แกะกล่องรีวิว "iPhone Xr" ทำไมเราถึงเลือกรุ่นเล็กมากกว่ารุ่นใหญ่?

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ อาสามารีวิว "iPhone Xr" ไอโฟนรุ่นใหม่จากแอปเปิลที่มีสีเยอะที่สุด แถมยังราคาเบาที่สุด และนี่คือความรู้สึกหลังใช้จริง...

แกะกล่องรีวิว "iPhone Xr" ทำไมเราถึงเลือกรุ่นเล็กมากกว่ารุ่นใหญ่?

เปิดตัวอย่างฮือฮาไปเมื่อปีที่ผ่านมา บางคนก็บอกว่าชอบ แต่บางกระแสก็บอกว่าขายไม่ดี วันนี้ IT by Choiceจะมาเจาะลึกข้อดี-ข้อเสียของ iPhone Xr หลังใช้งานมาเกือบ 2 เดือนพร้อมเหตุผลว่าเราชอบหรือไม่ชอบ...

อาจจะต้องเกริ่นก่อนว่า ปีที่ผ่านมาแอปเปิลได้เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ iPhone Xs, iPhone Xs Max และ iPhone Xr ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาแฟนคลับไอโฟนทั่วโลกได้เป็นอย่างมาก

สำหรับ iPhone Xr เป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกออกแบบใหม่ที่โดดเด่นเป็นหน้าจอทั้งหมด แตกต่างจากสองรุ่นดังกล่าวที่ชัดเจนก็คือระบบกล้องเดี่ยวกับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ใช้จอภาพ LCD แบบ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว

เอาล่ะมาเริ่มพูดถึงความรู้สึกของ IT by Choice ที่มีต่อ iPhone Xr กันเลยดีกว่า...

อุปกรณ์ที่มาด้วยกัน

เมื่อเราแกะกล่อง จะเจอตัวเครื่อง iPhone Xr สีสันสดใน มาพร้อมกับอุปกรณ์พื้นฐานได้แก่ซองกระดาษที่ใส่คู่มือการใช้งานเบื้องต้น ด้านในมีเข็มจิ้มถาดซิม, USB Power Adapter, สาย Lightning ขนาด 1 เมตร, หูฟัง, แต่ครั้งนี้ไม่มี Lightning to 3.5 mm Headphone Jack Adapter แถมมาด้วย

ตัวเครื่องสวยไหม?

ส่วนตัวแล้วมองว่าสวยได้มาตรฐานสไตล์ไอโฟน เป็น All Glass Design และ All Screen Display หน้าจอเป็นจอภาพ Liquid Retina แบบ LCD ซึ่งแน่นอนว่าความคมชัดน้อยกว่าอีก 2 รุ่นที่เปิดตัวพร้อมกัน (แต่ส่วนตัวเราคิดว่ามันก็ไม่ได้แยกออกได้ด้วยตาเปล่าหรอกนะ) ส่วนอีกอย่างที่เราชอบคือมีสีน่ารักๆ ออกมาให้เลือกถึง 6 สี คือ สีดำ, ขาว, ฟ้า, เหลือง, ส้มคอรัล และแดง (แนะนำให้ใส่เคสใสนะจ๊ะ)

เจาะไฮไลต์เด็ด

1. ใช้ชิพ A12 Bionic เหมือนกับอีก 2 รุ่นที่ออกพร้อมกัน แล้วชิพนี้ก็เป็นชิพที่ทรงพลังที่สุดตั้งแต่แอปเปิลเคยมีมาใช้สถาปัตยกรรมฟิวชั่นแบบ 6 คอร์ ซึ่งมาพร้อมคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ที่เร็วขึ้น 15%, คอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น 50%, GPU แบบ 4 คอร์ที่เร็วขึ้น 50% นั่นแปลว่า ไอโฟนรุ่นนี้จะทำงานได้ไวขึ้นไม่แพ้รุ่นอื่นๆ โดยคุณสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงๆ ดูหนัง หรือใช้งานตัดต่อได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น

2.หน้าจอ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอความละเอียด 1792*828 พิกเซล ที่ 326ppi อัตราส่วน Contrast อยู่ที่ 1400 ต่อ 1 ทั่วไป มีการแสดงผลแบบ True Tone ทำให้รับชมได้ชัดเจน ภาพสวยยิ่งขึ้น (ส่วนตัวคิดว่าการใช้อัตราส่วน 326ppi มีส่วนทำให้กินแบตฯน้อยลงด้วย)

3. สามารถใช้งาน Face ID ได้เหมือนกับ iPhone X ทั้งหมด

4. กล้องเดี่ยว...นี่คงเป็นข้อที่แตกต่างกับรุ่นอื่นมากที่สุดสำหรับ iPhone Xr เมื่อเปรียบเทียบกับตัวอื่นในตระกูล X เนื่องจากกล้องหลังเป็นกล้องมุมกว้างเลนส์เดี่ยวรูรับแสง f/1.8 ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล สามารถถ่ายภาพโหมดบุคคล (ภาพหน้าชัดหลังเบลอ) ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

สุดท้าย...มาดูข้อดี-ข้อเสียกัน

หลังจากใช้งานแบบเต็มๆ มาเกือบ 2 เดือน IT by Choice คิดว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ชัดเจน ดังนั้นเรามาเริ่มจากข้อที่เราไม่ชอบกันก่อน

ข้อเสีย

1. เมื่อเทียบกับไอโฟนตระกูล X รุ่นอื่น พบว่าตัวเครื่องมีความหนากว่า แต่ก็แค่นิดเดียวนะ

2. เอา 3D Touch ออกไป ทำให้เราไม่สามารถกดแรงๆ เพื่อให้ฟีเจอร์นี้ได้แล้ว คนที่เคยชินกับ 3D Touch ก็อาจจะไม่ค่อยคุ้นเท่าไรนัก

3. กล้องเดี่ยวด้านหลังในโหมดถ่ายภาพบุคคลจะจับภาพใบหน้าบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถตั้งค่าถ่ายรูปวัตถุ ดอกไม้ อาหาร สถานที่และอื่นๆ ได้เลย ดังนั้นใครชอบถ่ายภาพอาหารหรือสิ่งของอาจจะไม่ฟินเท่าไร

4. ไม่มีหัวแปลง Lightning to Aux 3.5 แถมมาแล้ว ถ้าอยากได้ต้องซื้อเพิ่มในราคา 390 บาท

ข้อดี

1. แบตอยู่ได้นานจริง! อันนี้เราต้องยอมรับเลยว่าการใช้งานโซเชียลมีเดีย ดูยูทูป เล่นเกม ก็สามารถอยู่ได้ทั้งวันแบบไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน (ทดลองเปิดยูทูบประมาณ 1 ชั่วโมง พบว่าแบตฯ ลดลงไปเพียง 17% เท่านั้น ในขณะที่ iPhone X แบตฯ ลดลงไปถึง 28% เลยทีเดียว)

2. ราคาถูกกว่า! นี่เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เนื่องจากราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท สำหรับรุ่น 64GB ต่างกับราคาเริ่มต้นของ iPhone Xs ถึง 10,000 บาท แต่ได้รับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใกล้เคียงกันมาก ถือว่าคุ้มสุดๆ

3. ถ่ายภาพโหมดบุคคลได้สวยมาก ...ถึงการมีกล้องเดี่ยวจะเป็นข้อเสียของไอโฟนรุ่นนี้ แต่สิ่งที่เข้ามาทดแทนคือกล้องมุมกว้าง ดังนั้นเราจึงถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัด-หลังเบลอ ได้มุมที่กว้างกว่าไอโฟนตระกูล X รุ่นอื่น เหมาะกับสาวๆ สายมินิมอลที่ไม่ชอบให้ตัวเองดูตัวใหญ่หรือหน้าบานเวลาถ่ายภาพ

บทสรุป

เมื่อเทียบระหว่างฟังก์ชั่นการใช้งาน คุณสมบัติต่างๆ กับราคา 29,900 บาท ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่จ่ายไป เพราะสามารถใช้งานได้ดีไม่แพ่อีก 2 รุ่นที่เปิดตัวพร้อมกัน บางคนคิดว่ารุ่นนี้มีข้อด้อยที่กล้องเดี่ยว แต่เราขอบอกตรงนี้เลยว่ากล้องเดี่ยว...ก็เปรี้ยวได้!!

คุณกำลังดู: แกะกล่องรีวิว "iPhone Xr" ทำไมเราถึงเลือกรุ่นเล็กมากกว่ารุ่นใหญ่?

หมวดหมู่: ทบทวน

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด