ไม่หยุดตามฝัน วง “Yes Indeed” ภูมิใจกลายเป็นศิลปินเต็มตัว เดินสายแก้บนเสริมความปัง

ไม่หยุดตามฝัน วง “Yes Indeed” ภูมิใจกลายเป็นศิลปินเต็มตัว เดินสายแก้บนเสริมความปัง

วิ่งไล่ตามความฝันจนกลายเป็นความจริง! สำหรับวง Yes Indeed วงดนตรีมัธยมที่ปลุกกระแสดนตรีเปิดหมวกให้คึกคัก ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน พอร์ส–นรากร อิสระวรางกูร (นักร้องนำ มือกีตาร์), แพนเค้ก–อิสรีย์ อิสระวรางกูร (นักร้องนำ), มังกร–รัชชานนท์ วรกิจไพบูลย์ (กลอง), ทะเล–ยศธกร ชะเอม (กีตาร์) และติน– ตฤณ ฟูจินิรันดร์ (คีย์บอร์ด) ล่าสุดเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวจากค่าย White Music มาพร้อมเพลงเปิดตัว “เลื่อนชั้น” ได้รับความสนใจจากแฟนๆล้นหลาม กระแสดีถึงขั้นจัดเดินสาย “แก้บน” รับความปัง! ตามประสาสาย “มู” แต่กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องฝ่าฟันอุปสรรค พิสูจน์ฝีมือมาอย่างหนักหน่วง ใน “คนดังนั่งคุย”

มีซิงเกิลเป็นของตัวเองแล้วรู้สึกยังไงบ้าง

พอร์ส “รู้สึกว่าเกินคาด เรามีความฝันแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเร็ว สิ่งที่มันเกิดขึ้นเรียกว่าเกินความคาดหมายทำให้ตัวเรายิ่งต้องไฟต์กับตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีก เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมอยู่ตลอดเวลา”

แพนเค้ก “รู้สึกตื่นเต้นทุกการทำงานไม่ว่าการเข้าห้องอัดครั้งแรก การถ่ายเอ็มวี การเจอพี่ๆศิลปินคนอื่นๆ การได้ทำงานจริงๆจังๆเหมือนเป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ทำ ก้าวแรกของพวกเราด้วย ทำให้เราลองเรียนอะไรใหม่ๆมากขึ้น ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ทำ”

ทะเล “รู้สึกเหมือนกับเพลงของพวกเราเลื่อนชั้นใช่มั้ย? เลื่อนมาเป็นแฟนแต่ผมเลื่อนชั้นจากเด็กที่เรียนดนตรีคนนึงให้กลายเป็นศิลปิน ได้เข้ามาทำงานกับพี่ๆที่เป็นมืออาชีพ เหมือนทำให้เราเรียนรู้ตามเค้าไป สกิลหรือมายด์เซตต่างๆเทียบเท่าศิลปินแกรมมี่ไวท์ มิวสิค”

มังกร “ผมรู้สึกว่ามาถึงจุดนี้เราจะต้องเปลี่ยนหลายๆอย่าง ต้องเปลี่ยนตัวเอง มีความรับผิดชอบมากขึ้น ขยับตัวเองให้มีมาตรฐานมากขึ้นให้สมกับเป็นศิลปิน เราต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นศิลปินที่มีคุณภาพ”

กับเพลงเลื่อนชั้น พอได้โจทย์เพลงนี้มาต้องเตรียมตัว กันยังไงบ้าง

แพนเค้ก “พี่ๆถามเราว่าเราจะอินกับความสัมพันธ์แบบไหน”

ทะเล “เราต้องเท้าความก่อนว่า พี่นัฐ วงเคลียร์ เป็นโปรดิวซ์ พี่กบ บิ๊กแอส เป็นเอกซ์คูลซีฟโปรดิวเซอร์ เค้านัดวันให้เรามาห้องประชุม เราชอบเพลงแนวไหนบ้าง ทิศทางไหน ประสบการณ์ความรักเป็นยังไงจะได้เอาไปเขียนถูก จนพอคุยห้องประชุมเอาเพลงให้เราฟัง เพลงนี้ได้การบ้านกลับไปคิดตรงนี้เพิ่ม ใส่อะไรเข้าไปให้เป็นลายเซ็นของตัวเอง พี่นัฐ วงเคลียร์จะมาดูซ้อม เค้าจะแก้หลายๆไลน์ คีย์บอร์ด เจาะทุกเครื่อง เครื่องไหนควรแก้ให้มันดีและกลมกล่อมมากขึ้นจนพอแก้เสร็จไปห้องอัด วันเดียวจบเลย”

แพนเค้ก “ทางด้านการร้อง หนูต้องอ่านเนื้อซ้ำไปซ้ำมาให้เราเข้าใจกับเนื้อและเป็นตัวเองมากที่สุด เปลี่ยนเนื้อให้เข้ากับปากเรามากที่สุด พี่นัฐจะบอกอยากได้ฟีลเขินๆหน่อยได้มั้ย อยากให้มันเป็นลายเซ็นเยสอินดีส เอาตัวเองใส่ลงไปให้มากที่สุด”

ติน “ได้เดโม่มา มาคิดไลน์คีย์บอร์ด จะเล่นท่อนไหน เสียงอะไร ได้โอกาสไปอัดในห้องซ้อม หลังจากที่ได้ฟังเพลงผมก็อยากเล่นคอนเสิร์ตเลยครับ รู้สึกชอบมาก อยากทำเพลงต่อไปเลยครับ”

มังกร “พาร์ตกลอง ตอนแรกผมไม่เคยเรียนดนตรีมาก่อน พอเข้าห้องอัดต้องเตรียมตัว ส่วนกลองได้พี่กบแนะนำส่งไปเรียนพี่ฟิลิปส์ ค็อกเทล ทำให้เรามีแมทเทียเรียลในหัว มีความรู้ เราควรใส่อะไรตรงไหนดี เราดีไซน์ใส่ไปมีพี่กบ พี่นัฐคอยช่วยตบๆบางอย่างให้เข้าที่ ที่ปรับมากที่สุดเรื่องน้ำหนัก ตอนแรกที่ตีแล้วแรงตก ส่งผมไปฟิตเนสเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเวลาตีกลองจะได้นานมากขึ้น เตรียมความพร้อมร่างกายและทักษะเลยครับ เป็นการไกด์ให้เราฝึกยังไง เหมือนไปได้เร็วมาก”

ในเอ็มวีคนจะพูดถึงปอยผมของมังกรตลอดเลย

มังกร “เริ่มจากตอนเล่นสยามฯพักนึงแล้วครับ ผมตีกลองแล้วปล่อยผม ผมเลยจะปิดหน้าปิดตา ต้องเสยบ่อยก็จะเสียบุคลิกเลยถามแพนเค้กทำยังไงดี? ก็บอกมัดมั้ย แพนเค้กก็เลยมัดเป็นจุกให้ผมครับ”

แพนเค้ก “พอไปลงติ๊กต่อกก็จะมีคอมเมนต์ น้องมือกลองมัดจุกของพี่ เป็นฉายาดังของเค้า หลังจากนั้นไม่มัดไม่ได้แล้วค่ะ”

มังกร “ตอนนี้ผมเริ่มล้านแล้วครับ (หัวเราะ)”

ตอนนี้กลายเป็นพระเอกเอ็มวีแฟนก็ชมเปาะหล่อมาก

มังกร “ตอนแรกที่รู้ตกใจ ถามพี่เอาจริงเหรอ แต่ก็ลุยก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ท้าทาย ก็ลองดู พอถ่ายดูก็สนุกมากๆ ลองทำ พี่ๆใจดีซัพพอร์ต”

น้องนางเอกเอ็มวีน่ารักดีนะ

มังกร เล่าทันทีว่า “แต่ผมไม่ค่อยได้คุยครับ ซึ่งผมเป็นพระเอกเอ็มวี มีคนแย่งคุยหมดเลย (หันมาทะเล)”

ทะเล รีบชี้แจง “ผมเป็นคนเฟรนด์ลีๆ (หัวเราะ)”

ถามจริงๆนางเอกเอ็มวีได้เลื่อนขั้นเลื่อนชั้นหรือยัง

ทะเล “ผมไม่เลื่อนดีกว่าครับ” มีเสียงเพื่อนๆแซวลอยมา “เลื่อนจากเพื่อนเป็นคนไม่รู้จัก” ฮาาาา

เราตามฝันเป็นศิลปิน ความรู้สึกคำนี้มาตอนไหนเหรอ

พอร์ส “ผมเริ่มรู้สึกตั้งแต่ตอนเปิดหมวกเพราะว่าผมรู้สึกว่า ศิลปินสำหรับผม เหมือนเราได้เอางานศิลปะถ่ายทอดออกมาไม่จำเป็นจะต้องมีชื่อเสียงหรืออะไร ความฝันอย่างหนึ่งคือการมีเพลงเป็นของตัวเอง ทำให้คนรู้สึกว่าเราเป็นจริงๆแล้วนะ”

แพนเค้กล่ะมีเพลงของตัวเองเรารู้สึกยังไง “ของหนูคิดมาเสมอความฝันของหนูคืออะไร ตามหาความฝันมาตลอดเวลา เล่นกับทุกๆคน พอหนูมาได้ถึงจุด เด็กที่มีความฝัน จากที่ไม่เคยรู้ว่าเราจะทำอะไร พอมาถึงจุดจุดนึง รู้สึกว่าวันนี้เราได้ให้ทุกคนรู้ว่าเรามีคุณค่า ให้คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเรา”

ติน “รู้สึกภูมิใจ และมองย้อนกลับไปตอนที่เราเดินผ่าน ขอเค้าเล่น เราเล่นเพราะความอยากจนวันนี้เรามาไกลกว่าที่คิดเยอะมาก”

มีเพลงของตัวเองทำให้ใจฟูขนาดไหน ติน ร้องเสียงหลง “ห้ะ” คำเดียวสั้นๆ ช็อตฟีลทุกคนไปอีก...

มังกร “ช่วงที่เราเปิดหมวกกัน ความจริงผมเหมือนสั่งสมประสบการณ์แรกๆ วันที่เราปล่อยเพลงผมถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญ รู้สึกว่าเป็นก้าวแรกที่ดีและเราต้องเดินต่อไปยังอีกไกล ต้องพัฒนาตัวเอง ต้องมีวินัยมากขึ้น”

ทะเล “การเป็นศิลปิน การเป็นนักดนตรี ตั้งแต่เด็กๆอยากเป็นนักดนตรีเป็นศิลปิน รู้สึกคอมพลีตดี หลายๆอย่างที่เราฝึกซ้อมมานาน รู้สึกมันคุ้มกับสิ่งที่ทำ”

ล่าสุดเห็นว่าต้องไปแก้บนแล้วเราไปบนอะไรกันไว้

พอร์ส “อย่างที่รู้กัน เล่นแต่ละที่จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรามีขอพรทุกที่ที่ไปเล่นเลย ประมาณว่าขอให้มีเพลงขอให้ได้เป็นศิลปินนะ ตั้งแต่เราเปิดหมวก”

แพนเค้ก “ที่เราจะไปแก้บน จะเป็นไฮไลต์ เราไปเล่นบ่อย เยาวราช ช่วงที่หนูกับพอร์สเล่นกันที่แรกๆ จตุจักร หลังจากเราทำสยามแตกก็ทัวร์ไปอื่น มีสยามฯ อันนั้นจะไปไหว้ อาจจะไม่ได้เล่น แต่ที่เล่นเป็นโชว์ใหญ่จริงๆ ที่เอเชียทีค ที่ไปเล่นที่นี่เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเราทุกคนมาเจอกันที่เอเชียทีค ที่รวมตัวของพวกเรา”

พอร์ส “เป็นที่แรกที่ให้โอกาสพวกเรา”

แพนเค้ก “ครั้งแรกที่พอร์สชวนออกมาทำหนูไม่กล้าออกมาทำ เขินด้วย พอได้ก้าวข้ามความกลัว ความเขินทำให้เราออกมาจากเซฟโซนเราได้ซะที”

ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงขนาดไหน

พอร์ส “จริงๆผมมองว่าชีวิตผมเปลี่ยนตั้งแต่เริ่มทำแล้ว (ประสานเสียงต้องฮือกันเลยทีเดียว) จากคนขี้อายทำให้เรากล้ามากขึ้น สบตาคนมีอายคอนแทกต์ กล้าเล่นต่อหน้าคนเยอะ จากวันแรกที่เราโดนกดดันคำพูดอะไรหลายๆอย่างด้วยเพราะว่าเราไม่พร้อมอุปกรณ์และฝีมือไม่ขนาดนั้น พอเล่นไปเรื่อยๆ สั่งสมประสบการณ์ฝึกเอนเตอร์เทน เล่นกับคนเยอะๆ ทำให้เราเหมือนมีอะไรติดตัวมาเรื่อยๆ สะสมๆจนวันนึงเรามีครบวง ทำให้เราเป็นโชว์แต่ละคนที่ไป คนมาติดตาม มีแฟนคลับฐานนึงพอเล่นสยาม ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากกลายเป็นกระแสขึ้นมา”

แพนเค้ก “เปลี่ยนไปหลายด้านเลยค่ะ มีทั้งโอกาสที่ได้รับและประสบการณ์ต่างๆ ได้เจอคนที่ไม่คิดจะได้เจอ ศิลปินที่เราชื่นชอบตั้งแต่เด็กๆ พี่เค้าเฟอร์ฟอร์มบนเวที มันต่าง ที่มามีคาแรกเตอร์ต่างกัน ทำให้เรารู้ว่าคนนี้พี่แพท คนนี้พี่เฟิด แต่ละคนเฟอร์ฟอร์มจนเรามองเอามาใช้กับตัวเอง ปรับให้เป็นตัวเอง ทำให้เรารู้สึกโตขึ้น ปรับใช้ในเพลงและวงของเรา”

กลายเป็นศิลปินแบบนี้ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ

ทะเล “พ่อแม่ผมซัพพอร์ตด้านดนตรีครับ ตั้งแต่เด็กๆพ่อจะสนับสนุนให้เล่นกีฬา พ่อเตะบอล ผมก็รับมา เตะมาเรื่อยๆจนเจ็บแล้วเล่นไม่ไหวก็เลยหันมาทางดนตรีดีกว่า โค้ชก็บอก ยศธกรไปเดินแบบไป๊ ก็เลยมาเล่นกีตาร์ดีกว่า เดินแบบไม่รุ่ง (หัวเราะ) ทำให้ค้นพบตัวเองชอบเล่นดนตรี”

มังกร “เค้าก็ภูมิใจ พอรู้จะเล่นกับเพื่อนๆเค้าก็สนับสนุน ขับรถรับส่ง เขาไม่บังคับต้องเป็นอะไร เขาเชื่อว่าคนเราตั้งใจทำอะไร มีแพชชันที่ใหญ่ ผมเองตั้งใจทำสุดความสามารถเลย ท้ายสุดปลายทางอาจจะไม่สมบูรณ์ 100% อย่างน้อยคนเราตั้งใจทำอะไรสักอย่างผมเชื่อว่าในใจเขาคอมพลีตไปแล้ว (อูย...ย พูดได้หล่อมาก)”

ถึงขั้นต้องบอกว่าครั้งนี้ มังกร กลายเป็นคนพูดเก่งขึ้น พูดเยอะมาก ได้รับการคอนเฟิร์มจากสาวแพนเค้กด้วยว่า “ตั้งแต่เล่นสยามหนูได้ยินมังกรพูดอยู่ 2 คำ บ๊ายกับกลับบ้านแล้วนะ แค่นี้จริงๆ”

ทะเลบอก “เจอ 2 วันแรกไม่คุยเลย จำได้มั้ย? (หันไปทางมังกร)” ก็ได้คำตอบจำไม่ได้ซะงั้น แพนเค้กเล่าต่อว่า “ตอนเล่นที่สยาม วันไหนมังกรพูดคนจะกรี๊ด ก็จะอุ๊ย พูดได้ด้วยเหรอ”

ติน “ของผมที่บ้านภูมิใจครับ ตอนเด็กๆโดนบังคับให้เรียนเปียโนคลาสสิก ผมร้องไห้ทุกครั้งที่เรียน เซย์โนไม่เรียนแล้ว จนแม่ให้ย้ายไปเรียนข้างๆบ้าน เป็นการเรียนเพื่อความสนุก ก็เริ่มชอบและจริงจังขึ้นเรื่อยๆ จนมาเปิดหมวกและมาเจอวงนี้แหละครับ”

แพนเค้ก เสริม “ตอนแรกเขาจะเปิดหมวกแข่งกับหนูค่ะ (ยิ้ม)”

เราเป็นสาวคนเดียวในกลุ่ม หนุ่มๆคอยดูแลเรามั้ย

แพนเค้ก “ไม่เลยค่ะ ไม่มีใครดูแลหนูเลย ก็ดูแลตัวเองและดูแลทุกคนด้วย บางคนมีความเป็นเด็กน้อยอาจจะมีการตีกันเล็กน้อยบ้าง ตินกับทะเล มีความเป็นคู่จิ้น อายุเท่ากันแต่มีความคิดที่แตกต่างกัน”

ทะเลเสริม “เรามีคอนฟิกกันได้ทุกที่ครับ ตั้งแต่บนรถ ห้องซ้อม ยันบนคอนเสิร์ต ทุกที่เป็นไปได้หมด จบที่งอนกัน ไม่มีใครง้อ พอได้ทำงานดีขึ้นคุยกัน”

เพลงต่อๆไปมีแนวไหน

พอร์ส “อยากให้เพลงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเร่งให้มันดังขนานั้นอยากให้ไปเรื่อยๆ ”

แพนเค้ก “จะได้เห็นหลายๆแนว ฟีลต่อจากเพลงเลื่อนชั้น มีเพลงที่โตขึ้น เยส อินดีส ”

พอร์ส “เข้าถึงทุกเจนมากขึ้น โกลด์ของพวกเราอยากให้เพลงเข้าถึงทุกเพศทุกวัยครับ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน

คุณกำลังดู: ไม่หยุดตามฝัน วง “Yes Indeed” ภูมิใจกลายเป็นศิลปินเต็มตัว เดินสายแก้บนเสริมความปัง

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด