เปิ้ล-จูน ชี้แจงหลังโวยขอความยุติธรรม ถามหาเงินอัดฉีดให้นักกีฬาทีมชาติ
กลายเป็นประเด็นร้อน หลัง เปิ้ล นาคร แชร์โพสต์เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ใหม่ในการรับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งทำให้ลูกชาย น้องออก้า รวมถึงนักกีฬาเจ็ตสกีคนอื่นๆ ไม่ได้รับเงินสนับสนุน
กลายเป็นประเด็นร้อน หลัง เปิ้ล นาคร แชร์โพสต์เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ใหม่ในการรับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งทำให้ลูกชาย น้องออก้า รวมถึงนักกีฬาเจ็ตสกีคนอื่นๆ ที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกกลับมา ไม่ได้รับเงินสนับสนุนเหมือนเคย
โดย เปิ้ล และภรรยา จูน กษมา ได้ร่วมงานเปิดตัว Grand Opening The Touch พร้อมชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้น ว่าไม่เข้าใจในกฎดังกล่าว และอยากให้ผู้ใหญ่ออกมาชี้แจง รวมถึงช่วยพิจารณาความแตกต่างของกีฬาแต่ละประเภท ก่อนจะใช้กฎดังกล่าวเป็นมาตรฐานเดียวกัน
กับดราม่าเงินอัดฉีดนักกีฬา?
เปิ้ล : “เรื่องมันเริ่มจากการที่นักกีฬาเจ็ตสกีที่ไปแข่งชิงแชมป์โลกมา ได้เหรียญทองมาทั้งหมด 14 คน ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่ไม่เคยมีมาก่อน สามารถล้มแชมป์อเมริกาได้ ประเทศไทยในตอนนี้เป็นอันดับ 1 ของโลกทางด้านเจ็ตสกีแล้วนะครับ
พอกลับมาถึง ทุกคนบอกว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ในทุกๆ เรื่อง จากสปอนเซอร์ จากอะไรก็ตาม รวมไปถึงเรื่องของเงินอัดฉีด พอดีนักกีฬาเขาก็พูดกันว่าจะได้ไหม ซึ่งย้อนกลับไปดูว่าใครเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ก็มารู้ทีหลังว่ากองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติจะเป็นผู้จัดสรรเงินอัดฉีด เงินที่จะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬา ไปทราบมาว่าเขาจัดเตรียมไว้ให้แล้ว กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติเขาก็มีเงินสนับสนุนนักกีฬา แต่เผอิญในเคสนี้เขาก็เตรียมไว้ และอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา
แต่มันมีกฎกติกาใหม่เกิดขึ้น ที่เพิ่งจะเปลี่ยนในรุ่นที่เรากำลังสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย คือ ต้องมีประเทศที่แข่งรุ่นหนึ่งไม่ต่ำกว่า 8 ประเทศ แต่คือต้องเข้าใจธรรมชาติของกีฬาแต่ละประเทศก่อน รุ่นหนึ่งเขาแข่งกันบางที 5-6 ประเทศ หมายความว่านักแข่งที่ไปได้แชมป์มา มีไม่ถึง 8 ประเทศตามข้อกำหนดใหม่ เขาก็จะไม่ได้อยู่ในการพิจารณาที่จะได้เงินอัดฉีดเลย
นักกีฬาทุกคนก็มาพูดคุยกัน พี่เปิ้ลตกลงเราจะไม่ได้ใช่ไหม เพราะกฎออกมาแบบนี้ เราเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมกฎถึงออกมาแบบนี้ เพราะก่อนหน้าที่จะออกกฎนี้ นักกีฬาได้กันมาตลอด เขาสนับสนุนมาเป็นอย่างดี แต่จู่ๆ ก็มีกฎนี้ออกมา ผมไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนเปลี่ยนกฎนี้ แต่เขาจะต้องเข้าใจธรรมชาติของกีฬาแต่ละประเภทไหม เพราะกีฬาแต่ละประเภทคุณจะใช้กฎเดียวมาตั้งให้กับทุกกีฬาไม่ได้
มันต้องพิจารณาตามธรรมชาติของกีฬา ซึ่งตรงนี้ผมฝากทางผู้ใหญ่ รบกวนช่วยพิจารณากันใหม่ด้วย สงสารนักกีฬาทุกๆ คนเลย เพราะนักกีฬาเจ็ตสกีทุกคนที่ไปทำชื่อเสียงให้กับประเทศ หนึ่งคนใช้งบส่วนตัวไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท ทั้งหมดหลาย 10 ล้านบาทที่ทุกคนตั้งใจสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย แล้วเขาก็ทำสำเร็จ สามารถเป็นที่หนึ่งของประเทศไทย
กีฬาบางประเภทยังไม่ได้เป็นที่หนึ่งของโลกเลย แต่ก็มีเงินอัดฉีด 10-20 ล้าน น่าดีใจกับนักกีฬาทุกคนด้วย ประเทศไทยเราจะพัฒนาไปได้ มันต้องอยู่กับการส่งเสริมและการสนับสนุนของผู้ใหญ่ทุกๆ ฝ่าย ฉะนั้นบางทีอาจเป็นเรื่องของความเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อนของการสื่อสาร เพราะเห็นบอกว่าบางทีมีการส่งเอกสารให้ทางนั้น แล้วทางนั้นยังไม่ได้รับ การผิดพลาดตรงนั้น เราก็ไม่ซีเรียส แต่กฎตรงนี้ฝากพิจารณาแก้ไขด้วย เพื่อที่จะให้มันเกิดประโยชน์ในการพัฒนานักกีฬาในปีต่อๆ ไป
ถามว่าใช่สิ ลูกมึงได้ก็เลยออกมาไฟต์แทนหรือเปล่า ผมบอกเลยว่าผมแชร์จากนักกีฬาหลายๆ คนที่เขาโพสต์กันมา มันมีคำถามพวกนี้มาช่วยแชร์ ผมบอกว่ามันไม่จำเป็น จำเป็นก็ได้ เพราะเป็นเงินที่ลูกควรจะได้รับ ส่วนนักกีฬาทุกคนก็ควรจะได้จริงๆ หมื่นสองหมื่น พันสอง หนึ่งพันก็ยังดี เป็นกำลังใจให้กับเขา ไม่ต้องเป็น 10-20 ล้านก็ได้
ที่สำคัญผมบอกเลย ถ้าผมได้เงินก้อนนี้นะ ผมจะไปคุยกับออก้าเลย แล้วเอาเงินที่กองทุนมามอบให้กับนักกีฬาเยาวชนทั้งประเทศที่ขาดแคลนในการแข่งกีฬาทั่วประเทศ ผมจะเอาทุนไปให้กับเด็กๆ ทุกคน ไม่ต้องห่วงว่าจะมาไฟต์เพื่อเรา เอาเงินเข้ากระเป๋า แต่ไฟต์เพื่ออนาคตของนักกีฬาทุกคน ทุกประเภท"
จูน : "นักกีฬาเขาก็บอกว่าอย่างนี้เขาก็ไม่อยากไปแล้ว เพราะว่าเขาควักเงินตัวเองออกไป เขาก็ทำชื่อเสียงให้ พอไม่ได้ ทุกอย่างมันไม่เคลียร์"
เปิ้ล : "เพราะกฎมันเป็นแบบนี้ กีฬามันมีไม่ถึง 8 ประเทศที่เขากำหนด แล้วเขาไปแข่ง เขาก็ต้องหารุ่นที่มันมี 8 ประเทศ ซึ่งมันไม่มีในรุ่นที่เขาแข่ง มันก็กลายเป็นว่านักแข่งอาจจะลดลง หรือสปิริตของนักแข่ง ต้องบอกก่อนเขาไม่ได้ทำเพื่อเงิน เขาทำเพื่อศักดิ์ศรีของเขา เขาขับด้วยความรัก
เกิดมาเป็นนักกีฬายังไงเขาก็ต้องลงไปแข่ง แต่ผมถามว่าพอมันเกิดตรงนี้ขึ้น การที่เราจะครองอันดับหนึ่งของโลกได้ต่อไปในปีหน้า ผมว่ามันอาจจะยากละ เพราะว่าในแต่ละประเทศเขาก็ส่งเสริมกันเต็มที่ ก็ต้องฝากผู้ใหญ่ไปพิจารณาด้วยครับ
ผมเชื่อว่าเจตนาของผู้ใหญ่ทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ วงการ สมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย เขาดูแลเราดีมาก ส่วนกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เท่าที่ทราบมาเขาก็ตั้งใจที่จะทำและแก้ปัญหาจุดนี้ให้กับเรา ก็ให้กำลังใจผู้ใหญ่นะ ทำมันให้สำเร็จ แล้วก็พร้อมที่จะยินดีร่วมหาทางออก เพื่อประโยชน์ของนักกีฬาในอนาคตทุกประเภทเลย".
คุณกำลังดู: เปิ้ล-จูน ชี้แจงหลังโวยขอความยุติธรรม ถามหาเงินอัดฉีดให้นักกีฬาทีมชาติ
หมวดหมู่: ความบันเทิง