ขับดีแบบนี้พี่อยากได้ ทดสอบเตี้ยหน้าหล่อ Toyota Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor)

Toyota Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition 4×2 2.4 Mid AT เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า 400 นิวตันเมตร ช่วงล่างใหม่อย่างแจ่ม ราคา 805,000

ขับดีแบบนี้พี่อยากได้ ทดสอบเตี้ยหน้าหล่อ Toyota Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor)

ในช่วงกลางปี 2565 ตลาดรถยนต์ของประเทศไทย ได้พลิกฟื้นกลับขึ้นมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ
2 ปี หลังจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 ซึ่งสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และทำให้ตลาดรถยนต์ไทยหดตัวต่อเนื่องมาสองปี แต่ยอดขายรถยนต์ในช่วงปลายปี 2565 เมื่อเทียบกับปีก่อน (2563-2564) นับว่าปรับตัวดีขึ้นมาก จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มจะฟื้นตัว รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคบางกลุ่ม เช่น เกษตรกรและกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว การขายของออนไลน์ และการส่งออกที่ดีขึ้น การปลดล็อกมาตรการฉุกเฉินที่จะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม รวมทั้งการเปิดตัวรถรุ่นใหม่จำนวนมากตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนมาถึงเดือนตุลาคม ก็ยังมีรถยนต์รุ่นใหม่ทำการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นแรงผลักดันทางตรงที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยได้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ส่วนกลุ่มรถกระบะเองก็กลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยเฉพาะรถกระบะขับเคลื่อนสองล้อ ที่มีราคาไม่เกิน 800,000 บาท เนื่องจากมีรถกระบะรุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มนี้ ทยอยเปิดตัวออกมาหลายรุ่น ประกอบกับมีการใส่นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยการเลือกซื้อรถยนต์กระบะของผู้บริโภค ที่เกิดจากปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น รูปแบบ ยี่ห้อ ราคา ความทันสมัยและเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงปัญหาน้ำท่วมขังในฤดูฝน เพื่อใช้ในการตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่

ทุกวันนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ยอดจำหน่ายรถยนต์มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มีการพัฒนาในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ด้านการผลิต และการให้บริการ มีความพยายามในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประชาชนทั่วไปได้รับรู้ เช่น การมีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคม การคืนกำไรสู่สังคมโดยการจัดโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในเชิงบวก และการสานสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทให้เป็นที่ยอมรับ และเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า โดยเฉพาะรถกระบะที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศ ปัจจุบันมีผู้จำหน่ายรถยนต์กระบะหลากยี่ห้อ กระจายอยู่ทั่วประเทศแทบทุกจังหวัด เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และความนิยมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค

Toyota Motor Thailand แบรนด์อันดับหนึ่งของไทยและของโลก เร่งลงมือปรับปรุงผลิตภัณฑ์รถยนต์ปิกอัพ เพื่อจัดความสดใหม่ สำหรับดึงดูดลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบรถกระบะสไตล์เตี้ยแต่ไม่โหลดต่ำมากจนเกินไป ด้วยรถ Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor) เน้นกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนทำงานในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มชุดช่วงล่างใหม่ เกิดจากปรัชญาการพัฒนารถแข่ง Gazoo Racing นั่นคือ “GR-Sport” ลดความสูงของช่วงล่างลง 23 มิลลิเมตร ปรับขนาดล้ออัลลอยจากเดิม 16 เป็น 17 นิ้ว เป็นล้อของ Corolla Cross ใช้ยาง Radial สมรรถนะดีอย่าง Bridgestone Turanza ขนาด 215/55R17ช่วงล่าง Super Flex Suspension แหนบกันสะเทือน วัสดุ High-Tensile Steel โช้คอัพปรับจูนใหม่ โช้คใหญ่ขึ้น สปริงใหม่ (สำหรับรุ่นยกสูง ทั้งดับเบิ้ลแค็บ และสมาร์ทแค็บ ยกเว้น ดับเบิ้ลแค็บ GR-Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ)

รุ่น Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Entry ราคา 692,000 บาท
รุ่น Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Entry AT ราคา 732,000 บาท
Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Mid ราคา 758,000 บาท
Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Mid AT ราคา 805,000 (คันทดสอบ)

มิติตัวถัง ขนาดความยาว 5,285 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,700 มม. ความยาวล้อ 3,085 มม. ในรุ่น 2.4Mid AT และ รุ่น 2.4Entry AT ระยะต่ำสุดจากพื้น 141 มม.(รุ่นเดิม 165 มม.) ในรุ่น 2.4Mid และรุ่น 2.4 Entry MT มีระยะต่ำสุด 131 มม. (รุ่นเดิม 154 มม.) ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลัง แบบแหนบซ้อน พร้อมช็อคแอบซอร์บเบอร์ปรับจูนพิเศษ

ดีไซน์ภายนอกของเตี้ยหน้าหล่อ REVO D Z Edition 4x2 2.4 Mid AT หน้าตาก็เหมือน REVO รุ่นมาตรฐานทั่วไป ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่สิ่งที่แปลกใหม่กลับซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกตัวถัง เริ่มจากไฟหน้า Bi-Beam LED มาพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติระบบ Follow-Me-Home ระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำ เฉพาะรุ่น 2.4 Mid และ Mid AT เรียกว่าจ่ายแพงขึ้นก็ได้ของที่ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding กระจังหน้าสีดำเมทัลลิกและโครเมียม โป่งล้อ Wide Body ทำให้ล้อ 17 นิ้วลาย 10 ก้านคู่ ดูเล็กลงไปเลย เพราะมีซุ้มล้อใหญ่แต่ล้อและยางไม่ได้เต็มซุ้ม ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะใช้งานได้จริง ไม่ต้องมาวิ่งย่องๆ หยอดเพราะล้อโตยางเตี้ย เสี่ยงต่อยางฉีกล้อคดอีกต่างหาก กระจกมองข้างสีดำปรับไฟฟ้าติดตั้งเลนส์ไฟเลี้ยวภายใน ที่ปัดน้ำฝันแบบหน่วงเวลา และปรับตั้งเวลาได้ มือจับที่เปิดประตูสีดำ สัญลักษณ์ Hilux และสติกเกอร์ Toyota 60 Year in Thailand บั้นท้ายเรียบง่ายเน้นการใช้งานพวกบรรทุกสัมภาระต่างๆ กระบะท้ายไม่มีวัสดุกันกระแทกติดมาให้คงต้องหาติดเอง ไฟท้ายแนวตั้งหลอดไฟสองแบบทั้ง LED และหลอดไส้ ไฟเบรกดวงที่สามอยู่เหนือมือจับที่เปิดฝาท้ายพลาสติกสีดำ น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่รถกระบะรุ่นนี้ไม่มีกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ ทำให้การขับถอยหลังต้องใช้ความระมัดระวังและไม่สะดวกเท่าที่ควร หากอยากติดกล้องมองหลังก็สามารถหาติดตั้งได้ทั่วไป แต่ Toyota น่าจะติดมาให้มากกว่าจะให้ลูกค้าไปหาติดเอง

ภายในเรียบๆ แต่สวยงามพอใช้ได้ เช่น มาตรวัดและแดชบอร์ดคอนโซล เบาะปรับมือหุ้มด้วยผ้าสีดำ เย็บเดินตะเข็บเบาะผ้าด้วยด้ายสีขาว รวมไปถึงที่วางแขนตรงกลางหลังคอนโซลซุ้มเกียร์หุ้มหนังสังเคราะห์สีดำเย็บด้วยด้ายสีขาว แดชบอร์ดติดตั้งจอภาพมอนิเตอร์สั่งงานด้วยระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับอินโฟเทนเมนท์เชื่อมต่อได้ทั้งสองระบบ (apple carplay & android auto) เชื่อมต่อแบบเสียบสาย USB เข้ากับช่องเสียบของจอมอนิเตอร์กลาง พื้นที่เบาะหลังนั่งสบายพอใช้เนื่องจากเบาะหลังปรับเอนไม่ได้ พวงมาลัยสามก้าน ติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชันปรับตั้งเครื่องเสียง หรือปุ่มสั่งงานต่างๆ ซุ้มเกียร์หน้าตาคุ้นเคยกับเกียร์ อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift ผลักคันเกียร์ไปทางขวาเพื่อชิฟเกียร์เองได้ ปุ่มปรับสองโหมดขับเคลื่อนข้างคันเกียร์ ECO และ POWER คันเบรกมือแบบมาตรฐานที่ไม่สะดวกสบายเท่ากับปุ่มเบรกมือไฟฟ้าแต่ทนทานมากกว่า การสตาร์ตเครื่องยนต์ของ Z Edition 4×2 2.4 Mid AT ยังคงใช้การเสียบกุญแจ แล้วบิด จุดที่ชอบก็คือ ที่วางแก้วน้ำสองตำแหน่ง ซ้าย-ขวา และความสบายยามนั่งขับบนเบาะผ้าที่ออกแบบได้ดี แม้จะปรับมือก็สามารถปรับให้เข้ากับสรีระได้อย่างครอบคลุม พวงมาลัยยังปรับได้สี่ทิศทาง ทั้งเข้า-ออก และสูง-ต่ำ

Hilux REVO-D 4 ประตูตัวเตี้ย คันทดสอบราคา 805,000 บาท ไม่มีการปรับขึ้นราคา แต่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมหลายจุด และที่ทำออกมาได้ดีก็คือช่วงล่างกับพวงมาลัย การปรับให้รถเตี้ยลงอีก 23 มิลลิเมตร เกิดจากการเปลี่ยนสปริงใหม่ ส่วนโช้คอัพที่เปลี่ยนมาให้ใหม่ก็ใช้ขนาดแกนที่ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือน แรงกระแทกจากผิวถนนไม่เรียบได้ดี อีกจุดหนึ่งก็คือ การเปลี่ยนล้อให้เบากว่าเดิม ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ยาง Bridgestone Turanza ไซส์ 215/55R17 ก็ทำหน้าที่ได้ดีเนื่องจากวันทดสอบจากบางนาไปจนถึงอำเภอหมูสีแถบตีนเขาใหญ่รวมระยะทางไป-กลับกว่า 400 กิโลเมตร ช่วงล่าง ยาง ทำหน้าที่ได้ดีขึ้นมาก สำหรับพวงมาลัยก็ยังมีการปรับให้อัตราทดของแรคตอบสนองต่อการขับเร็ว ในย่านความเร็วต่ำก็ไม่หนักเกินไป ส่วนความเร็วสูงที่ลองส่งไปจนถึงความเร็วสูงสุด 184 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวงมาลัยก็ยังนิ่งและมั่นคงใช้ได้เลยทีเดียว


null

เทคโนโลยี Economy with Superior Thermal Efficient Combustion หรือ ESTEC หัวฉีดคอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่นที่มีแรงดัน 1,350 บาร์ พ่วงเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Thermo Swing Wall Insulation Technology (TSWIN) คือการชุบหัวลูกสูบด้วย silica-reinforced porous anodized aluminum (SiRPA) ลดการสูญเสียการหล่อเย็นลูกสูบก่อนการจุดระเบิดได้ 30%เทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน มีขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เทอร์โบชุดใหม่นี้มีความเล็กกว่ารุ่นเดิมราวๆ 30% การปรับปรุงทำให้มีแรงบิดสูงสุดในช่วงที่กว้างขึ้นมากกว่าเดิม แรงดันอากาศจากเทอร์โบยังเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ง่ายขึ้น เปลี่ยนแปลงท่อทางเดินอากาศในเครื่องยนต์ใหม่ เพื่อลดการสูญเสียกำลังในจังหวะดูด ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดอากาศดีขึ้น 10% ขั้นตอนการจุดระเบิด มีการปรับการสั่งจ่ายน้ำมันให้เหมาะสม โดยเฉพาะการปรับการสั่งจ่ายน้ำมันและเวลาที่จ่ายน้ำมัน เพื่อให้เกิดการจุดระเบิดที่สมบูรณ์แบบเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดทำได้ 400 นิวตันเมตร ไอ้แรงบิดที่ว่าเนี่ยแหละครับที่ทำให้เตี้ย REVO D รุ่นนี้ขับสนุกใช้ได้ แม้จะไม่แรงเท่า Hilux GR 2.8 แต่กำลังและการพุ่งทะยานของ 2GD-FTV (High) ด้วยแรงบิด 400 นิวตันเมตร มีส่วนช่วยทำให้รถคล่องตัวมากทั้งในและนอกเมือง เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ เดินเบาแล้วมีเสียงการทำงานเบากว่า 1 GD-FTV จากขนาดตัวเครื่องที่โตกว่า ความกะทัดรัดของ 2 GD-FTV ยังทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง ขับเรื่อยๆ ทำได้ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร อันนี้ดีเลยทีเดียว และเมื่อเปลี่ยนมาเป็นสปอร์ตโหมด (Power Mode) แล้วกดคันเร่งอย่างต่อเนื่อง ลากขึ้นลงบนเนินเขาแถบมวกเหล็กจนมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยสปีดความเร็วน้องๆ รถมูลนิธิ ผมทำอัตราสิ้นเปลืองได้ 12.2 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่แนะนำให้ขับด้วยตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดังกล่าวนะครับ

สรุป
Toyota Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor) ราคา แปดแสนกับอีกห้าพันบาท เหมาะกับคนที่ชอบใช้รถกระบะแทนรถเก๋ง แต่ไม่ชอบรถกระบะยกสูง และมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บรรทุกสัมภาระเพื่อการทำงาน หรือเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดกับครอบครัว บนเส้นทางที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก เนื่องจากใต้ท้องรถไม่ได้สูงเท่ากับ Prerunner หรือ Rocco การทรงตัวทั้งขับเร็วบนไฮเวย์และขับในเมืองอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะช่วงล่างใหม่ GR-Sport Suspension ทำออกมาให้นั่งได้นิ่มหนึบขึ้น อาการกระด้าง กระแทกกระทั้น รวมถึงอาการโคลงในอดีตของกระบะ Hilux นั้นหายไป แล้วแทนที่ด้วยความสบายของการใช้งาน ที่มีความเหมาะสมกับระดับของราคาค่าตัว พวงมาลัยก็ดี แม้จะไม่ใช่พวงมาลัยไฟฟ้าเหมือนกระบะ Ford แต่แม่นยำและชัดเจนใช้ได้ เมื่อต้องขับเข้าโค้งเร็วๆ ระบบความปลอดภัยมีให้มาไม่มากนัก และมีเท่าที่จำเป็นต่อการใช้งาน ที่น่าจะมี แต่ดันไม่มีก็คือ กล้องมองหลังและเซนเซอร์เสียงเตือนการขับเข้าใกล้สิ่งกีดขวาง Z Edition รุ่นนี้ ยังเก็บเสียงดีพอสมควร ไม่ได้ดีเท่า Ranger ใหม่ แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ อีกจุดหนึ่งที่ทำให้กระบะรุ่นนี้มีความน่าใช้งานก็คือ พอขับเร็วสุดๆ ก็กินแค่ 12.2 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเรื่อยๆ ได้ถึง 14 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ให้มา ยังใช้การเสียบ USB เพื่อเชื่อมต่อกับมือถือ หรือเชื่อมต่อระบบบลูทูธก็ได้ หากคุณกำลังมองกระบะตัวเตี้ยที่ทรงตัวดี ขับสบายในย่านความเร็วต่ำ นิ่มนวลใช้ได้ และบรรทุกหนักได้ Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition คืออีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม ทั้งความคงทน ราคาอะไหล่ งานบริการ และราคาขายต่อเมื่อเป็นรถมือสอง พี่โตเค้าไม่เป็นรองใครหรอกครับ.

Toyota Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor)
2GD-FTV (High)/4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler

ปริมาตรกระบอกสูบ 2393 ซีซี.
กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด EEC net 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที
น้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซล

ระบบขับเคลื่อน และระบบกันสะเทือน

ระบบส่งกำลัง ขับเคลื่อน 2 ล้อ
ระบบเกียร์ อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift
ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง/แบบแหนบซ้อน พร้อมช็อคแอบซอร์บเบอร์ปรับจูนพิเศษ
ล้อ อัลลอย 17 นิ้ว

ระบบความปลอดภัย

ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
โครงสร้างนิรภัย GOA
ถุงลมนิรภัย SRS และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ไล่ฝ้ากระจกหลัง
เข็มขัดนิรภัย 3 จุด ทุกตำแหน่ง

อุปกรณ์ภายใน
วัสดุเบาะนั่ง ผ้า
เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับธรรมดา ปรับระดับสูง-ต่ำได้
มาตรวัดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ แบบจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

เครื่องเสียง
จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth / Apple CarPlay และ Android Auto / T-Connect / USB
ฝาท้าย เปิด-ปิดธรรมดา

Hilux Revo-D ท้าสถิติ จ้าวสลาลอม กับช่วงล่างใหม่ GR-Sport Suspension
กับการแข่งขันบนสนามสลาลอมโดยรถ Hilux Revo-D Z Edition ที่ใช้ช่วงล่าง GR-Sport
เพื่อชิงเงินรางวัลถึง 100,000 บาท และสำหรับผู้เข้าแข่งขันทุกท่านจะได้รับคะแนน THE ONE POINT จาก TOYOTA ALIVE-X เพิ่มถึง 2,000 คะแนน
พร้อมให้คุณมาทำลายสถิติได้ทุกวันเสาร์ เวลา 15.00-18.00 น. ที่ Toyota Alive
• ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
• เพียงแค่มีใบขับขี่ก็ร่วมแข่งขันได้
• การแข่งขันที่ทั้งสนุกและปลอดภัย
• ใครก็ขับได้ไม่ต้องเป็นมืออาชีพ
• มีสิทธิ์รับของที่ระลึก ของรางวัลกลับบ้านทุกคน
สมัครได้แล้วที่
https://forms.gle/2rQsCZ9MyVrFCWM59
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
LINE : @REVOSLALOM
TEL : 066-080-6640


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: ขับดีแบบนี้พี่อยากได้ ทดสอบเตี้ยหน้าหล่อ Toyota Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor)

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด