ขับในเมืองอย่างไรให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ
มุมมองและวิธีขับรถปลอดภัยห่างไกลอุบัติเหตุเมื่อขับในเมือง (ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์)
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากความประมาทไม่ระวังหรือไม่เคารพกฎจราจรซึ่งเป็นกฎแห่งความปลอดภัย ไม่ได้เกิดแค่บนถนนไฮเวย์ หรือบนทางหลวงที่รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้ความเร็วเท่านั้น บริเวณชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่น้อย คนเดินเท้า จักรยาน คนข้ามถนน คนขายของที่อยู่ริมถนน จากความประมาทขับเร็วในเขตชุมชนจนเป็นที่มาของเหตุสลดใจ การขับรถในเขตเมืองนั้นมีอันตรายมากกว่าการขับรถบนทางหลวง ต้องใช้สมาธิมากกว่าเดิม เนื่องจากตัวแปรต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุนั้นเพิ่มมากขึ้น การสังเกต หรือคาดการณ์ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อน เครื่องหมายหรือป้ายจราจรก็เยอะ จนบางครั้ง เมื่อขับมาเร็วก็จะมองไม่เห็นป้ายบอกเขตจำกัดความเร็ว หรือเขตโรงเรียน
ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ตรงหน้าหรือตามที่ป้ายกำหนด
การออกตัว หรือหยุดรถในเขตเมือง โดยขาดความระมัดระวัง
อาจหมายถึงอุบัติเหตุ แต่ละถนน แต่ละแยก แต่ละซอย
ล้วนเป็นจุดอันตรายที่ต้องเพิ่มความระวัง
เนื่องจากรูปแบบของอุบัติเหตุนั้นแตกต่างกันออกไป
เป็นหน้าที่ของคนขับทั้งรถและจักรยานยนต์
ที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
และทำให้การควบคุมรถ สอดคล้องกับสถานการณ์ตรงหน้า ข้อควรระวังก็คือ
การใช้ความเร็วที่เหมาะสมในเขตเมือง
เมื่อพบกับคนที่กำลังข้ามถนนที่อยู่ตรงหน้า บริเวณทางแยกทางร่วม
หรือจุดอับสายตา ยากต่อการสังเกต บริเวณทางโค้งในเมือง ทางแคบ
เมื่อใช้ความเร็วที่เหมาะสม
หรือขับด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดก็จะมีเวลาแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ทางแยกทางร่วม จุดอันตราย
ความเร็วในขณะที่ขับเข้าสู่ทางแยกทางร่วมเป็นอีกจุดที่ต้องระวัง
เมื่อจะขับผ่านทางแยกทางร่วมควรลดความเร็วเตรียมพร้อมที่จะหักหลบ
หรือเบรกรถที่วิ่งตัดหน้าด้วยความเร็วสูง
การลดความเร็วทำให้มีระยะของการเบรก
หรือหักหลบมากพอที่จะทำให้คุณปลอดภัย เมื่อยึดถือ
และปฏิบัติเป็นประจำขณะขับเข้าทางแยกทางร่วมจะส่งผลดีในการป้องกันอุบัติเหตุ
การเลี้ยวกลับรถบริเวณทางแยกทางร่วม
ไม่ว่าจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือแม้แต่การขับยูเทิร์น
สิ่งที่ต้องระวังก็คือรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือรถพ่วง
บางคันอาจกำลังขับคร่อมเลน ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน จะเลี้ยวหรือจะตรงไป
รถพ่วงขณะรอเลี้ยวจะใช้วงเลี้ยวที่กว้างมาก
รถพ่วงอาจอยู่ในเลนกลางเพื่อตีวงเลี้ยวกลับรถ การเลี้ยวที่ปลอดภัยคือ
เริ่มให้สัญญาณก่อนการเลี้ยว อยู่ในช่องทางที่จะเลี้ยวอย่างถูกต้อง
ไม่ขับคร่อมเส้นแบ่งช่องทางก่อนการเลี้ยว สังเกตพฤติกรรมรถรอบๆ ตัว
คาดการณ์ให้ถูกต้อง ควบคุมความเร็วให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตรงหน้า
และใช้ความระมัดระวังจนกว่าการเลี้ยวจะสิ้นสุดลง
รักษาช่องทาง ไม่ขับคร่อมเลน
ช่องทาง หรือเลนบนถนนในเมืองมีความสำคัญที่จะต้องใส่ใจ เส้นประ
เส้นทึบ เป็นกฎกติกาของการใช้รถใช้ถนน เป็นวินัยจราจรที่ควรยึดมั่น
เลือกใช้ช่องทางที่ถูกต้องเสียแต่เนิ่นๆ
อย่ารอจนวินาทีสุดท้ายแล้วเปลี่ยนช่องทาง
การขับแบบนั้นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
หรือเกิดความยุ่งยากโดยไม่มีความจำเป็น
นอกจากจะรักษาช่องทางให้ถูกต้องแล้ว การขับทิ้งระยะจากรถคันหน้า
หรือจักรยานยนต์ที่ขับอยู่ข้างหน้าก็จะทำให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที
คนเดินเท้า
ผู้คนที่เดินอยู่สองฟากถนน เป็นส่วนหนึ่งของการจราจรที่เปราะบาง
คุณควรพึงระวังให้ความสนใจในอันดับต้นๆ เมื่อขับรถในเมือง
ให้คิดไว้ล่วงหน้าได้เลยว่าอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เด็กเล็กอาจวิ่งตัดหน้าในตรอกซอกเล็กๆ
หรืออาจมีจักรยานตัดเข้ามาในช่องทางของคุณแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
หยุดรถให้คนข้ามถนนในเขตทางม้าลายทุกครั้ง
ย้ำว่าทุกครั้งที่มีคนกำลังรอข้ามถนน ถ้าไม่ได้ห้อมาเร็ว ขับมาเรื่อยๆ
ตามความเร็วที่กำหนดในเขตนั้นๆ โดยเฉพาะเขตหน้าโรงเรียน
ก็ยังมีเวลามากพอให้เบรกหรือหักหลบได้ทัน
แต่ถ้าใช้ความเร็วบริเวณหน้าโรงเรียนแค่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ตามกฎหมายกำหนด หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นตรงหน้า ยังไงก็เบรกทัน
เพราะมาไม่เร็ว
ขับตามรถใหญ่ในเขตเมือง
เมื่อต้องขับตามรถบรรทุก หรือรถโดยสารขนาดใหญ่
ควรระวังรถใหญ่เหล่านี้เปลี่ยนช่องทาง เพื่อเลี้ยว
หรือจอดรับส่งผู้โดยสาร
อาจมีคนรีบร้อนวิ่งตัดหน้ารถคุณเพื่อขึ้นรถเมล์
ส่วนคนที่ลงจากรถเมล์อาจไม่หยุดรอ
และข้ามถนนตัดหน้ารถของคุณอย่างกะทันหัน
ควรใช้จิตสำนึกในการขับเชิงป้องกันอุบัติเหตุ
โดยเพิ่มความระวังให้มากยิ่งขึ้น รถบรรทุก หรือรถเมล์
มักเบนหัวออกมาโดยไม่ได้ให้สัญญาณ หรือให้แล้วแต่มองไม่เห็น
การขับแบบระวัง
และดูพฤติกรรมการขับเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้คุณปลอดภัย
ระวังพวกเผลอเปิดประตูแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
การเปิดประตูรถโดยขาดความระมัดระวัง
เป็นอีกประเด็นที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
บางครั้งถึงกับชนกันจนประตูหลุดไปทั้งบาน ควรสังเกตให้ดีๆ
ใช้ความเร็วที่เหมาะสม คาดเดาไว้ก่อนเลยว่าจะต้องเปิดออกมาแน่ๆ
ขับโดยทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าใช้ความเร็วต่ำ
เพื่อจะได้มีพื้นที่ในการมองและพร้อมที่จะหลบ หรือเบรกให้ทัน
ใช้เสียงแตรเตือนเมื่อไม่แน่ใจว่าเขาจะเปิดประตูออกมาหรือไม่.
ผู้เขียน : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
คุณกำลังดู: ขับในเมืองอย่างไรให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ
หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์