กระจกหน้าโดนหินแตก มันบางจริง หรือหินมาเร็วแบบสองแรงบวก!
ปัญหาหินดีดโดนกระจกบังลมบานหน้าแตก กระจกห่วยหรือหินมันมาเร็ว มีคำตอบ?
กระจกหน้าแตกเพราะโดนหินดีดใส่ถือเป็นอุบัติเหตุ ที่แม้จะเห็นคู่กรณีแต่ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เหมือนเป็นความซวย เป็นโชคร้ายที่เราอาจหลีกเลี่ยงได้ด้วยการทิ้งระยะ (จริงหรือ) แต่คุณจะขับทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าไปตลอดชีวิต การขับในลักษณะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะในชีวิตจริง การขับรถต้องมีการเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า ในช่วงที่เข้าไปใกล้ท้ายรถคันหน้า ก็อาจถึงคราวซวยโดนหินดีดใส่เข้าให้อีกแล้ว บางคนโดนจนชิน แต่ถ้าประกันภัยหมดก็หนักเอาเรื่อง เพราะกระจกบานหน้าของรถรุ่นใหม่ๆ บานหนึ่งไม่ใช่ถูกๆ บางบานล่อไปหลายหมื่นเห็นบิลถึงกับหน้าถอดสีได้เหมือนกันนะครับ บางคนก็คิดว่ากระจกบังลมของรถตัวเองทำไมบางกว่ารถยี่ห้ออื่น ซึ่งจริงๆแล้ว กระจกบังลมรถยนต์บานหน้ามักจะมีความหนาเท่าๆ กัน นั่นก็คือขนาดความหนา 6 มิลลิเมตร หรืออาจหนากว่านั้นเล็กน้อยในรถยนต์หรูหราราคาแพง
กระจกรถยนต์ในปัจจุบันนี้เป็นกระจกนิรภัยทั้งหมด เพื่อลดอันตรายจากการแตกร้าวเมื่อเกิดอุบัติเหตุชนปะทะ กระจกหน้านั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 3 ชนิดด้วยกันแต่ละอย่างมีคุณภาพและคุณสมบัติแตกต่างกัน
กระจก Tempered
ประเภทแรก คือ กระจกแบบ Tempered
โดยทั่วไปที่ใช้ทำกระจกบังลมบานหน้าหรือด้านข้างจะมีความหนาประมาณ 5
มิลลิเมตร
หรือรถบางรุ่นที่มีเจตนาลดเสียงลมปะทะและเสียงก้องของกระจกหน้า
ก็อาจมีการใช้กระจกหนาขึ้นกว่านี้อีกเล็กน้อย
กระจกแบบ Tempered จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ Zone-Tempered คุณสมบัติของกระจก Tempered เมื่อเกิดอุบัติเหตุชนปะทะทำให้กระจกหน้าแตก กระจก Tempered จะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยลามไปทั้งบาน โดยมีลักษณะการแตกแบ่งเป็นบริเวณต่างกัน แถวตอนล่าง แถวตอนกลางกระจกจะแตกเป็นผลึก หรือเม็ดโตหน่อยคล้ายเม็ดข้าวโพด บริเวณขอบกระจกจะแตกออกเป็นเม็ดเล็กๆ
Full-Tempered มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน คือ เมื่อแตกเสียหาย จะมีรอยร้าวลุกลามไปทั้งบาน โดยมีความแตกต่างกันตรงเวลาแตกแล้วจะเป็นเม็ดเล็ก ทั่วทั้งแผ่น เพื่อไม่ทำให้เม็ดกระจกเหล่านี้มีความแหลมคม ไม่สร้างอันตรายต่อผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร ในเรื่องความคมเมื่อแตกแล้วพบว่า ยังสามารถบาดได้ในบางเหลี่ยมมุม
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Temper Glass) สำหรับรถยนต์
ค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและแรงที่ทำให้หักงอ (Bending Strength)
เมื่อเปรียบเทียบกระจกธรรมดากับกระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์ Tempered
ที่มีความหนา 5 มิลลิเมตร กระจกธรรมดา
มีค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและแรงที่ทำให้หักงอ 500-650
กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ในขณะที่กระจกนิรภัย Tempered มีค่าสูง
1500 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร
การต้านทานน้ำหนัก (Loading Resistant)
คือความคงทนต่อแรงดันและแรงกระแทกโดยแบ่งออกเป็น
การต้านทานน้ำหนักคงที่หรือสถิต (Static Load Resistance) คือ
แรงที่มากระทบกับกระจก ซึ่งเกิดจากลม ร่างกายมนุษย์ หรือแรงดันของน้ำ
เป็นต้น กระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์ เทมเปอร์
สามารถทนต่อแรงกระทบเหล่านี้ได้มากกว่ากระจกธรรมดาที่มีความหนาในระดับเดียวกันประมาณ
3-5 เท่า
การต้านทานน้ำหนักกระแทก (Impact Load Resistance) กระจกนิรภัย
Tempered รับแรงกระแทกได้ดีกว่ากระจกธรรมดาประมาณ 4 เท่า
ความปลอดภัย ช่วยลดอันตรายที่เกิดจากการโดนกระจกบาด เพราะการแตกของกระจกนิรภัยเทมเปอร์จะแตกออกเป็นเม็ดเล็กๆ และมีคมน้อย (แต่ก็ยังบาดได้อยู่ดี)
การต้านทานความร้อน (Heat Resistance) ความทนทานของกระจกต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแบบทันทีทันใด ซึ่งเรียกว่าผลกระทบจากอุณหภูมิ (Thermal impact ) จากการทดสอบความสามารถในการต้านทานความร้อนของกระจกนิรภัย Tempered เปรียบเทียบกับกระจกธรรมดาความหนา 5 มิลลิเมตรเท่ากัน มีผลการทดสอบดังต่อไปนี้
กระจกนิรภัย Tempered ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ที่ค่าความแตกต่างของอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 170°c หากค่าความแตกต่างของอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้ กระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์แบบ Tempered จะเริ่มแตกร้าว และจะแตกทั้งหมด เมื่อค่าความแตกต่างของอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงประมาณ 220°C
กระจกธรรมดาสามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ที่ค่าความแตกต่างของอุณหภูมิสูงเพียงประมาณ 60°C จะแตกทั้งหมดเมื่อค่าความแตกต่างของอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงประมาณ 100°C
จุดอ่อนของกระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์แบบ Tempered ก็คือ แรงที่กระทำเป็นจุด (Point Load) หากมีการกระแทกโดยวัตถุที่มีมุมแหลม ซึ่งทำให้เกิดการตัดลึกเข้าไปภายในผิวกระจก ทำให้ชั้นแรงอัด (Compressed Layer) ถูกทำลายความสมดุลของแรงภายในเนื้อกระจกก็จะถูกทำลายลง อาจเป็นสาเหตุทำให้กระจกแตกได้ นั่นก็คือ การโดนหินคมๆก้อนเล็กนิดเดียว ดีดใส่และเราพุ่งเข้าไปหาด้วยความเร็วแค่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจทำให้กระจกกะเทาะ เป็นรอย หรือแตกร้าวได้แล้ว
ผิวกระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์ เทมเปอร์ จะเป็นคลื่น (Wave page) มากกว่ากระจกธรรมดา
ข้อมูลจาก https://forums.chiangraifocus.com/?topic=217582.0;wap2
กระจกแบบ Laminate
กระจกนิรภัยแบบ Laminated นี้ ทั่วไปแล้วจะมีความหนาประมาณ 6
มิลลิเมตร หนากว่ากระจกแบบ Tempered เล็กน้อย กระจกแบบ Laminated
ได้รับการพัฒนามาจากกระจกแบบ Tempered
มีกระบวนการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่า โดยการรีดกระจกออกมาเป็นแผ่นบาง
ๆ แล้วจับเอามาประกบกัน ซึ่งมีแผ่นฟิล์มใสทำจาก "ไวนิล"
เมื่อเกิดอุบัติเหตุชนปะทะรุนแรง
กระจกจะแตกร้าวเป็นเส้นเฉพาะบริเวณที่เกิดเรื่องเท่านั้น
ไม่ร้าวทั้งแผ่นแบบกระจก Tempered
รวมทั้งจุดที่กระจกแตกยังสามารถป้องกันลมและฝนไม่ให้ซึมเข้ามาภายในได้
จึงยังสามารถใช้งานและขับขี่ต่อไปได้ โดยทั่วไปกระจกแบบ Laminated
จะมีความทนทานอายุการใช้งานยาวนาน
กระจกนิรภัย Laminated Glass
เป็นกระจกนิรภัยสองชั้นมีฟิล์มเคลือบกั้นอยู่ตรงกลาง
ออกแบบสำหรับรถยนต์ เป็นกระจกที่ผลิตขึ้นด้วยวัตถุประสงค์
เพื่อให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถยนต์ โดยการนำกระจกนิรภัยตั้งแต่ 2
แผ่นขึ้นไปมาผนึกเข้าด้วยกัน โดยมีแผ่นฟิล์มโพลีไวนิล บิวทิเรต
(Polyvinyl Butyrate)
ที่เหนียวและแข็งแรงซ้อนอยู่ระหว่างกลางทำหน้าที่ยึดกระจกให้ติดกัน
เมื่อกระจกชนิดนี้ถูกกระแทกจนแตก แผ่นฟิล์มโพลีไวนิล
บิวทิเรตจะช่วยยึดไม่ให้เศษกระจกหลุดกระจาย
จะมีเพียงร้อยแตกหรือร้าวคล้ายใยแมงมุมเท่านั้น
กระจกนิรภัยหลายชั้นเป็นกระจกที่ให้ความปลอดภัยสูง
นิยมใช้เป็นกระจกบังลมของรถยนต์
คุณสมบัติของกระจกหน้ารถ Laminated Glass
กระจกนิรภัยหลายชั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
หรือโดนหินดีดใส่ในย่านความเร็วสูง จะช่วยลดการบาดเจ็บจากกระจกแตก
ป้องกันการทะลุทะลวง เนื่องจากการกระแทกด้วยของแข็งหรือของมีคม
ลดเสียงรบกวน เนื่องจากค่าความยืดหยุดของแผ่นฟิล์มโพลีไวนิล บิวทิเรต
ในกระจกนิรภัยหลายชั้น ประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศรถยนต์
ลดความร้อนของแสงแดดที่ผ่านเข้ามาในรถยนต์
แผ่นฟิล์มในกระจกนิรภัยหลายชั้นช่วยในการลดรังสีอัลตราไวโอเลต
การทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าโดยเฉพาะรถบรรทุก หรือรถปิกอัพ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะโดนหินดีดใส่จนแตกได้ก็จริง แต่ก็ไม่ทั้งหมด ผมเคยขับรถตาม Mazda CX-5 คันหน้าไกลมากกว่า 50 เมตร ก็ยังไม่รอด ความเร็วที่รถคันหน้าวิ่งแล้วดีดหินใส่โดยไม่ได้ตั้งใจ บวกกับความเร็วของรถ X5 ที่วิ่งเข้าใส่หินก้อนเล็กจิ๋ว ผมขับประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขนาดเห็นไฟท้ายของ CX-5 ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าลิบๆ ก็ยังไม่รอดละครับ ตอนโดนใหม่ๆ แค่กะเทาะเป็นจุดเล็กนิดเดียว รุ่งเช้าก็ลามจนเห็นได้อย่างชัดเจนจนต้องเคลมกระจกบานใหม่กันให้วุ่นวายเลยทีเดียว.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
คุณกำลังดู: กระจกหน้าโดนหินแตก มันบางจริง หรือหินมาเร็วแบบสองแรงบวก!
หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์