DIARY DE LA LUNE เวทีของ“เนเน่ พรนับพัน” ศิลปินที่ความอัศจรรย์มากล้นเกินจะนับ

14 มี.ค. 2566 | 21:55 น.

เนเน่ พรนับพัน กับคอนเสิร์ตแรกที่เธอเอาอยู่ในทุกมิติ

DIARY DE LA LUNE เวทีของ“เนเน่ พรนับพัน” ศิลปินที่ความอัศจรรย์มากล้นเกินจะนับ

3 ปีที่ผ่านมา เนเน่-พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ หรือ “เจิ้งหน่ายซิน” ศิลปินสาวชาวไทยเชื้อสายจีน จากผู้ชนะรางวัลที่ 5 จากรายการ CHUANG 2020 ได้พบกับชีวิตที่ก้าวกระโดดทั้งการเป็นสมาชิกวง BonBon Girls และล่าสุดได้มีผลงานเพลงเดี่ยวกับ Sony Music China เริ่มด้วยเพลง “Promise” รวมถึง EP อัลบั้มแรก มาจนถึงเพลงภาษาไทย “ละเมอ”

และในการกลับมาไทยครั้งนี้เธอก็มากับคอนเสิร์ตเดี่ยวแรก Nene 郑乃馨 1ST MINI CONCERT ‘DIARY DE LA LUNE’ IN BANGKOK 2023 ในวันที่ 11 มีนาคม 2023 ซึ่งตรงกับ 10 ปีในวงการที่ผ่านเรื่องราวมากมาย โดยคอนเซ็ปต์งานครั้งนี้จะเป็นเรื่องราวช่วง 3 ปีที่เธอได้อยู่กับแฟนๆ มา ซึ่งงานนี้ได้ผู้จัดอย่าง บริษัท เดอะ ดรีม แอนด์ เดสทินี จำกัด (THE DnD) มาดูแลภาพรวม

โดยการแสดงเริ่มด้วยเพลง “Just Like a Dream”, “One Sunny Day” รวมถึง “Best Part” ของ Daniel Caesar มาจนถึงเพลง "Gentle on My Mind" และ “See You Tomorrow” ซึ่งทุกเพลงในงานได้สะท้อนความเป็นไดอารี่ของเธอ ผ่าน VTR และเรื่องเล่าของเนเน่ตลอดงาน ซึ่งหลังจากช่วงแรกที่มีทั้งโชว์ และการวาดภาพใส่กระดาษสีให้แฟนๆ เราก็ได้ฟังเนเน่ร้องเพลงอย่าง "All About that Day" และ "ละเมอ" ที่เธอตั้งใจแต่ง และในช่วงโชว์ก็มีพาร์ทที่เธอนำกีตาร์มาเล่นเองด้วย จนเรามองว่าใครที่แพ้ผู้หญิงเล่นดนตรีต้องมีเสียอาการตอนเห็นช็อตสะพายกีตาร์กันบ้างแน่ๆ

เมื่อถึงแชปเตอร์ 2 ของงาน เราก็ได้เห็นเนเน่ในฐานะเครื่องผลิตมีมที่ทำตามภาพบนจอ ก่อนที่บรรยากาศจะสนุกขึ้นเมื่อเธอนำเพลงสนุกๆ อย่าง "I'll Do It How You Like It" ของ PP Krit (พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร) ที่ทำให้บรรยากาศงานครั้งนี้คึกคักสุดๆ

ช่วงท้ายของงาน เนเน่ได้ชมคลิปการแสดงความยินดีของทุกคน รวมถึงเพื่อนๆ จากวง BonBon Girls และเมมเบอร์ INTO1 อย่าง แพทริค-ณัฐวรรธ์ ฟิงค์เลอร์ และ นาย-กรชิต บุญสถิต์ภักดี มาจนถึงคนดังในไทยที่รู้จักเธอ ก่อนจะถึงข้อความของคุณแม่ที่ทำเธอเสียน้ำตา และช่วงท้ายงานเนเน่ได้ส่งผู้ชมกลับบ้านบนเวที ขณะที่แฟนๆ ได้ขึ้นมาเดินผ่านพร้อมทักทาย ซึ่งเรียกว่าการ Send off ที่ผู้ร่วมงานรอบนี้ได้รับสิทธิ์ทุกคน

ในฐานะศิลปินเนเน่มากับความสามารถที่ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากเธอจะร้องเพลงละมุนๆ ได้เป๊ะเหมือนเปิดแผ่นแล้ว ในหลายๆ เพลงเธอก็มากับพลังเสียงที่พุ่งแรงและสื่อสารอารมณ์เจ็บปวด เหงา ไม่แพ้ความรัก และยังโชว์ฝีมือการร้องและเต้นแล้ว เธอยังโชว์ฝีมือการเล่นกีตาร์ จนเรามองว่าเธอมีความสามารถในการเป็นศิลปินเต็มที่ และเธอก็จริงจังกับทุกสิ่งที่เธอโชว์บนเวที อย่างเช่นพาร์ทการถ่ายทอดอารมณ์และเทคนิคที่เรามองว่าเธอเก็บทุกเม็ด

และนอกจากการร้องและแสดงแล้ว เธอยังเอาคนดูอยู่ แม้จะเป็นโชว์ฺเดี่ยวแรกในไทย และเป็นครั้งแรกที่เธอได้แสดงต่อหน้าแฟนๆ คนไทยอย่างเป็นทางการ แต่เธอก็คุยกับทุกคนเหมือนเป็นเพื่อนกันอย่างสนุกสนาน รับหน้าที่ล่าม พิธีกร และศิลปินในคราวเดียวได้สมบูรณ์ รวมถึงในจังหวะที่มีความติดๆ ขัดๆ เธอก็พาทุกอย่างผ่านมาได้แบบธรรมชาติและมีความโก๊ะบ้าง ซึ่งช่วงท้ายงานเนเน่ก็ลงไปหาแฟนคลับและพูดคุยกับทุกคน รวมถึงทำการ Send off บอกลาผู้ชมทุกที่นั่งเอง และบางช่วงก็เสียน้ำตาอย่างเช่นตอนที่พบว่าแฟนคลับมาดูการแสดงพร้อมไม้ค้ำยัน และจากสิ่งที่เห็นตลอดงานเรามองว่าเนเน่ตั้งใจทำทุกทางเผื่อสื่อสารความรักของเธอกับแฟนๆ และเมื่อสิ่งนั้นมารวมกับจิตวิญญาณความเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์และไหวพริบ ก็ทำให้เธอคว้าใจทุกคนไว้ได้อยู่หมัด และทำให้เราไม่สามารถระบุได้ว่าความพิเศษของเนเน่ในฐานะศิลปินมีอะไรบ้างเป็นข้อๆ เพราะมันยากเกินจะนับจริงๆ

สำหรับโปรดักชั่นงาน ทางทีมงานได้ใส่ใจรายละเอียดคลิปและโชว์สมกับธีมความเป็นไดอารี่เรื่องราวที่เนเน่อยากให้แฟนคลับอ่าน และซาวด์ดนตรีสดก็ออกมาใช้ได้ แม้จะมีช่วงเสียงดนตรีหอนและเสียงเนเน่โดยกลบตอนเพลง “Best Part” ส่วนภาพรวมอื่นๆ งานครั้งนี้ก็ตรงเวลา แต่จะมาติดเล็กน้อยก็คือพาร์ท VTR คนรู้จักของเนเน่ ที่ตัดเร็วไป และตอนที่จะเอา VTR มาเล่นต่อก็ดูจะมีความวุ่นวายเล็กๆ ตอนพยายามจะแจ้งเหตุการณ์นี้กับเนเน่ แต่เนเน่และทุกคนก็ผ่านสถานการณ์นั้นมาได้

แม้ว่านี่จะเป็นเวทีแรกของเนเน่ พรนับพันในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่เราว่าเธอมีครบทุกสิ่งที่เพอร์ฟอร์มเมอร์หรือสตาร์ของวงการควรจะมี จนเราหวังว่าอีกไม่นานเธอจะมีคอนเสิร์ตที่สเกลใหญ่ขึ้น เพลงมากขึ้น เพราะด้วยสิ่งที่เนเน่มี สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมเลย