ขับครั้งสุดท้ายกับปิศาจร้าย 6 สูบ ทดสอบ BMW M340i xDrive

BMW M340i xDrive เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลัง 387 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร 0-100 ใน 4.4 วินาที ราคา 3,999,000 บาท

ขับครั้งสุดท้ายกับปิศาจร้าย 6 สูบ ทดสอบ BMW M340i xDrive

แรงพุ่งทะยานที่มาพร้อมกับความมาดมั่น M340i xDrive กำลังอยู่ในเกียร์สาม และผมเองก็ยังไม่คิดที่จะยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง แรงดึงมหาศาลฉุดลากน้ำหนัก 1.7 ตันให้พุ่งลิ่วๆ ไปข่างหน้าอย่างไม่ลดละ เข็มวัดรอบในโหมด Sport + ทำงานอย่างบ้าคลั่งในการแจ้งเตือนถึงรอบเครื่องยนต์ที่ถูกลากจนสุดเกือบจะครบทุกเกียร์ นี่คือ Series-3 ที่ดีที่สุด ถ้าโลกใบนี้ไม่มี BMW M3 G80 เนื่องจากเจ้า G20 เครื่องหกสูบเรียงนั้นควบคุมได้ง่ายกว่า ขับทางไกลสบายกว่าและจ่ายน้อยกว่ามากในเรื่องของค่าดูแลรักษา อัตราเร่งอันเร่าร้อนของมันเต็มไปด้วยความนิ่ง การขึงตรึงของชุดขับสี่ xDrive ทำให้เมื่อใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง รถก็ยังควบคุมได้ง่าย พวงมาลัยหนักขึ้นเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น แต่ที่เจ๋งก็คือความนิ่งของรถขณะทำความเร็ว M340i xDrive แสดงออกอย่างมั่นคง เมื่อตัวเลขสปีดความเร็วผ่าน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เครื่องยนต์หกสูบเรียงเทอร์โบคู่มีสองบุคลิกให้สัมผัส มันเร่งได้เร็วและมีเสียงเหมือนกำลังโกรธจัดในรอบสูง สำหรับการใช้รอบเกิน 4500 รอบต่อนาที นั่นคือความบันเทิงผ่านท่อระบายท้าย ซึ่งจัดเสียงครางหวานๆ ให้คุณได้ยินอย่างชัดเจน เมื่อวาล์วบายพาสในท่อเปิดออกจนสุด พลังท่ีปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มเหนี่ยวนั้นทำให้รถทุกคันบนถนนหายลับไปจากกระจกมองหลัง อาการเทอร์โบแลคน้อยมากจนไม่ทำให้รู้สึกว่าเครื่องยนต์มีอาการรีเลย์ หรือตอบสนองช้า เมื่อกดคันเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง น้ำหนักตัวโดยเฉพาะน้ำหนักของเครื่องยนต์หกสูบกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อนั้นไม่ใช่ปัญหาของการแบก มันเป็นรถที่เร็วและคาดเดาอาการได้ง่าย เกียร์ 8 สปีดก็เปิดโอกาสให้ลากรอบได้อย่างไหลลื่น ปลายก็ไม่เหี่ยวเร็วเหมือนเครื่องยนต์ V6 แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สามารถลากได้ถึง 7,400 รอบต่อนาที และมีระบบส่งกำลังให้เลือกแบบเดียว นั่นก็คือเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 Speed

พวงมาลัย M ทรงคล้ายผู้หญิงที่ตัวอวบๆ ใหญ่แต่จับแล้วกระชับมือดี ยิ่งเวลาใส่ถุงมือขับก็ยิ่งชอบ ส่วนแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังวงพวงมาลัยก็มีขนาดใหญ่ ให้สัมผัสของวัสดุที่ใช้ทำได้ดีมาก หน้าตาของพวงมาลัยและแป้น Paddle เหมือนถอดออกมาจากรถ M3 รุ่นปัจจุบัน เวลาเลี้ยวพวงมาลัยแป้นเปลี่ยนเกียร์ก็ยังอยู่ในองศาเดียวกับการเลี้ยวทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนอัตราทด ส่วนยางติดรถมาจากโรงงานในจังหวัดระยอง เป็นยาง pirelli p zero ยางหน้า 225/40R19 93Y ยางหลัง 255/35R19 96Y เนื่องจากความสดใหม่และการขับอย่างระมัดระวังทำให้ยางส่งถ่ายประสิทธิภาพของกริ้บและศักยภาพในการยึดเกาะได้ดี แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังมั่นใจกับยาง Pilot Sport 4S มากกว่า pirelli p zero เมื่อถึงจุดหนึ่งมันจะลดทอนสมรรถนะลงไปมาก รวมถึงความแข็งแรงคงทนของแก้มและดอกยางที่ยังเป็นรอง Pilot Sport อยู่พอสมควร ใน pirelli p zero ผมสามารถเข้าโค้งแรงๆ ได้ กดคันเร่งเพิ่มตอนพุ่งออกทางตรงยางก็ยังรับหน้าที่ทำให้ส่วนหน้าของรถไปในทิศทางที่ต้องการได้ง่าย

เบรก Mperformance คาลิปเปอร์สีน้ำเงินที่เจ้าของส่วนใหญ่ชอบเปลี่ยนไปเป็นสีแดงที่มีประสิทธิภาพดีกว่า แต่เบรกเดิมติดรถก็ใช้งานได้ดี ถ้าไม่ขับห้าวมากจนเกินไปก็ถือว่าเอาอยู่ ระบบเบรกแบบสี่พอตหน้า ซิงเกิลพอตหลังเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าเป็นพวกตีนโหด ชอบเบรกลึกๆ หนักๆ บ่อยครั้ง เบรกสีแดงที่มีราคาแพงกว่าและต้องควักเพิ่ม เพราะเป็นออปชั่นเสริมดูจะเหมาะกับพวกมือหินตีนโหดมากกว่า

นอกจากเครื่องยนต์หกสูบเรียงประสิทธิภาพสูงแล้ว กุญแจในการสร้างสมรรถนะที่น่าประทับใจของ M340i xDRIVE อยู่ที่การจูนอัพระบบรองรับกับชุดบังคับเลี้ยว พวงมาลัย BMW servotronic steering ช่วงล่าง Adaptive Suspension M specific elastokinematics, hydraulically damped torque strut bearings และเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป M differential ให้ทำงานด้วยกันได้อย่างลงตัว แค่หักพวงมาลัย โช้คอัพหน้าก็จะปรับน้ำหนักเตรียมรับแรงเหวี่ยงแล้ว นอกจากนี้ยังมีการปรับบาลานซ์ระหว่างโช้คอัพหน้ากับหลังตลอดเวลาที่ขับอีกด้วย และเมื่อเจอเข้ากับผิวถนนที่ไม่เรียบ ช่วงล่างของ M340i ก็ไม่ได้มีอาการกระด้างกระเดื่องจนนั่งไม่สบาย คุณสามารถขับมันได้ทั้งวันแล้วยังลงมาเดินเหินได้อย่างสะดวกโดยไม่มีอาการปวดหลังเมื่อยบั้นเอว โปรแกรม active sound design สร้างเสียงเร้าใจในโหมดสปอร์ตและสปอร์ตพลัส โดยใช้การสังเคราะห์เสียงผ่านลำโพง รวมถึงวาล์วบายพาสในท่อที่เปิดออกจนสุด จุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีอีกเช่นกัน

มิติตัวถังของ BMW M340i XDrive มีขนาดความยาว 4,713 มิลลิเมตร กว้าง 1,827 มิลลิเมตร สูง 1,440 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,851 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,589 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,604 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงก์หน้า 799 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงก์หลัง 1,059 มิลลิเมตร ล้ออัลลอย M ด้านหน้าขนาด 8 J × 19 ยัดยางไซส์ 225/40 R19 ล้อหลัง 8.5 J × 19 ยาง 255/35 R19 เป็นยางติดรถจากโรงงานยี่ห้อ Goodyear รุ่น Eagle F1 Runflat คาลิปเปอร์เบรก BMW M Performance Brakes เบรกหน้าแบบ 4 พอต เบรกหลังซิงเกิลพอต พร้อมคาลิปเปอร์สีน้ำเงิน ปริมาตรในการบรรจุของในห้องเก็บสัมภาระท้าย 480 ลิตร น้ำหนักรถสุทธิ 1,670 กิโลกรัม

บั้นท้ายที่ลงตัวสมส่วน ไฟท้าย LED คล้ายกับ G20 รุ่นที่มีกำลังน้อยกว่า จุดที่ชอบก็คือ ฝาท้ายที่ใช้ทรงแบบตูดเป็ด พร้อมครีบเล็กๆ บริเวณขอบของฝาท้ายเพื่อความสวยงามและช่วยสร้างแรงกด สัญลักษณ์ M340i ติดตั้งอยู่เหนือไฟท้ายฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายแปะตราสัญลักษณ์ XDrive เพื่อบ่งบอกตัวตนถึงระบบขับเคลื่อนที่ใช้ในรถรุ่นนี้ กันชนหลัง M มีพลาสติกสะท้อนแสงมัลติรีเฟคเตอร์ ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ใต้กันชนที่ใช้เท้ากวาดเพื่อสั่งให้ฝาท้ายเปิดโดยไม่ต้องกดปุ่ม แต่ทดลองดูแล้วไม่ค่อยจะเปิดให้ตามที่คิด น้ำหนักตัว 1,670 กิโลกรัม หนักกว่า 320d / 330i / 330e และมีมวลเกือบจะเท่ากับ M3 รุ่นใหม่ ราคาค่าตัว 3,999,000 บาทของมัน สูสีกับ BMW 430i M Sport ซึ่งเป็นรถคูเป้รุ่นใหม่ที่มีเรี่ยวแรงน้อยกว่าแต่เท่กว่าตรงบานประตูแบบ Coupe และกระจังไตคู่ทรงแนวตั้งแบบใหม่ ถ้าจะให้เลือก เมื่อไม่ได้เป็นคนขับเร็วอะไรกันมากมาย และชอบรถแบบสปอร์ตสองประตู ก็เดินไปที่ BMW 430i แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความต้องการจะไปให้เร็วกว่ารถคันอื่นบนถนน ผมจะเดินไปหยิบกุญแจของ M340i XDrive ที่ขับได้ใจกว่าเยอะ (มาก)

งานตกแต่งภายในเท่านั้นที่ G20 จะมีความคล้ายคลึงกับ G22 และ G28 รุ่นฐานล้อยาว สำหรับ M340i XDRive มีการเชื่อมโยงชิ้นส่วนและอุปกรณ์ภายในต่างๆ กับรถรุ่น 320d 330e 330i และ 430i- M440i โดยมีบางจุด บางตำแหน่งที่มีความแตกต่างอยู่บ้าง แต่ภาพรวมก็ยังใช้รูปลักษณ์ของงานภายในแทบจะเหมือนกันทั้งหมด G20 สายพันธุ์แรงคันทดสอบ ใช้ภายในสีเทาดำ และสีดำ ในบริเวณเบาะนั่งและงานตกแต่งแผงประตู คอนโซลขึ้นรูปด้วยวัสดุสังเคราะห์ หุ้มหนังสังเคราะห์คุณภาพสูง เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้า พร้อมการป้องกันเสียงด้วยวัสดุรองชั้นในอีกหลายจุดรอบห้องโดยสาร เบาะคู่หน้าหุ้มหนังแท้สีดำ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้าเช่นกัน เฉพาะเบาะคันขับ มีปุ่มบันทึกตำแหน่งเบาะมาให้สองตำแหน่ง เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกความจำ Memory Seat ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า เบาะออกแบบให้นั่งได้อย่างสบายตัว ดีกว่าเบาะของ Series-5 LCI อย่างชัดเจนเมื่อขับทางไกล เป็นเบาะชุดเดียวกับ BMW 430i M Sport Coupe เพียงแต่ใช้หนังหุ้มเบาะคนละเฉดสีเท่านั้นเอง

ภายในของ M340i XDrive ประดับประดาด้วยงานพลาสติกที่ทำออกมาคล้ายอะลูมิเนียม ตกแต่งอยู่ทั่วไปหมด ชิ้นส่วนสีเงินคาดกลางระหว่างแผงแดชบอร์ด หลังคากระจก Sunroof ทำงานเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ตขอบอกว่านั่งแล้วสบายตัวกว่าเบาะของ BMW 520d M Sport LCI ครับ เบาะของ M340i หุ้มด้วยหนัง Vernesca รวมถึงงานแสดงแสงสีในเวลากลางคืน ด้วยหลอดไฟ LED เพื่อสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ไฟตกแต่งภายในหรือ Ambient Light ปรับได้ 11 เฉดสี น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับ new C-Class รุ่น C43 ซีดาน ที่มีหลอด Ambient Light ปรับได้ถึง 64 เฉดสี สำหรับวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร BMW เรียกว่า Aluminum Tetragon ผ้าบุเพดานหลังคาภายในห้องโดยสารสีดำ Anthracite แดชบอร์ดหน้า และแผงประตูหุ้มด้วยหนัง Sensatec BMW 430i ที่ใช้ในงานในเขตร้อน มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่สามารถปรับตั้งค่าได้

ชุดมาตรวัด BMW Live Cockpit Professional มาตรวัดแบบจอภาพ TFT LCD ตรงหน้าคนขับ ขนาด 8.8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนรายละเอียดการแสดงผลต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม แต่อย่างที่บอกว่ามาตรวัดรอบนั้น อ่านค่าได้ยากกว่าจอภาพ TFT ในเวอร์ชันที่ผ่านมา รวมถึงการปรับเปลี่ยนมาตรวัดไปตามโหมดการขับเคลื่อน ในรถรุ่นใหม่ของ BMW แค่มีการเปลี่ยนสีมาตรวัดเท่านั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบมาตรวัดเหมือนจอภาพ TFT ในปี 2016 ส่วนจอแสดงผลกลาง ขนาด 5.7 นิ้ว มาครบ ทั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ การเชื่อมต่อต่างๆ ระบบนำทางด้วยดาวเทียมพร้อมการแจ้งเตือนสภาพการจราจรแบบ Real-time ฟังก์ชันติดต่อผู้ช่วยส่วนตัว Concierge Service ระบบ Remote Service ระบบ Teleservice อันนี้เป็นระบบที่ช่วยทำให้การติดต่อสื่อสารรวดเร็วยิ่งขึ้น กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเซนเซอร์ บนเพดานยังมีปุ่มโทรออกฉุกเฉิน Intelligent Emergency Call ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth สำหรับช่องเชื่อมต่อ ให้มาครบทั้ง USB Type A และ Type C รวมถึงช่อง AUX ระบบสั่งงานโดยการเคลื่อนไหวของมือ Gesture Control ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน แต่มีเอาไว้โม้เพื่อนๆ และระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charging

ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon DSP amplifier with Class-D technology 600 WATTS Logic 7® ลำโพง 16 ตำแหน่ง ฟังก์ชันการปรับตั้งค่าอีควอไลเซอร์ มีตัวเลือกคือ: เบส / เสียงกลาง เสียงแหลม หน้าหลัง ซ้ายขวา โดยปกติจะประกอบด้วยลำโพงเสียงกลาง 4 ตัว ซัฟวูฟเฟอร์ด้านล่าง 2 ตัว ทวีตเตอร์ สังเกตได้จากตะแกรงทวีตเตอร์ทรงสามเหลี่ยมมีตาข่ายหุ้มอยู่ที่ด้านในของกระจกมองข้าง เฮดยูนิตที่มีช่องสัญญาณเสียง 4 ช่อง ทำหน้าที่ในการขยายเสียง ซึ่งคุณภาพเสียงและเอาต์พุตเมื่อเร่งเสียงสูงสุดมีค่าความผิดเพี้ยนลดลง ส่งผลให้มีระดับเสียงที่เพียงพอต่อการรับฟัง จากกำลังขับที่ออกแบบให้เข้ากับห้องโดยสารของรุ่น Coupe ซัฟวูฟเฟอร์แบบมาตรฐาน สามารถขับเคลื่อนโดยเฮดยูนิต BMW เลือกใช้ซัฟวูฟเฟอร์ 4 โอห์ม ซึ่งจ่ายพลังงานได้ง่ายขึ้น จากแหล่งที่มาเช่นเฮดยูนิตในระบบ iDrive 7 สำหรับการเปรียบเทียบระบบไฮไฟกับแบรนด์อื่น การใช้ซัฟวูฟเฟอร์ขนาด 4 โอห์ม เนื่องจากแอมพลิฟายเออร์ในระบบสามารถรับมือกับภาระที่เพิ่มขึ้น จากซัฟวูฟเฟอร์ที่มีความต้านทานต่ำลง นอกจากนั้น lower impedance woofers แบบพื้นฐานยังมีน้ำหนักเบา

พวงมาลัย M ที่จับได้ถนัดมือ กริ้บออกแบบดี และหนังที่ใช้หุ้มรอบวงก็มีคุณภาพสูง แป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ ใช้นิ้วแตะเพื่อเปลี่ยนเกียร์ได้ถนัดดี ปุ่มควบคุมฟังก์ชันต่างๆ เช่น ปุ่มปรับการทำงานของระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ ปุ่มควบคุมระบบเสียง ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์บลูทูธ ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ปุ่มเลือกฟังก์ชันต่างๆ ในระบบอินโฟเทนเมนต์ฯ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง แต่ใช้การปรับด้วยมือไม่มีระบบปรับพวงมาลัยไฟฟ้า

ซุ้มเกียร์หน้าตาเหมือนกันเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น Series-3 Series-4 Series-5 หรือแม้แต่รถ BMW ในกลุ่มเอสยูวีก็ยังใช้ซุ้มเกียร์รูปแบบนี้ มันให้มุมมองที่สวยงามมีการปรับเปลี่ยนปุ่มควบคุมของระบบปฏิบัติการ iDRIVE OS7 มาตั้งแต่ปล่อย new Z4 รวมถึงคันเกียร์ทรงหัวไม้ไฮบริด หรือหัวไม้ 7 ที่ใช้ตีในระยะไม่เกิน 200-230 หลา หัวเกียร์ทำจากพลาสติกสีดำเงา บริเวณรอบๆ คันเกียร์ติดตั้งสวิตช์สั่งงานยุบยับไปหมด เช่น ปุ่มปรับโหมดการขับเคลื่อน ECO PRO / COMFORT / SPORT / ADAPTIVE มีฟังก์ชันแยกย่อย เพื่อแยกการปรับค่าการตอบสนองของเครื่องยนต์ พวงมาลัยไฟฟ้าและชุดส่งกำลังออโตเมตริก ZF 8 สปีด ปุ่มปิดหรือเปิดระบบช่วยทรงตัว ปุ่มระบบถอยหลังอัตโนมัติ ปุ่มเปิดหรือปิดการใช้งาน Auto Start / Stop และปุ่ม Auto Brake Hold รวมถึงปุ่มสุดท้ายที่แยกออกมาก็คือ ปุ่มเบรกมือไฟฟ้า

ถ้าเป็นเรื่องแรง ก็ไม่ต้องห่วง เพราะที่ผ่านมา Series-3 ทุกเจเนอเรชันมีเครื่องยนต์ดีๆ ให้ใช้เสมอ และตัวที่แรงจะเป็นเครื่อง 6 สูบเรียง เทอร์โบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง M 3.2 ลิตร ใน M3 e36 หรือ 3.0 ลิตรทวินเทอร์โบ รหัส S58 ใน M3/M4 G80 เจเนอเรชันล่าสุด รถ G20 รุ่นใหม่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ในรุ่น M340i นั้นมีเครื่องยนต์ B58B30 แบบเดียวกับใน M140i/M240i Z4 M40i และ 440i/ ซึ่งเป็นเครื่อง 3.0 ลิตร Twinscroll Turbo ใน Z4 G29 และ Toyota Supra A90 จากที่เคยมีกำลัง 340 แรงม้า (bhp) ในปี 2019 พอมาถึงปี 2021 เรี่ยวแรงถูกอัปขึ้นเป็น 387 แรงม้า ส่วนใน Series-3 M340i ตอนลืมตาดูโลกและโผล่ออกมาจากโรงงานประกอบ BMW ที่ระยอง ก็มีกำลังท่วมท้นมากถึง 387 แรงม้า เช่นเดียวกัน เทอร์โบมีเวสต์เกตควบคุมด้วยไฟฟ้าที่ช่วยให้รถตอบสนองคันเร่งได้เร็ว B58 ยังคงใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ Twin Scroll ที่คล้ายกับในเครื่องยนต์รหัส N55 แต่โข่งเทอร์โบ มีมิติที่ใหญ่กว่า เมื่อเทียบกับเทอร์โบของเครื่อง N55 สำหรับเทอร์โบชาร์จเจอร์ในเครื่องยนต์ B58B30 มีกังหันขนาดใหญ่กว่า 6% และเส้นผ่านศูนย์กลางของคอมเพรสเซอร์ก็ใหญ่ขึ้น 10% ด้วย ดังนั้น B58 จึงมีแรงดันบูสต์เพิ่มขึ้น 20% เทอร์โบชาร์จเจอร์ของเครื่องยนต์ B58 ใช้แอคทูเอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อควบคุมวาล์ว wastegate นี่เป็นแนวทางที่แตกต่างไปจากเครื่องยนต์ N55 ซึ่งใช้การควบคุมแรงดันจากการบูส ที่ควบคุมด้วยระบบสุญญากาศ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการแพร่ความร้อนสูงมาก ซึ่งเกิดจากการทำงานของระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ (ในรอบสูงแบบต่อเนื่อง) การใช้งาน 340i BMW วิศวกรจึงวางแผงป้องกันความร้อนไว้รอบๆ ส่วนประกอบของแอคทูเอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยวัสดุป้องกันอุณหภูมิสีเงิน ล้อมกรอบชุดเทอร์โบเอาไว้อย่างหนาแน่น B58B30 วางในลักษณะตามยาวโดยเน้นตัวเลขการกระจายน้ำหนัก ระบบเกียร์มีชุด transfer case เพื่อทดกำลังไปยังล้อหน้า ในลักษณะรถขับเคลื่อนสี่ล้อแบบแปรผัน เกียร์อัตโนมัติ ZF 8 Speed ถูกปรับแต่งอัตราทดใหม่ให้สอดรับกับกำลังที่เพิ่มขึ้นใน M340i รวมไปถึงการปรับแต่งช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยว ให้สามารถตอบสนองต่อเท้าที่หนักอึ้งของคนขับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDRIVE ให้ความเสถียรขณะปลดปล่อยแรงบิด ตอนที่ BMW พัฒนาเครื่องตัวนี้ พวกช่างและวิศวกรตราใบพัดก็เอาเครื่องยนต์ 6 สูบ กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของแบรนด์อื่น มาเทียบวัดมาตรฐานด้วย โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 6 สูบเทอร์โบพร้อม Mild Hybrid 48V ที่อยู่ใน AMG 53 หลากหลายรุ่น

M340i xDRIVE มี Driving mode ให้เลือกหลายแบบเช่นเดียวกับ BMW รุ่นอื่นๆ ซึ่งเมื่อเลือกโหมดไป ก็จะมีการปรับตั้งค่าสำหรับพวงมาลัย โช้คอัพ เกียร์ และการตอบสนองของเครื่องยนต์ มีทั้งโหมด ECO-PRO Comfort, Sport Sport + Adaptive อย่างไรก็ตามในแต่ละโหมด วิศวกรปรับให้มีความแตกต่างในการทำงานชัดเจนขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ ในโหมด Sport กับ Sport + เมื่อก่อน Series-3 เครื่อง 3 ลิตร ขับหลัง จะเป็นรถที่ท้ายออกง่ายพอสมควร แต่เมื่อมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทำให้อาการดังกล่าวหายไปพร้อมกับการยึดเกาะของส่วนท้ายในโค้งดีขึ้นมาก พวงมาลัยตึงไม้ตึงมือและมีแรงดีดกลับที่เหมาะสม ลองกดคันเร่งตอนพวงมาลัยหมุนสุดดู จะพบว่ามีแรงดีดพยายามสู้มือชัดเจน มีอาการโอเวอร์สเตียร์เบาๆ ถ้ากดคันเร่งไม่มากไป การที่รถเหวี่ยงออกในลักษณะนี้ เป็นผลมาจากการใช้ฐานล้อสั้นลง แต่ไม่ใช่ว่ามันจะพยศจนหาความปลอดภัยไม่ได้ แค่มีนิสัยดีดดิ้นมากกว่าที่คุณคิดหน่อยแค่นั้นเอง บุคลิกอย่างนี้ทำให้ M340i xDRIVE สามารถเรียกตัวเองว่ารถสปอร์ตซีดานได้อย่างเต็มปากเต็มคำ คือมันจะมีการตอบสนองที่ดีในทุกองคาพยบ เรียกว่ากดเป็นพุ่งและนิ่งมากในย่านความเร็วสูง รวมถึงการเข้าโค้งอย่างเฉียบคม ซึ่งรถซีดานสี่ประตู น้อยคันจะทำได้แบบนี้

นี่คือ Series-3 ในแบบที่จะทำให้นักขับทุกคนรู้สึกชอบ เป็นรถที่มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว มีสองบุคลิกอยู่ในตัวตนของมัน ขับช้าๆ ในเมืองด้วยโหมดประหยัดก็วิ่งได้เนียนเอาเรื่อง ขับมุทะลุดุดันบนไฮเวย์ หรือแม้แต่ในสนามแข่งก็ยอดเยี่ยม M340i แม้จะเป็น M ปลอม แต่จิตวิญญาณของรถก็แอบแฝงสัมผัสของ M แบบแท้ๆเอาไว้ไม่น้อย เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเรื่องของการขับขี่ ความคล่องแคล่วว่องไวขณะมุดเข้าออกโค้ง อารมณ์ที่ได้รับหลังจากการขับคือความพึงพอใจล้วนๆ สำหรับคุณภาพของวัสดุและงานประกอบ เป็นไปตามมาตรฐานของ BMW แม้จะประกอบในประเทศแต่ทำออกมาได้แน่นหนาดี ไม่ว่าจะมองมันด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม BMW M340i xDrive คือจักรกลที่ผมเทคะแนนด้านการขับให้จนหมดใจ เป็นรถที่อยากได้มากที่สุดตั้งแต่ปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้ความอยากก็ไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย ถ้า M3 G80 เปรียบเหมือนสูทรัดรูปที่ตัดเย็บอย่างประณีต มีราคาแสนแพง และใส่ได้ในบางโอกาสเท่านั้น M340i xDrive G20 นั่นเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไม่แพงเกินไป สมเหตุผลกับการใช้งาน เป็นเสื้อผ้าตัวโปรดที่หยิบมาใส่ได้ทุกวันครับ.

รายละเอียดด้านเทคนิค
เครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,998 ซีซี.
กำลังสูงสุด (285 กิโลวัตต์/ 387 แรงม้า/ที่ 5,800 - 6,500 รอบต่อนาที)
แรงบิดสูงสุด (500 นิวตันเมตร/ที่ 1,800 - 5,000 รอบต่อนาที)
ความเร็วสูงสุด (250 กิโลเมตร/ชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (4.4 วินาที)
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย - อ้างอิงผล ECO Sticker (13.3 กิโลเมตร/ลิตร)
ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย ( 171 กรัม/กิโลเมตร)
ล้อ ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี
ขนาดยาง ล้อหน้า: 8 J × 19 / ยาง 225/40 R19
ล้อหลัง: 8.5 J × 19 / ยาง 255/35 R19
(ยาง Runflat)
มิติรถยนต์ ยาว/กว้าง/สูง (มิลลิเมตร) 4,713 / 1,827 / 1,440
ปริมาตรในการบรรจุของ (480 ลิตร)
น้ำหนักรถสุทธิ (1,670 กิโลกรัม)
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Sport Steptronic
ระบบเฟืองท้าย M Sport
ช่วงล่าง Adaptive M
พวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็ว
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop&Go (Active cruise control with Stop&Go function)
ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant)
ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ xDrive
ระบบ BMW Head-up Display
ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
อุปกรณ์ภายนอก
ระบบไฟหน้า BMW Laserlight
ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant)
คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport
ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System)
หลังคากระจกเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ชุดตกแต่ง M Aerodynamics
ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ เงา
สปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M
อุปกรณ์ภายใน
กระจกมองข้างและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
เบาะนั่งหนังแท้ Vernasca
เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ
เบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ Sport
พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M Sport
เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M
คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec
ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient Light)
เพดานหลังคาภายในสี Anthracite
ภายในตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน
ฟังก์ชันช่วยการจัดเก็บสัมภาระ
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
BMW Live Cockpit Professional
ระบบ BMW ConnectedDrive
ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon

ความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง)
ระบบ Teleservices
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC)
ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist)
ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection)
ระบบ Active Protection
ระบบเตือนสถานะของยาง (Runflat Indicator)
เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง 
กล้องแสดงภาพด้านหลัง

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: ขับครั้งสุดท้ายกับปิศาจร้าย 6 สูบ ทดสอบ BMW M340i xDrive

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด