Mazda MX-30 EV รถไฟฟ้า 100% เลิกขายในสหรัฐฯ เหตุทั้งปีขายได้แค่ 66 คัน
Mazda MX-30 EV ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100% ถูกยุติการจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เหลือไว้เพียงรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้นที่ยังสามารถจับจองได้อยู่ เหตุมาจากยอดขายสะสมเพียง 66 คัน นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา
Mazda USA ได้ทำการยุติการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า MX-30 EV ลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยังคงเหลือจำหน่ายเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนียในจำนวนจำกัดเท่านั้น ซึ่งสาเหตุหลักคาดว่ามาจากยอดขายที่ย่ำแย่กว่าที่คาดหวังไว้ เนื่องจากในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายไปได้เพียง 16 คัน ขณะที่ยอดขายสะสมนับตั้งแต่ต้นปี 2566 มีเพียง 66 คัน เทียบกับปี 2565 ที่มียอดขายรวมกันทั้งปีเพียง 324 คันเท่านั้น
ประเด็นสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเพียงรุ่นเดียวของค่ายมาสด้าไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวสหรัฐฯ เท่าที่ควร คาดว่าเป็นเพราะแบตเตอรี่ที่มีระยะทางขับขี่เพียง 100 ไมล์ หรือ 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้งเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ที่มีให้เลือกในตลาด แม้ว่ามาสด้าจะพยายามออกมาแก้เกมด้วยบริการ MX-30 Elite Acces Loaner Program ที่ให้ลูกค้าสามารถยืมรถยนต์มาสด้าเครื่องยนต์สันดาปได้เป็นระยะเวลาสูงสุด 10 วันต่อปีแล้วก็ตาม
สำหรับ Mazda MX-30 EV ที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 143 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 271 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้า พร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ความจุ 35.5 kWh ติดตั้งไว้ใต้ท้องรถ รองรับการชาร์จด่วนในเวลา 36 นาที (ชาร์จถึงระดับ 80%) พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น หลังคามูนรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า, กล้องมองภาพรอบคัน 360º View Monitor และเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว เป็นต้น
ปัจจุบัน Mazda MX-30 EV คงเหลือจำหน่ายเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น โดยคาดว่ามีปริมาณรถในสต็อกเพียงไม่กี่คันเท่านั้น และมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 34,110 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,170,000 บาท
คุณกำลังดู: Mazda MX-30 EV รถไฟฟ้า 100% เลิกขายในสหรัฐฯ เหตุทั้งปีขายได้แค่ 66 คัน
หมวดหมู่: รถยนต์