เหตุผลที่ "แม็คโทมิเนย์" ระเบิดฟอร์มกับทีมชาติแต่กลับถูกมองข้ามที่ แมนฯ ยูฯ - [OPINION]
"คุณจะหยุด สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้อย่างไร?" มันคงเป็นคำถามที่ผู้จัดการทีมชาติหลายคนตั้งข้อสงสัยอยู่ในตอนนี้
"คุณจะหยุด สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้อย่างไร?"
มันคงเป็นคำถามที่ผู้จัดการทีมชาติหลายคนตั้งข้อสงสัยอยู่ในตอนนี้
หลังจากฟอร์มการเล่นของกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เมื่อรับใช้ทีมชาติสก็อตแลนด์ นั้น
ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด
เวทีระดับทีมชาติ แม็คโทมิเนย์
อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยในศึก "ยูโร 2024"
รอบคัดเลือก ดาวเตะวัย 26 ปี ซัดไปแล้วถึง 6 ประตู
ซึ่งเป็นจำนวนเทียบเท่ากับ โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม และ
ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงทีมชาติเดนมาร์ก เพื่อนร่วมทีม แมนฯ
ยูไนเต็ด
เรื่องแปลกๆของ แม็คโทมิเนย์
มันก็เป็นกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นกับนักฟุตบอลหลายคนในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งต้องตกเป็นตัวสำรองในสโมสร แต่กลับมาทำผลงานได้ดีให้กับทีมชาติ
โดยหลายคนพยายามจะหาคำตอบกับเรื่องนี้
แกเร็ธ เบล อดีตปีกทีมชาติเวลส์ของ
เรอัล มาดริด อาจเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด โดยดาวเตะวัย 34 ปี
ใช้เวลาเกือบทศวรรษที่ซานติอาโก เบอร์นาเบว ในฐานะพระรองของ
คริสเตียโน โรนัลโด แต่เมื่อรับใช้ทัพมังกรแดง
เขาจะเป็นฮีโร่ของทีมเสมอ
อย่างไรก็ตาม สำหรับ แม็คโทมิเนย์ อาจเป็นกรณีที่แตกต่างออกไป
หลังจากเพิ่งมีโอกาสลงสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
ในเกมพรีเมียร์ลีกซีซันนี้ไปเพียง 7 นาที
และกลายเป็นตัวสำรองมาตลอดภายใต้การคุมทัพของกุนซือ เอริก เทน ฮาก
เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม็คโทมิเนย์ ซึ่งอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
มาตั้งแต่ 5 ขวบนั้น เป็นหนึ่งในนักเตะที่ เทน ฮาก
พร้อมจะปล่อยตัวออกจากสโมสร โดยมีทีมอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ
ฟูแลม ให้ความสนใจ แต่สุดท้ายการเจรจาก็ไม่ประสบความสำเร็จ
แม้จะได้อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป
แต่เห็นได้ชัดว่า แม็คโทมิเนย์ ถูก เทน ฮาก มองข้ามไปเรียบร้อยแล้ว
หลังโค้ชชาวดัตช์คว้ามิดฟิลด์คนใหม่เข้ามาร่วมทีม 2 ราย คือ เมสัน
เมาต์ จาก เชลซี และ โซเฟียน อัมราบัต จาก ฟิออเรนตินา
ขณะเดียวกัน แม็คโทมิเนย์ ไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ แมนฯ
ยูไนเต็ด เลยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
และผลงานประตูของเจ้าตัวก็ไม่น่าประทับใจเช่นกัน หลังจากยิงได้เพียง 5
ประตู จาก 2 ฤดูกาลล่าสุด
โดยส่วนใหญ่จะถูกจับไปเล่นในบทบาทกองกลางตัวรับ
อย่างไรก็ตาม กับ สก็อตแลนด์ กุนซือ สตีฟ คลาร์ก เลือกใช้งาน
แม็คโทมิเนย์ ในบทบาทมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์
และเขาก็ตอบแทนความไว้วางใจของเจ้านายได้เป็นอย่างดีด้วยการระเบิดฟอร์มที่สุดยอดออกมา
คลาร์ก กล่าวว่า
"เรารู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดี
นั่นคือเหตุผลที่เขาออกสตาร์ตให้กับเรา
ผมคิดว่าเขาเล่นได้ดีมาสักพักแล้ว
เราพยายามหาวิธีเล่นที่สามารถปลดปล่อยความสามารถเขาและ จอห์น
แม็คกินน์ ให้ก้าวไปข้างหน้า"
"เป็นเรื่องดีที่มีผู้เล่นอีก 2 คน อย่าง บิลลี กิลมัวร์ และ
คัลลัม แม็คเกรเกอร์ คอยยืนข้างหลังพวกเขาเพื่อควบคุมเกม มันดีสำหรับ
สก็อตต์ ผมไม่ได้ต้องการแนะนำใครเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่า
เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม"
"แต่เมื่อคุณอยู่ที่หนึ่งในสโมสรชั้นนำอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด
พวกเขาจะมีทีมขนาดใหญ่ และคุณรู้ว่าพวกเขาจะมีการหมุนเวียนนักเตะ
ซึ่งบางครั้งคุณต้องสละเวลาเพื่อให้ได้โอกาสในทีม นั่นคือสิ่งที่
สก็อตต์ ต้องเจอในตอนนี้ แต่ผมแน่ใจว่าเมื่อเขาได้รับโอกาส
เขาจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ดีสำหรับสโมสรเช่นกัน"
หาก แม็คโทมิเนย์ จะได้รับโอกาส
มันก็ขึ้นอยู่กับ เทน ฮาก ที่อาจตัดสินใจไปแล้วว่า นักเตะที่ โชเซ
มูรินโญ อดีตโค้ช แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งให้ประเดิมสนามในเกมพบกับ
อาร์เซนอล เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017
นั้นไม่มีคุณสมบัติที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม แม็คโทมิเนย์ ยังเป็นนักเตะที่ดี
และกำลังจะถึงจุดสูงสุดของอาชีพนักฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กองกลางแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ที่ต้องใช้ความพร้อมทางร่างกาย
ซึ่งเป็นสไตล์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีอยู่ในทีมชุดนี้ และ คลาร์ก
ก็ทำให้งานของ เทน ฮาก
ง่ายขึ้นอีกมากในการดึงฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของดาวเตะวัย 26
ปีคนนี้ออกมา
คุณกำลังดู: เหตุผลที่ "แม็คโทมิเนย์" ระเบิดฟอร์มกับทีมชาติแต่กลับถูกมองข้ามที่ แมนฯ ยูฯ - [OPINION]
หมวดหมู่: ฟุตบอลต่างประเทศ