ลองของจริง ทดสอบทางไกลใน AUDI Q3 SPORTBACK 35TFSI S LINE

ทดสอบอเนกประสงค์ไซส์เล็ก Audi Q3 Sportback 35TFSI S Line เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร 140 แรงม้า 250 นิวตันเมตร 0-100 ใน 9.3 วินาที ราคา 2,649,000 บาท

ลองของจริง ทดสอบทางไกลใน AUDI Q3 SPORTBACK 35TFSI S LINE

ปัจจุบัน เอสยูวี หรือ ครอสโอเวอร์ (รถ Hatchback ยกสูงกลายเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก) ขายดิบขายดีทั่วโลก ในประเทศไทย รถยนต์ประเภทนี้มียอดขายแซงหน้ารถเก๋งยอดฮิตบางรุ่นไปไกลลิบ เอสยูวีและครอสโอเวอร์ยังมีตัวเลขการเติบโตสวนกระแสความซบเซาของเศรษฐกิจโลก ในจีนและอเมริกา รถแบบนี้ก็ขายดีสุดๆ เม็ดเงินที่ได้จากการขายรถอเนกประสงค์ ช่วยทำให้บางบริษัทผลิตรถสปอร์ตสวยๆ ออกมาขายได้โดยไม่ต้องยุติสายการผลิตรถยนต์สมรรถนะสูง นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ในยุโรปและอเมริกา SUV และ Crossover ยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายตามเมืองใหญ่ทั่วโลก ทั้งเซี่ยงไฮ้ นิวยอร์ก มิวนิก โตเกียว หรือแม้แต่ในกรุงเทพมหานคร ผู้คนในปัจจุบันชอบความอเนกประสงค์ และมีวิถีทางในการใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงกับการเดินทาง ความสามารถที่หลากหลายของ SUV และ Crossover ทั้งการขนสิ่งของและผู้โดยสารทำให้ทุกแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ต้องแข่งกันสร้างรถที่ดีเพื่อดึงดูดใจของลูกค้า

ขณะที่ลูกค้าในจีน รัสเซีย เยอรมนี และไทย ซื้อรถ SUV หรือ Crossover กันเป็นว่าเล่น เนื่องจากความทนทาน ปลอดภัย และสามารถแล่นบนถนนที่ย่ำแย่ได้ดีกว่ารถเก๋ง นั่นหมายถึงความพึงพอใจในด้านรูปลักษณ์ ความบึกบึนและความสามารถในการขนสัมภาระ ทุกวันนี้คุณจะเห็นได้ว่า รถอเนกประสงค์นั้นมีให้เลือกอย่างหลากหลาย รถอย่าง BMW X1 และ X2 เปรียบเหมือนห้องเก็บของขนาดกะทัดรัดที่เคลื่อนที่ได้ ส่วน Mercedes-Benz ก็กำลังจะผุดรถขายดีอย่าง New GLA รุ่นใหม่ ที่จะออกมาขายในตลาดรถพรีเมียมของไทยเร็วๆ นี้ ส่วน Volvo เองก็ยังมี XC40 ที่สวยงามและใช้งานได้ดี สำหรับ Lexus UX250h ยานครอสโอเวอร์ของสายหรูที่มีสไตล์การขับ ช่วงล่างและพวงมาลัยคล้าย Audi Q3 Sportback มากที่สุด การเปิดตัว Q3 รุ่นใหม่ในช่วงปลายปี 2562 มันเป็นยานพาหนะอเนกประสงค์ที่มีให้เลือกถึงสองรูปแบบ (ตัวถังปกติและตัวถังแบบ Coupe ในรุ่น Sportback) Q3 ก็คือ A3 ในรูปแบบของรถครอสคันทรี่ ตัวถังยกสูงมีระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถสำหรับการลุยฝ่าทางวิบาก เครื่องยนต์ขนาดเล็ก กับความปราดเปรียวที่มาพร้อมกับความหรูหรา ภายในมีการจัดพื้นที่ใช้สอยอย่างชาญฉลาด ห้องโดยสารออกแบบให้คนขับและผู้โดยสารรับรู้ได้ถึงความทันสมัย คุณภาพของวัสดุและงานประกอบห้องโดยสารไม่เป็นสองรองใคร ไม่ว่าจะเป็น BMW หรือ Mercedes-Benz ทั้งหมดทั้งปวงถูกห่ออย่างดีมาจากเยอรมนี และถึงมือคุณในราคา 2,649,000 บาท

รูปลักษณ์ที่คุ้นเคยของ Audi ในยุคใหม่ รถอย่าง Q3 Sportback 35TFSi S Line เริ่มจากกระจังหน้าแปดเหลี่ยมที่ช่วยส่งให้ด้านหน้าของรุ่น Sportback ไฟหน้า LED ขนาดกะทัดรัด พร้อมไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light กันชันหน้าขนาดใหญ่ปิดคลุมส่วนหน้าของรถเกือบทั้งหมด มุมด้านล่างของกันชนหน้าทั้งสองฝั่ง เจาะเป็นช่องรับอากาศแนวตั้งล้อมกรอบด้วยพลาสติกสีเงิน แก้มข้างและฝากระโปรงหน้าออกแบบได้อย่างกลมกลืน สอดรับกับเสาหน้าและความลาดเอียงของกระจกบังลมบานหน้า

ด้านข้างของ Audi Q3 Sportback 35TFSi S Line ไหลลื่น มีเส้นนูนที่แก้มข้างและซุ้มล้อหลังเพื่อเพิ่มมิติของตัวถัง กรอบกระจกบานประตูเดินเส้นด้วยงานโลหะสีเงิน มือจับที่เปิดประตูสีเดียวกับตัวถังและเส้นพลาสติกสีเงินบริเวณชายล่างของประตูทั้งสองบาน แนวของหลังคาค่อยๆ ลดระดับลงไปที่เสาท้ายอย่างลงตัว ส่วนเสาท้ายมีการออกแบบองศาของความลาดเอียงที่คล้ายกับรถ Hatchback ล้ออัลลอยลาย 5 ก้าน ขอบ19 นิ้ว ขนาด 7J x 19 พร้อมยาง Bridgestone Alenza 001 ขนาด 235/50 R19 เท่ากันทั้งสี่ล้อ พลาสติกซุ้มล้อสีเทาเข้มตัดกับสีดำของตัวถังอย่างสวยงาม

Compact SUV Coupe มักจะมีบั้นท้ายที่ชวนมอง ไม่ว่าจะเป็น BMW X2 / Lexus UX หรือ Audi Q3 Sportback ทั้งคู่ต่างมีงานออกแบบส่วนท้ายที่ลงตัว ความเฉียบคมของเส้นสายที่บรรจบกันอย่างกลมกลืน Q3 มีฝาท้ายไฟฟ้า มาพร้อมระบบเปิด-ปิดฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate ซึ่งทำงานอย่างเงียบเชียบ ไม่ว่าจะยกตัวขึ้นเมื่อกดเปิด หรือค่อยๆ พับลงตอนปิด กระจกบานฝาท้ายมีขนาดเล็กกว่า Q3 รุ่นตัวถังมาตรฐาน ไฟท้าย LED สวยงามโดนใจ พร้อมกับการยกไฟเลี้ยวที่คุณจะสังเกตได้ว่าไฟเลี้ยวกะพริบไล่เรียงออกจากด้านในไปด้านนอก กันชนหลังเต็มไปด้วยรายละเอียดของเส้นและขอบมุม ครีบรีดอากาศบริเวณชายล่างของกันชนหลัง เส้นพลาสติกสีเงินคาดกลางดูแปลกตา เมื่อเปิดฝาท้าย คุณจะมีพื้นที่ในการขนของโดยยังไม่พับเบาะหลัง 530 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังราบลงกับพื้น จะมีพื้นที่ในการขนสัมภาระมากถึง 1,400 ลิตร กึ่งกลางของหลังคาส่วนท้ายมีเสาอากาศเล็กๆ คล้ายครีบฉลาม ส่วนไฟเบรกดวงที่สามติดตั้งอยู่ด้านบนของขอบกกระจกบานฝาท้าย ตามสไตล์การออกแบบของ Audi ที่ใช้เส้นคมๆ ตัดกันอย่างงดงาม Audi Q3 ใหม่ มีสีตัวถังให้เลือก เช่น สีเทา Chronos Grey, metallic / สีเงิน Dew Silver metallic / สีขาวGlacier White metallic / สีดำMythos Black metallic (คันทดสอบ) / สีส้มTango Red metallic นี่ถ้าเป็นสีฟ้า Turbo Blue Solidจะดีกว่านี้มาก

Audi Q3 Sportback Interior

เอกลักษณ์ของรถยนต์ Audi คืองานตกแต่งภายในที่เรียบง่าย มีอุปกรณ์เท่าที่จำเป็นเพื่อลดภารกรรมของคนขับ แต่ยังคงยึดโยงกับวัสดุคุณภาพสูงเพื่อยกระดับความน่าใช้แดชบอร์ดด้านบน ทำจากโฟมฉีดขึ้นรูปห่อหุ้มด้วยวัสดุกประเภทไวนิลคุณภาพสูง ส่วนด้านล่างเป็นพลาสติกเกรดดี แดชบอร์ดของ Q3 ใหม่ออกแบบในลักษณะสองชั้น เพื่อเพิ่มมิติของความสวยงาม ช่องแอร์ทรงเหลี่ยม ล้อมกรอบด้วยงานพลาสติกสีเทาเข้ม ตัดกับสีดำของแดชบอร์ด กึ่งกลางของคอนโซลมีชิ้นงานพลาสติกสีเงิน ที่มีลักษณะคล้ายกับอะลูมิเนียมแปะติดอยู่ เบาะแบบสปอร์ต ปรับระดับด้วยไฟฟ้าเบาะคู่หน้าออกแบบให้นั่งได้สบายตัวเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังพร้อมสัญลักษณ์ S-Line ค่าย Audi ยังติดตั้งระบบปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ส่วนเบาะนั่งด้านหลัง ออกแบบให้สามารถพับได้40 : 20 : 40 หรือปรับเอน เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ พื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางเท้าของผู้โดยสารเบาะหลัง เมื่อนั่งสองคนก็จะรู้สึกได้ถึงความโปร่งโล่งที่อยู่ในเกณฑ์ดี เบาะหลังที่ปรับเอนได้ ทำให้ผู้โดยสารตัวใหญ่ นั่งทางไกลได้สบายตัวมากยิ่งขึ้น

ตำแหน่งที่คุณจะต้องจับและมองตลอดการขับเคลื่อนเจ้า Q3 Sportback ก็คือ พวงมาลัยและมาตรวัด พวงมาลัย S Line ทรงฐานตัด ออกแบบส่วนล่างของวงให้เป็รนเส้นตรงเพื่อเพิ่มระยะพื้นที่ในการเข้า-ออกจากตำแหน่งคนขับ พวงมาลัยหุ้มหนังแท้แบบสามก้านของ S Line มีรอบวงที่พอดิบพอดีไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป จับได้ถนัดมือ พวงมาลัยยังปรับตั้งได้ถึง 4 ทิศทาง เช่น ปรับความสูง-ต่ำ หรือปรับระยะใกล้-ไกล ได้อย่างครอบคลุมทุกสรีระของคนขับ พวงมาลัยยุคใหม่ของ Audi ติดตั้งสวิชท์มัลติฟังก์ชั่นมาให้ใช้ปรับค่าหรือเรียกดูข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ก้านวงด้านซ้ายเป็นการปรับตั้งการทำงานของจอภาพมาตรวัดแบบ TFT LCD (thin film transistor) ส่วนด้านขวามือ เป็นสวิชท์ปรับตั้งและสั่งงานระบบต่างๆ เช่น การรับหรือวางสายโทรศัพท์บูลธูท ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ปุ่มควบคุมระบบให้ความบันเทิง เลือกเล่นภาคต่างๆ ของระบบเครื่องเสียง ทั้ง USB FM/AM หรือ Bluetooth ปรับระดับความดังของลำโพงภายในห้องโดยสาร

มาตรวัดแบบจอภาพกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากความทันสมัยและสามารถใส่รายละเอียดลงไปในมาตรวัดได้อย่างหลากหลาย Audi นั้นทำมาตรวัดแบบจอภาพออกมานานแล้ว เริ่มตั้งแต่ Audi TT เจเนอเรชั่นที่สาม ส่วนมาตรวัดใน Q3 ใหม่ รุ่น Sportback ติดตั้งจอมาตรวัด Virtual Cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว คุณสามารถปรับเปลี่ยนจอมาตรวัดให้มีขนาดที่ใหญ่แบบปกติ หรือมีขนาดที่เล็กลง เพื่อใช้จอบริเวณกึ่งกลางทำหน้าที่แจ้งข้อมูลที่สำคัญต่างๆ เช่น อัตราสิ้นเปลือง มีหน่วยเป็นลิตรต่อกิโลเมตร ตำแหน่งเกียร์ ระดับเชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง อุณหภูมิภายนอก เวลาและวันที่ ทริปมิเตอร์ อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องฯ เรียกว่าเป็นสมองกลส่วนกลางที่เชื่อมโยงกับจอมอนิเตอร์กลางสำหรับการใชังานที่มีความหลากหลายมากกว่า Q3 รุ่นที่แล้ว

ระบบความบันเทิงและการปรับตั้งค่าต่างๆ ของ Audi Q3 Sportback มาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8.8 นิ้ว ไม่มีระบบนำทางด้วยดาวเทียว (ออปชั่นเสริม) ระบบ MMI Radio Plus การเชื่อมต่อสื่อสารกับโลกภายนอกด้วยระบบAudi Smartphone Interfaceรองรับ Apple CarPlay / Android Autoระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ช่องเชื่อมต่อ USB และลำโพงคุณภาพปานกลาง 6 ตำแหน่ง

ซุ้มคันเกียร์หน้าตาเรียบหรู หัวเกียร์ทำจากพลาสติกและหุ้มด้วยไวนิลเจาะรูพรุนดูสวยงามถุงหนังที่หุ้มคันเกียร์เดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาว เข้ากับเบาะหนังที่ใช้การเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาวตัดกับหนังสีเทา-ดำ แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน คืออีกจุดที่ Q3 ออกแบบได้อย่างยอดเยี่ยม แผงควบคุมมีขนาดเล็ก และมีปุ่มแค่สามปุ่มสำหรับการปรับตั้งทิศทางและระดับความเย็น ต่ำลงมาจากแผงควบคุมระบบแอร์ เป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมความดังของลำโพง และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ สำหรับแผงประตูที่ดูดี Audi ใช้การออกแบบที่เฉียบคมของเส้นต่างๆที่ตัดกันอยู่บนแผงประตู ตำแหน่งของมือจับที่เปิดประตูทำจากพลาสติกคล้ายอะลูมิเนียมสีเงิน วัสดุพวกไวนิลเกรดสูง เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาวอีกเช่นกัน

เครื่องยนต์ขนาดเล็ก แต่ให้แรงบิดดี Audi Q3 Sportback 35TFSi ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) เทอร์โบชาร์จและเทคโนโลยี cylinder on demand เครื่องยนต์เล็กขนาด 1.4 ลิตร 1,395 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรง Direct Injection พ่วงเทอร์โบ และควบคุมการทำงานด้วยสมองกลไฟฟ้า กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ S Tronic 6 สปีด ไม่มีแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift แต่ใช้การผลักคันเกียร์ไปทางซ้าย เพื่อเข้าสู่โหมดเกียร์ธรรมดา โดยใช้การโยกคันเกียร์ขึ้น-ลงในตำแหน่ง +/- เพื่อปรับอัตราทดเกียร์ด้วยตัวของคุณเอง เครื่องยนต์วางตามขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบรองรับของ Q3 Sportback ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ ระบบห้ามล้อใช้ดิสก์เบรกสี่ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนที่จานเบรก

Audi เป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติเยอรมันที่ใส่ใจใน Dynamic มากที่สุด วิศวกรของค่ายสี่ห่วงพยายามนำเสนอ Q3 ด้วย Dynamic ของการขับที่ดี ในรูปแบบของรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก การปรับแต่งเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร กับชุดส่งกำลังให้สอดรับกับการใช้งาน ทำให้ Audi Q3 Sportback 35TFSi เป็นรถที่น่าใช้และมีการขับที่สูสีกับ Mercedes-Benz GLA200 ในเมือง ขนาดที่เล็กของ Q3 ทำให้เกิดความคล่องตัว สามารถสอดแทรกตัวเองเข้าไปในตรอกซอกซอยที่คับแคบ มันเป็นรถที่มีพวงมาลัยไฟฟ้าอย่างเริ่ด ทำให้เลี้ยวกลับลำได้อย่างคล่องแคล่ว เครื่องเบนซินตัวเล็ก เร่งได้เร็วพอใช้ได้ และเป็นรถที่มีช่วงล่างดี ทำให้เกิดความสบายจากค่าของการปรับเซตช่วงล่างที่ออกมาในลักษณะเน้นความนุ่มนวลและกระชับ การออกแบบเบาะนั่ง ช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้า เพื่อความง่ายและสบายในการควบคุมหรือนั่งโดยสาร เป็นเอกลักษณ์ของ Audi ที่ยากจะลอกเลียนแบบ

Audi ยุคใหม่ กลายเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจใน Dynamic ของตัวรถมากเป็นพิเศษ ในระดับสูงสุดก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน จะเล็กหรือใหญ่ ก็เป็นยานพาหนะที่ขับได้อย่างคล่องแคล่ว โดยเฉพาะการเซตช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยว ระบบรองรับแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง กับมัลติลิงก์ที่ด้านหลัง ทำให้มันเป็นรถครอสโอเวอร์ที่ทรงตัวได้ดีในย่านความเร็วสูง การเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 9.3 วินาที ทำได้ดี ไม่ได้เร็วจี๋เหมือนรุ่น 2.0 ลิตร ที่ไม่ได้เอาเข้ามาขายแต่ก็ง่ายในการควบคุม เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1.3 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ กับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 สปีด ผสมผสานการทำงานร่วมกันได้เนียนเอาเรื่องจากการปรับตั้ง

สิ่งที่ไม่มีมาให้ก็อาจทำให้ขาดความสะดวกสบายไปบ้าง เช่น ไม่มีระบบนำทางด้วยดาวเทียม ไม่มีแป้น Paddle Shift และไม่มีระบบส่องสว่างแบบอัตโนมัติ หรือ Adaptive LED แต่การไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้บั่นทอนการขับที่ดีของมัน เครื่องยนต์จูนมาดี เดินเรียบและนิ่ง มี่เสียงไม่ดัง และมีการตอบสนองในโหมด Dynamic ดีที่สุด ส่วนโหมด Comfort และ Auto ก็เป็นโหมดที่ใช้สำหรับการขับแบบทั่วไป เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำงานอย่างไหลลื่น แม้จะเป็นเกียร์ขับหน้าตัวเล็กนิดเดียว แต่การเซตอัตราทดที่ครอบคลุม ช่วยส่งเสริมให้สมรรถนะของครอสโอเวอร์เล็กรุ่นนี้ให้ขับได้ดีเทียบเท่ากับรถคู่แข่งได้อย่างสบาย โดยเฉพาะอัตราสิ้นเปลืองเมื่อขับเรื่อยๆ มาเรียงๆ นั้น (12.1 กิโลเมตรต่อลิตร) ถือว่าประหยัดใช้ได้เลยทีเดียว

ผมชอบการผ่อนสั้นผ่อนยาวของ Lexus UX250h รวมถึงการเลี้ยวที่คมกริบของ BMW X2 ทั้งคู่เป็นรถครอสโอเวอร์พรีเมียมที่เนี๊ยบจัด ส่วน XC40 T5 มีกำลังมากกว่าทั้งคู่และวิ่งได้เร็วจี๋บนไฮเวย์ สำหรับ Q3 Sportback อาการที่เป็นกลางในโค้งทำให้คนขับไม่ต้องคอยกังวนว่าพวงมาลัยจะไม่เชื่องมือ อาการหน้าดื้อหรืออันเดอร์สเตียร์ เมื่อขับเข้าสู่หัวโค้งด้วยความเร็วสูง จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แก้ได้ง่ายๆ ด้วยการยกคันเร่ง ส่วนช่วงล่างของมันก็ไม่ได้เป็นรองรถคู่แข่งราคาแพงอย่าง Lexus UX250h Luxury ทั้งในด้านของความหนึบนุ่มและการทรงตัวในย่านความเร็วสูง แต่การยึดเกาะกับผิวถนนและความสบายนั้นสูสีกันมาก อารมณ์ของรถขับหน้าแบบ Q3 จะโผล่ออกมาเมื่อเข้าโค้งเร็วจี๋เท่านั้น เมื่อวิ่งทางตรง หากผิวถนนเรียบพอ Audi ปรับจูนรายละเอียดต่างๆ อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถกลบเกลื่อนความรู้สึกของรถขับหน้าออกไปได้อย่างสิ้นเชิง พูดง่ายๆ ก็คือ มันคล้ายกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง แต่จริงๆ แล้วมันเป็นรถขับหน้า!

การถ่ายเทมวลในโค้งมีอาการโคลงตัวไม่มาก มันเกาะจิกโค้งได้ดี เมื่อคุณต้องเจอกับผิวถนนที่ย่ำแย่ Q3 จะออกอาการโคลงเล็กน้อยเมื่อขับบนผิวถนนไม่เรียบ ยาง Bridgestone Alenza 001 ขนาด 235/50 R19 เท่ากันทั้งสี่ล้อ มีประสิทธิภาพดี ไม่ว่าจะเป็นการยึดเกาะในสภาวะปกติหรือการรีดน้ำในย่านความเร็วที่เหมาะสมเมื่อฝนตกลงมา (ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) รวมถึงเสียงการทำงานของยางก็ไม่ดังมากจนเกินไป เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบกับเกียร์ S-Tronic 6 สปีด สร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 9.3 วินาที ช้ากว่ารถรุ่นน้องอย่าง Audi Q2 35TFSi ที่ทำ 0-100 ได้ในเวลาแค่ 8.5 วินาที Q3 เป็นรถที่เร่งความเร็วเพื่อแซงได้แต่ก็ต้องใช้การกะระยะกันพอสมควร เครื่องยนต์เดินเรียบและมีสมรรถนะพอตัว รอบขึ้นเร็ว ตอบสนองดีแต่มีแรงบิดไม่มากเท่าที่ต้องการ ถ้ามีสัก 300 นิวตันเมตรจะดีกว่านี้มาก

ขับออกทางไกล ไปกุยบุรีแล้ววกกลับมาที่อุทยานสามร้อยยอด คุณสามารถลากยาวได้ทั้งวัน ได้โดยที่รถไม่ได้สร้างความเครียดให้กับการควบคุม โดยเฉพาะการขับทางไกล การยึดเกาะและความเฉียบคมขณะเปลี่ยนทิศทาง เป็นสิ่งที่ไม่เคยขาดหายไปในยานยนต์ของ Audi คุณสามารถโยกเปลี่ยนช่องจราจรทีเดียวได้ถึง 3 เลน โดยที่มันก็ยังเกาะถนนดีอยู่ไม่มีอาการซวนเซโผล่ออกมาให้เห็น เมื่อกดคันเร่งลงจนสุด Q3 35TFSi ก็ไหลขึ้นไปเรื่อยๆ แบบไม่กระโชกโฮกฮาก แรงดึงระดับอนุบาลอาจเป็นรองรถคู่แข่งที่มีเครื่องใหญ่กว่า มันเป็นยานพาหนะของเยอรมันที่พ้รอมจะไปกับคุณได้เกือบทุกที่โดยปราศจากข้อโต้แย้ง สิ่งที่ชอบก็คือ การเป็นรถเล็กที่วิ่งเร็วได้อย่างเนี๊ยบและมีเบรกที่ดี

พวงมาลัยไฟฟ้าแรคแอนพีเนียน ทำงานด้วยปั๊มเพาเวอร์ไฟฟ้า ถูกปรับให้มีทั้งความแม่นยำและน้ำหนักที่ดี ในโหมด Dynamic พวงมาลัยจะหน่วงน้ำหนักเพิ่มขึ้นจนทำให้ผมคิดถึงพวงมาลัยของ Audi TT 45TFSi การปรับตั้งที่มีความเข้าใจในด้าน Dynamic ทำให้ควบคุมทิศทางรถได้อย่างง่ายดาย น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในโหมดสูงสุด ทำให้การขับเร็วไม่สร้างความรู้สึกว่ารถควบคุมยาก ส่วนการเก็บเสียงของ Q3 Sportback อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เสียงลมและเสียงยางจะเริ่มได้ยินเมื่อทะยานผ่าน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ได้ดังมากมายอะไร ต่อเมื่อคุณเอามันลงไปลุยทางลูกรัง เสียงยางบดลงไปบนดินลูกรังสีแดงก็ยังพอรับได้ Q3 รุ่นเครื่องเล็กยังกินเชื้อเพลิงเท่าที่จำเป็น และขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้คันเร่ง หากขับเรื่อยๆ ออกทางไกลตัวเลขจะอยู่ที่ 14 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ถ้าอยากสนุกและคาอยู่ในโหมด Dynamic อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเมื่อขับเร็วๆ หล่นลงมาเหลือ 12 กิโลเมตรต่อลิตร เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร ไม่ได้ซดโหดและออกจะประหยัดด้วยซ้ำ หากรู้จักใช้คันเร่งอย่างระมัดระวัง

แม้จะเป็นรถเล็กขับหน้าที่มีเครื่องไม่ใหญ่โตอะไร แต่ขอปรบมือให้กับทีมออกแบบและพัฒนาของ Audi ซึ่งมีแผนก Audi Sport คอยดูแลปรับตั้งการขับให้อยู่ในระดับแนวหน้า! มันเป็นครอสโอเวอร์หรูไซส์เล็กที่ขับแล้วปราศจากข้อติติง เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนาน 1 อาทิตย์ในช่วงที่ฟ้าฝนไม่ค่อยจะเป็นใจ แม้ราคาจะแรงเนื่องจากเป็นรถนำเข้า อุปกรณ์ต่างๆ มีให้เท่าที่จำเป็นเนื่องจากต้องทำราคาแข่งกับรถเล็กชั้นดีที่กล่าวมาทั้งหมด การขับที่ดีของ Q3 ทำให้ค่าตัว 2.6 ล้าน ไม่ได้แพงมากจนเกินไป Q3 Sportback 35TFSi S Line เป็นรถเล็กที่ขับได้ดี (มาก) ทั้งช่วงล่างและพวงมาลัยถือว่าเหนือชั้นกว่ารถคู่แข่ง เมื่อมี Dynamic ที่ดี ขับยังไงก็ไม่รู้สึกว่าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า วัสดุที่เลือกตกแต่งห้องโดยสารเกรดสูง ความสบายของเบาะนั่ง ความเงียบจากการเก็บเสียง ที่เป็นมาตรฐานของยานยนต์จากแบรนด์ Audi การซึมซับแรงสั่นสะเทือนจากการปรับจูนโช้คอัพ รวมถึงการเลือกใช้ขนาดของล้อและยางที่ลงตัว นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัย การขับใช้งานที่โดนใจ การเป็นเจ้าของ Q3 รุ่นเด็กเล็ก ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะยอมเปลี่ยนความจงรักภักดีจากแบรนด์เยอรมันอย่าง BMW หรือ Mercedes-Benz ตลอดจนของหรูอย่าง Lexus มาเป็นเจ้าสี่ห่วงหรือเปล่าเท่านั้นเองล่ะครับ

Audi Q3 กับกันยามาหาเซลล์ ดอกเบี้ย 0% 4 ปีผ่อนเริ่มต้น 28,xxx บาท/เดือนพร้อม Service voucher 50,000 บาท

Audi Q3 Sportback Technical data
Q3 Sportback 35 TFSI S line
แบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) เทอร์โบชาร์จ
จำนวนวาล์ว 16 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,395 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 110 กิโลวัตต์ 140 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,500 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนล้อหน้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 9.3 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 205 กม./ชม.
พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า Progressive Steering
เบรกหน้า ดิสก์เบรก
เบรกหลัง ดิสก์เบรก
พื้นที่เก็บสัมภาระ 530-1,400 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน 58 ลิตร
ล้อ 19 นิ้ว ขนาด 7J x 19 พร้อมยางขนาด 235/50 R19
ยางอะไหล่

ระบบความปลอดภัย Q3 Sportback 35 TFSI S line
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system)
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with
stabilization function)
ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน (Hill descent control)
เซ็นเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
ชุดปฐมพยาบาล
อุปกรณ์มาตรฐาน Q3 Sportback 35 TFSI S line
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)
ขอบกระจกด้านข้างตัวรถตกแต่งด้วยสีอลูมิเนียม
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line
ชุดตกแต่งภายในแบบ S line
ตกแต่งห้องโดยสารลาย Matte Brushed Dark Aluminium
ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมฟังก์ชันสัญญาณไฟเลี้ยวด้านหลัง
แบบ Dynamic

ไฟ Daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า, ไล่ฝ้า

ความสะดวกสบาย
เบาะนั่งหุ้มหนัง
เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports พร้อมสัญลักษณ์ S line
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง
เบาะผู้โดยสารด้านหลังพับได้
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 2 โซน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ S line
และ Paddle shift

กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดบานประตูท้าย
โดยไม่ต้องใช้มือ
ระบบข้อมูลและความบันเทิง
ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว
ระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส (MMI touch)
ขนาด 8.8 นิ้ว
ระบบ Audi smartphone interface
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
รองรับ MP3
ช่องเชื่อมต่อ USB
ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารสีขาว (Lighting package)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/


คุณกำลังดู: ลองของจริง ทดสอบทางไกลใน AUDI Q3 SPORTBACK 35TFSI S LINE

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด