ลองของจริง ทดสอบจิ๋วไฮบริด HONDA CITY HATCHBACK e:HEV

Honda City Hatchback รุ่น e:HEV RS เครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 109 แรงม้า 253 นิวตันเมตร 0-100 ใน 9.9 วินาที ราคา 849,000 บาท

ลองของจริง ทดสอบจิ๋วไฮบริด HONDA CITY HATCHBACK e:HEV

หลังจากความสามารถของ City Hatchback 1.0 เทอร์โบสามสูบ รถเล็กเครื่องจิ๋วแต่ขับมัน ล่าสุด Honda เปิดตัว City Hatchback เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่น e:HEV ยานยนต์ฟูลไฮบริดแฮทฝตช์แบ็ก โดยใช้การเปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก e:HEV รุ่น 5 ประตู มีการพัฒนาต่อยอดจาก City เจเนอเรชันที่ 5 เพื่อเพิ่มทางเลือกของไลน์อัปไฮบริด Honda ระบบขับเคลื่อนที่เน้นความประหยัด ห้องโดยสารมีพื้นที่อเนกประสงค์ เอกลักษณ์สไตล์รถยนต์แฮตช์แบ็กไซส์เล็กที่เน้นความคล่องตัว เทคโนโลยี Full Hybrid ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD ระบบความปลอดภัย Honda SENSING จัดมาครบ ในราคาที่แรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน!

City Hatchback e:HEV เวอร์ชัน RS คันทดสอบ มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งรอบคันคล้ายกับ City Harchback 1.0 เทอร์โบ แต่มีบางจุดที่แสดงออกถึงความแตกต่าง เช่น โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV รูปลักษณ์ของ City Hatchback ออกแบบภายใต้แนวคิด Energetic Hatchbackโลโก้ e:HEV ที่ด้านท้าย สีใหม่น้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) สีเดียวกับ Civic RS

กระจังหน้าแบบ Gloss Black สัญลักษณ์ RS กันชนหน้า-หลัง Sport RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันและไฟท้ายแบบ LED ไฟหน้าติดตั้งระบบปรับยกหรือลดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ล้ออัลลอยแบบสปอร์ตขนาด16 นิ้ว รมดำ ยาง Yokohama Bluearth A ไซส์ 185/55R16

ไฟท้ายทรงใหม่ของ Hatchback สวยงามและเข้ากับบั้นท้ายสไตล์แฮตช์แบ็ก ส่วนท้ายของมันที่ไปคล้ายกับท้ายของ Mercedes-Benz new A-Class Hatchback ในขณะที่รุ่นซีดาน 4 ประตู มีทรงของไฟท้ายคล้าย BMW Series-3 G20 งานออกแบบส่วนท้ายของรถแฮตช์แบ็ก 5 ประตูนั้นทำให้สวยงามลงตัวยากอยู่เหมือนกัน แต่รถอย่าง City Hatchback e:HEV กลับทำได้ดี มิติตัวถัง มีความยาว 4,349 มิลลิเมตร กว้าง 1,748 มิลลิเมตร สูง 1,488 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,589 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,497 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,483 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 135 มิลลิเมตร ความจุถังเชื้อเพลิง 40 ลิตร น้ำหนัก 1,231 กิโลกรัม หนักกว่า City Hatchback 1.0 Turbo 50 กิโลกรัม

ห้องโดยสารของ New City Hatchback RS e:HEV ใช้พลาสติกเกรดปานกลางและวัสดุพวกไวนิล Honda ใช้ความพยายามในการตกแต่งให้มันมีห้องโดยสารที่ดูดี แดชบอร์ดทำจากพลาสติกฉีดขึ้นรูปเชื่อมต่อกับคอนโซลกลาง ช่องแอร์ทรง 5 เหลี่ยมล้อมกรอบด้วยพลาสติกสีเงินเพื่อยกระดับความหรู เบาะนั่งปรับด้วยมือหุ้มด้วยหนังและผ้าเนื้อดีตัดเย็บอย่างละเอียดด้วยการโชว์ตะเข็บด้ายสีแดง เบาะคู่หน้าหนังกลับปรับด้วยมือ ส่วนเบาะหลังก็ยังมีพื้นที่กว้างมากพอสำหรับผู้ใหญ่ตัวโตๆ สองคน จุดเด่นของ City Hatchback ก็คือช่องเก็บของ ที่วางแก้ว ทั้งบริเวณแผงประตูทั้งสี่บานและที่คอนโซลกลาง พนักเท้าแขนกึ่งกลางระหว่างเบาะคู่หน้า แม้จะทำให้รู้สึกสบาย แต่ถ้าผู้โดยสารด้านข้างคนขับวางแขนลงไปบางทีก็จะโดนแขนคนขับแบบไม่ตั้งใจ! ตำแหน่งที่สบายก็คือเบาะหลังสำหรับคนที่มีรูปร่างปกติ พื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะ ในจุดนี้ City Hatchback ทำออกมาได้ดี

ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย ควบคู่ไปกับการจัดวางเพื่อใช้งานได้สะดวกซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของค่าย Honda เสริมด้วยการใช้เส้นสายในแนวนอน มอบความรู้สึกโปรงโล่ง วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ Piano Black พื้นที่ห้องโดยสารกว้างใช้ได้ นั่งขับหรือนั่งโดยสารสบายตัวไม่อึดอัด ภายในโทนสีดำ มาพร้อมเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยแถบสีแดง เบาะนั่งอัลตรา ซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของฮอนด้า ได้แก่

Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง

Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว

Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง

Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

มาตรวัดทรงกลมผสมระหว่างจอภาพมาตรวัดกับมาตรวัดความเร็วแบบเข็ม ออกแบบให้อ่านค่าได้ง่ายทั้งวัดพลังงานและวัดความเร็วที่มีขนาดเท่ากัน ใจกลางของมาตรวัดสเกลพลังงาน ออกแบบให้เป็นจอแสดงข้อมูล MID multi information display ใช้การสั่งงานด้วยปุ่มกดข้างๆ เพื่อเลือกดูค่าต่างๆ เช่น การทำงานของระบบไฮบริดเลือกดูการแสดงผลของอัตราสิ้นเปลือง ระดับเชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง เวลาแบบตัวเลข อุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร สเกลวัดการใช้พลังงาน ทริปมิเตอร์ A-B

จอแสดงผลกลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว เป็นจอภาพแบบใหม่ที่มีความคมชัดใช้ได้ สามารถใช้งานระบบเครื่องเสียง 8 ลำโพง (หน้า 4 หลัง 4) ผ่านจอภาพ รวมถึงการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น Apple CarPlay Google Maps เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วยระบบบลูทูธ เล่นเพลงผ่าน USB วิทยุ AM/FM iPod เป็นหน้าจอมอนิเตอร์ระบบสัมผัสแบบใหม่ที่ใช้งานง่าย แถมยังมีกล้องมองหลังที่คมชัดมากติดมาให้ กล้องมองหลังทำงานร่วมกับตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง เมื่อขับในตอนกลางคืนตัวเลนส์ก็ยังให้ภาพที่ค่อนข้างคมชัด แม้จะถอยหลังในที่มืด แต่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นอีกจุดที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับถอยหลังเพื่อจอดในพื้นที่คับแคบ และกล้องที่อยู่ใต้กรอบกระจกมองข้าง ด้านซ้าย

พวงมาลัยทรงสามก้านหุ้มหนังแท้เกรดดี พอจับพวงมาลัยก็จะรู้สึกได้ถึงหนังที่ใช้หุ้ม ความนุ่มกระชับด้วยการออกแบบรอบวงที่พอดีไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไปจนจับถือไม่ถนัดมือ พวงมาลัยทรงสปอร์ตของ Honda New City Hatchback RS e:HEV มีการติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นคอยสั่งงานระบบต่างๆ เช่น ปรับแต่งระบบเสียงหรือเลือกเล่นเพลงผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์ระบบบลูทูธ ปุ่มปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ Paddle Shift มีขนาดเล็กแต่อยู่ในตำแหน่งที่ใช้นิ้วกดเพื่อเปลี่ยนเกียร์ได้ง่าย หนังชั้นดีที่ใช้หุ้มรอบวงเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดงตามลักษณะของรถยนต์ Honda ในเวอร์ชัน RS

เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ผสมผสานระบบขับเคลื่อนไฮบริด Full Hybrid ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ผสมการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์ตัวที่ 1 ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และ มอเตอร์ตัวที่ 2 ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ร่วมแกนกับเครื่องยนต์ ขุมกำลังเบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ความจุ 1.5 ลิตร ฝาสูบแบบ Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 วาว์ลต่อสูบ ( 16 วาล์ว) กำลัง 109 แรงม้า ระบบส่งกำลังติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เมื่อควบรวมทั้งสองระบบ (มอเตอร์และเครื่องยนต์) e:HEV 5 ประตู ให้แรงบิดสูงสุด 253นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที Hond เคลมว่า ระบบไฮบริดแบบใหม่ ให้อัตราประหยัดน้ำมัน27 กิโลเมตร/ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 86 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมัน E20

ระบบส่งกำลังของ City Hatchback e:HEV ใช้เกียร์อัตโนมัติ eCVT แป้นเปลี่ยนเกียร์Paddle Shift ใช้แรงหน่วงของมอเตอร์ไฟฟ้าในการแปรผันอัตราทด แตกต่างจาก Paddle ในรุ่นเครื่องยนต์ปกติที่แปรผันเกียร์ CVT ด้วยลูกรอกสายพานตรงนี้อาจทำให้คนที่ไม่ได้จบวิศวกรรมเครื่องยนต์แบบผมถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก! Paddle ใน eCVT ทำงานโดยการสร้างแรงหน่วง ช่วยลดความเร็วของรถได้นิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะด้านการเร่งความเร็วที่ดีขึ้น เป็น Paddle Shift ที่ไม่มีผลต่ออัตราเร่ง สำหรับชุดบังคับเลี้ยว จะใช้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าแรคแอนพีเนียน การปรับความกว้างช่วงล้อคู่หน้าให้เพิ่มขึ้น ทำให้ City Hatchback e:HEV มีรัศมีวงเลี้ยวแคบแค่ 5.0 เมตรเท่านั้นเอง

ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังใช้แบบทอร์ชั่นบีม ระบบเบรก ด้านหน้า ดิสเบรกแบบมีช่องระบายความร้อนด้านหลังยังคงใช้ดรัมเบรกเหมือนเดิม (รุ่นสูงสุด ควรจะเปลี่ยนเป็นดิสเบรกได้แล้ว) สำหรับระบบความปลอดภัยของ Honda City Hatchback e:HEV ติดตั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) กล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

หลังจากการทดสอบแบบวันเดียวสิ้นสุดลง ผมรับ City 5 ประตูไฮบริดมานอนกอดนาน 7 วัน เป็นสัปดาห์แห่งการขับรถเล็กที่มีราคาไม่ถูกท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คือการระวังตัวขั้นสูงสุด แม้จะต้องขับทดสอบทางไกล แต่ไม่ใช่ปัญหาของการทำงาน เส้นทางที่เลือกใช้จึงเป็นทางที่ต้องวิ่งผ่านภูเขาสูงชันเหมือนกับเมื่อครั้งที่เอา City Hatchback 1.0 Turbo ออกไปวิ่งในหุบเขาที่มีโค้งหน้าตาแปลกๆ รอออยู่ การเค้นพลังงานใน e:HEV ก็ไม่มีอะไรมาก เมื่อถนนโล่งก็ลองจุ่มคันเร่งยาวๆ กำลังในรูปของแรงบิด จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ e:HEV ไซส์เล็กรุ่น 5 ประตู มีความคล่องตัวสูงเอาเรื่อง อัตราเร่ง 0-100 ทำได้ 9.9 วินาที กระฉับกระเฉงใช้ได้ ส่วนการทรงตัวในย่านความเร็วสูง เมื่อพ้น 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้ว ช่วงล่างและพวงมาลัยของมันก็ให้ความมั่นใจได้ดีพอสมควร พูดได้ว่าเป็นรถเล็กที่ขับเร็วแล้วไม่เสียวสันหลังวาบเหมือนกับรถคู่แข่งบางรุ่น

City e:HEV 5 ประตู ออกตัวได้เร็วกว่า City 1.0 Turbo แถมยังประหยัดกว่าถ้าใช้ความเร็วต่ำในการขับเดินทาง คุณจะพบกับมาตรฐานใหม่ของ Honda ในด้านการทรงตัวที่ดีกว่าเดิม สิ่งนี้ เกิดจากการเซตช่วงล่างและพวงมาลัยไฟฟ้า ให้มีประสิทธิภาพที่สอดรับกับแรงบิด ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สัน สปริง โช้คอัพและกันโคลงที่ปรับตั้งมาดีพอตัว ด้านหลังเป็นแบบคานแข็งที่ให้ตัวได้ดีพอสมควรเมื่อสาดมาเร็วๆ รถมีอาการโคลงตัวน้อยลงเมื่อวิ่งบนผิวถนนที่ไม่เรียบ ดิสเบรก 4 ล้อ ที่เหนือกว่า City Hatchback 1.0 Turbo แต่เบรกแบบสะสมพลังงาน regenerative braking เมื่อเบรกที่ย่านความเร็วสูงหนักๆ ก็ยังให้ความรู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนเดิม

กำลัง 109 แรงม้า ดูเหมือนจะน้อยเกินไป แต่แรงบิดจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ผสานกับมอเตอร์ขับเคลื่อน เค้นเรี่ยวแรงออกมาได้ 253 นิวตันเมตร ส่งผลให้ City Hatchback e:HEV เป็นรถไซส์เล็กที่มีความปราดเปรียวเอาเรื่อง แรงม้าที่ไม่ได้มากมายอะไร แต่มีแรงบิดที่ดีกว่ารถคู่แข่ง ทำให้ e:HEV คล่องแคล่วใช้ได้ คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองอย่างที่ควรจะเป็นเนื่องจากกำลังที่ไม่ได้มากอะไร กดคันเร่งไปเท่าไหร่ก็ตอบสนองให้มาเท่านั้นแบบไม่มีขาดหรือเกิน เป็นรถที่ขับช้าในเมืองได้ดี และพุ่งลิ่วๆ บนไฮเวย์ข้ามจังหวัดได้เหมือนกับรุ่น 1.0 Turbo การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ามีความเนียนใช้ได้ เมื่อขับที่ความเร็วต่ำและมีไฟเหลือในแบตเตอรี่มากพอ e:HEV จะวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ในระยะทางสั้นๆ เมื่อไฟใกล้หมดเครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นมาอย่างนุ่มนวลและรับหน้าที่ขับเคลื่อนรถต่อจากมอเตอร์ และเมื่อยกคันเร่ง ระบบชาร์จกลับพลังงานไฟฟ้าก็จะเริ่มต้นการทำงาน การใช้เกียร์ B จะช่วยทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น แต่รถก็จะถูกหน่วงความเร็วมากกว่าการใช้เกียร์ขับเคลื่อนในตำแหน่ง D

รถไฮบริดขนาดเล็ก มีแบตเตอรี่ขนาดกะทัดรัด ทำให้ City Hatchback e:HEV วิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ได้ไม่ไกลเท่ากับรถ Plug in Hybrid ที่มีแบตเตอรี่ใหญ่กว่า แบตฯลูกเล็กวิ่งด้วยมอเตอร์ได้แค่นิดเดียว แต่การจอดเดินเบาอยู่กับที่ระบบไฮบริด e:HEV จะทำการดับเครื่องยนต์โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไฮบริดคอยเลี้ยงระบบปรับอากาศและระบบ Auto Start-Stop มันเป็นรถไฮบริดคันเล็กที่มีการเก็บเสียงแค่พอใช้ได้ กดคันเร่งลึกจนสุด เสียงเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ครางในรอบสูงให้ได้ยินอย่างชัดเจน ยางติดรถคุณภาพดี Yokohama Bluearth A มีส่วนช่วยลดเสียง จากการบดลงไปบนผิวถนนในย่านความเร็วต่ำ Bluearth A ยังเป็นยางที่เน้นความนุ่มนวลและความเงียบที่ใกล้เคียงกับ Yoko รุ่น db

ราคา 849,000 บาท คุณจะได้รถไฮบริดคันเล็กที่ประหยัดเอาเรื่อง ตลอดการทดสอบทั้งวันที่อุทยานสามร้อยยอด City Hatchback e:HEV ทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไปได้ 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่แนะนำให้ทำตาม เนื่องจากคุณจะต้องขับแบบใช้คันเร่งอย่างต่อเนื่อง และถ้าวิ่งแบบปกติไม่ได้เค้นหรือลากจูงพลังงานแรงบิดสูงสุดออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง ตัวเลข 22 กิโลเมตรต่อลิตร จะทำให้คุณไม่ต้องวิ่งเข้าออกปั๊มน้ำมันบ่อยเหมือนตอนที่ใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปปกติที่ไม่มีระบบไฮบริด เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองตัว ทำงานราบเรียบปราศจากอาการกระตุกกระชากจากการใช้เกียร์ eCVT ช่วงล่างและพวงมาลัยดีงามไม่แตกต่างไปจาก City 1.0 Turbo เป็นรถเล็กที่วิ่งเร็วๆ แล้วมีการทรงตัวดีใช้ได้ ติดอยู่แค่ราคาเท่านั้นที่ดูแพงเกินไป เติมเงินอีกหน่อย คุณก็จะได้ New Civic EL รุ่นต่ำแล้ว ทำให้คิดหนักอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าต้องการความประหยัดที่มาพร้อมกับความคล่องตัว City Hatchback e:HEV มีให้คุณอย่างจุใจละครับ

Honda รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดของ City e:HEV ถึง 10 ปี รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ Honda Ultimate Care ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่เพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

ระบบความปลอดภัยแบบใหม่ Honda SENSING ติดตั้งกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับวัตถุบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่และช่วยควบคุมในสถานการณ์การขับที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
และเสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ

เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)

ระบบ Auto Brake Hold

กล้องแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)

ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถในระยะ 1.5 เมตรขึ้นไป

ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย

ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และ

ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น

ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA)

ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)

สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal - ESS)

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศตอนหลัง

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบเครื่องเสียงวิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI

ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)

ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)

ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง

ช่องจ่ายไฟสำรอง ด้านหน้า 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว

Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงาน โดยมี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก


1. My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป

2. Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น

3. WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง

5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง

4. Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น

5. Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ

6. Remote Vehicle Control สั่งล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด สั่งสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ สั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน

7. Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย

8. Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน

Honda City Hatchback รุ่น e:HEV สีตัวถัง6 สี ได้แก่
สีใหม่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก)
สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
สีขาวแพลทินัม (มุก)
สีดำคริสตัล (มุก)
สีเทาโซนิค (มุก)
สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
สีเทาโซนิค (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
ราคา

Honda City Hatchback รุ่น e:HEV RS ราคา 849,000 บาท.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: ลองของจริง ทดสอบจิ๋วไฮบริด HONDA CITY HATCHBACK e:HEV

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว