ละครเวที “แฟนฉัน” กับ 5 เรื่องดีๆ ของละครเวทีที่มาเพื่อฮีลใจและชาร์จพลังความสุข!
สิ่งที่แฟนๆ ไม่ควรพลาดใน “แฟนฉัน The Musical” ละครเวทีฮีลใจแห่งปีที่ไม่ควรพลาด
ที่ผ่านมา แฟนฉัน เป็นภาพยนตร์ระดับตำนานที่หลายคนพูดถึง จากการนำเสนอเรื่องราวในยุคสมัยพ.ศ. 2528 แบบเก็บรายละเอียด และยังนำเสนอเรื่องราวความปั๊ปปี้เลิฟได้เรียล ตรงกับหลายๆ คนที่น่าจะมีเจี๊ยบและน้อยหน่าของตัวเอง และล่าสุดในวันที่ภาพยนตร์มีอายุครบ 20 ปี เราก็ได้ชม แฟนฉัน The Musical แล้ว และในวันที่เราชม ก็มีสิ่งที่ทำฮีลใจคนดูอย่างเราสุดๆ
การกลับไปชมเรื่องราวพาร์ทเด็กที่เต็มอิ่มสุดๆ
ใน แฟนฉัน Musical นั้นเรียกได้ว่ามากับฉากในความทรงจำจากภาพยนตร์แบบครบๆ แม้ว่าจะมีบางช่วงที่หายไปบ้าง แต่ซีนที่ได้อยู่ในมิวสิคัลนั้นออกแบบมาได้ดีจนเราอุทานว่า “คิดได้ไง” หลายรอบ โดยเราบอกเลยว่า จับตาฉาก “กระบี่ไร้เทียมทาน” และพาร์ทที่เจี๊ยบ พิสูจน์ตัวเองกับแก๊งค์เด็กผู้ชายที่ออกแบบมาดีมากๆ และหลายฉากก็เคารพความเป็นต้นฉบับ เรียกได้ว่าใครที่ชอบภาพยนตร์หรือคิดถึงวัยเด็กช่วงปีพ.ศ. 2528 จะได้ย้อนความทรงจำที่ฟีลกู้ด โดยฟีลลิ่งที่ได้ในวันนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม กับภาพอดีตที่ถูกตีความใหม่ในละครเวที
สตอรี่ไลน์วัยผู้ใหญ่ของเจี๊ยบ และ มาโนช ที่ไม่มีในภาพยนตร์ (แต่ดีมากๆ)
ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเป็นคนที่รู้สึกกลางๆ กับภาพยนตร์แฟนฉันต้นฉบับ เพราะส่วนตัวมองว่าพาร์ทวัยผู้ใหญ่นั้นมีอะไรน่าสนใจให้เล่นและถ่ายทอด แต่เมื่อมาชมเวอร์ชั่นมิวสิคัล ก็มีการขยายเรื่องราวของเจี๊ยบมากขึ้นในวัยผู้ใหญ่ ทั้งเรื่องตัวตน และปมอดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบัน รวมถึงได้เห็นการที่เขาแก้ไขความผิดพลาดในอดีต เรียกได้ว่าเป็นภาคแยกเบาๆ ของแฟนฉันเวอร์ชั่นหนังเลย
และนอกจากตัวละครเจี๊ยบแล้ว หลายๆ คนที่ดูภาพยนตร์อาจจะสงสัยเรื่องอนาคตของแก๊งค์เด็กผู้ชาย และทางทีมงานก็เลือกมาโนชมาขยายบท ซึ่งเรามองว่าเป็นตัวละครที่สตอรี่ไม่มากในพาร์ทภาพยนตร์ แต่ในเรื่องนี้ได้ออกแบบตัวละครมาโนชได้น่ารัก และทำให้เราดีใจเมื่อเห็นโมเมนต์เพื่อนวัยเด็กได้เป็นเพื่อนวัยผู้ใหญ่ ส่วนตัวเราขอบอกเลยว่า การเติมพาร์ทผู้ใหญ่ ทำให้เรารู้สึกดีกับจักรวาล “แฟนฉัน” มากขึ้น เพราะคำถามหลายอย่างที่เคยมีได้ถูกคลี่คลาย และทำให้เราอยากเห็นการขยาย “แฟนฉัน” เป็นละคร หรือซีรีส์เหมือนกัน เพราะมีหลายสตอรี่ไลน์ที่น่าจะนำเสนอได้อีก ทั้งชีวิตน้อยหน่า กับ เจี๊ยบ ตอนเป็นวัยรุ่น
นักแสดงที่เติมชีวิตให้กับตัวละครได้เกิน 100%
ในเรื่องนี้บทของเจี๊ยบ ถ่ายทอดโดย ไอซ์-พาริส อินทรโกมารสุต ซึ่งแม้อาจจะดูต่างจากน้องไข่ตุ๋น แต่ทำหน้าที่ร้อง เต้น แสดง และเอาคนดูอยู่จนเราเซอร์ไพรส์ และเชื่อว่านี่จะไม่ใช่มิวสิคเรื่องสุดท้ายของเขาแน่นอน ขณะที่ เอินเอิน-ฟาติมา เดชะวลีกุล ศิษย์เก่า The Star Idol ผู้รับบท มะนาว แม้จะออกมาไม่เยอะ แต่ก็อิมแพ็คทุกซีน และมีฝีมือการถ่ายทอดอารมณ์เศร้าดี (จนเราเสียน้ำตาให้เธอ 1 ซีน) และเรามองว่าเธอจะเป็นอีกมิวสิคัลสตาร์ที่น่าจับตาในบ้าน Scenario
ส่วนนักแสดงเด็กทุกคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถสูง ที่ออดิชั่นมาได้สมบทบาท และรู้สึกว่าน้องๆน่าทึ่งมาโดยนอกจากน้อง ไข่ตุ๋น ญาณรินทร์ จากเวที Golden Song ในบทของเจี๊ยบ ที่ น้อง อิงอิง รอิงดาว รับบทน้อยหน่า ที่ถ่ายทอดความน่ารักและหลากหลายอารมณ์ได้เกินวัย และเก็บรายละเอียดดีสุดๆ, น้องสุขใจ เข็มกลัด (ลูกชายเต๋า สมชาย) รับบท แจ๊ค นอกจากนี้ยังมีน้องฟ้าโปรด (ลูกสาวสุดรักของ นัท มีเรีย), น้องพร้อม-ณัติวิชญ์ โกศลพิศิษฐ์ (ลูกชายบ๊อบ บดินทร์), น้องเฌอ ณิชกานต์, น้องลิยา อลิย่า, น้องเธียเตอร์ พิชญธิดา, น้องสีน้ำ ชลพินทุ์, น้องภู่กัน สฤชน์, น้องแก้วตา จิณณ์ณิตา, น้องบีเอ็ม ภดนัย, น้องภูมิ ศรีนฤพัฒน์, น้องชาดำ ปุญญพัฒน์ ซึ่งการแสดงร้องเต้น รวมถึงอินเนอร์ของน้องๆ ในแต่ละซีน ทำให้เราสงสัยว่าตอนเราอายุเท่าน้องๆ เราทำอะไรอยู่นะ เพราะแต่ละคนถ่ายทอดคาแร็คเตอร์และทำหน้าที่ได้เป๊ะไม่แพ้นักแสดงผู้ใหญ่เลย
และอีกสองคนที่ต้องพูดถึงคือ แอม-เสาวลักษณ์ ลีลาบุตร ที่เราขอไม่บอกว่าเธอมาฉากไหน แต่บอกเลยว่าใครที่เป็นแฟนเพลงของเธอจะแฮปปี้แน่นอน และคนที่เรามองว่าเป็นลาสต์บอสที่ทำให้เราลุ้นทุกฉากอย่าง บูม-สหรัฐ เทียมปาน ในบทมาโนชที่เป็นเนิร์ดสุดน่ารัก และคีพคาแร็คเตอร์ดีตลอดเรื่อง จนช่วงหลังๆ เราเห็นหน้าก็ขำตั้งแต่ยังไม่ทันพูดอะไร แต่พอบูมร้องเพลงก็สะกดคนดูได้สุดๆ
ฉากอลังการ และเก็บรายละเอียดได้ละเอียดสุดๆ
ฉากต่างๆ ของแฟนฉัน The Musical นั้นก็ยังคงทำให้เราว้าวไม่หยุด และอุทานว่า “มาได้ไง” เรื่อยๆ อย่างเช่นเมืองเพชรบุรี เวทีคอนเสิร์ต สนามเด็กเล่น รวมถึงซีนเพลง “กระบี่ไร้เทียมทาน” บอกเลยว่าใครที่ดูงานสเกลรัชดาลัยเธียเตอร์ไม่ผิดหวังแน่นอน
แต่สิ่งที่เราประทับใจสุดๆ และมองว่าเป็นความท้าทายคือ ต้องถ่ายทอดเรื่องราวใน พ.ศ. 2528 และ พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นอดีตไปแล้ว โดยมีการเก็บรายละเอียดในฉากและพร็อพดีมากๆ รวมถึงหลายๆ คำในสคริปต์ที่มาจากยุคนั้น โดยการเก็บรายละเอียดนั้นเรียกได้ว่าดีเทลมากๆ ทั้งของในห้องเจี๊ยบที่ตรงยุคยันทีวีจอแบน และนิตยสารและโปสเตอร์ศิลปินอย่างปาล์มมี่และวงกะลาในฉากคลื่นวิทยุและร้านขายหนังสือ ริงโทนโทรศัพท์เจี๊ยบ หรือแม้แต่ฉากหลังของเมืองเพชรบุรีที่มีต้นปาล์ม คือแบบไม่เหลืออะไรให้จับผิด อยากให้มาดูด้วยตัวเองจริงๆ นะ
คอนเสิร์ตที่ซ่อนอยู่ในละครเวที
ด้วยความที่ภาพยนตร์แฟนฉัน เป็นที่พูดถึงเพลงประกอบ ทำให้ในมิวสิคัลเราก็ได้เห็นเพลงเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็น “ใจเธอใจฉัน” ของ 18 กะรัต, “รักครั้งแรก” ของ ชาตรี, “ประตูใจ” กับ “รักคือฝันไป” ของ สาว สาว สาว“,”คอนเสิร์ตคนจน” ของ นกแล และอีกมากที่ถูกนำมาร้องโดยตัวละครที่แต่ละคนทำได้ดีมากๆ จนเหมือนเป็นคอนเสิร์ต
และนอกจากเพลงที่กล่าวมา ยังมีเพลงยุค 90 อย่าง “ฉันเลว” ของ แอม เสาวลักษณ์, “ทิ้งรักลงแม่น้ำ” ของ Y NOT 7 รวมถึงเพลงที่ต้นฉบับเป็นเสียงของ จั๊ก-ชวิน จิตรสมบูรณ์ ผู้รับบทเจี๊ยบวัยผู้ใหญ่ในภาพยนตร์โผล่มาด้วย และนอกจากการร้องในสตอรี่ไลน์ ก็ยังมีโมเมนต์ที่ทุกคนได้ร้องเพลงกับตัวละครราวกับอยู่ในเรื่องราวอีก
ที่เล่ามานี่คือส่วนหนึ่งของความสนุกในละครเวที แฟนฉัน The Musical และยังมีอีกมากที่รอทุกคนให้มาชมในวันที่ 6-26 มิถุนายนนี้ ที่โรงละครรัชดาลัย เธียเตอร์ บอกเลยว่างานนี้เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดจริงๆ
คุณกำลังดู: ละครเวที “แฟนฉัน” กับ 5 เรื่องดีๆ ของละครเวทีที่มาเพื่อฮีลใจและชาร์จพลังความสุข!
หมวดหมู่: หนัง-ละคร