EST.33 เปิด 13 เมนูใหม่สุดฟินฉลอง 13 ปี จากฝีมือระดับ Master Chef !

04 ก.ย. 2566 | 17:27 น.

รีวิวร้าน EST.33 ร้านเด็ดสำหรับนั่งชิล อาหารอร่อยจากฝีมือของเชฟระดับ Master Chef

EST.33 เปิด 13 เมนูใหม่สุดฟินฉลอง 13 ปี จากฝีมือระดับ Master Chef !

EST.33 (เอส 33) ร้านแฮงค์เอาท์สุดชิลในดวงใจของหลายๆ คน เวลาที่เราเลิกงานมาเหนื่อยๆ หรืออยากจะหาที่นั่งพักผ่อนทานอาหารอร่อยๆ ปล่อยตัวไปกับบรรยากาศชิลๆ ร้านนี้ก็มักจะเป็นตัวแรกๆ เสมอที่หลายๆ คนนึกถึง

ซึ่งมาจนถึงวันนี้ร้าน EST.33 ก็ได้อยู่คู่กับเมืองไทยมาแล้วถึง 13 ปีด้วยกัน และด้วยวาระครบครอบ 13 ปีในครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 นี้จึงเกิดเป็นโปรเจคต์ 10+3 Celebrations เปิดตัวเมนูใหม่ 10 เมนูของทางร้าน และอีก 3 เมนูจากเซเลปเชฟ ซึ่งคัดสรรคุณภาพจัดเต็มทุกเมนู โดยการรังสรรค์เมนูจากสุดยอดเชฟระดับตำนานทั้งสามท่าน ได้แก่

1.เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟชื่อดังดีกรีระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว รังสรรค์เมนู Thai Curry Hokkaido Scallop

2.เชฟป้อม หรือ “คุณธนรักษ์ ชูโต” No.1 Chinese Cuisine Chef in Thailand รังสรรค์เมนู PITI Pork Ribs

3.เชฟอ๊อตโต ประภาศน์ ปาณะวีระ แชมป์ Top Chef Thailand Season 2 รังสรรค์เมนู Mexican fried rice and green pepper relleno

พร้อมทั้งเปิดตัวแคมเปญ Top 10 Menu, Top 10 Beers และ Top 3 Chefs เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 66

Top 10 Menu เชฟของทางร้านนำเสนอเป็นเมนูที่พิเศษที่ไม่เหมือนใคร มีไอเดียความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และยังคงสอดแทรกผสมผสานความเป็นไทยลงไปในทุกๆเมนู เชฟมีความตั้งใจและรังสรรค์ทุกจาน ให้ออกมาในสไตล์ EST.33 ทำให้อาหารทุกเมนูของที่นี่ มีความน่าสนใจ แปลกใหม่ และไม่น่าเบื่อ รวมไปถึงเสน่ห์ของรสชาติอาหาร จากประสบการณ์ของเชฟ ในรสชาติใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูตื่นเต้นน่าประทับใจ โดยจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้

หมวด Appetizer ทั้งหมด 6 เมนู

Nham-Lieb Brocco : บร็อคโคลี่หนำเลี๊ยบ

บร็อคโคลี่สด ชุบแป้งผสมเบียร์ ’อร่าม’ (beer batter) ทอด ไฮไลท์ของจานนี้คือหนำเลี๊ยบครัมเบิ้ล โรยคู่กับพาร์เมซานชีส ทานคู่กับซอสต๊อดศรีราชามาโยพร้อมโรยหนำเลี๊ยบครัมเบิ้ล เพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมเป็น texture ความกรุบกรอบให้กับจานนี้ได้อย่างดี

Finger Lickin Fries : เฟรนช์ฟรายส์เบรคแตก

วาฟเฟิลฟราย ชุบแป้งกล้วยทอด ซึ่งเป็นไฮไลท์ของจานนี้ เนื้อสัมผัสมีความกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับซอสทรัฟเฟิลมาโย เนื้อมายองเนสนุ่มละมุน รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นทรัฟเฟิล

PLA Salmon : พล่าแซลมอน

แซลมอนเบิร์นไฟ ราดด้วยพล่ารสแซ่บ เครื่องสมุนไพรหอมๆ ท็อปตกแต่งพริกแห้งทอดหอมเจียวทอด รสชาติจัดจ้าน ตัดเลี่ยนกันได้อย่างลงตัว

NHAM-TOK Bacon : น้ำตกเบคอนรมควัน

เบคอนสเต็ก คลุกเคล้ากับน้ำตกดั้งเดิมสไตล์ไทย สูตรเฉพาะของร้าน EST.33 เป็นเมนูที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นไทยฟิวชั่นได้เป็นอย่างดีที่สุด

Vietnam SATAY : สะเต๊ะเวียดนาม

ไก่สะเต๊ะ เสิร์ฟคู่กับข้าวเกรียบเวียดนาม ทานคู่กับซอสสะเต๊ะสไตล์ EST.33 ได้ความหอมจากถั่วและเครื่องเทศ รสชาติกลมกล่อมอร่อยลงตัว

Shrimp Fritter & Mango Salad : สลัดกุ้งฝอยทอดกรอบกับมะม่วงน้ำดอกไม้

กุ้งฝอยจากแหล่งน้ำจืดธรรมชาติ ชุบแป้งทอดกรอบนำมาคลุกกับผักสลัด เพิ่ม Texture ให้มีความกรุบกรอบ ตัดเลี่ยนด้วยความเปรี้ยวหวานของมะม่วงสุกน้ำดอกไม้ มะเขือเทศเชอรี่ และเรดแรดิชหั่นเส้น ราดด้วยน้ำสลัดขิงปิดท้าย รสชาติกลมกล่อม

หมวด Main Dish ทั้งหมด 4 เมนู

E-san Capellini : คาเปลลินีสไตล์อีสาน

คาเปลลินี่เส้นพาสต้าที่ผสมผสานรสชาติความอร่อยระหว่างสไตล์อิตาเลี่ยนกับสไตล์ไทย โดยการซ่อนกลิ่นอายความเป็นไทยของสมุนไพรไทยที่นำลงไปผัดกับหมูสับ ให้ได้กลิ่นหอมสมุนไพร รสชาติจัดจ้านอร่อยถูกปากคนไทย

3 Thai Salt Picanha : พิคานย่ากับเกลือ 3 ภาค

เนื้อพิคานย่าหรือเนื้อส่วนสะโพกติดไขมัน มันด้านบนถือเป็นจุดเด่น เมื่อนำไปย่างบนไฟแรงไขมันที่อยู่ด้านบนจะเริ่มเกรียม ยิ่งเพิ่มความหอมและรสชาติเนื้อที่เข้มข้น เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงอย่างมันบดทรัฟเฟิล ที่เนื้อละเอียดนุ่มละมุนและหอมกลิ่นทรัฟเฟิล ที่ขาดไม่ได้คือเกลือ 3 ภาค ซึ่งเป็นเกลือที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่าง เกลือปัตตานี เกลือสมุทรสาคร และเกลือน่าน

ความแตกต่างของเกลือ 3 ชนิด:

1.เกลือน่าน หรือเกลือภูเขา เป็นเกลือสินเธาว์ มีเอกลักษณ์ที่เป็นเกล็ดแผ่นๆ

2.เกลือปัตตานี เป็นเกลือทะเล สีออกเทาขุ่นๆ รสชาติเค็มแต่จะหวานปลาย

3.เกลือสมุทรสาคร เป็นเกลือทะเล สีจะขาวใส กว่าปัตตานี

Color Rush Chicken: ไก่ทอดสามสหาย

นำน่องไก่ที่หมักเรียบร้อยมาผ่านกระบวนการของเครื่องซูวี ทำให้เนื้อนุ่มฉ่ำและสุกเท่ากันทั้งชิ้นจากนั้นนำไปทอดจนเหลืองทองกรอบ วางบนหอมหัวใหญ่กับขิงคาราเมลไลซ์ ตกแต่งด้วยซอสมัสตาร์ดและซอสกะหล่ำม่วง โรยด้วยหอมเจียวครัมเบิ้ลและใบกะเพราทอด รสชาติกลมกล่อม

Flaming Beef: ข้าวหน้าเนื้อย่างไฟ

ข้าวหอมมะลิผัดกับมันเนื้อหอมๆ ด้านบนคือเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ ย่างสุก medium rare เนื้อนุ่ม และหอมมาก ท็อปด้วยไข่ดอง อร่อยมากจนต้องยกให้เป็นเมนูอันดับหนึ่ง

ใครที่กำลังมองหาร้านนั่งชิล กินอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีในย่านใจกลางเมือง พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจหลังเลิกงาน แนะนำให้ไปลองกันครับ แต่ละเมนูคือทีเด็ดและอร่อยมากจริงๆ สมกับฝีมือของเชฟจาก Master Chef อยากให้ทุกคนได้ไปลองครับ