"คราบหินปูน" เกิดจากอะไร? ไม่ขูดหินปูนได้ไหม?
ถาม-ตอบเรื่องคราบหินปูนกับทันแพทย์ศิริราช
ทพ.มหิศร
วิเศษจัง
งานทันตกรรม โรงพยาบาลศิริราช
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ถาม :
คราบฟันหรือหินปูนเกิดขึ้นได้อย่างไร
ตอบ : หินปูนหรือหินน้ำลาย คือ
แผ่นคราบจุลินทรีย์ที่แข็งตัวเนื่องจากมีธาตุแคลเซียมจากน้ำลายเข้าไปตกตะกอน
แผ่นคราบจุลินทรีย์ หรือ Bacterial plaque คือ
คราบสีขาวขุ่นนิ่มที่ประกอบด้วยเชื้อโรค ติดอยู่บนตัวฟัน
แม้ว่าจะบ้วนน้ำก็ไม่สามารถหลุดออกได้
ขบวนการเกิดคราบจุลินทรีย์เริ่มต้นหลังจากที่แปรงฟัน
แล้วเพียง 2-3 นาที โดยจะมีเมือกใสของน้ำลายมาเกาะที่ตัวฟัน
จากนั้นเชื้อโรคที่มีอยู่มาก ในปากจะมาเกาะทับถมกันมาก ๆ
เข้าเกิดเป็นคราบจุลินทรีย์
คราบจุลินทรีย์นี้เองเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคฟันผุและโรคปริทันต์
เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป
คราบจุลินทรีย์นี้จะใช้น้ำตาลจากอาหารสร้างกรดและสารพิษ
โดยกรดจะทำลายเคลือบฟันทำให้ฟันผุ สารพิษจะทำให้เหงือกอักเสบ
ทำให้เกิดโรคปริทันต์ ถ้าไม่กำจัดคราบจุลินทรีย์
โดยการทำความสะอาดฟันและเหงือกอย่างดีทุกวัน
คราบนี้จะเพิ่มมากขึ้นและทำอันตรายต่อฟันและเหงือก
มักพบคราบจุลินทรีย์มากโดยเฉพาะที่คอฟัน บริเวณขอบเหงือกและซอกฟัน
สามารถใช้สีย้อมให้เห็นคราบได้ชัดเจน แต่ในรายที่คราบหนามาก ๆ
สามารถเห็นและรู้สึกได้เมื่อใช้ลิ้นสัมผัสไปตามฟัน
ถาม :
ความสำคัญและความจำเป็นในการขูดหินปูน
ตอบ : บนพื้นผิวหินน้ำลาย จะมีคราบจุลินทรีย์ปกคลุม
หินน้ำลายที่โผล่พ้นขอบเหงือกจะมองเห็นได้
แต่ส่วนที่อยู่ใต้เหงือกจะมองไม่เห็น
หินปูนหรือคราบจุลินทรีย์ที่ยึดติดอยู่บนหินปูนใต้เหงือกไม่สามารถกำจัดออกได้
โดยวิธีการทำความสะอาดฟันด้วยตัวเองต้องอาศัยทันตแพทย์ช่วยกำจัดหินปูนให้
ทันตแพทย์จะขูดหินปูนออกทั้งเหนือเหงือกและใต้เหงือก
จากนั้นทำรากฟันให้เรียบ (root planning) ปราศจากสารพิษใด ๆ
เพื่อให้เหงือกยึดแน่นรอบตัวฟันเหมือนเดิม
การขูดหินปูนให้หมดจริง ๆ อาจต้องใช้เวลาพอควร
อาจต้องนัดครั้งละ 30-45 นาที เป็นเวลา 2-4 ครั้ง
หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับความมากน้อยของหินปูน
ความลึกของร่องลึกปริทันต์ ความแข็งของหินปูนเป็นต้น
หลังจากนั้นประมาณ 4-6 อาทิตย์
ทันตแพทย์จะประเมินผลดูว่าผู้ป่วยหายจากโรคปริทันต์หรือไม่
โดยดูลักษณะเหงือกว่ากลับสู่สภาพเดิมหรือยัง
มีเลือดออกเวลาแปรงฟันและเมื่อใช้เครื่องมือวัดร่องลึกปริทันต์
ว่าตื้นขึ้นหรือเข้าสู่ภาวะปกติหรือไม่ ถ้ายังมีความลึกของ
ร่องลึกปริทันต์อยู่ ทันตแพทย์จะพิจารณาว่าควรจะทำการผ่าตัดหรือไม่
ทั้งนี้ขึ้นกับการร่วมมือของผู้ป่วยในการทำความสะอาดด้วย
แม้ว่าเหงือกจะกลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว
แต่ถ้าผู้ป่วยละเลยไม่ทำความสะอาดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
ก็สามารถที่จะกลับมาเป็นโรคปริทันต์ได้อีก
ถาม :
ควรเริ่มขูดหินปูนตั้งแต่วัยใด
ตอบ : สามารถขูดหินปูนได้ทุกวัย
แม้กระทั่งในวัยเด็กที่มีฟันน้ำนมขึ้นแล้วไปจนกระทั่งผู้สูงอายุ
ถาม :
ระยะความถี่ห่างของการขูดหินปูนที่เหมาะสม
ตอบ : ในระยะแรก ๆ หลังการขูดหินปูน
ควรกลับมาให้ทันตแพทย์ตรวจและทำความสะอาดภายใน 2-3 เดือน
จากนั้นถ้าผู้ป่วยสามารถทำความสะอาดได้ดี
ไม่มีเหงือกอักเสบหรือไม่มีร่องลึกปริทันต์
ทันตแพทย์จะนัดผู้ป่วยมาตรวจและขูดหินปูน ภายใน 5-6 เดือน
โดยทุกครั้งจะดูความร่วมมือของผู้ป่วยและอาจทบทวนวิธีการทำความสะอาดฟันและเหงือกด้วย
ถาม : การขูดหินปูนบ่อย ๆ
จะมีผลกระทบต่อฟันหรือไม่
ตอบ : ในบางครั้งจะทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้บ้าง
ภายหลังการขูดหินปูนและอาจมีการเจ็บเหงือกบ้างบางครั้ง
แต่การดูแลรักษาความสะอาดที่ถูกต้อง จะทำให้อาการดังกล่าวหายไป
ถาม :
ถ้าไม่ขูดหินปูนจะเกิดผลเสียอย่างไร
ตอบ : จะทำให้เกิดโรคปริทันต์
โดยท่านอาจมีอาการดังนี้
1. เลือดออกขณะแปรงฟัน
2. เหงือกบวมแดง
3. มีกลิ่นปาก
4. เหงือกร่น
5. มีหนองออกจากร่องเหงือก
6. ฟันโยก
7. ฟันเคลื่อนออกจากกัน
ถาม : ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดหยุดยาก
สามารถขูดหินปูนได้หรือไม่
ตอบ : ผู้ป่วยที่มีเลือดหยุดยาก ควรจะมีการปรึกษาแพทย์
เพื่อแพทย์จะได้ปรึกษาและวางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์
โดยอาจจะต้องหยุดยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า
หรือในกรณีที่มีเลือดที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดอาจต้องให้เลือดหรือสารทดแทนก่อนขูดหินปูน
เพื่อป้องกันปัญหาแทรกซ้อนหรือเลือดไหลไม่หยุด
ถาม : การป้องกันในการเกิดคราบหินปูน
ตอบ : ประกอบด้วยการทำความสะอาดฟัน นั้นคือ
การแปรงฟันให้ถูกวิธี
การทำความสะอาดซอกฟัน รวมทั้งการนวดเหงือก ซึ่งมีหลายวิธี
เช่นการใช้เส้นใยขัดฟัน (flossing) ปุ่มนวดเหงือก (rubber
tip) แปรงระหว่างซอกฟัน (proxmal brush) ผ้าก็อซ (gauze
strip) ไม้กระตุ้นเหงือก การที่จะเลือกใช้อุปกรณ์ตัวใด
ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและคำแนะนำของทันตแพทย์
ถาม : ข้อแนะนำท้ายรายการ
ตอบ : ท่านสามารถป้องกันโรคฟันผุ และโรคปริทันต์
ได้โดยการกำจัดคราบจุลินทรีย์ในช่องปากของท่านโดยการ
1. แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน
การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อเป็นสิ่งที่ดีมากแต่ถ้าไม่สามารถกระทำได้ให้บ้วนน้ำแรง
ๆ 2-3 ครั้ง หลังอาหาร
2. ทำความสะอาดซอกฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
3. หลีกเลี่ยงอาหารหวาน ๆ โดยเฉพาะระหว่างมื้อ
4. พบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
เพื่อตรวจสภาพเหงือกและฟัน
เพื่อทำความสะอาดฟันบริเวณที่เหลือจากการทำความสะอาดและรับการรักษาระยะเริ่มแรก
ก่อนที่ท่านจะต้องสูญเสียฟันของท่าน เนื่องจากโรคฟันผุและปริทันต์
___________________
อ่านบทความเพิ่มเติม
>>>>> SIRIRAJ E-PUBLIC
LIBRARY
ขอบคุณเนื้อหาจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณกำลังดู: "คราบหินปูน" เกิดจากอะไร? ไม่ขูดหินปูนได้ไหม?
หมวดหมู่: สุขภาพ