คุณเติมน้ำมัน “เต็มถัง” กันหรือไม่
น้ำหนักของตัวรถมีผลต่อความเร็วและอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่ เป็นคำถามที่หากไปถามทีมงานในศึกฟอร์มูล่า วัน แน่นอนว่า ปัจจัยที่ผมจั่วหัวเอาไว้มีผลค่อนข้างมากครับ แต่กับรถบ้านที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันล่ะ มีผลแค่ไหน
ในรถเอฟวันยุคปัจจุบันที่กติกาห้ามมีการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงขณะแข่งขัน เราจะสังเกตได้ว่า หากเป็นทางแห้งปกติ รถที่ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด (fastest lap) มักจะทำได้กันในช่วงท้าย ๆ ของการแข่งขัน นั่นเป็นเพราะว่าน้ำหนักของรถเริ่มที่จะเบาลงเรื่อย ๆ นั่นเอง
ส่วนในการทดสอบรถเอฟวันในช่วงวินเตอร์ เทสต์ เราอาจจะเห็นรถแข่งทีมกลางหรือทีมท้ายแถว ทำเวลาเร็วที่สุดในบางวัน แต่พอเข้าแข่งขันในฤดูกาลเต็ม ๆ แล้วกลับผลงานสู้หัวแถวไม่ได้ นั่นเป็นเพราะในการเทสต์บางคันอาจจะลองเติมน้ำมันให้วิ่งได้แค่ 1-2 รอบเท่านั้น รถจึงเบากว่าคันอื่น ๆ
ขณะที่การใช้รถในชีวิตประจำวัน ปัจจัยเรื่องของน้ำหนักอาจไม่ได้มีผลมากนัก เพราะรถที่ออกจากโชว์รูมส่วนใหญ่มีการทดสอบให้สามารถเติมน้ำมันเต็มถังได้แบบไร้ปัญหา อย่างไรก็ดีในการขับรถเข้าปั๊มเติมน้ำมันแต่ละครั้งคุณเติมเต็มถังกันหรือไม่ ลองมาแชร์ข้อมูลกันสักหน่อยครับ
สำหรับผมหากใช้งานในชีวิตประจำวันผมจะเติมน้ำมันครั้งละราว ๆ 1 พันบาทบวก-ลบ ซึ่งก็จะได้น้ำมันมาราว ๆ 3 ส่วน 4 ของถัง โดยเหตุที่ผมมักไม่ค่อยเติมเต็มถัง ก็เพราะเป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ ครับ อย่างแรกคือคิดว่าหากเติมเต็มถังรถจะหนักเกินไป เพราะถังน้ำมันรถผมเต็มพิกัดขึ้นไปถึง 65 ลิตร
อย่างที่สองคือในช่วงหลัง ๆ แต่ละปั๊มมักจะมีโปรโมชันต่าง ๆ ตามราคาที่กำหนดไว้ อาทิ เติม 1 พันบาท ได้น้ำ 2 ขวด หรือในช่วงฟุตบอลโลก เติม 900 บาท ได้แก้วน้ำฟุตบอลโลก 1 ใบ นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ผมเติมน้ำมันไม่เต็มถังเวลาขับรถเข้าปั๊มในแต่ละครั้ง
ทีนี้คำถามคือการเติมเต็มถัง หรือ 3 ส่วน 4 ของถัง นอกจากเรื่องน้ำหนักแล้วมันแตกต่างกันอย่างไร คำตอบคือ นอกจากถูกกว่าและเบากว่า เรื่องทางเทคนิคอื่น ๆ แทบจะไม่ต่างกันครับ ขอแค่อย่าเติมล้นถังออกมาข้างนอก หรือ ปล่อยให้ไฟเตือนโชว์จนน้ำมันแทบหมดถังเป็นพอ
การที่เติมจนล้น ที่มาจากบางปั๊มในบ้านเราเป็นแบบบริการตัวเอง หรือบางปั๊ม เด็กปั๊มก็เค้นให้ตัวเลขลงตัวจนลืมดูถังน้ำมัน จะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้ เพราะไอระเหยของน้ำมันอาจเข้าไปในระบบได้ ส่วนการปล่อยให้น้ำมันเกือบแห้งบ่อย ๆ ก็อาจทำให้ปั๊มติ๊ก หรืออุปกรณ์ในถังทำงานหนักจนพังได้ครับ
ทางที่ดีควรเติมให้มีน้ำมันอยู่ในถังอย่างน้อย 3 ส่วน 4 ครับ และไม่ควรรอให้ไฟโชว์แล้วค่อยเติม หากระดับลงมาอยู่ที่ 1 ใน 4 ของถังก็ขับเข้าปั๊มเติมได้เลยครับ ส่วนจะเติมเต็มถังหรือไม่แล้วแต่ความชอบเลยครับ ส่วนผมครั้งละ 1 พันกำลังสวย เว้นแต่มีเจ้าภาพนั่งไปด้วย จัดเต็มถังสิครับ รออะไร (ฮา ๆ)
คุณกำลังดู: คุณเติมน้ำมัน “เต็มถัง” กันหรือไม่
หมวดหมู่: รถยนต์