ละครแห่งปี 2565

ถ้าช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมาเปรียบเหมือนคนที่เดินอยู่ในถ้ำมืดมิด ในปี 65 ก็เหมือนคนที่มองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ไวรัสร้ายเภทภัยของโลกเริ่มสิ้นฤทธิ์ เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัว แม้จะเจอวิกฤติน้ำมันโลกบ้าง แต่ถือว่าเล็กน้อยถ้าเทียบกับวิกฤติโควิด–19 วงการบันเทิงกลับมาคึกคัก ดารากลับมาทำงานกองถ่ายรีบเร่งเดินเครื่อง ละครใหม่กลับเข้าสู่ระบบ สถานีโทรทัศน์มีรายได้เข้า

อย่างไรก็ตามทีวีก็ต้องแข่งขันกับโซเชียลเหนื่อย ละครก็ต้องทำงานหนักเพื่อให้มีเรื่องใหม่มาออนแอร์ ดังนั้น ปีนี้จึงทำให้การเลือกเฟ้น “ละครแห่งปี” มีความคึกคัก สู้กันอย่างสมศักดิ์ศรี

เริ่มที่ ช่อง 3 รวมละครตลอดปีในช่วงค่ำเวลาไพรม์ไทม์ 29 เรื่อง เป็นละครก่อนข่าว 9 เรื่องรีรันซะ 3 เรื่อง ละครหลังข่าวเป็นละครใหม่ล้วน 20 เรื่อง โดยละครปังมาตั้งแต่ต้นปีด้วย “สร้อยสะบันงา” ละครที่แฟนๆจิ้นคู่พระนางหนักมาก ก่อนที่ปลายปี นาย-ณภัทร จะสารภาพรัก ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก แฮปปี้เอนดิ้งทั้งในจอและนอกจอ

“เกมปรารถนา” ที่นำแสดงโดย อาเล็ก-ธีรเดช และ ณิชา-ณัฏฐณิชา เป็นละครดีเด่นเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว นักแสดงยอดเยี่ยม บทละครก็ดีมีที่มาที่ไปพลิกไปพลิกมาน่าติดตาม

“ซ่านเสน่หา” ก็ได้รับคำชื่นชม โดยเฉพาะ มิ้นต์-ชาลิดา ที่ได้โชว์ฝีมือจัดจ้าน และ อาปุ๊-มนตรี ที่ยืนหนึ่งตลอดเรื่อง

“คุณหมีปาฏิหาริย์” เป็นความพยายามของช่อง 3 ที่จะเปิดตลาดละครสายวายหาความท้าทาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีปาฏิหาริย์

“พิศวาสฆาตเกมส์” พระเอกนางเอก เจมส์-จิรายุ และ ญีนา ซาลาส ได้โชว์ฝีมือการแสดงเต็มที่ ฟาดกันสนุกมาก จนแฟนละครอยากให้มีรีแมตช์

“คือเธอ” ละครที่เดินเรื่องได้ดียันจบ คู่พระนาง “ก้าวกล้า” “สายขิม” ที่รับบทโดย มาริโอ้ เมาเร่อ และ ญาญ่า-อุรัสยา ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย

“ซุปตาร์ 2550” เป็นละครที่กำกับเรื่องแรกของ เคน-ธีรเดช ที่ก็เล่นเป็นพระเอกเองด้วย ประกบกับนางเอกคู่ขวัญในตำนาน แอน ทองประสม และยังคว้าพระเอกนางเอกของช่องมาร่วมเล่นในหลายฉาก แม้ในทีวีเรตติ้งไม่งามแต่ตามแพลต ฟอร์มโซเชียลกลับดี

“ลายกินรี” เป็นการรีเทิร์นของคู่จิ้นสุดฮอต ณเดชน์ & ญาญ่า อีกครั้งจึงตั้งความหวังไว้สูง แต่เรตติ้งกลับไม่ปังดังที่คาด

“มัดหัวใจยัยซุปตาร์” เป็นการคัมแบ็กของตัวแม่ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่งานนี้ต้องเป็นเจ๊ดันให้ กลัฟ-คณาวุฒิ สร้างปรากฏการณ์ออนแอร์แค่เบรกแรกแต่ละครขึ้นเทรด์ทวิตอันดับ 1 ในไทย และอันดับ 2 ของโลกไปเฉยเลย

ช่อง 7HD ปีนี้มีละครออนแอร์ 29 เรื่องแบ่งเป็นหลังข่าวค่ำ 21 เรื่องรีรันซะ 4 เรื่อง นอกนั้นเป็นก่อนข่าวค่ำ 8 เรื่อง ละครเด่นๆเริ่มตั้งแต่ต้นปี “สามีชั่วคืน” ที่เกิดคู่เคมีใหม่ ยูโร-ยศวรรธน์ กับ พิ้งค์พลอย-ปภาวดี ที่แฟนๆหลงรัก

“เสาร์ 5” ก็มาแรงละครบู๊แอ็กชันเต็มคาราเบลตามสไตล์ค่าย 9 บีเวอร์ ทำเรตติ้งตอนจบสูงสุดของช่อง 7.1

“เขยบ้านไร่ สะใภ้ไฮโซ” ละครโรแมนติกคอม เมดี้ที่รีเทิร์นคู่จิ้นสุดฮอต เข้ม–หัสวีร์ และ มุกดา–นรินทร์รักษ์ ซึ่งก็ทำให้แฟนคลับนอนหลับฝันดี

“สายเลือดสองหัวใจ” เรื่องนี้ได้เห็น มิกค์ ทองระย้า กับการท้าทายบทฝาแฝด และประกบ ฐิสา-วริฏฐิสา เคมีเข้ากันจนถูกจิ้นนอกจอ

“เข็มซ่อนปลาย” เป็นละครที่หลายคนรอคอยกับการคัมแบ็กบ้านเก่าของนางเอกดัง นุ่น-วรนุช ปะทะกับ ฐิสา-วริฏฐิสา เป็นการฟาดกันมันส์มากของ 2 นางเอกสายฝีมือ ประชันกับ 3 พระเอก บูม-กิตตน์ก้อง, ยูโร-ยศวรรธน์ และ เก้า-จิรายุ

ส่งท้ายปีสุดมันส์ด้วยละครบู๊ 3 เรื่องตลอด 7 วันไม่ให้พักได้แก่ “ชาติพยัคฆ์ คมนักเลง” “สัจจะในชุมโจร (เสือสั่งฟ้า 3)” และ “ป้อมปางบรรพ์” ขณะที่ละครก่อนข่าวค่ำอย่าง “หงส์ฟ้า” ก็มาแรงเรตติ้งแซงละครหลังข่าวหลายเรื่อง

ช่องวัน 31 เป็นปีที่เถลิงขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่สายละครร่วมกับช่อง 3 และช่อง 7 ได้เต็มตัว โดยปีนี้มีละครทั้งหมด 17 เรื่อง เป็นหลังข่าวค่ำ 12 เรื่องรีรันซะ 2 เรื่อง และก่อนข่าวค่ำอีก 5 เรื่อง สำหรับแนวละครค่อนข้างชัดเจนโดยก่อนข่าวค่ำจะเน้นฐานคนดูต่างจังหวัดโดยเฉพาะกลุ่มใหญ่ภาคอีสาน “ทายาทพันธุ์ข้าวเหนียว” “บอดี้การ์ดหมอลำ” “ซิ่นลายโส้” ยกเว้น “กู้ภัยหัวใจสู้” ที่เป็นขวัญใจทุกเพศทุกวัยโกยเรตติ้งกระจายถึงขั้นต้องยืดตอนออกไป และยังสร้างกระแสคู่จิ้นคู่จริง ตงตง–กฤษกร และ เบสท์–รักษ์วนีย์ คำสิงห์

ส่วนหลังข่าวค่ำที่เด่นๆก็มี “พิษรักรอยอดีต” ที่ บี–น้ำทิพย์ กลับมาฟาดอีกครั้ง และยังได้เห็น มารี เบรินเนอร์ และ ไบร์ท–นรภัทร ที่โชว์ฝีไม้ลายมือจัดเต็มอีกด้วย, “สิเน่หาส่าหรี” ที่ได้ ใบเฟิร์น–พิมพ์ชนก มาประกบคู่ ณอห์ณ จินดาโชติ สายฝีมือกับสายฝีมือมาเจอกัน, “ใต้หล้า” ละครดราม่าฟอร์มแรง ชื่อของ ต่อ–ธนภพ เชื่อฝีมืออยู่แล้ว เข้าชิงรางวัลทุกปี นอกจากนี้ ยังได้เห็นออร่าเปล่งประกายของ เบญ–เรวิญานันท์ และ ไบร์ท–นรภัทร ที่แจ่มชัดจัดเต็ม, “คุณชาย” เป็นละครดราม่าที่ซ่อนความเป็นละครสายวายเอาไว้ ทำให้ได้แฟนละครที่กว้างจนโกยเรตติ้งได้มากมาย อีกทั้งกระแสความฟินของคู่จิ้น ฟิล์ม–ธนภัทร กับ แจม–รชตะ ในโซเชียลก็ร้อนแรงเช่นกัน

ช่อง 8 ปีนี้มีละคร 8 เรื่อง เป็นก่อนข่าวค่ำ 3 เรื่อง และหลังข่าวค่ำ 5 เรื่อง แม้จะค่อนข้างน้อยแต่ก็เน้นๆทุกเรื่อง โทนละครจะรสจัดจ้าน อาทิ “มงกุฏกรรม” ที่ดาราตัวพ่อตัวแม่รุ่นใหญ่รุ่นเล็กประชันกันแน่นจอไปหมด, “บ่วงใบบุญ” แซ่บสุดในสามโลกเมื่อ กวาง-กมลชนก คืนสังเวียนบทร้ายในรอบ 20 ปี พบกับ จอย-ศิริลักษณ์ ที่คืนจอในรอบ 9 ปี อีกทั้งยังอัดแน่นไปด้วยดาราคุณ ภาพ อาทิ โอ-อนุชิต,พีท ทองเจือ, เขตต์ ฐาน ทัพ ฯลฯ, “เล่ห์ลุนตยา” ละครดราม่าที่คว้า ยุ้ย-จีรนันท์ มาปะทะกับ วาววา-ณิชชา, ไนกี้-นิธิดล, ฟลุค-จิระ, วิลลี่ แมคอินทอช, คารีสา สปริงเก็ตต์, ออง ตวน ปินโต ฯลฯ, “ร่านดอกงิ้ว” เป็นละครอีกเรื่องที่ ยุ้ย-จีรนันท์ มา ปะทะกับดาราสายฝีมือมากมาย อาทิ ธันน์–ธนากร, เบนซ์–
ปุณยาพร, ออย–ธนา ฯลฯ, “ศีรษะมาร” ละครสยองขวัญที่คว้า หยาดทิพย์ ราชปาล มาช่อง 8 ครั้งแรก

ปี 65 เป็นการกลับมาแข่งขันกันเต็มคาราเบลอีกครั้งของละครจอแก้ว เราจึงได้เห็นละครดีที่เข้าตามากมายให้พิจารณา “ละครแห่งปี” เริ่มจาก “คือเธอ” ทางช่อง 3 แก่นของเรื่องตรงกับคำที่ว่า “สักวันเราจะเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่” ซึ่งเรื่องราวของ “ก้าวกล้า” และ “สายขิม” มีหลายความบังเอิญในการมาเจอกันมีความสัมพันธ์กันจนเกิดเรื่องราวมากมาย อีกทั้งเรื่องนี้เป็นการเจอกันครั้งแรกของ มาริโอ้ และ ญาญ่า–อุรัสยา ดังคำกล่าวเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่ เพราะเคมีคู่นี้ดีต่อใจมาก จนมีคำถามว่า ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ไปอยู่ไหนถึงเพิ่งมาเล่นคู่กัน ถือว่าเป็นละครที่งดงามทั้งเนื้อหาและนักแสดงมากที่สุดเรื่องหนึ่ง, “เข็มซ่อนปลาย” ทางช่อง 7 อาจไม่ใช่ละครที่เรตติ้งสูงที่สุดของช่อง แต่ก็เป็นละครที่ดีพร้อมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการวางตัวนักแสดงที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการฟาดของ 2 นางเอก นุ่น–วรนุช และ ฐิสา–วริฏฐิสา บท “เยาวยอด” ของ นุ่น โดดเด่นมาก อารมณ์หลากหลายและสุดโต่งในทุกด้านจนเป็นตัวเต็งคว้ารางวัลดารานำหญิงได้เลย ส่วน ฐิสา ก็พลิกบทบาทได้สุดติ่งจริงๆ ขณะที่บทของ 3 พระเอกก็โดดเด่นไม่แพ้กัน

“คุณชาย” เนื้อเรื่องเยี่ยมเดินเรื่องเข้มข้นเร้าใจในสไตล์ช่องวัน ดาราระดับฝีมือก็แน่นทั้งรุ่นใหญ่ แท่ง ศักดิ์สิทธิ์, ป๊อก–
ปิยธิดา, เป้ย–ปานวาด และรุ่นลูก ฟิล์ม–ธนภัทร, แจม–รชตะ, ตงตง–กฤษกร โดยเฉพาะการจับจิ้นคู่วาย ฟิล์ม และ แจม ที่แฝงเข้ามาในเส้นดราม่าอย่างกลมกลืนไม่ดูยัดเยียด ทั้งหมดทั้งมวลทำให้เรื่องนี้ฮอตจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในไทยและของโลกเลยทีเดียว, “ใต้หล้า” ละครคุณภาพอีกเรื่องของช่องวัน โดดเด่นด้วยนักแสดงหลายรุ่นที่กระจายบทได้ทั่วถึง ต่อ–ธนภพ เรื่อง ดราม่านั่นสุดยอดอยู่แล้ว เรื่องนี้เด่นพอจะส่งชื่อเข้าชิงรางวัลดารานำชายได้สบายๆ ที่มาแรงอีกคนคือ ไบร์ท–นรภัทร ซึ่งบทเด่นเบียดบี้กันมากับ ต่อ เลยทีเดียว และถือเป็นชิ้นโบแดงได้เลยของ เบญ–เรวิญานันท์ มาพร้อมกับเรตติ้งดีกระแสโซเชียลแรงจนติดอันดับ 1 การค้นหาในกูเกิลในปี 65, “บ่วงใบบุญ” ละครร้อนแรงแห่งช่อง 8 ส่งเข้าประกวด ด้วยความที่ได้ดาราสุดยอดฝีมือทั้ง กวาง–กมลชนก และ จอย–ศิริลักษณ์ มาประชันฝีมือกัน แค่ดูคู่นี้ฟาดกันก็คุ้มแล้ว และยังเพียงพอที่จะส่งชื่อของคู่นี้เข้าชิงรางวัลดารานำหญิง อีกคนก็ โอ–อนุชิต กับบทที่โหดหินกับคนป่วยโรคสองบุคลิกเดี๋ยวดีเดี๋ยวบ้า

ละครที่เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 5 เรื่องมีความโดดเด่นที่หลาก หลาย แต่ที่คล้ายกันคือต่างก็เป็นละครคุณภาพเยี่ยม ซึ่งถ้าจะให้เลือกเพียงหนึ่งเดียวแล้วก็ ขอมอบให้ “ใต้หล้า” คุณค่าที่คู่ควรสำหรับ “ละครแห่งปี 65”.

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novelและ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ

คุณกำลังดู: ละครแห่งปี 2565

หมวดหมู่: ความบันเทิง