‘ความรัก’ อาวุธสำคัญ นำ ‘โมร็อกโก’ สร้างเทพนิยายในเวิลด์คัพ

‘ความรัก’ อาวุธสำคัญ นำ ‘โมร็อกโก’ สร้างเทพนิยายในเวิลด์คัพ ฟุตบอลโลก 2022 ยังเต็มไปด้วยการพลิกล็อก ทีมใหญ่กลับบ้านก่อนเวลาอันควร ทีมเล็กสร้างเซอร์ไพ...

‘ความรัก’ อาวุธสำคัญ นำ ‘โมร็อกโก’ สร้างเทพนิยายในเวิลด์คัพ

‘ความรัก’ อาวุธสำคัญ นำ ‘โมร็อกโก’ สร้างเทพนิยายในเวิลด์คัพ

ฟุตบอลโลก 2022 ยังเต็มไปด้วยการพลิกล็อก ทีมใหญ่กลับบ้านก่อนเวลาอันควร ทีมเล็กสร้างเซอร์ไพรส์กันหลายต่อหลายทีม ล่าสุด โมร็อกโก ทีมจากแอฟริกา เขี่ย สเปน ตกรอบ ด้วยการดวลจุดโทษ

โมร็อกโกกลายเป็นทีมจากดินแดนอาหรับทีมแรกที่ผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ เวิลด์คัพ ได้สำเร็จ และเป็นเพียงทีมที่ 4 จากทวีปแอฟริกาที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ ตลอดประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก ต่อจากแคเมอรูน ปี 1990 เซเนกัล ปี 2002 และกานา ปี 2010

โมร็อกโกใช้เกมรับที่แพ็กกันแน่นมากๆ ก่อนใช้ความสามารถเฉพาะตัวและความเร็วของแนวรุกเล่นงานคู่แข่ง การเจอทีมใหญ่อย่างสเปน แสดงให้เห็นแล้วว่า เกมรับของสิงโตแห่งแอตลาสแข็งแกร่งเป็นกำแพง ถึงขั้นว่าทีมกระทิงดุที่มีเกมรุกหลากหลาย มีโอกาสยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียวตลอดเวลา 120 นาที

แต่เคล็ดลับที่ไม่ใช่ความลับของบรรดาแข้งโมร็อกโก คือ ความรักและกำลังใจจากคนสำคัญรอบตัว

ในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่โมร็อกโกขยี้เบลเยียม 2-0 มีภาพที่เป็นไวรัลเต็มโซเชียลมีเดียไปหมด คือ ภาพที่ อาชราฟ ฮาคิมี่ แบ็กตัวเก่งได้รับกพลังใจฟอดใหญ่จากแม่ที่มาเชียร์แบบติดขอบสนาม ซึ่งฮาคิมี่ก็ได้โพสต์ภาพนี้พร้อมคำบรรยายว่า “ผมรักแม่ครับ”

สหพันธ์ฟุตบอลโมร็อกโกและ วาลิด เรกรากุย เฮดโค้ชของทีม ได้ให้นักเตะทุกคนในทีมเลือกคนในครอบครัวให้เดินทางไปกาตาร์ไปพร้อมกับทีม เพื่อเป็นกำลังใจสำคัญให้กับบรรดาแข้งที่มาทำหน้าที่เพื่อชาติ

เรกรากุยได้ประกาศหลังจากรับงานคุมทีมชาติว่า “ความสำเร็จของพวกเราจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าปราศจากความสุขของพ่อแม่”

ฟาติมา แม่ของโค้ชเรกรากุยก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทริปที่กาตาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่แม่และลูกชายวัย 47 ปี ได้เดินทางร่วมกันในการทำงานฟุตบอล

“ตลอดการทำงานของวาฮิด ทั้งการเป็นนักเตะและการเป็นโค้ช ฉันไม่เคยเดินทางไปกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ที่ผ่านมาฉันอาศัยอยู่ในปารีสมามากกว่า 50 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเดินทางออกนอกปารีส” แม่ของเฮดโค้ชเปิดใจ

อับเดลฮามิด ซาบิรี่ มิดฟิลด์จากซามพ์โดเรีย มีพ่อกับแม่มาเป็นกำลังใจที่กาตาร์ด้วย ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ใช้เวลาในการพักผ่อน ถ่ายภาพกับบรรดานักเตะของทีม และเมื่อถึงเวลาแข่งขัน ก็จะไปตามเชียร์ลูกและเพื่อนๆ ที่สนาม

ความน่าสนใจอีกอย่างของโมร็อกโกทีมนี้ คือ นักเตะ 14 จาก 26 คน ไม่ได้เกิดและเติบโตที่โมร็อกโก แต่มีเชื้อสายโมร็อกกัน เพราะมีพ่อแม่ที่มาจากโมร็อกโก 

ตาเร็ก พ่อของ ซาคาเรีย อาบูคห์ลัล กองกลางของทีม บอกว่า ลูกชายเกิดที่เนเธอร์แลนด์ แต่โมร็อกโกก็มีทุกอย่างอย่างที่ลูกชายต้องการ ที่สำคัญสายเลือกของพวกเราคือโมร็อกกัน

เมื่อถามพ่อของ บิลาล เอล คานนูส์ มิดฟิลด์อีกคน ว่าทำไมลูกชายถึงเลือกเล่นให้โมร็อกโก ทั้งๆ ที่เกิดและโตที่เบลเยียม ผู้เป็นพ่อตอบว่า “เพราะหัวใจมันเรียกร้อง”

เรกรากุยก็ไม่ได้เกิดและเติบโตที่โมร็อกโก เขาเหมือนเป็นคนฝรั่งเศส เกิดที่ปารีสและใช้ชีวิตที่นั่น แต่การเติบโตมาในครอบครัวที่บอกเล่าลูกหลานเสมอว่า บรรพบุรุษมาจากโมร็อกโก ทำให้ความรักในประเทศต้นทางของสายเลือดย่อมเข้มข้นไปด้วย 

“ผมยังจำได้ดีในวันที่โมร็อกโกผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1986 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้เล่นรอบสุดท้าย ตอนนั้นผมอยู่ฝรั่งเศส เกมที่โมร็อกโกชนะโปรตุเกสได้ เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย” เรกรากุยกล่าว

ฮาคิมี่เป็นคนสุดท้ายที่ยิงจุดโทษในเกมที่โมร็อกโกปราบสเปนได้ แต่ถ้าย้อนดูสถานที่เกิดของเขา คือ กรุงมาดริด ประเทศสเปน เล่นฟุตบอลมากับอคาเดมีของรีล มาดริด จนเติบโตมาสู่ทีมชุดใหญ่

หลังจากยิงจุดโทษแบบปาเนนก้าเข้าไป ฮาคิมี่ได้โพสต์ภาพการฉลองแบบเต็มไปด้วยความสุขที่การพาบ้านของแม่ชนะแผ่นดินเกิดของตัวเองว่า “ความรู้สึกพิเศษ ช่วงเวลาที่เหลือเชื่อ”

ความอบอุ่นและความรักในบ้านเกิดของบรรพบุรุษ สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลไปทั่วโลก ทำให้ตอนนี้โมร็อกโกกลายเป็นทีมที่มีกองเชียร์หน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย และเป็นความหวังสำคัญของชาวแอฟริกันทั้งทวีป ที่อยากจะเห็นทีมฟุตบอลจากทวีปแอฟริกาไปให้ไกลกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลก

หรือจะให้สุขใจแบบสุดสุด พวกเขาก็คงอยากเห็นโมร็อกโกก้าวไปคว้าแชมป์โลกให้ได้ เพราะเหลือบันไดอีก 3 ขั้นเท่านั้น เทพนิยายบทใหม่ก็จะสมบูรณ์แบบแล้ว

คุณกำลังดู: ‘ความรัก’ อาวุธสำคัญ นำ ‘โมร็อกโก’ สร้างเทพนิยายในเวิลด์คัพ

หมวดหมู่: กีฬาอื่นๆ

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด