แม่บ้านอินโด โกอินเตอร์ ลองของจริง ทดสอบ TOYOTA VELOZ PREMIUM

ทดสอบ MINI MPV TOYOTA VELOZ PREMIUM เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 106 แรงม้า 138 นิวตันเมตร เกียร์ออโต CVT แปรผัน 7 สปีด ราคา 875,000 บาท

หลังการมาถึงของรถ MINI MPV อย่าง Toyota Veloz ลูกค้า Toyota หลายคนเกิดอาการลังเลใจว่าจะเลือกรถที่มีเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดน้ำมันอย่าง Corolla Cross ซึ่งมีราคาแพงกว่า หรือจะเดินไปหยิบกุญแจของรถแม่บ้านอินโดโกอินเตอร์อย่าง Veloz เนื่องจากชอบพื้นที่ของห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง แม้จะมีเบาะถึงสามแถว แต่เบาะแถวที่สามของ Veloz เหมาะกับเด็กตัวเล็กๆ มากกว่าจะให้ผู้ใหญ่ลงไปนั่ง โดยภาพรวม การเข้ามาแทนที่รถอย่าง Avanza ทำให้ Veloz ต้องยกระดับในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ Toyota เพิ่มเข้ามาให้ รวมไปถึงไดนามิกในย่านความเร็วสูงที่ต้องให้ความมั่นใจมากกว่ารถรุ่นพี่ ในจุดนี้ ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว แม้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร จะมีเรี่ยวแรงไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็พอจะเอาตัวรอดได้บ้าง บนถนนที่เป็นเนินสูงชันซึ่งกลายเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับคนที่กำลังอยากได้

Toyota Veloz Premium ราคา 875,000 บาท (คันทดสอบ)

Toyota Veloz Smart ราคา 795,000 บาท

สีเงิน Purplish Silver Mica Metallic

สีแดง Dark Red Mica Metallic

สีขาวมุก Platinum White Pearl

สีดำ Black Metallic

สีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท (คันทดสอบ)

กระจังหน้าใหญ่ยักษ์ตามสไตล์ของรถพี่โตยุคใหม่ที่ชอบใช้ดีไซน์ของชุดกระจังที่กินพื้นที่ส่วนหน้าของรถเกือบทั้งหมด ไฟหน้า LED มีไฟหรี่กลางวัน LED Daytime running light และระบบยกหรือลดไฟสูงอัตโนมัติ เมื่อลองใช้งานในตอนกลางคืนก็มีความสว่างใช้ได้ ทำให้มองเห็นบนถนนมืดๆ ได้ดี ระบบอัตโนมัติทำงานเร็ว แต่ก็ต้องไม่มีแสงไฟรอบด้าน ระบบไฟสูงออโต้จะเข้ามาช่วยส่องในบริเวณที่คุณมองไม่เห็น สำหรับกันชนหน้าของ Veloz ออกแบบให้ปิดคลุมส่วนหน้าของรถเกือบทั้งหมด Toyota Veloz มีไฟตัดหมอก LED ติดตั้งมาให้ใช้งาน ไฟหน้า LED พร้อมด้วย Light Guiding ไฟเลี้ยวแบบ Sequential ไฟตัดหมอกหน้า วัสดุตกแต่งบริเวณไฟตัดหมอกหน้า (เฉพาะรุ่น Premium) วัสดุตกแต่งด้านข้างประตู (เฉพาะรุ่น Premium) วัสดุตกแต่งสปอยเลอร์หลัง (เฉพาะรุ่น Premium) ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Premium) ช่องรับอากาศของกันชนและชุดกระจังหน้าช่วยระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ได้ดี ฝากระโปรงหน้ายกสันนูนเพื่อใช้เป็นเส้นนำสายตาที่ออกแบบให้เชื่อมโยงกับรูปทรงของไฟหน้าตามสมัยนิยม กระจกมองข้างมีกล้องซ่อนอยู่ทั้งสองฝั่งรวมถึงเลนส์ไฟเลี้ยวแบบ LED ในกรอบกระจกมองข้างที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องทางเมื่อเปิดใช้งานไฟเลี้ยว

ด้านข้างของ Veloz Premium รุ่นสูงสุด มองดูคล้ายกับรถเอสยูวีหรือครอสโอเวอร์คันโตที่ถูกยกสัดส่วนความสูง ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 200 มิลลิเมตร พอที่จะลุยน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ ได้สบายๆ เสาหน้ามีองศาของความลาดเอียงที่สมบูรณ์แบบ แนวเส้นด้านข้าง จากขอบของไฟหน้า ลากผ่านแก้มข้าง มือจับที่เปิดประตู ไปจนถึงขอบของไฟท้าย ซุ้มล้อมีการดึงโป่งออกมาด้านข้างเล็กน้อยพองาม ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ยาง 205/50R17 สอดรับกับการใช้งานโดยไม่ใส่ล้อที่มีขนาดใหญ่มากจนเกินไปและทำให้กินกำลังเครื่องยนต์โดยใช่เหตุ แรคหลังคาสีเงินกับเสาอากาศทรงครีบฉลามตามสมัยนิยม ฝาถังเชื้อเพลิงทรงกลมด้านซ้ายรองรับเชื้อเพลิง E20 ความจุถังเชื้อเพลิงรวม 43 ลิตร ไม่ได้มากมายอะไรแค่พอวิ่งในระยะทาง 400 - 450 กิโลเมตร มิติตัวถังของ Toyota Veloz ยาว 4,475 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร สูง 1,700 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,515 / 1,510 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 205 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.0 เมตร

บั้นท้ายมีความคล้ายกับ Toyota RAV-4 จากทรงของไฟท้าย LED ฝาท้ายเปิดด้วยมือโดยไม่มีระบบฝาท้ายไฟฟ้ามาให้ จุดเด่นของ Veloz ก็คือ พื้นที่เก็บสัมภาระ (เมื่อพับเบาะแถวที่สาม) แต่ถ้าไม่พับเบาะอย่างในภาพก็พอที่จะใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 2-3 วัน ได้สองใบ พร้อมกับกระเป๋ากล้องและถุงสัมภาระอีกใบ ไฟท้าย LED เชื่อมต่อกันทั้งสองฝั่งด้วยเส้นไฟท้ายเรียวเล็กและจะเรืองแสงในเวลากลางคืน ไฟเบรกดวงที่สาม หลอด LED อยู่ในกระจกฝาท้ายด้านบนบริเวณกึ่งกลางของกระจกบังลมบานฝาท้าย กระจกฝาท้ายมีขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่ง รวมถึงที่ปัดน้ำฝนด้านหลังที่กลายเป็นของจำเป็นสำหรับรถยนต์ในเขตร้อนชื้นที่มีฝนตกชุกอย่างประเทศอินโดนีเซียและไทย กันชนหลังออกแบบได้อย่างสวยงาม มุมของกันชนหลังทั้งสองข้างมีแผ่นพลาสติกมัลติรีเฟกเตอร์ช่วยในเรื่องของการสะท้อนแสงเพื่อให้รถคันหลังมองเห็น ชายล่างของกันชนหลังตกแต่งด้วยพลาสติกสีเงิน

ภายในของ Toyota Veloz มีระยะห่างระหว่างที่นั่งผู้โดยสารในแถวที่หนึ่ง และแถวที่สองมีขนาดเทียบเท่ากับรถใน C-segment ในขณะที่เบาะแถวที่สองมีระยะเลื่อนเดินหน้าได้ 240 มิลลิเมตร ออกแบบให้จัดที่นั่งได้อย่างยืดหยุ่น มือจับที่เปิดประตูขนาดใหญ่ หน้าปัดมาตรวัดความเร็วปรับได้ 4 รูปแบบ เครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่งที่ให้เสียงแหลมจัดชัดเจน แต่พลังเบสนั้นต้องปรับปรุงหรือไม่ก็ต้องไปหาติดเพิ่ม หน้าจอแบบสัมผัส 9 นิ้ว รองรับการปรับตั้งและการเชื่อมต่อต่างๆ มีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless charger) ให้มาด้วย รวมถึงช่องเสียบ USB 4 จุด มีระยะการปรับเบาะแถวที่ 2 ยาวถึง 240 มม. แถวที่ 3 กว้าง 700 มิลลิเมตร ปรับพับเบาะได้ 7 รูปแบบ ช่องใส่ Tablet ไฟ Ambient light และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

เบาะทุกตำแหน่งปรับด้วยมือไม่มีระบบไฟฟ้า เบาะหุ้มด้วยผ้าและหนังัสงเคราะห์ ใช้โทนสีขาว-ดำ ลามไปถึงงานตกแต่งด้วยไวนิลบริเวณแผงประตู พลาสติกเกรดกลางๆ ไม่ได้ทำออกมาให้ดูแพง แต่ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะการวางตำแหน่งของจอภาพ ช่องใส่แก้วน้ำที่แดชบอร์ดคอนโซล ซุ้มเกียร์กั้นพื้นที่ระหว่างเบาะคู่หน้าให้เป็นสัดส่วนการใช้งานเฉพาะตำแหน่ง คันเกียร์หุ้มหนัง พร้อมฟังก์ชันการแปรผันแบบ 7 สปีดของชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT เบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Hold

หน้าจอภาพมอนิเตอร์กลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว (รุ่น Smart มีจอขนาด 8 นิ้ว) เป็นจอภาพที่มีความคมชัดสูง ระบบอินโฟเทนเมนต์เชื่อมต่อสารพัดอุปกรณ์ ทั้งผ่านสาย USB และเชื่อมต่อแบบไร้สาย หน้าจอรองรับ apple carplay android auto มาพร้อมกล้องมองภาพรอบคัน แบบ 360 องศา ช่วยเพิ่มมุมมองเมื่อต้องเข้า-ออกในพื้นที่จอดคับแคบ วิทยุ AM/FM การปรับตั้งค่าต่างๆ ของรถผ่านจอภาพ แถมด้วยฟังก์ชันระนาบองศาของรถขณะเคลื่อนที่ อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิน้ำในระบบระบายความร้อนและระดับของไฟในแบตเตอรี่

จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว เป็นมาตรวัดดิจิตอลที่ทันสมัย อ่านค่าได้ง่าย ทั้งวัดรอบเครื่องยนต์และความเร็วที่แสดงผลเป็นตัวเลขโตเท่ากับหม้อแกง! มาตรวัดของ Toyota Veloz ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ 4 รูปแบบ มีทั้งแบบวัดรอบทรงกลมที่หมุนไป-มาซ้าย-ขวา คอยแจ้งเตือนระดับการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยการวัดรอบเครื่องที่มีค่าแม่นยำใช้ได้ หน้าจอภาพยังมีจอแสดงข้อมูล MID multi function display ทั้งทริปมิเตอร์ ระดับเชื้อเพลิงในถัง คำนวนระยะทางต่อเชื้อเพลิงท่ีเหลืออยู่ ตำแหน่งของเกียร์ CVT รวมถึงไฟแจ้งเตือนสถานะการทำงานของระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย TSS

สำหรับรูปแบบของการพับเบาะ แถวที่สองและสาม เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งการขนผู้โดยสารหรือสัมภาระขนาดใหญ่ เบาะปรับพับเบาะได้ 7 แบบ คือ

1. BIG ROOM พับแถว 2 และแถว 3

2. SMALL ROOM พับแถว 3

3. RELAX MODE พับแถว 1 เอนราบ

4. DAY BED พับแถว 2 เอนราบ

5. LONG STUFF พับแถว 3 และเบาะกลางแถว 2

6. FREE FORM พับแถว 3 และแถว 2 ด้านซ้ายหรือขวา

7. CABINET พับแถว 3 ด้านซ้ายหรือขวา

ระบบมาตรฐานความปลอดภัย Toyota Safety Sense หรือ TSS มาครบ เช่น กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)

ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert (LDA) With Steering Assist)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert)
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control)* (ในรุ่น Premium)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง
ไม่มี Cruise Control

ขุมกำลัง เบนซิน 4 สูบแถวเรียง วางตามขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า รหัส 2NR-VE 4 สูบ 4 วาล์วต่อสูบ DOHC ระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT-i ความจุ 1,496 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ 72.5 มิลลิเมตร ระยะชัก 90.6 มิลลิเมตรอัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 กำลังสูงสุด 78 กิโลวัตต์ หรือ 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร (14.1 กิโลกรัม/เมตร) ที่ 4,200 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20 ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift ผลักคันเกียร์มาทางขวาจะเข้าสู่โหมดแมนนวล ชิฟหรือเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง ด้วยการโยกคันเกียร์ในตำแหน่ง +/-อัตราทดเกียร์เดินหน้า 2.800 - 0.425อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 4.748 - 2.145อัตราทดเฟืองท้าย 5.105 ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชันบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกหน้า-หลัง เป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหมด

Toyota Motor Thailand จัดรถทดสอบให้กับสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญมาร่วมการขับทดสอบ MINI MPV Veloz ใช้เส้นทางจากบางนาไปยังอำเภอหัวหิน รวมระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นสองร้อยกิโลที่รถเอมพีวีรุ่นใหม่ของพี่โตได้สำแดงศักยภาพในการวิ่งทั้งทางราบและทางขึ้นเนินบนเขาหินเหล็กไฟ Veloz เป็นรถที่มีราคาใกล้เคียงกับรถคู่แข่งอย่าง Mitsubishi Xpander และ Suzuki XL7 เพิ่มความสามารถในการขนผู้โดยสารและสัมภาระด้วยเบาะแถวที่ 3 แต่มีพื้นที่วางเท้าน้อยไปไม่เหมาะสำหรับคนตัวโตๆ เบาะแถวสามถ้าไม่ได้ใช้งานก็สามารถพับราบเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากยิ่งขึ้น การขับทางไกล บนเส้นทางที่คุ้นเคย ผมลากยาวเจ้าเอมพีวีแม่บ้านอินโดฯ ไปจนถึงจุดแวะพักแถวเพชรบุรี หลังจากส่งน้องไปร์ท จาก PPTV เข้าโรงแรมแถวหัวหินเรียบร้อย ผมลากยาวเจ้า Veloz Premium จากหัวหินมุ่งหน้าไปยังอุทยานปราณบุรี ต่อด้วยทิวเขาริมทะเลที่สวยงามของอุทยานสามร้อยยอดอันคุ้นเคย เพราะนำรถมาทดสอบเกือบจะทุกอาทิตย์กันอยู่แล้ว

Veloz Premium วิ่งได้ดีบนไฮเวย์ โดยไม่มีปัญหาเรื่องการทรงตัวในย่านความเร็วสูงเหมือนกับรถรุ่นพี่อย่าง Avanza เมื่อไต่ความเร็วขึ้นไปจนถึง 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันก็ยังทรงตัวนิ่งใช้ได้ในย่านความเร็วสูง แต่ความเร็ว 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดูจะเหมาะสมกับรถครอบครัวที่มีกำลังไม่มาก เน้นขับเรื่อยๆ ท่องเที่ยวเดินทางไปในวันหยุด มากกว่าจะเอามาขับเร็วแบบนี้ แต่การใช้ความเร็วในบางช่วงเพื่อดูอาการของรถก็จะช่วยทำให้รับรู้ถึงสิ่งที่รถพยายามจะบอกกับเรา การขับในย่านความเร็วเดินทางแบบไหลไปตามสภาพการจราจร Veloz Premium ให้ความสบายและความมั่นใจได้ดีพอสมควร ที่ยังไม่ค่อยจะดีก็คือ การเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้าที่ต้องมีการกะระยะเผื่อเหลือเผื่อขาดเพื่อความปลอดภัย เครื่อง 1.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศกับเกียร์ CVT เน้นการขับใช้งานในเมืองเป็นหลัก มีขับออกทางไกลในวันหยุดเพื่อท่องเที่ยวกับครอบครัว การเก็บเสียงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เมื่อผ่าน 80 กิโลเมตรขึ้นไป เสียงลมและเสียงยางก็จะดังเข้ามาให้ได้ยิน ยิ่งขับเร็ว เสียงเครื่อง เสียงยางบดไปกับผิวถนนจะยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่า Toyota ที่อินโดนีเซีย ไม่ได้เน้นเรื่องความเงียบของห้องโดยสารเท่ากับความสบายในการขับขี่ แต่สิ่งที่ทำออกมาได้ดีอีกตำแหน่งก็คือทัศนวิสัยมุมมองรอบคันที่โปร่งโล่งใช้ได้ และถ้าไม่มีฟิล์มกรองแสง 60% ก็น่าจะมองออกมาได้ชัดเจมมากกว่าเดิม แม้อุณหภูมิภายนอกในช่วงต้นฤดูร้อนแถบปราณบุรีจะพุ่งสูงถึง 38 องศาเซลเซียส แต่ระบบปรับอากาศที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเย็นของรถ Toyota ทำให้ห้องโดยสารนั้นเย็นฉ่ำอยู่ตลอดเวลา และนับเป็นเรื่องที่ดีเมื่อถูกขับใช้งานท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงต่อเนื่องทั้งวัน แต่ระบบแอร์ที่มีประสิทธิภาพบวกกับฟิล์มกรองแสงทำให้อากาศในรถหนาวเย็นยังกับตู้แช่ไอศกรีม

ช่วงล่างอย่างที่บอกว่ามีการปรับเซตค่าในช่วงของการพัฒนาให้ออกมาในแบบสบายและหนึบแน่นใช้ได้ โช้คอัพและสปริงมีระยะยืด-ยุบที่สอดรับกับน้ำหนัก รวมถึงยางdunlop enasave ec300 205/50 R17 ก็ทำหน้าที่ได้ดีในการยึดเกาะกับโค้งวกไปวนมาแถวๆ แยกห้วยมงคลไปยังอุทยานปราณบุรี ผมลองใส่ความเร็วให้เกินนิดๆ เพื่อดูอาการ เจ้า Veloz Premium จะเริ่มด้วยอาการหน้าดื้อ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเร็วที่เกินไปนิดนึง หรือทะลุเลยขีดข้อจำกัดของระบบบังคับเลี้ยวและระบบรองรับไปไม่มากพอได้แก้อาการให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอย และคาดว่าน่าจะไม่มีใครใส่โค้งแรงๆ เมื่อขับเจ้ารถครอบครัวที่มีขนาดใหญ่โตคันนี้ อาการหน้าดื้อจะเริ่มโผล่ขึ้นมาเมื่อความเร็วในหัวโค้งสูงเกินไปแต่ยางdunlop enasave ที่พยายามสร้างแรงยึดเกาะจนส่งเสียงออกมาน้อยมาก แค่ยกคันเร่ง พวงมาลัยก็จะกลับมาพาหน้ารถให้เข้าสู่ช่องทางได้อีกครั้ง แต่ไม่แนะนำให้เข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูงมากจนเกินไป ถ้าป้ายบอก 60 เข้าสัก 75 ก็ยังพอจะเอารถอยู่ ถือว่ายางและช่วงล่างรวมถึงชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้าทำหน้าที่ได้ดี แม้จะตัวสูงโย่งมากกว่ารถเก๋งทั่วไป แต่ถ้าเข้าโค้งด้วยความเร็วปกติ ถือว่าเป็นรถบ้านไซส์โตที่ควบคุมได้ง่ายเมื่อเทียบกับรถคู่แข่ง มันอาจเกาะกว่า Suzuki XL7 เล็กน้อย แต่การถ่ายเทน้ำหนักนั้นทำได้พอๆ กัน สิ่งที่ไม่ค่อยชอบก็คือ ระยะฟรีตรงกลางของพวงมาลัยไฟฟ้าที่มากไปนิดเมื่อเทียบกับพวงมาลัยกระชับและแม่นของ Toyota C-HR และ Corolla Cross รุ่นพี่ทั้งสองคันมีพวงมาลัยที่แม่นและคมกว่า แต่ Veloz Premium เน้นความสบายไม่กระชับฉับไวเท่ากับรถรุ่นพี่ทั้งสองคัน หากเซตให้พวมาลัยทั้งไวและคม ผู้โดยสารอาจบ่นว่านั่งไม่สบายเพราะอาการโคลงก็อาจมีความเป็นไปได้เมื่อขยับพวงมาลัยแค่นิดเดียวรถก็จะเบนไปตามทิศทางนั้นทันที

เครื่องยนต์และเกียร์ตอบสนองอย่างที่ควรจะเป็นแต่อย่างที่บอกว่าในย่านความเร็วสูงนั้นเสียงเครื่องจะดังเข้ามาอย่างชัดเจนเหมือนกับ Honda HR-V E-HEV พอลากรอบยาวๆ เสียงเครื่องก็จะดังเข้ามาให้ได้ยินทันที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของ Veloz Premium ทำได้ที่ 11.8 วินาที สำหรับความเร็วสูงสุด ลองไปถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ยังนิ่งใช้ได้ถ้าไม่มีลมปะทะด้านข้างแรงๆ ถือว่ายังนิ่งดีอยู่ เกียร์ CVT แปรผันแบบ 7 สปีด คล้ายกับ Honda ก็มีประสิทธิภาพที่พอใช้ได้ในการทดกำลัง แต่เรี่ยวแรงแค่ 106 แรงม้า กับแรงฉุดลาก 138 นิวตันเมตร ทำให้การไต่ระดับความเร็วต้องใช้ระยะเวลากันสักนิด น้ำหนักแค่ 1.1 ตัน ทำให้มวลของรถไม่สร้างภารกรรมให้กับระบบขับเคลื่อนมากจนเกินไป นั่งกันสองคนพร้อมสัมภาระกระเป๋า 3 ใบ Veloz Premium ก็สามารถไปได้อย่างคล่องตัว รอบสูงสุดพอลากเข้าใกล้ 6,000 รอบต่อนาทีเกียร์จะปรับอัตราทดให้ เพื่อไม่ให้กินเชื้อเพลิงมากจนเกินไป

เบาะแถวกลางหรือแถวที่สองสามารถปรับเอนได้เล็กน้อยเพื่อความสบายยามเดินทางไกล ส่วนเบาะแถวสาม ถ้าไม่ใช่เด็กตัวเล็กไม่แนะนำให้นั่งยาวๆ เพราะพื้นที่วางเท้านั้นน้อยเกินไปหากเบาะแถวสองมีการปรับเอนเพื่อความสบายแผ่นหลัง พื้นที่วางเท้าของเบาะแถวสามก็จะยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก ตำแหน่งของการนั่งโดยสาร แค่ 4-5 คนดูจะเหมาะสมและไม่สร้างความอึดอัดเมื่อยขบเมื่อต้องเดินทางไกลกว่า 200 กิโลเมตร ส่วนระบบความปลอดภัยที่มีมาให้อย่าง TSS เช่น ระบบรักษาช่องทางและช่วยดึงพวงมาลัยกลับเมื่อขับเข้าไปทับกับเส้นแบ่งช่องทางจราจรนั้นทำหน้าที่ได้ดีแต่โดนปิดทิ้งตั้งแต่ออกมาจากบางนา ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) อันนี้ดีเลยสำหรับคนที่ไม่ค่อยจะระวังเวลาเปลี่ยนช่องทาง รวมถึงระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ที่เหมาะกับการถอยจอดในที่คับแคบ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) อันนี้ไม่ได้ลอง ส่วนระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) มีโอกาสได้ลองตอนขับกลับโรงแรมและต้องผ่านเส้นทางอุทยานปราณบุรีที่มีบางช่วงของถนนไม่มีแสงไฟ ไฟอัตโนมัติของ Veloz Premium ทำงานเร็วใช้ได้และลดไฟสูงทันทีที่วิ่งเข้าไปใกล้กับท้ายรถคันหน้าหรือมีรถแล่นสวนทางมา

Toyota Veloz Premium 1.5L A/T ราคา 875,000 เทียบกับ Xpander ราคา 863,000 บาท และ Suzuki XL7 หลังคาทูโทนรุ่นใหม่ที่มีราคา 789,000 บาท เห็นได้ชัดว่ารถพี่โตแพงกว่า แต่ก็มีความน่าใช้งานอยู่ไม่น้อย ทั้งความทนทานตามสไตล์ของแบรนด์สามห่วง ไม่พาไปเจ๊งกลางทางง่ายๆ ศูนย์บริการที่ครอบคลุม และราคาขายต่อที่พอจะรับกันได้ สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มา มีบางอย่างใช้งานได้ดีอย่างระบบแจ้งเตือนต่างๆ ของระบบความปลอดภัย TSS จุดที่ยังทำได้ไม่ดีก็คือการเก็บเสียง แต่ก็ชดเชยด้วยความง่ายและสบายในการควบคุมไม่ว่าจะขับในเมืองหรือออกทางไกล พื้นที่ใช้สอยเยอะจุใจถ้าใช้รถคนเดียวก็สามารถขนสารพัดสิ่งที่อยากจะขนแต่ทำไม่ได้ในรถเก๋งเล็ก การที่มีระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 205 มิลลิเมตร ช่วยเอาตัวรอดเมื่อต้องลุยน้ำท่วมขังผิวจราจรที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อฝนตกลงมาอย่างหนักแล้วระบายไม่ทัน ความสบายที่เกิดจากระบบรองรับ ทำให้Veloz Premium เป็นรถที่นุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้ดี อาจมีบางจังหวะที่ย้วยบ้าง ตามประสารถครอบครัว แต่ถ้าไม่ได้ขับเร็วจนเป็นสันดาน ใช้ความเร็วปกติทั่วไป ออกไปในแนวไหลไปเรื่อยๆ Toyota Veloz Premium นับเป็นรถครอบครัวประกอบในอินโดนีเซียที่มีความน่าใช้อยู่เหมือนกันเมื่อเทียบกับรถคู่แข่งในเวลานี้.

Toyota Veloz Premium 1.5L A/T

ราคารถมาตรฐาน 875,000
ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 875,000

ข้อมูลทางเทคนิค Toyota Veloz Premium
ระบบเกียร์ อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift
ราคารถมาตรฐาน 875,000
ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ ราคารวม 875,000

ขนาด
มิติภายนอก ยาวxกว้างxสูง (มม.) 4,475 x 1,750 x 1,700
ความยาวช่วงล้อ (มม.) 2,750
ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,515 / 1,510
ระดับต่ำสุดจากพื้น (มม.) 205
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (ม.) 5.0
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 43
เครื่องยนต์
รุ่น 2NR-VE
แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 1,496
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 72.5 x 90.6
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1
กำลังสูงสุด EEC net 78 กิโลวัตต์( 106 PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด EEC net 138 นิวตัน-เมตร (14.1 กก.-ม) ที่ 4,200 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI
รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20
ระบบขับเคลื่อนและระบบรองรับ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบส่งกำลัง แบบอัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift
อัตราทดเกียร์เดินหน้า 2.800 - 0.425
อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 4.748 - 2.145
อัตราทดเฟืองท้าย 5.105
ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชันบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกหน้า ดิสก์
ระบบเบรกหลัง ดิสก์
ล้อ ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/50 R17
ล้ออะไหล่ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/50 R17
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering)

อุปกรณ์ภายนอก
ไฟหน้า LED พร้อมด้วย LED Light Guiding และไฟเลี้ยวแบบ Sequential LED พร้อมด้วย LED Light Guiding และไฟเลี้ยวแบบ Sequential
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home และ Leaving Home Lamp
กระจังหน้าสีดำเงา
วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอกโครเมียม
ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding
เสาอากาศ แบบครีบฉลาม
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว พร้อมไฟส่องสว่างบริเวณพื้น (Foot Lamp)
ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้า แบบหน่วงเวลา พร้อมระบบแปรผันอัตโนมัติตามความเร็วรถ
ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
มือจับประตูด้านนอก สีเดียวกับตัวรถ
ราวหลังคา
สปอยเลอร์หลัง

อุปกรณ์ภายใน
สีภายใน สีทูโทน (ดำและเทา)
วัสดุเบาะนั่งคู่หน้า หนังสังเคราะห์และผ้า ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
วัสดุเบาะนั่งแถวที่ 2 หนังสังเคราะห์และผ้า ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
วัสดุเบาะนั่งแถวที่ 3 ผ้า
เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง - ต่ำได้
เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับ 60:40 พร้อมที่พักแขน แยกพับ 60:40 พร้อมที่พักแขน
เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับ 50:50 แบบ Tilt Down แยกพับ 50:50 แบบ Tilt Down
กระเป๋าหลังเบาะคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า พร้อม Mini Pocket พร้อม Mini Pocket
วัสดุตกแต่งพวงมาลัย หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา และแถบสีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้า สีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งบริเวณคอนโซลกลางและช่องปรับอากาศ ตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็กและโครเมียม
วัสดุตกแต่งแผงประตู หุ้มหนังสังเคราะห์ บริเวณที่วางแขนคู่หน้าและหลัง หุ้มหนังสังเคราะห์
มือเปิดประตูด้านใน โครเมียม
วัสดุตกแต่งหัวเกียร์ หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยแถบสีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งฐานเกียร์ สีเงินเมทัลลิก
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ
กระจกแต่งหน้า พร้อมไฟส่องสว่าง บริเวณแผงบังแดดคู่หน้า ผู้โดยสาร
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า แบบ LED
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร แบบ LED
ไฟส่องสว่างบริเวณห้องเก็บสัมภาระ
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร บริเวณคอนโซลกลางและแผงประตูด้านหน้า
ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง
กล่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางพร้อมฝาปิด หุ้มหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทาพร้อมที่วางแก้ว
กล่องเก็บของด้านท้าย
มาตรวัดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
มาตรวัด แบบเรืองแสง
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
ไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง สูง - ต่ำ และ ใกล้ - ไกล
ระบบ Smart Entry และ Push Start
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold)
กุญแจรีโมต
สวิตช์เลือกโหมดการขับขี่ ECO / NORMAL / POWER ECO / NORMAL / POWER
เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว
ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth รองรับโทรศัพท์ และการเล่นเพลง พร้อมระบบโทรออกด้วยเสียง (ทำงานร่วมกับ Apple CarPlay และ Android Auto)
ระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
จำนวนลำโพง 6
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนพวงมาลัย พร้อมปุ่มควบคุมกล้องมองรอบคัน (PVM)
ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า และด้านหลังบริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2
ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V บริเวณกล่องเก็บของและเบาะนั่งแถวที่ 3
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
ระบบปรับอากาศตอนหน้า แบบอัตโนมัติ แบบอัตโนมัติ
ระบบปรับอากาศตอนหลัง
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
ระบบส่องสว่างภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบพับเก็บอัตโนมัติ

ระบบความปลอดภัย
ไฟตัดหมอกหน้า
กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)
สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย
ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
ระบบเซ็นทรัลล็อก พร้อมระบบ Speed Auto Lock พร้อมระบบ Speed Auto Lock
ระบบละลายฝ้ากระจกหลัง
ระบบเบรก ABS / EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert)
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งแถวที่ 3 ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)

อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษเพิ่มเติม ติดตั้งโดย บริษัท ไทย ออโต้ คอนเวอร์ชั่น จำกัด
วัสดุตกแต่งบริเวณไฟตัดหมอกหน้า
วัสดุตกแต่งด้านข้างประตู
วัสดุตกแต่งสปอยเลอร์หลัง

สี Platinum White Pearl ราคาเพิ่ม 7,000 บาท.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: แม่บ้านอินโด โกอินเตอร์ ลองของจริง ทดสอบ TOYOTA VELOZ PREMIUM

หมวดหมู่: รถยนต์