‘ลิโอเนล เมสซี่’ภารกิจสุดท้ายก่อนสั่งลา ‘เวิลด์คัพ’
'ลิโอเนล เมสซี่'ภารกิจสุดท้ายก่อนสั่งลา 'เวิลด์คัพ' ด้วยสถานะของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาลของโลก ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ขยับตัวทำอะไรในวงการลูกหนัง ย่อ...
‘ลิโอเนล เมสซี่’ภารกิจสุดท้ายก่อนสั่งลา ‘เวิลด์คัพ’
ด้วยสถานะของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาลของโลก ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ขยับตัวทำอะไรในวงการลูกหนัง ย่อมได้รับการจับตามอง
ศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งกำลังทำการแข่งขันอยู่ในขณะนี้ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินายิ่งโดนจับจ้องมากเข้าไปอีก เพราะก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์จะเปิดฉาก ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 35 ปี เขาจึงประกาศไว้อย่างชัดเจนว่า นี่จะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของตัวเองแล้ว
พอฟ้า-ขาวเริ่มต้นนัดเปิดสนามด้วยการพลิกพ่ายให้ซาอุดีอาระเบีย เมสซี่ในฐานะกัปตันทีมและตัวความหวังย่อมโดนวิจารณ์ แม้เขาจะทำประตูให้ทีมได้ นัดต่อมากับเม็กซิโก เมสซี่ทำ 1 ประตูให้ทีมเอาชนะจังโก้ ส่วนนัดสุดท้ายกับโปแลนด์ เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในเวิลด์คัพหนนี้สำหรับเจ้าตัว ถึงแม้ว่าเขาจะยิงลูกโทษไม่เข้าก็ตาม
ผ่านไป 3 นัด เมสซี่เป็น 1 ในนักเตะอาร์เจนตินาเพียง 4 คนที่ลงเล่นครบทุกนาทีในสนามร่วมกับ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, โรดริโก้ เด ปอล และ นิโคลัส โอตาเมนดี้
เมสซี่เป็นคนเดียวในทีมที่ยิงได้ถึง 2 ประตู และยังทำอีก 1 แอสซิสต์ มีสถิติยิงตรงกรอบ 9 ครั้ง มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์
ขณะที่อาร์เจนตินาเป็นทีมที่ยิงตรงกรอบมากที่สุดในฟุตบอลโลกหนนี้ (นับสถิติถึงจบ 3 นัดของกลุ่มเอ-ดี) รวม 22 ครั้ง
เกมเตะกับโปแลนด์ในนัดสุดท้ายของกลุ่มบี เมสซี่ตอกย้ำศักยภาพของตัวเองด้วยการสร้างสรรค์เกมรุก ทั้งพาบอลบุกเข้าไปในกรอบเขตโทษเอง สลับกับการเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมในพื้นที่อันตรายได้อย่างแม่นยำ
เขามีสถิติสัมผัสบอลถึง 98 ครั้งในนัดนี้ มากกว่า 2 นัดแรกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังพยายามยิงประตู 7 ครั้ง มีส่วนโดยตรงกับการสร้างโอกาสทำประตู 5 ครั้ง และเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้ 5 ครั้ง ทั้ง 2 สถิติหลังต่างก็มากกว่าทุกคนในสนาม
เหตุผลหนึ่งที่เกมของเมสซี่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่านัดกับซาอุฯและเม็กซิโก เพราะโปแลนด์เปิดโอกาสให้เขามีพื้นที่เล่นบอล ทำให้เมสซี่ขับเคลื่อนเกมรุกของทีมได้อย่างไหลลื่น
หลังจากนี้เมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ เชื่อว่าหลายทีมคงไม่ปล่อยให้เมสซี่ได้มีเวลาและพื้นที่เล่นมากนัก ประกอบกับแต่ละทีมต้องเล่นอย่างระมัดระวังยิ่งขึ้น เพราะประตูเดียวอาจหมายถึงความพ่ายแพ้ จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าเมสซี่จะรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไร
ด่านแรกกับการผ่านรอบแรกในฐานะแชมป์กลุ่มถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว หลังจากนี้จะไปถึงเป้าหมายใหญ่สุดอย่างตำแหน่งแชมป์โลกหรือไม่ เหลืออีก 4 นัดเป็นเครื่องพิสูจน์
ก่อนหน้าการแข่งขันจะเปิดฉาก อลัน เชียเรอร์ อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษซึ่งทำหน้าที่นักวิจารณ์ ทำนายเชิงเอาใจช่วยว่าทีมฟ้า-ขาวจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกหนนี้ เพื่อที่เมสซี่จะได้สั่งลาทัวร์นาเมนต์ได้อย่างสวยหรูที่สุด และเพื่อเป็นการยุติข้อถกเถียงเรื่อง “GOAT” หรือแข้งที่เก่งที่สุดตลอดกาลสำหรับชาวอาร์เจนไตน์อีกด้วย
เชียเรอร์บอกว่า ที่ผ่านมา คนยังถกเถียงกันหนักว่าระหว่างเมสซี่กับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานลูกหนังผู้ล่วงลับ ใครจะเป็นที่สุดมากกว่ากัน ซึ่งมาราโดน่านั้นมักได้รับเครดิตในฐานะที่พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกโลกในปี 1986 มาครอง แต่ถ้าเมื่อไรเมสซี่ทำได้บ้าง เรื่องนี้ก็คงไม่ต้องเถียงกันต่อไป
ประเด็นนี้จะด่วนฟันธงอย่างที่เชียเรอร์แสดงความเห็นคงไม่ได้ เพราะชาวอาร์เจนไตน์รักและเทิดทูนมาราโดน่าประหนึ่ง “พระเจ้า” มาตลอดเส้นทางลูกหนังของเขา แม้ในวันที่สิ้นลมไปแล้ว
แต่ที่แน่ๆ คือทุกวันนี้ แฟนบอลชาวอาร์เจนไตน์ทั้งในกาตาร์และที่บ้านเกิด ต่างมีแคมเปญร่วมกันในการปลุกขวัญและรวมใจนักเตะและเพื่อนร่วมชาติด้วยการวาดรูปเมสซี่เคียงข้างมาราโดน่า ให้ตำนานแข้งผู้ล่วงลับช่วยเป็นกำลังให้ทีมประสบความสำเร็จ
ถึงตอนนั้น การมีเทพเจ้าลูกหนังอีกองค์สำหรับพวกเขา คงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงแม้แต่น้อย
คุณกำลังดู: ‘ลิโอเนล เมสซี่’ภารกิจสุดท้ายก่อนสั่งลา ‘เวิลด์คัพ’
หมวดหมู่: ฟุตบอลต่างประเทศ