พาสัมผัสมือถือใหม่จาก Nokia ครบเครื่องทั้งปุ่มกดและ Smart Phone กับราคาไม่แพง
HMD ประเทศไทยได้เปิดตัว Nokia 3.4, Nokia C3 และ มือถือฟีเจอร์โฟนและหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดที่เรียกได้ว่า น่าตื่นตาตื่นใจ
HMD Global หรือที่หลายคนจะนึกถึงมือถือยี่ห้อ Nokia ที่หายจากตลาดไปนานพอสมควร ล่าสุดพวกเขาก็กลับมาแล้วแต่รอบนี้นำมือถือและ Gadget มาทั้งหมด 4 มือถือและ 2 Gadget หูฟัง มาดูกันว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างในครั้งนี้
Nokia 3.4
เริ่มต้นกับมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการจัดสเปกในราคาที่ไม่แพงกับ Nokia 3.4 รุ่นใหม่ล่าสุดกับขนาดของหน้าจอ 6.39 นิ้ว ความละเอียด HD+ หรือ 1560x720 พิกเซล พร้อมกับน้ำหนักเครื่องไม่ได้มาก โดยกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลัง 3 ตัวประกอบไปด้วย 13 ล้านพิกเซล มุมมองปกติ, 5 ล้านพิกเซล มุมกว้าง และ 2 ล้านพิกเซล เป็นแบบละลายหลัง
ขุมพลังมีการเลือกใช้ Qualcomm Snapdragon 460 พร้อมกับ RAM 4GB ความจำภายใน 64GB ถือว่าสเปกให้กำลังดีมีการเคลมว่าสามารถอัปเกรดเป็น Android 11 ได้ แม้ว่าปัจจุบันจะยังใช้ Android 10 อยู่ก็ตาม พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ให้ชาร์จไฟแบบ USB-C ด้วย ภาพรวมเครื่องไม่ถือว่าน้ำหนักมากจนเกินไป และยังให้ความคล่องตัว สำหรับคนที่มองหา Mid Range ที่แข็งแรงและอัปเกรดได้นาน นี่ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม
รายละเอียดสเปกของ Nokia 3.4
- หน้าจอ IPS-LCD ความละเอียด 720 x 1560 พิกเซล ขนาด 6.39 นิ้ว
- ขนาดตัวเครื่อง: 161 x 76 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก: 180 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 460 Octa-core (4x1.8 GHz Cortex-A73 & 4x1.8 GHz Cortex-A53) | GPU : Adreno 610
- หน่วยความจำ: RAM ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในความจุ: 64GB
- หน่วยความจำภายนอก MicroSD
- การเชื่อมต่อ: 4G LTE, 3G, WiFi 802.11 N, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + LED Flash
- กล้องดิจิทัลด้านหลังทั้งหมด 3 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus และ LED Flash
- กล้องตัวที่ 2 Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- กล้องตัวที่ 3 Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ -
- ระบบปลดล็อค Face Recognition, ระบบสแกนนิ้วด้านหลัง
- แบตเตอรี่ความจุ: 3040mAh
- รองรับ กำลังชาร์จไฟ 10W
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10
- สี: ดำ และ น้ำเงิน
Nokia C3
อีกรุ่นของ Smart phone ที่โนเกียเปิดตัวนั่นคือ Nokia C3 รุ่นนี้ราคาประหยัดพร้อมกับหน้าจอใหญ่มากมาย ถึง 5.99 นิ้ว ไม่ต้องมีรอยบากอะไรทั้งสิ้น และมีกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล ด้านหลังมีการใช้วัสดุพลาสติกที่มีการเคลือบสีทับเข้าไปทำให้มีความคงทนกว่าเดิม พร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเวลถือ
ด้านขุมพลังเลือกใช้ เบื้องต้นเป็น Octa Core พร้อมกับการ์ดจอ IMG 8322 พร้อมกับ RAM 2GB / ROM 16GB เพิ่มความจำผ่าน MicroSD ได้ รองรับ 4G, WiFi, Bluetooth พร้อมกับ Android 10 มาแบบครบๆ
รายละเอียดสเปกของ Nokia C3
- หน้าจอ IPS-LCD ความละเอียด 720 x 1440 พิกเซล ขนาด 5.99 นิ้ว
- ขนาดตัวเครื่อง: 159.9 x 77 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก: 184.5 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล: Unisoc Octa Core (4x1.6 GHz Cortex-A55 & 4x1.2 GHz Cortex-A55)
- หน่วยความจำ: RAM ขนาด 2GB
- หน่วยความจำภายในความจุ: 16GB
- หน่วยความจำภายนอก MicroSD
- การเชื่อมต่อ: 4G LTE, 3G, WiFi 802.11 N, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล + LED Flash
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus และ LED Flash
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ -
- ระบบปลดล็อค Face Recognition, ระบบสแกนนิ้วด้านหลัง
- แบตเตอรี่ความจุ: 3040mAh
- รองรับ กำลังชาร์จไฟ 10W
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10
- สี: ดำ และ น้ำเงิน Nordic Blue
Nokia 215 / 225
มาถึงมือถือฟีเจอร์โฟนกันบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ Nokia ถนัดมากๆ คราวนี้กลับกับมือถือปุ่มกด 4G กับรุ่น Nokia 215 และ 225 ที่มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ตั้งแต่
- ตัวเครื่องมีการรองรับ 4G และ VoLTE โทรได้คมชัด
- รองรับการอัดเสียงระหว่างการโทร
- FM Radio มาพร้อมแถมไม่ต้องเสียบหูฟังก็เปิดฟังเพลงได้เลย
- มีเกมงูให้เล่น
- มีไฟฉายให้ได้ใช้งาน
- รองรับ Contact กว่า 2,000 รายชื่อแถมย้ายจาก Smart Phone ได้ง่ายมาก
แยกออกได้ไงว่ารุ่นไหนคือรุ่นไหน คำตอบมีดังนี้
- Nokia 215 ปุ่มกเป็นแบบยาง แต่ Nokia 225 ปุ่มกดเป็นแบบ โพลีคาบอนเนต
- Nokia 225 จะมีกล้องหลังมาให้แต่ Nokia 215 ไม่มีกล้อง
Nokia Power Earbuds / Power Earbuds Lite
มาถึงอีก 2 Gadget คุณภาพจากทาง Nokia นั่นคือหูฟังในรุ่น Power EarBuds ที่มาทั้งรุ่นเล็กและใหญ่ ที่มีจุดเด่นทั้งลำโพงแบบใหม่ Graphene ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง หากมีการหุ้มหลายชั้น ซึ่งตัวนี้มีขนาด Driver 6 มิลลิเมตร ทำให้สามารถที่จะให้กำลังเสียงดีในรูปแบบของหูฟัง True Wireless (TWS) แถมกันน้ำได้ด้วยมาตรฐาน IPX7 (โดนน้ำได้แต่ใส่ว่ายน้ำไม่ได้)
และนอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานที่หูฟังได้โดยตรงไม่ต้องติดตั้ง Application ให้เสียเวลา โนเกียเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Universal Control พร้อมกับฟังเพลงได้นานมาก โดย Nokia Power EarBuds สามารถใช้งานได้นานสุด 150 ชั่วโมง และ Nokia Power EarBuds Lite จะฟังเพลงได้นานสุด 35 ชั่วโมง ทั้งนี้ ตัวหูฟังของทั้งคู่คือเหมือนกันหมด แต่แตกตต่างที่ Charging Case เท่านั้น
สำหรับอุปกรณ์ของ Nokia ทั้งหมด มีดังนี้
- Nokia 3.4 ราคา 4,990 บาท เริ่มจำหน่าย 27 พฤศจิกายน นี้
- Nokia C3 ราคา 2,990 บาท เริ่มจำหน่าย 15 พฤศจิกายน นี้
- Nokia 215 4G ราคา 1,190 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้
- Nokia 225 4G ราคา 1,490 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้
- Nokia PowerEarBuds Lite ราคา 1,990 บาท เริ่มจำหน่าย ธันวาคม นี้
- Nokia PowerEarBuds ราคา 2,990 บาท เริ่มจำหน่าย ธันวาคม นี้
ส่วนช่องทางการซื้อ ณ เวลานี้ เปิดแบบ Online ทุกช่องทางทั้ง JD Central, Shopee, Lazada คาดว่าหน้าร้านทั่วไปก็กำลังจวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกัน สำหรับการสัมผัสครั้งแรก ขอจบเท่านี้ ส่วนการทดลองเต็มๆ นั้นทีม Sanook Hitech ได้รับตัวไหนก่อนก็จะ มาเล่าในลำดับถัดไป
คุณกำลังดู: พาสัมผัสมือถือใหม่จาก Nokia ครบเครื่องทั้งปุ่มกดและ Smart Phone กับราคาไม่แพง
หมวดหมู่: ทบทวน