คุยกับ AINN ในวันที่ฮิปฮอปไทยฟื้นจิตใจที่เคยสลาย หลังเกิดแผลในใจจากการเปรียบเทียบ
สนทนากับ AINN แร็ปเปอร์เชื้อสายเกาหลีในค่ายเพลงไทย หลังฟื้นความมั่นใจจนเป็นศิลปินฮิปฮอปเลือดใหม่ที่น่าจับตา
หลังจากที่ทำให้ผู้ฟังชาวไทยรู้จักหลายๆ ศิลปินฮิปฮอปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปีที่ผ่านมาค่าย YUPP! ก็ได้เปิดตัวเทรนนีภายใต้ YOUNG YUPP! ซึ่งคนแรกที่ประเดิมโปรเจกต์นี้คือ AINN (อาอิน) หรือ จองยอนอู แร็ปเปอร์เกาหลีที่มีเพลง “ALMOST PERFECT” และ “IT'S YOU” และล่าสุด “CREEP INTO MY MIND” ออกมาให้ฟัง
ซึ่งการผลงานตลอดปี 2022 ทำให้เราสนใจอยากทราบเรื่องราวของเขาในผลงานใหม่ และเส้นทางชีวิตของ AINN จนเราพบว่าที่ผ่านมา เขามาจากจุดเริ่มต้นที่ต่างจากหลายแร็ปเปอร์ เริ่มจากการเรียนวิทยาลัยดนตรีดังระดับโลกอย่าง Berklee college of music แต่ก็สูญเสียความมั่นใจจนดร็อปออกมา ก่อนที่จะพบฟ้าหลังฝน เมื่อได้เข้ามาค่าย YUPP! และได้ทำเพลง รวมถึงขึ้นแสดงงานอย่าง ASEAN Music Showcase Festival 2022 ที่ประเทศสิงคโปร์ และเทศกาลดนตรีใหญ่ของไทย จนได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาในที่สุด
“CREEP INTO MY MIND” เพลงล่าสุดที่ทำก่อนทุกซิงเกิลที่ปล่อยก่อนหน้า
เรื่องแรกที่ทำให้เราแปลกใจก็คือ แม้ “CREEP INTO MY MIND” จะเป็นเพลงล่าสุดของ AINN แต่เพลงนี้เป็นผลงานแรกที่เขาทำ ตั้งแต่ 2 ปีก่อนเข้าค่าย YUPP ซึ่งมาจากความอยากแข่งขัน Beat Making ของเขา
"จริงๆ เพลงนี้ผมเขียนก่อนจะเข้า YUPP เขียนท่อนฮุคตอนปี 2019 ครับ คือตอนนั้นเป็นช่วงที่หา Contest ออนไลน์อยาก Beat Making ทีนี้มี Beat Makers ชื่อ J Grooves เขามี Beat Making Contest ก็ลองแต่งดู เนื้อหาก็จะพูดถึงแฟนเก่า ภาพหลอกหลอนอะไรอย่างนี้ เป็น Flash Back ที่ทำผมเครียดมาก และโกรธขึ้นมา แม้ความสัมพันธ์จบไปแล้ว"
และ AINN ก็เผยว่าการกลับมาทำเพลงนี้ในเวลาเหมาะสม ทำให้ทุกอย่างลื่นไหล และเล่าว่า เพลงนี้มีฮุคอยู่แล้ว แต่ไม่มีท่อนแร็ป ทำงานกับโปรดิวเซอร์ ทำบีทง่ายมากเพลงนี้ เพราะรู้ว่าเพลงจะประมาณไหน มี Session หนึ่งไปอัดท่อนฮุค และบีทค่อยๆ มา ผมก็กลับบ้านไปอัดแร็ปต่อครับ วันต่อไปก็อัด Master ได้แล้วครับ
3 เพลง จาก 3 โปรดิวเซอร์ และประสบการณ์ในสถาบันระดับโลก
ที่ผ่านมาเราอาจจะได้ฟังเรื่องราวของศิลปินที่มีโปรดิวเซอร์คู่บุญ แต่ใน 3 เพลงที่ผ่านมา เราได้เห็น AINN ร่วมงานกับ 3 โปรดิวเซอร์ ทั้ง 1ROCK ในเพลง “ALMOST PERFECT” และ Doimountain ในเพลง “IT'S YOU” ก่อนมาถึง Mashdawg ในเพลง “CREEP INTO MY MIND” จนเราอดถามเรื่องประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้
แต่ละคนต่างกันมาก พี่ 1Rock จะฟังเพลงหาเรฟไปด้วยกัน และทำบีทไปด้วยกัน พอบีทเสร็จก็เข้าห้องอัด งานก็เร็วมากเลย ผมก็ดูพี่เขาทำงานมีความรู้มากขึ้นในการทำโปรดิวซ์ การทำงานกับพี่ดอยก็ พี่ดอยได้ทำงานกับมือคีย์บอร์ดพี่แบงค์ มันก็ทำให้ Reflect กลับไปตอนเรียนดนตรี เพราะผมเรียนทฤษฎีดนตรีจากที่ berklee มาด้วย ก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้นเคยและสนุกมาก กับ Mashdawg ก็ดูเขาและพี่ทำบีทขึ้นมา
และในพาร์ทการทำงาน ก็ทำให้ AINN เข้าใจสิ่งที่เรียนจาก Berklee และเขาเล่าว่า "ตอนนั้นผมเกเรมากๆ ก็จะจำไม่ได้ แต่พอมาทำกับพี่ๆ ก็อ่อ อันนั้นๆ จำได้ๆ (หัวเราะ) อะไรที่เคยไม่เข้าใจตอนนั้น ก็เข้าใจแล้ว"
การเปิดกว้างของวงการฮิปฮอปไทยที่ทำให้ AINN แปลกใจ
ด้วยโปรไฟล์ที่แตกต่างจากหลายแร็ปเปอร์ดัง ทำให้ AINN ยอมรับกับทาง Sanook Music ตรงๆ ว่าเขามีความกังวล เรื่องการเข้ากับเพื่อนในวงการ แต่สุดท้ายเขาก็ได้พบว่าทุกสิ่งนั้นไม่เป็นแบบที่เขาคิด และยังเต็มไปด้วยพลังบวกอย่างมาด้วย
"ผมได้รู้จักศิลปินที่เป็นแฟนคลับ เซอร์ไพรส์ที่ทุกคนรับผมได้ครับ เพราะตอนเข้าวงการใหม่ๆ ผมไม่รู้ว่าจะ Hang Out กับพวกพี่ๆ ได้ไหม ผมไม่ได้เข้าผ่าน Underground ผมเข้าวงการมาเลย แต่ทุกคนก็ไนซ์มากๆ ครับ สิ่งที่ Discourage ตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องเงิน (หัวเราะ) ผมจะทำเพลงและหาเงินจากอื่นไปด้วย มันก็หยุดไม่ได้แต่ก็สนุกดีครับ"
เมื่อถาม AINN ว่าอะไรคือความแตกต่างของเขากับเพื่อนร่วมวงการ เขาก็เล่าว่า "ผมว่าเป็นเรื่องภาษานี่แหละครับ ผมเน้นเพลงสากลและใช้ภาษาไทยและเกาหลีเป็นกิมมิก สไตล์การแร็ปของผมเป็น Singing Rap ที่ไทยยังไม่ค่อยนิยม เพราะฮิปฮอปใต้ดินยังแรง"
ความมั่นใจในการแสดงสดคือสิ่งที่อยากพัฒนา
แม้จะมีความมั่นใจมากขึ้นแล้ว แต่ AINN ก็ยอมรับตรงๆ ว่าการแสดงสดนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องพัฒนา แต่ในความเหนื่อยก็ยังมีความโชคดีที่เขาได้รับประสบการณ์จากเวทีที่เหมาะสม จนเขาได้เรียนรู้และนำบทเรียนจากบรรยากาศจริงมาใช้
"ผมยังเอนเกจกันคนดูไม่เก่ง ยังอยู่กับตัวเองมากไปหน่อย โอกาสหน้าอยากให้มาสนุกด้วยกัน ตอนนั้น ASEAN Music Showcase Festival 2022 สเตจเล็กมาก เป็นเหมือน Talent Show มัธยม ก็ไม่ตื่นเต้น แต่ไม่มีประสบการณ์ก็เลยอยู่กับตัวเอง แต่พอเป็นเชียงใหญ่เฟสคนเยอะมากจนเขินไม่ได้ สนุกมากไป อินเนอร์ก็มาเองครับ"
ส่วนทริคในการแสดง AINN ก็เล่าว่า "จริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเตรียมตัวเป๊ะๆ ชอบอิมโพรไวซ์ เวลาขึ้นสเตจจะนึกถึงเวทีสมัยมัธยม ตอนนี้ก็ลดลงมามาก ก็พยายามจะ Flashback ย้อนไปครับ ตั้งแต่ไป Berkelee ผมโดน Compare (เปรียบเทียบ) เยอะ ค่อนข้าง Look down (ดูถูกตัวเอง) หลังจากเข้า YUPP ก็ดีขึ้นเลย ทุกคนเชียร์อัปผมดีมาก จากที่ผมจะ Give Up (ยอมแพ้) ไปแล้ว แต่นี่เป็น Last Choice (ตัวเลือกสุดท้าย) แบบไหนๆ ก็ลองดู และทุกคนดีกับผมมากครับ"
เมื่อศิลปินเกาหลี อบากให้วงการเพลงไทยเป็นตัวของตัวเอง
ในฐานะชาวต่างชาติ AINN คืออีกคนที่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับวงการเพลง แต่ในวันที่เขาเข้าใจมากขึ้น ก็เริ่มสนุกไปกับสิ่งที่พบเจอ และมีมุมมองน่าสนใจในฐานะคนที่อยากให้วงการเพลงไทย มีเอกลักษณ์และพัฒนาในแบบฉบับของตัวเอง
"ผมมีช่วงไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเขาใช้ภาษาแบบนี้ เมโลดี้แบบนี้ แต่พอเข้าวงการและฟังบ่อยๆ ก็รู้ว่าสีสันของฮิปฮอปและวงการเพลงไทยเป็นแบบไหน เขาพัฒนามาเยอะมาก ผมไม่เปรียบเทียบกับ K-POP เพราะมันมาคนละทางกันครับ ก็ถ้าจะวิจารณ์นิดนึงคือเส้นทางมันไม่เหมือนกัน และบางค่ายพยายามไปเคป็อป คือคุณจะตามเขายังไง มันก็ไม่ได้แบบเขาอยู่แล้ว ทำไมคุณไม่หาทาง หา Colour (สี) ของตัวเอง ซึ่งหลายๆ ค่ายก็ทำอยู่ครับ"
และในฐานะคนที่ฟังเพลงไทย AINN ได้เล่าถึงศิลปินที่เขาประทับใจว่า ช่วงนี้ผมชอบฟังเพลงของน้อง PUN (ปัน) - สรณวรรธ พิชัยรณรงค์ จาก High Cloud Entertainment พออากาศหนาวก็ฟังเพลงโฟล์คไทยอย่าง เขียนไขและวาณิช “แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร” ล่าสุดผมไป Wonderfruit ไปดูหมอลำก็มันมากเลยครับ ดีใจมากที่ได้เห็น
หลังจากที่ฟังเรื่องราวและมุมมอง 1 ปีที่ AINN อยู่วงการเพลงไทย เราก็ได้ถามว่าปี 2023 จะมีอะไรให้ติดตามบ้าง ซึ่งเขาตอบกับเราสั้นๆ แต่ชวนตื่นเต้นเกี่ยวกับก้าวต่อไปว่า "ตอนนี้อยู่ในจุดที่พักครับ ก็ทำ EP ต่อ กลางปี 2023 น่าจะมี EP ปล่อยครับ"
Photo by Thanapol W.
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ คุยกับ AINN ในวันที่ฮิปฮอปไทยฟื้นจิตใจที่เคยสลาย หลังเกิดแผลในใจจากการเปรียบเทียบ
คุณกำลังดู: คุยกับ AINN ในวันที่ฮิปฮอปไทยฟื้นจิตใจที่เคยสลาย หลังเกิดแผลในใจจากการเปรียบเทียบ
หมวดหมู่: เพลง