เปิดใจ "วอเตอร์สัน" นักสู้สาวลูกครึ่งไทย พร้อมคืนสังเวียน UFC เมษายนนี้
หลังจากที่ โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวหนึ่งเดียวจากประเทศไทย
เก็บชัยชนะในสังเวียน UFC
ไฟต์ล่าสุดได้อย่างสวยสดงดงามด้วยการเอาชนะซับมิทชั่น อรีเซ่ รีด
คู่ต่อกรชาวอเมริกัน ไปได้ในยกที่ 2 ภายใต้ศึก UFC 284 :MAKHACHEV VS
VOLKANOVSKI เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
นอกเหนือจาก โลมา ลูกบุญมี แล้ว ยังมีอีกหนึ่งนักสู้สาว
ที่แม้ว่าจะถือสัญชาติอเมริกัน
แต่ก็ยังมีสายเลือดความเป็นไทยอยู่ในตัวนั่นก็คือ มิเชล
วอเตอร์สัน-โกเมซ นักสู้หญิงอเมริกัน-ไทย วัย 37
ปีที่มีคุณแม่เป็นชาวไทย และมีคุณพ่อเป็นชาวอเมริกัน โดย มิเชล
เกิดที่ โคโลราโด สหรัฐอเมริกา และกำลังจะมีคิวขึ้นสังเวียนอีกครั้ง
โดยจะพบกับ ลูอาน่า ปินเฮโร่ ในศึก UFC 287: Pereira vs Adesanya 2
ที่ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน นี้
มิเชล
เปิดใจถึงการวาดฝันถึงการเป็นแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวตหญิงของตัวเองว่า
“มีบางช่วงที่คุณรู้สึกแย่ แต่มันก็ต้องยกระดับจิตใจ
คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง คุณต้องเชื่อมั่นในทักษะ
ความสามารถและร่างกายของคุณ ที่จะพาคุณไปถึงจุดนั้น
คุณเพียงแค่ต้องทำงานอย่างหนัก”
“ในความคิดของฉัน รุ่นสตรอว์เวตหญิง
เป็นรุ่นที่มีความใกล้เคียงกันมากที่สุดในบัญชีรายชื่อนักสู้หญิงในศึก
UFC ฉันต้องการที่จะขึ้นไปสู่จุดสูงสุด โดยเร็วที่สุด”
ที่ผ่านมา มิเชล เคยมีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณ จนส่งผลเรื่องสภาพจิตใจ
และกระทบไปถึงผลงานของเธอ
อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้เธอได้ผู้ช่วยมือดีที่ทำให้เธอกลับมาเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจอีกครั้ง
ยามขึ้นสังเวียน
“ฉันต้องต่อสู้ทางจิตใจกว่าจะกลับมาได้ ฉันมือหักสามครั้งและออกจาก
UFC มาเกือบปีครึ่งแล้ว
ดังนั้นแค่ฉันได้กลับเข้ามาและทำในสิ่งที่ฉันรัก และคว้าชัยชนะ
แถมยังได้รับ "Submission of the Night"
มันก็เป็นสิ่งที่ฉันลืมไม่ลงเลยจริงๆ”
“ฉันมี ดร. แชนนอน โค้ชทางจิตวิทยา ที่ทำงานร่วมกับฉัน
โดยหลังจากการต่อสู้ทุกครั้ง เราจะแยกย่อยว่า อะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล
และอะไรที่จะนำเราไปสู่ระดับต่อไป”
“จากนั้นเมื่อเราแยกย่อยและวิเคราะห์แล้ว เราจะนำไปแสดงกับโค้ช
พวกเขาทั้งหมดมีกระบวนการประเภทเดียวกัน นั่นคือ อะไรได้ผล
อะไรไม่ได้ผล และอะไรที่เราปรับปรุงได้ และจากนั้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเชื่ออย่างแท้จริงว่า
ฉันยังสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้อีก”
“สำหรับ โลมา ลูกบุญมี ฉันรู้ดีว่า เธอคือนักสู้ไทยแท้คนแรกใน UFC
แต่ล่าสุดฉันไม่ได้ดูเธอในไฟต์ที่ซัยมิทชั่นใน รีด และแน่นอนฉันเชียร์
โลมา ฉันชอบความกล้าหาญของเธอ ฉันชอบทัศนคติของเธอ
คุณสามารถบอกได้ว่าเธอเป็นนักสู้ตลอดเวลา“
“ฉันคิดว่าสิ่งที่น่าประทับใจกว่าที่ได้เห็นจากเธอคือการพัฒนาทักษะ
MMA ของเธอ การเทคดาวน์ของเธอ และจัดท่าของเธอบนภาคพื้นดิน
เธอทำได้เยี่ยมมากๆ“
“สุดท้ายที่ฉันชอบและเชียร์ โลมา ก็คือ
เพราะฉันมีความเป็นไทยอยู่ในสายเลือด
ฉันไปประเทศไทยกับแม่เพื่อเยี่ยมครอบครัวเมื่อตอนอายุ 19 ปี
หลังจากนั้นฉันก็เริ่มต้นเรียนวิชามวยไทย“
นักสู้เจ้าของฉายา "The Karate Hottie” มีสไตล์การต่อสู้ที่โลดโผน
ว่องไว และมีแววตาที่มุ่งมั่นอยู่เสมอ ซึ่งที่ผ่านมา มิเชล มีสถิติชนะ
18 แพ้ 10 โดยเคยเอาชนะนักสู้ตัวท็อปอย่าง คาโรลิน่า โควาคีย์วิคซ์
,เจสสิก้า เพนนี และ อันเจล่า ฮิลล์ รวมไปถึงเคยคว้ารางวัล Fight of
the Night และ Performance of the Night มาแล้วรางวัลละ 1 ครั้ง
“ฉันมีการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นมากมาย การต่อสู้ครั้งล่าสุดกับ แองเจลา
ฮิลล์ เป็นไฟต์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉัน เพราะเป็นการต่อสู้ 5 ยก
จนถึงวินาทีสุดท้าย ส่วนการต่อสู้กับ โรส นามาญูนาส
ก็สนุกตื่นเต้นไม่แพ้กัน และแน่นอนว่าฉันต้องการทำมันอีกครั้ง”
แม้ว่าปัจจุบัน นักสู้วัย 37 ปี
จะแต่งงานมีครอบครัวและมีลูกสาวหนึ่งคน โดยเธอตั้งชื่อให้ว่า อารยา
แล้ว
แต่เรื่องครอบครัวไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการฝึกซ้อมของเธอเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่คิดว่าคุณสามารถหยุดพัฒนาตัวเองจากความชราได้
แต่คุณสามารถปล่อยให้ตัวเองยังเป็นเด็กได้
ในแง่ที่ว่าคุณสามารถมีความคิดในการเรียนรู้อยู่เสมอ
นั่นคือสิ่งที่ฉันได้ทำ”
“ฉันคิดว่าบางครั้งเมื่อฉันรู้สึกเหนื่อยหน่าย
ฉันถอยออกมาหนึ่งก้าวและคิดว่าฉันต้องสู้
ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำในสิ่งที่ฉันรัก ฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันรัก
ฉันได้เรียนรู้และเติบโตในฐานะนักศิลปะการต่อสู้
และมันน่าทึ่งมาก”
สำหรับศึก UFC 287: Pereira vs Adesanya 2
คู่เอกของรายการเป็นการป้องกันแชมป์รุ่นมิดเดิลเวต ระหว่าง อเล็กซ์
เปเรย์ร่า เจ้าของแชมป์จากบราซิล
จะป้องกันตำแหน่งกับอดีตแชมป์ชาวไนจีเรียอย่าง อิสราเอล อเดซานย่า
โดยจะเปิดศึกกัน ณ สังเวียน Miami-Dade Arena ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา
ในวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน นี้
คุณกำลังดู: เปิดใจ "วอเตอร์สัน" นักสู้สาวลูกครึ่งไทย พร้อมคืนสังเวียน UFC เมษายนนี้
หมวดหมู่: มวย