ใครว่า BLACKPINK ไม่ร้องสด! คอนเสิร์ต BORN PINK พิสูจน์ความเป็นศิลปินตัวแม่แห่งทศวรรษ

ใครว่า BLACKPINK ไม่ร้องสด! คอนเสิร์ต BORN PINK พิสูจน์ความเป็นศิลปินตัวแม่แห่งทศวรรษ

รีวิวคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ที่ประทับใจทั้งความน่ารักเป็นธรรมชาติ และความสามารถของสมาชิกแต่ละคนที่ฉายแววโดดเด่นครบทุกด้าน

ในที่สุดแฟนๆ ชาว BLINKs ก็ได้เจอตัวจริงเสียงจริงของสาวๆ BLACKPINK ในรอบ 3 ปีกว่าๆ ในคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7-8 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา ที่สนามศุภชลาศัย หรือสนามกีฬาแห่งชาติ โดย Live Nation Tero

Sanook มีรีวิวสถานที่จัดงาน สิ่งอำนวยความสะดวกภายในงาน และประสบการณ์อื่นๆ เอาไว้ในอีกบทความหนึ่ง บทความนี้จะรีวิวเฉพาะการแสดงของศิลปิน และโปรดักชันคอนเสิร์ตเท่านั้น 

ในรอบวันแรก 7 ม.ค. ก้าวแรกที่เข้ามาสู่สนามศุภฯ สิ่งแรกที่กังวลไม่ใช่จำนวนคนดูโซนยืนที่แน่นขนัดตามปกติโดยเฉพาะโซนด้านหน้าและกลางๆ ของคอนเสิร์ตโซนยืนในสถานที่จัดระดับสเตเดี้ยม อย่างที่เราเคยประสบมาตอนที่ดูคอนเสิร์ตโซนยืนของ Coldplay ที่ราชมังคลากีฬาสถานเมื่อปี 2017 แต่เป็นระดับของเวทีและจอด้านข้างเวทีทั้งสองด้านที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อยืนอยู่ในโซนด้านหลังของ A2 และยังมีโซนยืนด้านหลังอย่างโซน B อีก จึงเป็นที่น่ากังวลว่าตลอดทั้งคอนเสิร์ตผู้ที่อยู่ในโซน A1, A2 ด้านหลังๆ และ B ที่ตัวไม่สูงมากจะแทบมองไม่เห็นสาวๆ บนเวทีเลย แถมจอด้านข้างก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเวทีด้วย หากเจอคนที่สูงเกิน 170 เซนติเมตรยืนอยู่ด้านหน้า รับรองว่าโดนบังจอมิดแน่นอน ถ้าขยับตำแหน่งจอด้านข้างให้สูงกว่าเดิมได้อีกนิดน่าจะดีมากๆ

ตรงกลางของสนามเป็นส่วนของ control ที่ด้านหลังมีจอขนาดใหญ่ให้ผู้ชมโซน B และโซนนั่งตรงกลางได้ชม แต่ก็ต้องเลือกว่าจะชมบนจอ หรือชมศิลปินตัวจริงที่อยู่ไกลลิบๆ ตรงเวที ไม่แน่ใจว่าทัศนวิสัยของผู้ชมแต่ละโซนเป็นเช่นไรบ้าง (ผู้เขียนอยู่โซนยืน A2) แต่เท่าที่ดูกระแสในอินเตอร์เน็ตยังไม่มีใครพูดตำแหน่งโดนเสาหรืออุปกรณ์ใดๆ บังเหมือนตอนจัดคอนเสิร์ต Maroon 5 ที่ราชมังฯ

BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK

ขณะที่รอสาวๆ BLACKPINK ขึ้นเวที ที่จอด้านข้างเปิดมิวสิควิดีโอของ BLACKPINK วนไปเรื่อยๆ รวมถึงคลิปโฆษณาของสาวๆ ในช่วงคอนเสิร์ตใกล้เริ่มในเวลา 19.00 น. ตามกำหนดการเดิม แต่ถึงกระนั้นคอนเสิร์ตก็เริ่มช้ากว่าปกติไปครึ่ง ชม. กว่าๆ ผิดวิสัยคอนเสิร์ตเกาหลีที่มักจะเล่นตรงเวลาเป๊ะ

19.35 น. โดยประมาณ 4 สาว BLACKPINK จีซู เจนนี่ โรเซ่ ลิซ่า ก็ปรากฏตัวบนเวทีพร้อมกับเพลงสุดสตรอง “How You Like That” เรียกพลังชาว BLINKs ให้เลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่าง โบกแท่งไฟสะบัดพร้อมเต้นตามกันอย่างสนุกสนาน จบเพลงด้วยชุดพลุชนิดจัดเต็มตั้งแต่เพลงแรกให้สมกับการเป็นเวิลด์ทัวร์ที่เลือกสถานที่จัดเป็นสเตเดี้ยมเปิดโล่งเกือบทุกประเทศ

จากนั้นต่อด้วยเพลงโปรดของใครหลายๆ คนอย่าง “Pretty Savage” และ “Whistle” ที่น่าเสียดายเล็กน้อยที่ร้องเพียงครึ่งเพลง แต่ก็ยังเป็นโชว์ที่ดีที่มาพร้อมกับดนตรีสดจากวงเจ้าประจำตามแบบฉบับคอนเสิร์ตของค่าย YG และทั้ง 4 สาวทั้งร้องทั้งเต้นกันสดๆ แบบแรงไม่ตก

BLACKPINK ทักทายแฟนๆ พร้อมด้วยลิซ่าที่คอยพูดสลับทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยกับเหล่าสมาชิกและแฟนๆ ในสนาม เจนนี่ โรเซ่ และ จีซู ทักทายแฟนๆ พร้อมรอยยิ้มหวานและพยายามพูดภาษาไทยคำสั้นๆ ง่ายๆ กับแฟนๆ ตลอดเวลา ความน่ารักและความใส่ใจจัดว่าเต็ม 10

กลับมาต่อกับโชว์ด้วยเพลง “Don’t Know What To Do” ที่สาวๆ เดินพูดคุยกับแฟนๆ ในสเตจรองที่ยื่นเข้ามาใกล้แฟนๆ อีกนิด ต่อด้วย “Lovesick Girls” คั่นด้วย VCR และกลับมาต่อกับ “Kill This Love”, “Crazy Over You”, “Playing with Fire”, “Tally” และ “Pink Venom” โดยในแต่ละเพลงแสง สี เสียง และพลุจัดมาเป็นระยะๆ

BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK

มาถึงช่วงโซโล่ของทุกคนที่จัดมาติดๆ กันทั้ง 4 คน เริ่มด้วยจีซูมากับเพลง “Liar” คัฟเวอร์ของ Camila Cabello ทั้งร้องทั้งเต้นสดๆ ตลอดทั้งเพลง ต่อด้วย เจนนี่กับเพลงโซโล่ใหม่ “You & Me” ที่มาพร้อมกับแดนเซอร์ชายเต้นรำโดยมีฉากหลังเป็นดวงจันทร์ ทั้งเซ็กซี่และโรแมนติกในเวลาเดียวกัน โรเซ่มากกับเพลงโซโล่สองเพลงอย่างละครึ่งเพลง กับ “Hard to Love” เพลงโซโล่ในอัลบั้มล่าสุด BORN PINK และ “On The Ground” เพลงจากซิงเกิลอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้แต่ยังไม่เคยได้โชว์ในคอนเสิร์ต โปรดักชั่นฉากบนเวทีเป็นตารางขาวดำจากด้านบนสวยเหมือนเดิม และสุดท้ายกับโซโล่ของลิซ่าที่มาอย่างละครึ่งเพลงเช่นกันกับ “LALISA” และ “MONEY” ที่โชว์เต้น pole dance และชวนเต้นสะบัดจนแฟนๆ เห็นต้องเต้นตาม เอาอยู่ทั้งร้องและแร็ป

สาวๆ กลับมารวมตัวกันอีกครั้งกับ “Shut Down” และ “Typa Girl” ก่อนจะกลับมาพูดคุยสั้นๆ ลิซ่าพูดถึงอากาศร้อนๆ ในไทยที่ทำให้สไตลิสต์มัดผมขึ้นให้กับสาวๆ ทุกคน เจนนี่พูดภาษาอังกฤษแนะนำว่าเหลืออีกแค่สองเพลงเท่านั้น (ลงท้ายทุกประโยคด้วยคำว่า ‘ค่ะ’ น่ารักมากๆ) ปิดท้ายคอนเสิร์ตก่อนอังกอร์กันด้วยเพลงที่ทุกคนรอคอย “DDU-DU DDU-DU” และ “Forever Young” ที่สาวๆ BLACKPINK วิ่งไปทั่วเวทีเพื่อทักทายแฟนๆ อย่างใกล้ชิด

เบรกก่อนอังกอร์ไม่นาน สาวๆ ก็กลับมาในชุดเสื้อยืดประจำทัวร์ BORN PINK แต่มากับเพลงสนุกๆ น่ารักๆ อย่าง “Yeah Yeah Yeah” และ “Stay” ก่อนที่สาวๆ จะจัดเซอร์ไพรส์เค้กก้อนโตเพื่อ Happy Birthday ย้อนหลังให้กับ CHICHU หรือพี่จีซูประจำวง และกลับมาปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยรอยยิ้มกับเพลงที่แฟนๆ พร้อมใจกันลุกขึ้นมากระโดดกันตัวลอยใน “As If It’s Your Last”

BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK

ก่อนหน้านี้ BLACKPINK แสดงคอนเสิร์ต world tour ในหลายๆ เมืองในแถบทวีปอเมริกาและยุโรป ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในแถบทวีปเอเชีย (นอกจากเกาหลีใต้) ถ้าติดตามข่าวของสาวๆ อาจจะเคยพบเห็นข่าวว่าแฟนๆ บางส่วนไม่ค่อยพอใจที่ในบางเพลงสาวๆ ไม่ได้ร้องสด แต่จากการได้ชมคอนเสิร์ตจริงๆ ที่ไทยกลับพบว่า กว่า 24 เพลงตลอด 2 ชั่วโมง กล้าพูดได้เลยว่า BLACKPINK เป็นศิลปิน K-POP วงหนึ่งที่ร้องสดในคอนเสิร์ตมากที่สุด ถ้าให้พูดชัดๆ คือในจังหวะที่เต้นหนักๆ บางท่อน ทั้งในเพลงวงและในเพลงโซโล่ของแต่ละคน (โดยเฉพาะเพลงโซโล่ของเจนนี่และลิซ่าที่มีกระแสจากชาวเน็ตโดยเฉพาะแฟนๆ ฝั่งอเมริกาว่าไม่ได้ร้องสด) จะมีบางช่วงที่เป็น backing tracks แต่สาวๆ ไม่ได้ “ลิปซิงค์” สาวๆ ตั้งใจเอาไมค์ออกจากปากและไม่ขยับปากว่าร้องเพลงในช่วงที่ใช้ backing track ช่วย ถือว่า BLACKPINK ซื่อสัตย์กับแฟนๆ มากเพราะทุกครั้งที่ไมค์อยู่ที่ปาก นั่นคือร้องสดเท่านั้น แฟนๆ ฝั่งอเมริกาอาจชินกับการได้เห็นศิลปินทั้งร้องทั้งเต้นทุกคำตลอดทั้งเพลง และสำหรับในวงการ K-POP ที่ท่าเต้นค่อนข้างโหดและเต้นแรงจัดๆ แล้ว การที่ BLACKPINK ใช้ backing track ช่วยในบางช่วงของเพลง (ไม่ใช่ตลอดทั้งเพลง) โดยส่วนตัวเราไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไรขนาดนั้น แม้ช่วงร้องสดจะมีเสียงสั่นเสียงเพี้ยนไปบ้าง แต่ก็เล็กน้อยมากๆ และเป็นธรรมชาติของการแสดงสดที่ทั้งเต้นทั้งร้องตลอดทั้ง 2 ชั่วโมง ในส่วนที่ร้องสดถือว่าทำได้ดีเกินคาดในทุกๆ คน เจนนี่ โรเซ่ จีซู และ ลิซ่า ร้องและแร็ปได้เต็มพลังและแสดงอาการเหนื่อยออกมาน้อยมากระหว่างโชว์ ซึ่งเราถือว่าทำได้ดีเกินคาดมากๆ แล้วหากเทียบกับศิลปิน K-POP วงอื่นๆ ที่เราได้ชมคอนเสิร์ตมาตลอดทั้งปี 2022

สมาชิก BLACKPINK แม้ว่าจะไม่ได้เตรียมคำพูดภาษาไทยยาวๆ มาทักทายแฟนๆ ชาวไทยมากนัก แต่ความเป็นธรรมชาติที่ไม่พยายามประดิษฐ์ และความน่ารักสดใสยิ้มแย้มตลอดเวลาของทุกคน คือสิ่งที่ทำให้แฟนๆ หลงรัก BLACKPINK ดนตรีสดของ YG ยังคงเพอร์ฟอร์มได้ดีตามมาตรฐานของค่าย รวมถึงเหล่าแดนเซอร์ของ YG ที่ BLACKPINK มอบช่วงหนึ่งของโชว์ให้เหล่าแดนเซอร์ได้ปล่อยของ ทั้งชายหญิงเต้นได้เซ็กซี่ ขี้เล่น แต่เต็มพลังและเรียกเสียงกรี๊ดชื่นชมได้ไม่แพ้การแสดงของศิลปินเลยทีเดียว และที่อยากแอบชมอีกนิดคือสปิริตของจีซูที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งที่แทบจะไม่ได้พึ่ง backing track ในเพลงโซโล่ของตัวเองเลย ทำให้เราเฝ้ารอว่าเมื่อไรเราจะได้ชมได้ฟังเพลงโซโล่ของจีซูบนเวทีสักที ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ในวงได้เพลงโซโล่ของตัวเองไป 2-3 เพลงกันหมดแล้ว

ในส่วนของพาร์ทพูดคุยอาจจะน้อยไปนิด ชนิดพูดน้อยต่อยหนัก ทั้งๆ ที่มีสมาชิกคนไทยอย่างลิซ่าอยู่ในวง แต่อาจจะเป็นเพราะธรรมชาติของสาวๆ ไม่ได้เป็นสายเมาท์มอยยืดยาวอะไรมาก บวกกับ YG ไม่เคยมีล่ามคอยแปลภาษาให้กับศิลปินบนเวที ช่วง talk เลยเป็นช่วงพูดคุยสั้นๆ พอให้หายเหนื่อยก่อนเข้าสู่เพลงต่อไปเท่านั้น และตอนจบคอนเสิร์ตก็ไม่ได้มีการพูดทิ้งท้ายอะไรมากนักเลยอาจจะแห้งๆ ไปหน่อยสำหรับคอนเสิร์ตของศิลปิน K-POP ที่มักจะพูดปิดท้ายโชว์โดยแต่ละคนสมาชิกค่อนข้างยาว

BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK

ส่วนตัวแล้วในส่วนของ VCR ทั้งตอนเริ่มคอนเสิร์ตและตอนคั่นระหว่างโชว์ เป็นภาพของสาวๆ ที่มุมกล้องสวยมาก การตัดต่อดีมาก โปรดักชั่นต่างๆ สวยงามสมกับเป็นศิลปินระดับโลก แต่อาจจะน่าเสียดายเล็กน้อยว่า YG ไม่ใช้การเล่าเรื่องผ่านวิดีโอเลยแม้แต่คลิปเดียว ขายงานศิลปะอย่างเดียว ทำให้การตัดต่อฉากเดิมๆ ซ้ำๆ ตลอดระยะเวลา 3-4 นาที แฟนๆ มองนานๆ ก็อาจจะเบื่อ ไม่เหมือน VCR ของศิลปินอื่นๆ ที่มีสลับระหว่างโชว์ภาพและการตัดต่อสวยๆ สลับการ VCR แบบเล่าเรื่องที่สามารถดึงความสนใจของแฟนเพลงให้อยู่กับคลิปตั้งแต่ต้นจนจบได้

ในส่วนของเวที ถ้าสามารถมีส่วนที่ยื่นเวทีออกไปได้มากกว่าสเตจรองรูปตัว T ก็น่าจะทำให้โชว์มีอะไรมากกว่าเดิมได้มากขึ้น และอุปกรณ์ประกอบฉากที่เป็นโครงเหล็กและอื่นๆ ก็มีไม่มากนักเช่นกัน แต่โดยรวมเพอร์ฟอร์มานซ์ของทั้งศิลปิน แดนเซอร์ และวงดนตรีสดถือว่าทำได้น่าประทับใจและเติมเต็มจนไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรเช่นกัน

เราแอบเสียดายที่ไม่ได้ฟังเพลง “Solo” ของเจนนี่ และเพลง “BOOMBAYAH” อีกเพลงดังของ BLACKPINK รวมถึงไม่มีช่วงร้องเพลงช้ามากนัก มีแค่เพลง “Tally” และ “Stay” เท่านั้นที่เป็นเพลงจังหวะกลางๆ ให้สาวๆ ได้โชว์พลังเสียงกันชัดๆ ถ้าได้ฟัง “The Happiest Girl” ในคอนเสิร์ตด้วยน่าจะเป็นบุญหูมากๆ แต่สำหรับคนที่ชอบโชว์ของ BLACKPINK เพราะเต้นสะบัดทั้งคอนเสิร์ตไม่มีช่วงเพลงช้า ก็นับว่าเป็นคอนเสิร์ตที่มีเซตลิสต์ที่สมบูรณ์แบบแล้ว

BLACKPINK เป็นศิลปินที่เปี่ยมด้วยความสามารถทั้งร้อง เต้น และมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันในแต่ละคน หวังว่าในอนาคตเราจะได้ชมคอนเสิร์ตของ BLACKPINK กันมากขึ้น เพราะสาวๆ ได้แสดงความสามารถจากพรสวรรค์และการฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่เด็กเพื่อที่จะได้ส่องประกายบนเวทีอย่างเต็มที่ เรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ป K-POP แห่งทศวรรษได้เลยทีเดียว น่าเสียดายที่ YG ไม่ค่อยให้สาวๆ ได้คัมแบ็คหรือได้ขึ้นเวทีบ่อยนัก ทั้งๆ ที่เป็นศิลปินที่เต็มไปด้วยความสามารถมากขนาดนี้ แต่หากมีรอย encore รับรองว่าเมืองไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่สาวๆ จะกลับมาหาแน่นอน

คุณกำลังดู: ใครว่า BLACKPINK ไม่ร้องสด! คอนเสิร์ต BORN PINK พิสูจน์ความเป็นศิลปินตัวแม่แห่งทศวรรษ

หมวดหมู่: เพลง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด