยวอยากให้รอติดตามดีกว่า

ความมั่นใจในการกลับมาทำเพลง?
หนูว่ามันเป็นอะไรที่ เราเป็นกึ่งๆ เพอร์เฟกชั่นนิสต์ด้วยนะ เวลาเราทำงานเราอยากทำที่เรามั่นใจว่าเราทำออกมาได้ดีจริงๆ ดังนั้นเราคิดแล้วคิดอีกเยอะกับการทำเพลง เพราะว่าทุกวันนี้เราเห็นนักร้องเก่งๆ ทุกคนแบบออกมาร้องเพลง ทุกคนเป็นนักร้องคุณภาพกันมากมาย เราก็อยากทำผลงานที่มันมีคุณค่าออกมาจริงๆ เราก็เลยใช้เวลากับมันรวบรวมความกล้า

ทั้งที่เราเกิดมาจากเพลงจากการเต้นทำไมต้องรู้สึกมั่นใจกว่าเดิม?
เพราะว่าเราอยู่ในชื่อของวงเรามีบางอย่างที่มันเรปพรีเซ้น แต่ตอนนี้เรานำเสนอเองไง เราออกมาแล้วเราต้องเล่าความเป็นตัวเราให้กับคนอื่นอะไรแบบนี้ เราก็ต้องค่อยๆนั่งดูว่าเราจะเอาส่วนไหนของเราให้คนได้รู้จัก มีส่วนไหนให้คนที่สนุกไปกับมัน

ระหว่างความคาดหวัง กับความกดดันอันไหนเครียดกว่ากัน?
หนูรู้สึกทุกคนให้กำลังใจหนูเยอะเหมือนกัน ก็ขอบคุณมากๆ เลย น่าจะเป็นความกดดันในตัวเองนิดนึงแหละ ว่าเราอยากทำออกมาให้ได้ดีที่สุดแหละ สุดท้ายหนูว่าในทุกๆ งานที่หนูทำ หนูก็อยากสนุกกับมัน ไม่อยากเครียดมากหลายคนที่เป็นผู้ใหญ่ก็บอก วัยรุ่นเองเฟลก็ไม่เป็นไรหรอกเฟลตอนนี้ดีกว่าเฟลในวันข้างหน้า

แต่เราเป็นเพอร์เฟกชั่นนิสต์ ทุกอย่างจะต้องเป๊ะ?
ใช่ค่ะ ก็พยายามสู้กับตัวเองนะ ไม่เป็นไร ทำไปก่อน พลาดเพื่อให้เรียนรู้ เพื่อให้ครั้งหน้าเราจำแม่นว่าเราต้องซ้อมให้มากกว่านี้

กับเพลงแปะหัวใจประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง มันคลายกังวลขึ้นมั้ยกับการที่จะออกซิงเกิลเดี่ยว?
ตอนนี้หนูกังวลมาก (หัวเราะ) นิดนึงนะคะ จริงๆ ตอนทำแปะหัวใจ ก็เหมือนคนไม่รู้จักว่าเสียงจูเน่จริงๆ เป็นอย่างไร เพราะตอนที่อยู่ BNK จะฟังยากว่าเสียงใคร ก็มีหลายคนชมเหมือนกันที่บอกฟังแล้วเพลิดเพลินดี

ชื่นใจมั้ย?
ก็ดีใจนะ แต่ก็ตามสไตล์เพอร์เฟกชั่นนิสต์ก็จะมีความต้องทำให้ดีกว่านี้ มันยังไม่โอเค ยังมีความคิดมาก

แล้วถ้ามีคอมเมนต์ด้านลบ เฟลมั้ย?
เป็นคนอะ ไม่รู้ ต่อให้เป็นคนมีความไม่มั่นใจ แต่ลึกๆ ข้างในมันจะมีเด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบในตัวหนูอยู่เสมอบอกว่าหนูทำได้ เราเห็นตัวเองตอนเด็กๆ ยืนร้องเพลงหน้ากระจก พอเราโตขึ้น เจอคนมากมายขึ้น ก็มีแหละที่เห็นคนเขามองเรา ก็พยายามปรับความคิดทุกวัน มองโลกในแง่บวก ก็ใช้ชีวิตแบบสนุกสนาน ไม่อยากเครียดเหมือนกัน

สู้กับตัวเอง?
ใช่ค่ะ (ปีหน้าได้ฟังแน่นอน?) ใช่ค่ะ (ยิ้ม) (คืบหน้าแค่ไหน?) 2 เปอร์เซ็นต์ (ชื่อเพลงรึเปล่า?) ยังไม่มีเลยค่ะ

การทำเพลงของจูเน่ เนื้อเพลงจะมาจากช่วงเวลานี้มั้ย?
เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวหนูเอง เป็นเรื่องของความรู้สึก เป็นความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นมา (ฟีลกู๊ดมั้ย หรือเล่าเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา?) ใช่ค่ะ ส่วนตัวหนูเป็นคนชอบฟังเพลงเศร้าๆ เหงาๆ นิดนึง เพลงของหนูมันคือเรื่องราวชีวิตโดยรวมที่ถูกผสมผสานจนเป็นทุกวันนี้ (เพลงนี้เป็นการรีวิวชีวิตตัวเอง?) ก็ประมาณนั้นผสมๆ กันไป เป็นเรื่องที่เรารู้สึกอินแล้วเอามาร่วมกับของคนอื่นที่น่าจะรู้สึกและเข้าใจเหมือนกัน

ได้ฟังแน่ๆ?
ไม่อยากบอก เริ่มแล้ว แต่กลัวกดดันทีมงานมากกว่าเกินไป ยังไงขอฝากด้วยนะคะได้ฟังปีหน้าแน่นอนค่ะ จะกลับมาผลงานเพลง ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

คุณกำลังดู: จูเน่ เพลินพิชญา แอบกดดันหลังเตรียมทำงานเพลงอีกครั้ง

หมวดหมู่: ความบันเทิง