ขับรถลุยน้ำท่วมแบบนี้ ระวังประกันชั้น 1 ไม่จ่าย!
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ นอกจากคนกรุงจะต้องเผชิญกับรถติดแสนสาหัสแล้ว บางพื้นที่ยังอาจมี 'น้ำรอระบาย' ให้ผู้ใช้รถได้ระทึกกันอีกต่างหาก
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ นอกจากคนกรุงจะต้องเผชิญกับรถติดแสนสาหัสแล้ว บางพื้นที่ยังอาจมี 'น้ำรอระบาย' ให้ผู้ใช้รถได้ระทึกกันอีกต่างหาก
โดยปกติแล้ว หากเกิดความเสียหายกับรถยนต์อันเนื่องมาจากการขับผ่านพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง รถยนต์ที่ทำประกันภัยประเภท 1 สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตามปกติ ทั้งกรณี 1.เสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) และ 2.เสียหายบางส่วน (Partial Loss) ซึ่งมีการเคลมเหมือนกับความเสียหายจากอุบัติเหตุโดยทั่วไป
ทั้งนี้ การเรียกค่าเสียหายจากบริษัทประกันฯ สามารถทำได้ในกรณี เกิดน้ำท่วมฉับพลันบนเส้นทาง เช่น คันกั้นน้ำแตก ฯลฯ จำเป็นต้องขับออกไปให้เร็วที่สุด หรือจอดรถไว้ในที่จอดรถ เช่น ในบ้าน, ใต้อาคาร ฯลฯ แล้วเกิดน้ำท่วมขัง ไม่สามารถนำรถออกได้ทัน ซึ่ง 2 กรณีนี้ถือว่าครอบคลุมความเสียหายที่บริษัทประกันต้องรับผิดชอบอย่างชัดเจน
แต่ หากเป็นการขับรถลุยน้ำทั้งๆ ที่เห็นว่าด้านหน้ามีน้ำท่วมสูง แบบนี้อาจถูกตีความว่าเป็นการขับลุยน้ำโดยเจตนา ซึ่งมีผลทำให้ไม่สามารถเคลมประกันได้ ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ เพื่อเดินทางกลับบ้าน หรือไปยังจุดหมายใดๆ จนเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายต่อรถ (โดยเฉพาะเครื่องยนต์) ผู้ขับขี่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ได้เจตนา มิเช่นนั้นอาจถูกปฏิเสธการเคลมได้นะครับ
ทางที่ดี หากสามารถเลี่ยงใช้เส้นทางที่มีน้ำท่วมขังได้ถือว่าดีที่สุด แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรใช้เลนที่มีระดับน้ำต่ำที่สุด รวมถึงใช้ความเร็วให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลื่นจนทำให้น้ำถูกดูดเข้าไปในห้องเครื่อง เพราะหากจู่ๆ เครื่องยนต์เกิดดับขณะลุยน้ำท่วมสูงนั้น บอกได้เลยว่าคุณเจอ 'งานช้าง' เข้าให้แล้วล่ะ!
อย่าลืมนะครับว่า ความเสียหายจากการลุยน้ำท่วมนั้น ประกันชั้น 1
อาจเคลมไม่ได้เสมอไป
คุณกำลังดู: ขับรถลุยน้ำท่วมแบบนี้ ระวังประกันชั้น 1 ไม่จ่าย!
หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์