เปิดประสบการณ์ "VIVo" V15 Pro

แบรนด์ ViVo (วีโว่) สำหรับตลาดสมาร์ทโฟน แม้ว่าจะเข้ามาทำตลาดเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ให้ความสำคัญกับตลาดเมืองไทยไม่น้อยเพราะมีฐานลูกค้าชาวไทยใช้มือถือแบรนด์นี้ทั่วประเทศมากกว่า 6 ล้านคนกับจุดเด่นที่เน้นเรื่องเสียงไฮ-ไฟ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจบริษัทนี้นี่เอง รวมทั้งการเน้นกล้องถ่ายภาพที่เป็นจุดขายสำคัญในยุคปัจจุบัน

นับเป็นแบรนด์แรกๆที่นำสมาร์ทโฟนใหม่ประเดิมตลาดในช่วงต้นปี กับการนำรุ่นใหม่คือ ViVo V 15 Series บุกตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ปัจจุบันเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดและมีการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะแบรนด์จีนที่มีหลายรุ่นเริ่มทยอยเปิดตัวรุ่นใหม่ๆกัน

โดย “วีโว่” ได้แยกทำตลาดซีรีส์นี้เป็น 2 รุ่นด้วยกันคือ ViVo V15 Pro เริ่มวางตลาดแล้วกับราคา 14,999 บาท ส่วนรุ่น V 15 ราคา 10,900 บาท เริ่มเปิดให้จองและรับเครื่องใช้ช่วงก่อนสิ้นเดือน มี.ค.นี้

ทาง “วีโว่” ได้จัดส่ง V15 Pro มาให้รีวิวการใช้งาน ซึ่งพอจะสรุปจากการใช้งานมาหนึ่งสัปดาห์เต็มพอจะสรุปได้เบื้องต้น ที่ผู้บริหารบอกว่าแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนเจาะตลาดระดับกลาง แต่สเปกนั้นจัดเต็มในระดับสมาร์ทโฟนเรือธง เริ่มจากจุดเด่นสเปกของรุ่นนี้ก็คือกล้องหน้าแบบ “ป๊อปอัป” เลื่อนอัตโนมัติ เรียกว่า Elevating Front Camera ให้ความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ที่วีโว่ระบุว่าเป็นรายแรกที่พัฒนาและคิดค้นขึ้นมา และไม่ต้องมีปัญหารำคาญกับรอยบากตรงหน้าจอ

เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 675 RAM 6 GB ROM 128 GB โอเอส Funtouch 9.0 พร้อมกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพคือ AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้อง Dept ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้อง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล

เป็นจอ Super AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ลดขอบด้านข้างเหลือ 1.75 มม. ส่วนด้านบนเหลือ 2.2 มม. ปลดล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและด้วยใบหน้าผ่านกล้องหน้า ส่วนตัวบอดี้ด้านหลังโทรศัพท์มีสีสันสวยงามสะดุดตากับความมันเงาไร้รอยต่อ มี 2 สี คือ สีน้ำเงิน Topaz และสีแดง Coral

บทสรุป สมาร์ทโฟนที่ระดับราคา 14,999 บาท ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ ที่ AI เข้ามาช่วยทำให้การถ่ายภาพง่ายขึ้นเยอะ เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบถ่ายภาพและแชร์ในโซเชียลได้ทันที ความเห็นส่วนตัวแล้วภาพถ่ายออกมา

สวยงามไม่จำเป็นต้องปรับแต่งภาพ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งภาพมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ปรับแต่งรูปใบหน้าไปจนถึงปรับแต่งรูปร่างทุกสัดส่วนของร่างกายเลยทีเดียว

กล้องหน้าที่เป็นจุดเด่นนั้นสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้คมชัด แม้ในสภาวะแสงน้อย ตัวกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลง ดูแข็งแรงดี วีโว่ระบุว่าใช้งานได้ถึง 3 แสนครั้ง ส่วนกล้องหลังชอบการใช้ถ่ายมุมกว้างขึ้นที่ถ่ายได้ 120 องศา ขณะที่การถ่ายภาพกลางคืนในโหมด Super Night Mode ออกมาชัดและสว่างขึ้น จาก AI ช่วยให้ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง

สำหรับการใช้งานด้านเกมไหลลื่นดี ลองเล่นเกม ROV และเกมหนักอย่าง PUBG Mobile ลื่นดีไม่กระตุก ราวหนึ่งชั่วโมงวัดความร้อน หน้าจอและหลังจอได้เฉียดๆ 40 องศา ระบบชาร์จเร็วแบบ Dual Engine Fast Charging จากแบตเหลือ 30% ใช้เวลาชาร์จ 15 นาที เพิ่มเป็น 53% จากนั้นใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงชาร์จเต็ม

น่าเสียดายว่าไม่ได้ใส่ชิปเสียง ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของ “วีโว่” ไม่ได้ใส่มาให้รุ่นนี้ด้วย !!

เปรียบเทียบราคาทุกร้าน >>> คลิกที่นี่

คุณกำลังดู: เปิดประสบการณ์ "VIVo" V15 Pro

หมวดหมู่: ทบทวน