ผู้ชายต้องระวัง "อัณฑะอักเสบ" เกิดจากอะไรได้บ้าง?

การอักเสบของลูกอัณฑะ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส อาจเกิดจากการติดเชื้อในบริเวณอื่น ๆ ทำให้มีอาการบวมและปวดในอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง

ผู้ชายต้องระวัง "อัณฑะอักเสบ" เกิดจากอะไรได้บ้าง?

การอักเสบของลูกอัณฑะ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส อาจเกิดจากการติดเชื้อในบริเวณอื่น ๆ ทำให้มีอาการบวมและปวดในอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง อาการต่าง ๆ อาจรวมถึงมีไข้ รู้สึกไม่สบายทั่วไป เหนื่อยล้า ปวดต้นขา ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการลูกอัณฑะฝ่อ หรือไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หากปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ความเสียหายในระยะยาวได้ ตัวอย่างเช่น หากลูกอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ไม่สามารถทำงานได้ จะส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยาก เจ็บป่วยรุนแรง หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยปัญหานี้มี 5 ปัจจัยความเสี่ยง ดังต่อไปนี้ค่ะ

1.ติดเชื้อแบคทีเรีย

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การอักเสบของท่อปัสสาวะ เนื่องจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อย่างโรคหนองใน หรือหนองในเทียม รวมถึงความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ การใช้เครื่องมือวินิจฉัยที่ใส่เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะเพื่อการรักษา อาจมีส่วนในการพัฒนาภาวะนี้ให้อาการหนักขึ้นได้

2.ติดเชื้อไวรัส

ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน คือ การติดเชื้อไวรัส ที่มักเกิดจากเชื้อโรคที่เกี่ยวข้องกับสภาวะ ที่เรียกว่าโมโนนิวคลีโอซิส โรคนี้มักปรากฏภายในระยะเวลา 4-10 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ เช่น ต่อมทอนซิลบวม หรืออาการไม่สบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

3.ติดเชื้อรา

การติดเชื้อราจะพบได้น้อย โดยทั่วไปพบในบุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือติดเชื้อ HIV เกิดจากเชื้อรา Candida และ Actinomyces ซึ่งการติดเชื้อราอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับบุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาก โดยเชื้อราทั้ง 2 เป็นสาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังการลุกลามของโรค

4.เปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง

มีการเปลี่ยนแปลงคู่นอนอยู่บ่อยครั้ง การร่วมกิจกรรมทางเพศที่ไม่มีการป้องกัน ไม่สวมถึงยางอนามัย การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก และการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ติดเชื้อ หรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาอยู่แล้ว

5.อาการร่วมจากโรคและการใช้ยา

การอักเสบที่ไม่ติดเชื้อ จะเป็นในกรณีของโรค Behcet ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือด อาการไม่พึงประสงค์ อาจเกิดขึ้นเนื่องจากยาบางชนิด เช่น ยา Amiodarone ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดบริเวณอวัยวะเพศ หรือทางเดินปัสสาวะก็อาจมีการอักเสบได้เช่นกัน นอกจากนี้ บุคคลที่มีต่อมหมวกไตขยายใหญ่ อาจมีความบกพร่องแต่กำเนิดในระบบทางเดินปัสสาวะ จึงเสี่ยงต่อการอักเสบของอัณฑะได้ง่ายเช่นกัน

ผู้ป่วยอัณฑะอักเสบ อาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น การอักเสบเรื้อรังของถุงน้ำเชื้อ การเสื่อมหรือการฝ่อของเนื้อเยื่อต่อมลูกหมาก การเกิดฝีของต่อมลูกหมาก และภาวะมีบุตรยาก ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์ หากมีอาการบวมเล็กน้อย หรือบวมที่ไม่เจ็บปวดก็ตาม เพราะอาจเป็นอาการของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย

คุณกำลังดู: ผู้ชายต้องระวัง "อัณฑะอักเสบ" เกิดจากอะไรได้บ้าง?

หมวดหมู่: ผู้ชาย

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด