ลุยท้าโลกกับ Isuzu V-Cross 4x4 MAGIC EYEs ใหม่ ตะลุยข้ามพรมแดนจากอุดรธานีสู่วังเวียง

ลุยท้าโลกกับ Isuzu V-Cross 4x4 MAGIC EYEs ใหม่ ตะลุยข้ามพรมแดนจากอุดรธานีสู่วังเวียง

     เปิดประสบการณ์ขับ Isuzu V-Cross 4x4 MAGIC EYEs บนเส้นทางอุดรธานี ข้ามชายแดนไทย-ลาวสู่เวียงจันทร์และวังเวียง ตอกย้ำความแข็งแกร่งของปิกอัพสปอร์ตออฟโรดขุมพลัง 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า พร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายตลอดเส้นทาง

isuzu_14

     จากความสำเร็จของโปรเจ็กต์พิเศษ “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads…ตัวจริงทุกเส้นทาง” ซีซั่น 1 สู่ “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads…ลุยท้าโลก” ซีซั่นที่ 2 ภาพยนตร์สั้นสะท้อนสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะใช้งานในแบบออนโรดหรือตะลุยในแบบออฟโรด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถปิกอัพออฟโรดระดับพรีเมียมสู่ประสบการณ์จริงของการขับขี่ในเส้นทางอุดรธานี สู่วังเวียง และเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

     การเดินทางสุดท้าทายพร้อมชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงามในครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยร้านคิงส์โอชา ร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี โดยเมนูเด็ดของร้านคือไข่กระทะและขนมปังยัดไส้ที่กรอบนอกนุ่มในหอมอร่อย ก่อนจะเริ่มเดินทางด้วย ISUZU V-CROSS 4x4 MAGIC EYEs รวมทั้งสิ้น 11 คัน ข้ามแดนผ่านด่านหนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว โดยการขับรถยนต์ท่องเที่ยวในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนั้น สามารถใช้ใบอนุญาตขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดของประเทศไทยได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่นานาชาติ

isuzu_38_1

     เมื่อเข้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จึงได้ขับรถมุ่งหน้าต่อไปยังร้านอาหาร “Lao Derm Som Ngum” ร้านอาหารแพริมน้ำ ตั้งอยู่บริเวณสะพานท่าง่อน ริมแม่น้ำงึม ห่างจากนครเวียงจันทน์ประมาณ 23 กม. ที่ทุกคนสามารถชมบรรยากาศของลำน้ำงึม ไปพร้อมกับอาหารมื้ออร่อย เพื่อส่งต่อพลังให้กับการขับรถในช่วงบ่าย

     หลังจากอิ่มจากอาหารเที่ยงแล้ว ขบวนรถ ISUZU V-CROSS 4x4 เดินทางต่อไปอีก 123 กม. ผ่านทางด่วนพิเศษตัดใหม่สู่เมืองวังเวียง เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของแขวงเวียงจันทน์ ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ จนได้ชื่อว่าเป็น "กุ้ยหลินเมืองลาว" พื้นที่ของเมืองนี้ เต็มไปด้วยป่าไม้ ถ้ำ และภูเขาหินปูนมากมาย โดยจุดหมายของเราอยู่ที่ สะพานสีฟ้า และถ้ำนางฟ้า ซึ่งเป็นจุดเช็กอินใหม่ของวังเวียงที่ห้ามพลาด

isuzu_23

     “สะพานสีฟ้า” หรือมีชื่อเรียกที่รู้จักกันดีว่า “ขัวสีฟ้าถ้ำนอน” เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำซอง ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไปพบกับ “ถ้ำนางฟ้า” ถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามตามธรรมชาติ และมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย ได้แก่ จุดชมวิวบนสะพาน พายเรือคายัค ซิปไลน์โหนสลิง สำรวจถ้ำ และกิจกรรมอื่น ๆ ให้ร่วมสนุกกัน จากนั้นจึงเดินทางเข้าที่พัก ณ โรงแรมอมารี วังเวียง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขา ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำซอง

     จากนั้นเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ “พูม่ายคาเฟ่” ร้านกาแฟ ราคาหลักสิบแต่วิวหลักล้าน คาเฟ่ตกแต่งในสไตล์ธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยวิวภูเขาล้อมรอบ 360 องศา พร้อมเมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย จากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ “ร้านอาหารเวียงธารา” ตั้งอยู่ใน เวียงธารา วังเวียงรีสอร์ท ได้อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชนิด พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และทุ่งนาอันเขียวขจี

isuzu_17

     จุดหมายต่อมาคือ “วัดสินไชยาราม” ณ เมืองเฟือง ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหินสูงตระหง่าน โดยวัดแห่งนี้มีการสร้างวัดไปพร้อมกับการดูแลอนุรักษ์ป่าไม้ ฟื้นฟูสภาพป่าไม้ เป็น 1 ในพุทธอุทยาน ที่สำคัญใน สปป.ลาว และเป็นสถานที่เรียนรู้พุทธศาสนาและปฏิบัติธรรม รวมถึงเป็นจุดหมายของสายมูทั้งหลายที่มักจะมาขอพรจากพญานาคเพราะมีความเชื่อว่าที่วัดสินไชยารามแห่งนี้เชื่อมต่อกับคำชะโนดในประเทศไทย จากนั้นจึงมุ่งหน้าต่อสู่เมืองเวียงจันทร์ อันเป็นเมืองหลวงของ สปป.ลาว

     วันสุดท้ายของทริป เราได้มีโอกาสแวะไปสักการะ “พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” (Pha That Luang Vientiane) หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของสปป.ลาว องค์พระธาตุหลวงเวียงจันทน์นั้น มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยองค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร มีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า ด้านในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา

isuzu_06

     หลังจากขอพรสักการะเสร็จเรียบร้อย เราแวะรับประทานอาหารเที่ยงกันที่ “ร้านอาหารลาวเดิม” (LaoDerm Restaurant) ร้านอาหารลาวแท้ ๆ ที่มีเมนูอาหารลาวแบบดั้งเดิมที่ดีที่สุดของเวียงจันทน์ เลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่สดใหม่สะอาด และยังคงสูตรดั้งเดิมที่สืบทอดมายาวนาน ที่ทุกคนในทริปติดใจในรสชาติอาหารที่กลมกล่อม แซ่บนำ ที่มาพร้อมกับการนำเสนอการจัดวางอาหารที่สวยงาม และแวะจิบกาแฟกันที่คาเฟ่สไตล์มินิมอลของเมืองวียงจันทน์ Au8ust The Living Factory กันอิ่มหนำ ก่อนเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

     ปิดท้ายทริป “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads …ลุยท้าโลก” กันที่ร้าน “ซาหมวย แอนด์ ซันส์” ในจังหวัดอุดรธานี อาหารอีสานฟิวชั่นที่การันตีความอร่อยด้วยมิชลินไกด์ 2023 มีเมนูแนะนำเป็นเมนูตามฤดูกาลอย่างจังโก้ เนื้อย่าง และไอศกรีมหมากกระบกช็อคโกแลตหนองคายกับกล้วยปิ้ง ด้วยจุดเด่นของเมนูอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น จากตลาดพื้นบ้าน ฟาร์มออร์แกนิก หรือแม้แต่ป่าในพื้นที่ เชฟใส่ใจในรายละเอียดอย่างยิ่ง ทั้งเทคนิคการปรุงและคุณสมบัติทางอาหารและยาของเครื่องปรุงแต่ละชนิด จึงมั่นใจได้ว่านอกจากอร่อยแล้ว แต่ละจานยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

isuzu_34

     การเดินทางไปกับ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs” ในครั้งนี้ ได้ออกเดินทางแบบท้าทายขีดจำกัดของชีวิต พิชิตเส้นทางจากไทย สู่วังเวียง และเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นการขับรถผ่านชุมชน ที่มีความแออัดซึ่งเป็นเส้นทางในเมือง และเส้นทางด่วนจากเวียงจันทน์ ไปยังวังเวียง ขับสนุก ลุยท้าโลกไปทุกเส้นทางกับ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs”…ทะยานต่อ ให้โลกตาม” อีกขั้นแห่งปิกอัพ สปอร์ตออฟโรดเหนือระดับ แข็งแกร่ง ดุดัน ทรงพลังเต็มสมรรถนะออฟโรด จากภายนอกจรดภายใน

     ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ทำงานผ่านกล้องคู่ 3D Imaging Stereo Camera ที่ถูกติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถกระบะเมืองไทย ทำหน้าที่เสมือนดวงตาคู่อัจฉริยะ ตรวจจับวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time ควบคู่ไปกับเรดาร์ 2 จุดและเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ที่อีซูซุออกแบบให้ทุกระบบความปลอดภัยทำงานผสานร่วมกันเป็นหนึ่ง ให้ความมั่นใจในการเดินทาง

isuzu_13

     ระบบความปลอดภัย ADAS ที่ได้ลองใช้งานบนเส้นทางครั้งนี้ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) โดยระบบจะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้คงที่ และจะช่วยควบคุมความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้จนถึงรถคันหน้าหยุดนิ่ง

     อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ที่คอยตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้าจากกล้องหน้าคู่ และแจ้งเตือนเมื่อสิ่งกีดขวางอยู่ในระยะกระชั้นชิดเกินไปจนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรกหลังสัญญาณเตือน

     โดยเทคโนโลยีเพื่อระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS สามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดถึง 50% (ข้อมูลอ้างอิงจากสภาความปลอดภัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา : The National Safety Council, U.S.A.) ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่สามารถลดอุบัติเหตุ โดยระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Warning with Autobrake ช่วยลดการชนท้ายรถคันหน้า 50%)

isuzu_08

     นอกจากนี้ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs” ยังมาพร้อมกับดีไซน์ดุดัน ทรงพลังด้วย Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน ที่กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง ที่เปิดกระบะท้าย Fender Lip และ Robust Extender

     ขณะที่รุ่น V-Cross จะได้ขุมพลังดีเซล 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ระบบ Terrain Command สวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ ทำงานได้ฉับไว แม่นยำ เลือกการใช้งานให้เหมาะกับทุกสภาพถนนทั้ง 2H/4H และ 4L พร้อมสมรรถนะในการลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร

     อีกทั้งยังมีระบบ Electronic Diff-Lock ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ช่วยล็อกเฟืองท้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้านซ้ายและขวาเท่ากันเพื่อให้ผ่านอุปสรรคอย่างง่ายดาย ช่วงล่างแกร่งทน เกาะถนนเหนือชั้นด้วยโครงสร้างตัวถัง และแพลตฟอร์ม “ISUZU DYNAMIC DRIVE PLATFORM” ที่ออกแบบมิติฐานล้อ และช่วงล้อหน้า-หลัง เพื่อดุลยภาพในการขับขี่ทั้งขณะรถเปล่า และการบรรทุกหนัก

isuzu_24

     พบกับ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs” ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

คุณกำลังดู: ลุยท้าโลกกับ Isuzu V-Cross 4x4 MAGIC EYEs ใหม่ ตะลุยข้ามพรมแดนจากอุดรธานีสู่วังเวียง

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว