ขับดีจนอยากได้ ทดสอบเบบี้แรปเตอร์ FORD RANGER FX 4 MAX

ลองขับ FORD RANGER FX 4 MAX เรียบสบายลุยได้เหนือในทางฝุ่น เครื่องเกียร์แรปเตอร์ ช่วงล่าง FOX ราคา 1,189,000 บาท

ขับดีจนอยากได้ ทดสอบเบบี้แรปเตอร์ FORD RANGER FX 4 MAX

Ford Thailand เริ่มต้นปี 2564 ด้วยการดันรถลุยรุ่นพิเศษโดยการนำ Ranger มาตกแต่งเพิ่มเติม โดยเฉพาะการอัปเกรดประสิทธิภาพของระบบรองรับใหม่หมด เพื่อทำให้รถกระบะรุ่นใหม่เหมาะสำหรับคอออฟโรดตัวจริง รวมถึงการขับทางไกลข้ามจังหวัดด้วยโช้คอัพคุณภาพสูง Ranger FX4 Max กระบะเน้นคนชอบลุยรักเส้นทางออฟโรด ครอบคลุมไปถึงคนใช้รถกระบะที่ต้องขับเดินทางไกลเป็นประจำ ชุดแต่งอย่าง ระบบกันสะเทือนตราหมาจิ้งจอก FOX ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยาง AT ออลเทอร์เรนประสิทธิภาพสูงรุ่น KO2 จาก BF Goodrich ขนาด 265/70 R17 ภายในตกแต่งด้วยวัสดุและการออกแบบในสไตล์ของ Ford พร้อมช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch ที่มีช่องต่อ AUX ถึง 6 ตำแหน่ง การแปลงร่างเป็น Baby Raptor แม้จะมีอุปกรณ์และฟังก์ชันการใช้งานที่ด้อยกว่า Ranger Raptor แต่การลุยและการขับบนไฮเวย์นั้น FX4 MAX ทำได้ใกล้เคียงกับ Raptor โดยเฉพาะการทรงตัวในย่านความเร็วสูง

FX4 Max มีรูปโฉมภายนอกคล้าย Ranger รุ่นท็อปสุด โฉมหน้าของกระบะอเมริกัน เริ่มจากกระจังหน้าโลโก้ Ford สะกดด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ F-O-R-D บันไดข้างออกแบบใหม่ แต่ใช้งานจริงไม่ค่อยจะสะดวกเท่าที่ควร ล้ออัลลอยใหม่ โรลบาร์หลังสีดำ กับความสามารถในการบรรทุกหนักสูงสุด 981 กิโลกรัม ลากจูงหรือฉุดลากเทรลเลอร์ได้สูงสุด 3,500 กิโลกรัม พร้อมเทคโนโลยีมาตรฐาน ระบบ Keyless Entry/ Push Start และ SYNC 3 สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย รองรับ Apple CarPlay บนสมาร์ทโฟน

Ford Ranger FX4 Max เปิดราคามาที่ 1,189,000 บาท ควบมากับประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure รับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

Ford Ranger FX4 Max รถกระบะที่ออกแบบมาเพื่อออฟโรดตัวจริง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง Ranger Raptor เน้นการใช้งานทั้งในและนอกเมือง โดยเฉพาะเส้นทางออฟโรด ช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบและปรับแต่งมาพิเศษ เพื่อรองรับการลุยเต็มพิกัด ล้อแม็กซ์ลายใหม่ ยางออลเทอร์เรน AT KO2 นับเป็นยางกึ่งออฟโรดที่มีประสิทธิภาพในด้านความนุ่มนวล พร้อมเสียงการทำงานของยางที่เบากว่ายาง AT ทั่วๆ ไปRanger FX4 Max มีกลิ่นอายของ Ford Ranger Raptor แต่ไม่มีโป่งข้างซุ้มล้อขนาดใหญ่ กระจังหน้าตัวพิมพ์ใหญ่ F-O-R-D ตามแบบฉบับของ Ford Performance อุปกรณ์ตกแต่งภายนอกสีเทาเข้ม ฝาครอบกระจกมองข้าง มือจับประตู ซุ้มล้อไปจนถึงกันชนท้าย ใช้สีเทาเข้ม ด้านหลังตกแต่งด้วยโรลบาร์สีดำยาวทอดตลอดกระบะท้าย บันไดข้างออกแบบใหม่ พร้อมพื้นผิวกันลื่นสำหรับการใช้งานออฟโรด

FX4 Max ติดตั้งระบบกันสะเทือนและช่วงล่างใหม่ เพื่อตอบสนองการขับขี่ออฟโรดยางออลเทอร์เรน KO2 จาก BF Goodrich เช่นเดียวกับรถกระบะดีเอ็นเอ Ford Performance อย่าง Ranger Raptor ยางขนาด 265/70 R17 มอบความมั่นคงในการยึดเกาะถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ และพื้นผิวด้านข้างที่คงทน ล้ออัลลอยขนาด 17 x 8 นิ้ว ทั้งด้านหน้าและหลัง ออฟเซต +42 มิลลิเมตร ทำให้ฐานล้อกว้างขึ้นถึง 26 มิลลิเมตร ขณะที่ล้ออะไหล่เป็นล้ออัลลอยพร้อมยางออลเทอร์เรน ล้ออัลลอยของ Ranger FX4 Max สีเทาเข้ม สีเดียวกับกระจังหน้า ติดตั้งคิ้วล้อดีไซน์ใหม่ระบบช่วงล่างและโช้คอัพของ FOX Shocks

การปรับแต่งช่วงล่างและแชสซีของ FX4 Max เป็นผลงานการพัฒนาจากวิศวกรของ Ford ในประเทศออสเตรเลีย เช่นเดียวกับ Ranger Raptor และ Ranger รุ่นอื่น โดยแต่ละส่วนประกอบของช่วงล่างแต่ละชิ้นทำให้รถกระบะคันนี้บรรทุกสัมภาระบนน้ำหนักเกือบ 1 ตัน และลากจูงเทรลเลอร์หนัก 3.5 ตันได้อย่างสบายๆ ช่วงล่างของ Ranger FX4 Max ใช้ระบบกันสะเทือนด้วยโช้คอัพประสิทธิภาพสูงแบบโมโนทิวบ์ขนาด 2 นิ้ว ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยโช้คหลังมาพร้อมกับ Sub-Tank ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกและเพิ่มความทนทานในการใช้งานแบบออฟโรด คอยล์สปริงด้านหน้า มีการปรับจูนใหม่ ควบคุมความสะเทือนด้านหลังแบบโช้คไขว้ เพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระ แหนบรองน้ำหนักได้รับการพัฒนาให้เหมาะทั้งกับการขับขี่แบบออฟโรดและยังพร้อมรับน้ำหนักในการบรรทุกและลากจูง ระบบกันสะเทือนที่เสริมเข้ามาทำให้ FX4 MAX มีความสูงเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร บวกกับการใช้ยางออลเทอร์เรน ทำให้ Ranger FX4 Max มีระยะต่ำสุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ (Ground clearance) ยกสูงจากพื้นถนนมากถึง 256 มิลลิเมตร สูงกว่า Ranger รุ่น XLT มุมเงยและมุมจากที่ถูกยกระดับขึ้นจากรุ่น XLT เพื่อตอบสนองการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้อย่างเต็มที่

Ranger FX 4 Max เป็นดีเอ็นเอที่เจือจางของ Raptor จาก Ford Performance อุปกรณ์และชิ้นงานต่างๆ ประดับประดาอยู่ทั่วทั้งภายนอก ลามไปจนถึงภายในห้องโดยสาร เบาะที่นั่งรองรับการใช้งานการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง เลือกใช้หนังกลับ Alcantara microfiber เป็นวัสดุหุ้มเบาะสลับกับหนัง การเลือกใช้หนังในลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารยึดกับที่นั่งได้ดีจากหนัง Alcantara microfiber หลังพวงมาลัยมีรายละเอียดบริเวณคอนโซลหน้ารถ เช่น เดินด้ายเทาและการเลือกใช้วัสดุหนัง แผงหน้าปัดแสดงฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบต่างๆ พวงมาลัยพร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชัน

เบาะปรับมือ ไม่มีเบาะไฟฟ้ามาให้ในราคา 1.186 ล้านบาท! เบาะที่คล้าย Raptor ครอบคลุมการปรับน่านั่งขับได้ดีไม่ว่าคุณจะมีสรีระแบบไหน หนัง Alcantara microfiber นั่งนิ่มสบายก้นใช้ได้ สอดรับกับระบบกันสะเทือนที่ปรับมาให้ขับลุยได้อย่างนิ่มนวล กึ่งกลางตัวเบาะแปะตัวอักษร FX 4 MAX เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง เบาะหลังมีพื้นที่พอเพียงสำหรับการนั่งโดยสารสองคน พื้นที่วางเท้าหากคนนั่งหน้าไม่ได้มีหุ่นอย่างหมีแพนด้า คนนั่งหลังก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรกับพื้นที่ที่มีให้ นอกจากจะมีการใช้ด้ายสีขาวบริเวณตัวเบาะแล้ว ยังลามไปถึงถุงหนังหุ้มคันเกียร์และเบรกมือกับที่เท้าแขนบริเวณแผงประตูอีกด้วย

เมื่อเทียบกับภายในของ Ranger Raptor อุปกรณ์ที่ FX4 Max ไม่มี ก็คือ แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift พวงมาลัยไม่มีขีดสีแดงตรงกลางวงเพื่อการกะระยะ FX4 Max ไม่มีโหมดขับเคลื่อนเหมือน Raptor มาตรวัดแผงหน้าปัดต่างจาก Raptor ไม่มีระบบนำทางด้วยดาวเทียมเนวิเกเตอร์ เบาะนั่งก็ยังมีรูปทรงแตกต่างกัน Raptor ใช้ด้ายสีฟ้าตัดเย็บงานภายใน ส่วน FX4 Max ใช้ด้ายสีเทาเย็บทั้งเบาะและแผงประตู นอกนั้นในส่วนอื่นๆ ของงานภายใน ทั้งสองรุ่นแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง

แดชบอร์ดคอนโซลมีการปรับรายละเอียดในด้านของสีสันและผิวสัมผัสที่ให้ความแตกต่างกันในแต่ละโซน โดยเพิ่มความหรูหราของงานตกแต่งซึ่งส่วนใหญ่ใช้พลาสติก ช่องแอร์ทรงเหลี่ยม จอแสดงผลส่วนกลางขนาดความกว้าง 8 นิ้วสั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่หน้าจอ หรือ touch screen สามารถสั่งการด้วยระบบเสียงแบบใหม่ โดยออกแบบให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วในการเลือกใช้โปรแกรมการปรับตั้ง เช่น การเลือกเพลง หรือสั่งงานเสียงในระบบปรับอากาศก็ยังทำได้อีกด้วย จอแสดงผลกลางขนาด 8 นิ้ว เปรียบเหมือน Center Control ของการควบคุมระบบต่างๆ ในรถ เช่น ระบบปรับอากาศ แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล สามารถควบคุมผ่านหน้าจอ 8 นิ้ว การสั่งงานด้วยระบบสัมผัสมีความเร็วแค่ใช้นิ้วแตะไปที่หน้าจอเพื่อสั่งงาน ระบบ SYNC 3 สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่มีระบบบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว SYNC 3 แต่ไม่มีระบบนำทางด้วยดาวเทียมหรือเนวิเกเตอร์ และไม่มีกล้องถอยหลัง มีแค่เซนเซอร์ถอยพร้อมภาพจำลองแจ้งเตือนการถอยเข้าไปใกล้กับสิ่งกีดขวาง

หน้าปัดมาตรวัดมีขนาดเล็กโดยเฉพาะมาตรวัดรอบ แต่มาตรวัดความเร็วที่อยู่ตรงกลางแสดงผลอย่างชัดเจนด้วยรูปแบบมาตรวัดคลาสสิก Ford ให้มาทั้งวัดรอบและวัดความเร็ว เข็มวัดระดับเชื้อเพลิงและเข็มวัดระดับอุณหภูมิเครื่องยนต์ จอแสดงผล MID multi information display คอยแจ้งข้อมูลที่สำคัญขณะขับเคลื่อน เช่น อัตราสิ้นเปลือง คำนวณเชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง ทริปมิเตอร์ เข็มทิศ อุณหภูมิภายนอก ตำแหน่งของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แสดงผลระบบโทรศัพท์ไร้สายและการเล่นเพลงหรือภาพในโปรแกรม Entertainment การปรับตั้งระบบต่างๆ การเปิด-ปิดประตู และอื่นๆ อีกเพียบ

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมความเป็น Baby Raptor ก็คือ ล้อและยางติดรถจากโรงงาน ยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17 ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับ Ranger Raptor โดยเฉพาะ Ford จับยัดมาให้ใน FX 4 Max มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 838 มิลลิเมตร กว้าง 285 มิลลิเมตร แก้มยางแข็งแรงสูง เหมาะในการลุยทุกสภาพพื้นผิว ด้วยดอกยางขนาดใหญ่พิเศษ ใชัลุยพื้นผิวที่เปียกลื่น โคลน พื้นทราย และหิมะ สารภาพตามตรงว่ามันเป็นยาง AT ประสิทธิภาพสูง มีความแข็งแกร่งทนทานมากกว่ายาง AT ทั่วไป แก้มยางที่แข็งแรง รองรับการขับลุยอย่างโหด

ระบบส่งกำลังของ Ranger FX 4 Max มีการปรับจูนการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ เพลา พวงมาลัย เบรก และระบบควบคุมพวงมาลัยแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Steering Program) ให้ทำงานสอดประสานกันทั้งหมด สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตรเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ใช้เทอร์โบแรงดันสูง (HP) ที่เชื่อมต่อกับเทอร์โบแรงดันต่ำ (LP) ที่มีขนาดใหญ่กว่า และถูกควบคุมด้วยวาล์วบายพาสที่ทำหน้าที่ควบคุมลำดับการทำงานของเทอร์โบทั้งสองลูก โดยขึ้นอยู่กับความเร็วของเครื่องยนต์ เมื่อรอบเครื่องยนต์ต่ำ เทอร์โบทั้ง 2 ตัว จะทำงานตามลำดับเพื่อช่วยเพิ่มแรงบิดและการตอบสนอง เมื่อช่วงรอบเครื่องยนต์สูง อากาศจะไม่ไหลผ่านเทอร์โบแรงดันสูง ทำให้เทอร์โบแรงดันต่ำที่ใหญ่กว่าช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น

เครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ใน Ranger FX 4 Max สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Ford ในการส่งถ่ายกำลังแรงบิดที่ได้รับจากเครื่องยนต์อย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ทรงพลังและมีขนาดเล็ก มีน้ำหนักเบา ปล่อยมลพิษต่ำ แรงบิดและแรงม้าจัดเต็มด้วยการบูสต์อากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยเทอร์โบ 2 ลูก และอัตราทดเกียร์ที่แคบลง เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) สายพานไทม์มิ่งแบบจุ่มในน้ำมันเครื่อง Belt-in-oil Primary Drive ฝาครอบเครื่องยนต์ พร้อมโฟมดูดซับเสียง เพื่อลด NVH : Noise Vibration Hashness ฝาครอบ Compressor ระบายความร้อนด้วยน้ำ ลูกสูบอะลูมิเนียม มีการหล่อซ้ำที่ขอบแอ่งหัวลูกสูบ Bowl Edge Re-Melt ระบบกรองน้ำมันเกียร์ Sump Filtration and ULV ปั๊มน้ำมันเกียร์ชนิดใบพัดแปรผันแบบเยื้องศูนย์ Off-Axis Variable-Displacement Vane Pump คลัตช์แบบ Rollover One-way Clutch (OWC) เครื่องยนต์ของ Ranger Raptor ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ไม่มีแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย แต่ใช้การกดสวิชท์ +/- ที่หัวคันเกียร์แทน

Ford Ranger FX4 Max เปิดราคามาที่ 1,189,000 บาท ลองเทียบราคากับตัวท็อปของกระบะคู่แข่งดูครับ

Mazda BT-50 DBL 4×4 3.0 SP 6 AT 1,153,000 บาท
Nissan Navara PRO-4X 4WD 7AT 1,149,000 บาท
Toyota Hilux Double Cab 4x4 2.8 Rocco AT 1,239,000 บาท
Isuzu D Max V Cross 3.0DDi M AT 1,157,000 บาท
Mitsubishi Triton Double Cab 2.4D GT-Premium 4WD 6 AT 1,099,000 บาท
MG Extender Facelift 2021 2.0 GRAND X 4WD 6AT 1,039,000 บาท

Ranger FX4 Max ใช้ความสามารถในด้านการขับเคลื่อน จากระบบส่งกำลังที่เหนือกว่ารถคู่แข่ง นี่ถ้าทำให้ปัญหาที่เคยจุกจิกกวนใจผู้ใช้ กับแก้ฝีมือและงานบริการของศูนย์บางแห่งได้ รับรองว่ายอดขายของ FX4 Max จะขยับไปไกลมากกว่านี้ ในเมือง อาจพบกับความยากลำบากขณะขับถอยหลังเข้าพื้นที่คับแคบ เนื่องจากไม่มีกล้องมองหลัง มีมาให้แค่เซนเซอร์ด้านหลังกับภาพกราฟิกแสดงการถอยเข้าไปใกล้กับสิ่งกีดขวาง จุดนี้ หากอยากใช้งานให้มีความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่คับซอย การติดกล้องมองหลังเพิ่มเติมจะทำให้ขับใช้งานในขณะถอยหลังได้คล่อง และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เบาะของ FX4 Max ปรับมือทั้งคนขับและคนนั่ง เป็นอีกจุดที่ควรจะให้เบาะไฟฟ้าคู่หน้ามาได้แล้ว เบาะปรับมือ โดยเฉพาะการปรับพนักเอนหลังต้องเอื้อมมือไปดึง ไม่ค่อยถนัดเท่าที่ควรกับตำแหน่งที่ใช้ในการปรับตั้งพนักพิงหลัง ส่วนแป้น Paddle Shift ถ้าไม่ได้เป็นคนที่ชอบเล่นกับการเปลี่ยนอัตราทดบ่อยๆ ไม่ได้ขับเร็วบนเส้นทางภูเขา หัวเกียร์ที่มีตำแหน่งบวก-ลบมาให้ใช้งานดูแปลกๆ แต่ก็ดีกว่าไม่มี จุดที่ชอบชนขาก็คือแป้นเหยียบขึ้นสู่ห้องโดยสาร ต้องระวังให้ดีๆ เวลายืนด้านข้างที่ใกล้กับแนวของที่เหยียบ โดยเฉพาะคนที่ใส่ขาสั้น ถูแต่ละทีแสบเอาเรื่อง

ความดีงามเมื่อขับออกทางไกลก็คือเบาะและมุมมองรอบตัว เบาะโอบอุ้มสรีระได้ดี นั่งสบาย ขับทางไกลได้ทั้งวันโดยไม่ปวดเมื่อยบั้นเอว พวงมาลัยสีก้านหน้าตาออกแนวคลาสสิกหรือดูโบราณ แต่จับได้ถนัดมือจากวัสดุที่ใช้หุ้มรอบวงทั้งยางสังเคราะห์และหนังแท้ FX4 Max มีจุดเด่นอีกจุด นั่นก็คือการเก็บเสียง ทำออกมาได้เหนือกว่ารถคู่แข่งทุกแบรนด์ที่มีราคาล้านนิดๆ ถือว่าเป็นการบ้านของ Ford ที่มีการปรับปรุง เพิ่มขนาดและตำแหน่งของยางขอบประตูกับวัสดุซัปเสียงรอบห้องโดยสาร เร่งเครื่องยนต์เพื่อแซง เสียงเครื่องดีเซล ไบเทอร์โบ 2 ลิตร ในรอบสูงก็ไม่ได้ดังจนน่ารำคาญ รวมถึงการวิ่งในย่านความเร็วสูงก็ยังมีการเก็บเสียงที่ดี ในเรื่องนี้ ยาง KO2 มีส่วนในการทำให้เสียงบดลงบนผิวถนนของยาง AT มีระดับที่เบากว่ายางของแบรนด์อื่นด้วยเช่นกัน จุดนี้ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจคล้าย Raptor เอามากๆ

การโลดโผนโจนทะยาน ขับทดสอบบนไฮเวย์ข้ามจังหวัด ในช่วงที่มีรถสัญจนไปมาน้อยลง หรือแทบจะไม่มีรถเลยในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย เครื่องยนต์ดีเซลไบเทอร์โบ และเกียร์ 10 สปีด สำแดงฤทธิ์เดชของการเทแรงบิดไปที่ล้อหลัง ทำให้การขับทางไกลใน FX4 Max แทบจะไม่มีความแตกต่างไปจากไดโนเสาร์แรปเตอร์ การวิ่งที่มั่นคงในย่านความเร็วสูง ส่วนหนึ่งเกิดจากช่วงล่างที่ปรับแต่งมาดี อีกส่วนหนึ่ง เกิดจากการเซ็ตน้ำหนักของพวงมาลัยไฟฟ้า แม้จะมีระบบบังคับเลี้ยวแบบรถกระบะทั่วไป แต่การใช้พวงมาลัยไฟฟ้าแบบอัตราทดแปรผันทำให้การทรงตัวในย่านความเร็วสูงออกมาดี พวงมาลัยไม่หนัก หรือเบาจนเกินไป มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบปั๊มเพาเวอร์ คอยช่วยเหลือในเรื่องของการตอบสนอง ทำให้น้ำหนักพวงมาลัยในย่านความเร็วต่ำเบาสบายมือ คล้ายพวงมาลัยของ Navara PRO4 X แต่แม่นยำมากกว่า จากระยะของการขยับที่น้อยกว่าเมื่อต้องการจะเปลี่ยนทิศทางเร็วๆ (ซึ่งไม่ควรทำในกระบะยกสูง) จุดที่ไม่ค่อยจะชอบก็คือเบรกหน้าดิสหลังดรัมที่ยังไม่เหมาะกับมวล 2 ตัน ถ้าเปลี่ยนเบรกประสิทธิภาพสูงก็จะเบรกได้มั่นใจมากกว่าเดิม

ช่วงล่างที่คล้าย Raptor แม้จะยังคงใช้แหนบ 4 ชั้น แต่ควบคุมอาการกระเด้งกระดอนได้ดี คุณสามารถรูดผ่านหลุมเล็กใหญ่บนถนนโดยที่รถเสียอาการเพียงเล็กน้อย การขับขึ้นลงคอสะพานชันๆ ก็ทำได้ดี โดยเฉพาะการรับแรงกระแทกและอาการโยนตัวของโช้คอัพหมาจิ้งจอก มันควบคุมองคาพยบของรถในย่านความเร็วสูงได้เหนือกว่ารถคู่แข่งทุกคันและทำได้ใกล้เคียงกับฟีลลิ่งของไดโนเสาร์แรปเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเทน้ำหนักในโค้ง ระยะในการหมุนและความคมของพวงมาลัย แต่ FX4 Max เบรกได้แย่กว่า เมื่อเจอเข้ากับถนนโล่งๆ ผมส่งความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ FX4 Max ยังวิ่งได้อย่างมั่นคงและทำให้รู้สึกประทับใจ เป็นอีกจุดที่ทำออกมาได้ดี นี่ถ้าไม่มีเรื่องจุกๆ จิกๆ มันจะเป็นกระบะพระเอกอย่างแน่นอนที่สุด ความสบายในยามข้ามจังหวัด ด้วยแรงบิด 500 นิวตันเมตร กะระยะให้ดีๆ แล้วกดคันเร่งลงไปจนสุด ยังไงก็แซงพ้น กำลัง 213 แรงม้านั้นไม่ได้มากมายอะไร แต่แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ออกมาจากเครื่อง 2.0 ลิตร ถ่ายลงเกียร์ 10 สปีด เป็นงานวิศวกรรมที่ทำให้ FX4 Max มีสมรรถนะในการขับทางไกลบนไฮเวย์เกือบจะสูสีกับ Ranger Raptor กันเลยทีเดียว

ทางราบทำได้ดีแล้ว ผมหักพวงมาลัยเจ้า FX4 Max ลงไปในไร่อ้อยที่มีทางดินเล็กๆ ทอดยาวไปยังหุบเขาของเขตลำตะเพิน โช้คหมาเริ่มแสดงออกถึงความคุ้มราคาในประสิทธิภาพของมันที่พยายามรักษาอาการเต้นของล้อแล้วถ่ายเทแรงนั้นให้ลดลง เมื่อไม่เต้นมาก รถก็โคลงหรือกระเด้งกระดอนน้อยลง พอจะไปแบบเร็วๆ บนทางฝุ่นได้อยู่ แต่ก็ต้องระวังผิวทางที่ไม่สม่ำเสมอให้ดี แหนบสี่ชั้นที่ช่วงล่างหลังก็ไม่ส่งผลต่อการลุย FX4 Max ถูกปรับให้ช่วงล่างส่งความสบายและการยึดเกาะบนทางออฟโรด เป็นอีกจุดที่เหนือกว่ารถคู่แข่งอย่างชัดเจน คะแนนที่เทให้กับโช้คหมาจิ้งจอกและโครงรถที่แข็งแกร่งทำให้การลุยฝ่าทางวิบากของ FX4 Max อยู่ในระดับหัวแถวของกระบะราคา 1 ล้านนิดๆ

การลุยแหลกบนเส้นทางออฟโรด ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตัวของรถกระบะยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ Ranger FX4 Max รุ่นนี้ มีความโดดเด่นที่แซงหน้ารถคู่แข่ง เพียงแต่ควรระวังเมื่อใช้ความเร็วสูงในสภาพผิวถนนที่ไม่มีความสม่ำเสมอ เช่น ถนนที่เป็นลอนคลื่นแบบหลังเต่า ลูกรังหินลอยและทางที่มีความสูงชันพร้อมๆ กับไหล่ทางสูงๆในแถบศรีสวัสดิ์ สัดส่วนความสูง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และยาง KO2 AT ทำให้ FX4 Max เอาตัวรอดได้สบายๆ เมื่อขับลุยทางโหดขรุขระที่เต็มไปด้วยเนินสูงชัน แรงบิดมีความต่อเนื่อง จากชุดส่งกำลัง 10 สปีด ช่วยฉุดกระชากตัวรถให้หลุดรอดจากอุปสรรค พวงมาลัยแรคแอนพีเนียนพร้อมปั๊มพาวเวอร์ไฟฟ้า ขณะลุยให้สัมผัสที่เหนือกว่าพวงมาลัยเพาเวอร์สายพานปั๊มไฮดรอลิกส์ (แบบเก่า) ซึ่งกินกำลังเครื่องยนต์ ความแข็งแรงของแรคพวงมาลัยที่มีการออกแบบให้ใช้ได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่นของ FX4 Max ควรจะยกและหยอดบ้าง เมื่อวิ่งมาแล้วเจอกับหลุมขนาดใหญ่ และถ้าจะลุยดินเละๆ โคลนลึกๆ ก็ควรจะเปลี่ยนยางเป็น MT แบบออฟโรดดอกโต ก็จะตะกุยดินเลน และไต่เอาตัวรอดได้ดีกว่ายางกึ่งๆ แบบ AT

FX4 MAX เป็นรถกระบะสมรรถนะดี สำหรับพวกที่อยากได้ Raptor แต่เงินในกระเป๋าดันไม่พอ นี่คือกระบะที่คุณสามารถรูดได้ทุกรู ลืมแหนบสี่ชั้นซะ เพราะถ้าไม่ได้บรรทุก วิ่งตัวเปล่าก็ไม่ได้เด้งแบบม้าดีดกระโหลก มี โช้ค FOX และ Subtank ทำให้คุมอาการช่วงท้ายได้ดี Navara PRO 4X ที่มีช่วงล่างดี ก็ยังสู้โช้คหมาราคาแพงไม่ได้ พาเพื่อนที่กำลังปวดท้องลุยฝ่าทางวิบากไปหาห้องน้ำได้โดยที่ยังไม่ขี้แตกคารถ ยาง KO2 เห็นหินแหลมๆก็อย่านึกว่าจะขยี้เล่นได้ ผมเคยเห็นว่าขับบดจนแก้มฉีกคาหินมาแล้วที่ดาร์วิน แต่เป็นยาง AT ที่ดีที่สุดในตลาดแล้ว ทางหินก็หยอดๆหน่อย แล้วหวดให้เต็มสูบบนทางลูกรัง เครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบดีเซล 500 นิวตันเมตร ของ FORD ถ้าไม่มีเรื่องจุกจิก นี่คือเครื่องยนต์และเกียร์ที่ดีที่สุดของกระบะในไทย ขับทางไกล เครื่องพลังเยอะมาก บวกกับโช้คหมาย่าน 160 ก็ยังนิ่ง ถ้าขับเร็วจนติดเป็นสันดาน ลงเบรกหลังเป็นดิส หรือหาเบรกดีๆสักชุดมาลงแค่นั้นจบ

สรุป Ford FX4 Max เป็น Ranger ที่เข้าใกล้ Raptor มากที่สุดแล้ว มันเป็นกระบะที่ขับบนไฮเวย์ได้สบายสุดๆ ช่วงล่างดีทั้งทางราบและทางฝุ่น เบรกทำงานตามระดับราคา ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ก็ต้องหาเปลี่ยนเบรกประสิทธิภาพสูงมาลงก็จะได้ความมั่นใจมากกว่าเดิมเมื่อขับเร็ว เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดีเซล ไบเทอร์โบ 213 แรงม้า 500 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อน 4 ล้อ 10 สปีด นั่นคือระบบส่งกำลังของ Raptor แค่ไม่มี Paddle Shift แต่ราคาถูกกว่าเกือบ 5 แสน ไม่ต้องคิดมาก ถ้าจะเอาประสิทธิภาพของการขับ ผมยกให้ Ford Ranger FX4 Max คือกระบะราคาล้านนิดๆ ที่ขับได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถกระบะคู่แข่งในตลาด ส่วนเรื่องจุกจิกก็ไม่ได้เป็นกันทุกคัน คนที่ใช้แล้วไม่พบเรื่องกวนใจก็ไม่ได้เข้ามาโพสต์ เราจึงเห็นแต่การโพสต์ปัญหาต่างๆ ในคลับที่ได้รับการแก้ไขอยู่ตลอดเวลาจาก Ford เหลือแค่ศูนย์บริการบางแห่งที่จะต้องปรับปรุงในด้านฝีมือการซ่อมบำรุง หากทำได้ กระบะ Ford จะมียอดขายไปได้อีกไกลครับ.

Ford Ranger FX4 Max สีภายนอก 5 สี ได้แก่

สีน้ำเงิน ไลต์นิ่ง บลู / สีแดง ทรูเรด /สีขาวอาร์กติก ไวต์ / สีดำ แอบโซลูท แบล็ก และสีเทา คองเคอร์ เกรย์ ซึ่งเป็นสีเดียวกับ Ranger Raptor โดยสีเทาจะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/



คุณกำลังดู: ขับดีจนอยากได้ ทดสอบเบบี้แรปเตอร์ FORD RANGER FX 4 MAX

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด