กุญแจรถแบตหมด กดปุ่มสตาร์ทไม่ติด แค่ทำตามนี้!

กุญแจรถแบตหมด กดปุ่มสตาร์ทไม่ติด แค่ทำตามนี้!

หากประสบปัญหากุญแจรถแบตหมด กดปุ่ม Push Start แล้วเครื่องยนต์ไม่ติด มีรูปกุญแจฟ้องบนหน้าจอ หรือแม้กระทั่งไม่สามารถปลดล็อกประตูได้ สามารถแก้ไขเบื้องต้นง่ายๆ เพียงทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

กุญแจรถ Push Start แบตหมด ทำไงดี?

  1. หากุญแจดอกสำรอง - กุญแจรถสมัยใหม่มักจะมีกุญแจสำรองซ่อนอยู่ภายในตัวรีโมตกุญแจหลัก ให้ลองกดปุ่มหรือแกะส่วนที่เป็นพลาสติกออก เพื่อดึงกุญแจสำรองออกมา เพื่อไขประตูรถตามปกติ เมื่อเปิดประตูออก สัญญาณกันขโมยอาจดังขึ้น ถือเป็นอาการปกติ
  2. หาตำแหน่งเซ็นเซอร์ - ภายในห้องโดยสารของรถจะมีเซ็นเซอร์สำหรับรับสัญญาณจากกุญแจรีโมต โดยปกติจะอยู่บริเวณใกล้กับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ หรืออาจอยู่บริเวณคอพวงมาลัย ให้ลองสังเกตสัญลักษณ์รูปกุญแจที่มีลูกศรชี้เข้าหา หรือศึกษาจากคู่มือรถ
  3. นำกุญแจรีโมตไปแตะ - นำกุญแจรีโมต (แม้แบตจะหมด) ไปแตะบริเวณเซ็นเซอร์
  4. เหยียบเบรกและกดปุ่มสตาร์ท - เหยียบเบรกค้างไว้ แล้วกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ตามปกติ เครื่องยนต์จะติดขึ้นตามปกติ
  5. รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยด่วน - หลังจากขับรถไปถึงจุดหมายที่ต้องการแล้ว ให้รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยด่วน เพื่อให้กุญแจรถสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ทำไมแค่แตะก็สตาร์ทได้?

ระบบกุญแจแบบ Smart Key หรือ Push Start นั้นออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น แม้ว่าแบตเตอรี่ในรีโมตจะหมด แต่ตัวกุญแจยังคงมีชิปที่เก็บข้อมูลรถยนต์อยู่ ทำให้สามารถนำไปแตะที่เซ็นเซอร์เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม หากรถมีการแจ้งเตือนแบตเตอรี่กุญแจรีโมตอ่อน ควรรีบเปลี่ยนก่อนแบตเตอรี่จะหมด เพื่อที่จะสามารถใช้งานกุญแจได้อย่างต่อเนื่องราบรื่นครับ

 

คุณกำลังดู: กุญแจรถแบตหมด กดปุ่มสตาร์ทไม่ติด แค่ทำตามนี้!

หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์

แชร์ข่าว