กุลวุฒิ-พาณิภัค-ภูริพล-พิชฌามลณ์-ณัฐรินีย์ ผงาดนักกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ 2565

กุลวุฒิ-พาณิภัค-ภูริพล-พิชฌามลณ์-ณัฐรินีย์ ผงาดนักกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ 2565

กุลวุฒิ-พาณิภัค-ภูริพล-พิชฌามลณ์-ณัฐรินีย์ ผงาดนักกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ 2565

นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และคณะผู้บริหาร, บุคลากร, ผู้ฝึกสอน และนักกีฬา ร่วมงาน ณ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565

นายอารัญ บุญชัย กล่าวว่า “การกีฬา” ในปี พ.ศ.2565 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายของวงการกีฬาไทย เนื่องจากนักกีฬา และบุคลากรทางการกีฬาทุกคนได้ทุ่มเท และร่วมกันขับเคลื่อนกีฬาของประเทศไทยให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่วางไว้ จนสามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการกีฬาของอาเซียน และเอเชีย จากผลงานของนักกีฬาที่สร้างชื่อในมหกรรมกีฬาซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เวิลด์เกมส์ และกีฬาชิงแชมป์โลกอีกหลายรายการ ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของอุตสาหกรรมกีฬาไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินหน้าผลักดัน “การกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว หรือ Sports Tourism” ด้วยการเป็นเจ้าภาพในการจัด World Class Sports Event ในประเทศไทย รวมถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในมหกรรมกีฬาสำคัญๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

“สำหรับการจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565 นี้ พิจารณาจากผลงานของแต่ละบุคคล และทีมกีฬาในรอบปีนั้นๆ รวมถึงการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ การเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชน ความทุ่มเท มุ่งมั่น ขยันฝึกซ้อม และมีวินัย จึงขอชื่นชม พร้อมทั้งขอแสดงความยินดีต่อผู้ที่ได้รับรางวัลทุกคนในวันนี้ ทั้งในระดับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย รวมไปถึงรางวัลในระดับประเทศด้วยความจริงใจ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนร่วมกันเดินหน้านำกีฬาไทย ไปให้ไกล และไปให้ได้อย่างยั่งยืนตลอดไป”

ดร.ก้องศักด ยอดมณี  กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2529 ได้กำหนดให้วันที่ 16 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันกีฬาแห่งชาติ” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงชนะเลิศการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พุทธศักราช 2510 ในนามนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นวันประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค จึงได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมใน “วันกีฬาแห่งชาติ” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อการกีฬาของประเทศชาติ อีกทั้งการจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ ยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานด้านกีฬาของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง

“การจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565 ถือเป็นครั้งที่ 36 ในนามของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ ขอบคุณ และให้กำลังใจ นักกีฬา บุคลากร และสมาคมกีฬาที่ได้สร้างผลงานอันทรงคุณค่า และสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่ประจักษ์นำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทยตลอดทั้งปี 2565 และการจัดงานครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การพัฒนากีฬาสู่ความยั่งยืน” (Sports Make Sustainability) ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย ตระหนักและให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนกีฬาที่ต้องสร้างความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ควบคู่ไปกับการเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ดีตามกรอบนโยบายเศรษฐกิจใหม่ BCG Model ของรัฐบาล”

สำหรับงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565 พิจารณาโดยคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้รับรางวัลด้านกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการทูลเกล้าขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อพระราชทานแก่นักกีฬาสมัครเล่น นักกีฬาเยาวชน นักกีฬาอาชีพ นักกีฬาคนพิการ นักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่นทั้งชายและหญิง รวม 12 ประเภท 39 รางวัล ดังนี้

1.รางวัลทรงคุณค่าทางการกีฬา จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ พล.ต.โอสถ ภาวิไล ประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน, เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการกีฬาสู่ความเป็นเลิศระดับนานาชาติรวมทั้งกีฬาคนพิการ

2.รางวัลปูชนียบุคคลกีฬา จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย

3.รางวัลนักบริหารกีฬาผู้ทรงคุณค่า จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย

4.รางวัลบุคลากรทางการกีฬาดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลผู้บริหารดีเด่น ได้แก่ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย, รางวัลนักวิชาการดีเด่น ได้แก่ นายเอกวิทย์ แสวงผล ผู้ควบคุมเวตเทรนนิ่งของกลุ่มนักกรีฑาทีมชาติไทย, รางวัลผู้จัดการทีมดีเด่น ได้แก่ นายธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีมเซปักตะกร้อ และรางวัลผู้ตัดสินดีเด่น ได้แก่ รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ผู้ตัดสินมวยสากล

5.รางวัลผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่น จำนวน 5 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่น ได้แก่ นายดนัย ศรีวัชรเมธากุล ผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลในร่มทีมชาติไทย, รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาต่างประเทศดีเด่น ได้แก่ Mr. Heekang Park ผู้ฝึกสอนเทควันเทควันโดทีมชาติไทย, รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาอาชีพดีเด่น ได้แก่ นายบรรพต บุญไพศาลเสรี ผู้ฝึกสอนกอล์ฟ, รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาส่วนภูมิภาคดีเด่น ได้แก่ จ่าเอก สุวัฒน์ จันดำ ผู้ฝึกยกน้ำหนักสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ และรางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาคนพิการดีเด่น ได้แก่ นายวิสุทธิพงศ์ พันธ์ธง ผู้ฝึกสอนว่ายน้ำพิการทางปัญญา

6.รางวัลประเภทชนิดทีมกีฬาดีเด่น (EVENTS) และรางวัลชนิดกีฬาทีมดีเด่น (SPORTS) จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลประเภทกีฬาทีมคนพิการดีเด่น (EVENTS) ได้แก่ บอคเซีย ทีม BC1-2, รางวัลชนิดกีฬาทีมคนพิการดีเด่น (SPORTS) ได้แก่ ฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย, รางวัลประเภทกีฬาทีมดีเด่น (EVENTS) ได้แก่ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักกีฬาแบดมินตันประเภทคู่ผสม และรางวัลชนิดกีฬาทีมดีเด่น (SPORTS) ได้แก่ วอลเลย์บอลทีมหญิงทีมชาติไทย

7.รางวัลสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น จำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ

8.รางวัลนักกีฬาคนพิการดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาคนพิการชายดีเด่น ได้แก่ พงศกร แปยอ นักกรีฑาวีลแชร์เรสซิ่ง, รางวัลนักกีฬาคนพิการชายรองดีเด่น ได้แก่ ณัฐพล แก้วมณี นักกรีฑาพิการทางปัญญา, รางวัลนักกีฬาคนพิการหญิงดีเด่น ได้แก่ ณัฐรินีย์ ขจรเมธา นักว่ายน้ำพิการทางปัญญา และรางวัลนักกีฬาคนพิการหญิงรองดีเด่น ได้แก่ อรวรรณ ฉิมแป้น นักกรีฑาพิการทางสมอง

9.รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น จำนวน 2 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพชายดีเด่น ได้แก่ รณชัย แสวงทรัพย์ หรือฉายา รณชัย แป๊ะมีนบุรี (ต.รามอินทรา) และรางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพหญิงดีเด่น ได้แก่ รุ่งนภา อ้นวิเชียร หรือฉายา รุ่งนภา พ.เมืองเพชร

10.รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น จำนวน 2 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาอาชีพชายดีเด่น ได้แก่ สมเกียรติ จันทรา นักแข่งรถจักรยานยนต์ รุ่นโมโตทู ซึ่งปี 2022 ลงแข่งขัน 18 สนาม เก็บได้ 128 คะแนน คว้าอันดับ 10 ของโลก พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรกที่คว้าแชมป์การแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกได้ ที่อินโดนีเซีย

และรางวัลนักกีฬาอาชีพหญิงดีเด่น ได้แก่ อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟหญิง ซึ่งคว้า 2 แชมป์ในการเล่นแอลพีจีเอทัวร์ ฤดูกาลแรก โดยทำได้ในศึกเจทีบีซี คลาสสิค และ ศึกวอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปี้ยนชิพ โดยตลอดปียังรักษาผลงานการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ โดยติด 10 อันดับแรก ถึง 16 รายการ จากทั้งหมด 26 รายการที่ลงเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมก้าวขึ้นมารั้งมือ 1 ของโลก ด้วยวัยเพียง 19 ปี 8 เดือน 11 วัน พร้อมกับคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2022

11.รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นดีเด่น จำนวน 6 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นชายดีเด่น ได้แก่ ภูริพล บุญสอน นักกรีฑา, รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นชายรองดีเด่น ได้แก่ วีรพล วิชุมา นักยกน้ำหนัก และหม่อมหลวงเวฆา ภาณุพันธ์ นักกีฬาเรือใบ, รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิงดีเด่น ได้แก่ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยว, รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิงรองดีเด่น ได้แก่ ณัฐกมล วาสนา นักเทควันโด และปัณชญา จันทร์น้อย นักสนุกเกอร์

12.รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่น จำนวน 6 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น ได้แก่ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตัน, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายรองดีเด่น ได้แก่ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน นักกรีฑา และณัฐวุฒิ สืบสวน นักยกน้ำหนัก, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นหญิงดีเด่น ได้แก่ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโด, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นหญิงรองดีเด่น ได้แก่ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตัน และอรวรรณ พาระนัง นักเทเบิลเทนนิส

นอกจากนี้ ในการประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565 ยังมีการมอบรางวัลนักกีฬาดีเด่นของสมาคมกีฬา ประจำปี พ.ศ. 2565 จำนวน 232 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาดีเด่นของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จำนวน 121 รางวัล และรางวัลนักกีฬาดีเด่นของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 111 รางวัล โดยทุกรางวัลถือเป็นขวัญ และกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนที่เสียสละ มุ่งมั่น ทุ่มเททั้งแรงกายและใจในการทำหน้าที่เพื่อชาติ และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งหวังว่ารางวัลในครั้งนี้จะเป็นเครื่องกระตุ้นและเตือนให้ทุกคนนั้นรักษาผลงานพร้อมกับพัฒนาตัวเองต่อไป

คุณกำลังดู: กุลวุฒิ-พาณิภัค-ภูริพล-พิชฌามลณ์-ณัฐรินีย์ ผงาดนักกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ 2565

หมวดหมู่: กีฬาอื่นๆ

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด