"ไผ่ ลิกค์" เปิดใจสามปีสุดช้ำ "ดิว อริสรา" ถูกทำร้ายร่างกายหนัก ชีวิตเหมือนตกนรก
ไผ่ ลิกค์ เปิดใจ 3 ปีสุดช้ำ ดิว อริสรา ถูกทำร้ายร่างกายหนัก เหมือนตกนรก โฆษกกรมสุขภาพจิตรับเห็นแชตแล้วยังขนลุก
กรณี ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ออกมาแฉ เบนซ์ เดม่อน อดีตแฟนกับครอบครัว ทำธุรกิจสีเทา เปิดเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 จนร่ำรวย และล่าสุดได้เปิดภาพที่ถูกแฟนเก่าทำร้ายร่างกายหนัก จนกลายเป็นประเด็นช็อกในสังคม รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 9 ก.พ. 66 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ไผ่ ลิกค์ ที่ออกมาซัปพอร์ตดิว และนำรูปดิวมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ มาพร้อม ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต
ไผ่ถือว่าเป็นพี่ชายคนสนิท รู้จักดิวมากี่ปีแล้ว?
ไผ่ : น่าจะตอนแกอายุ 19-20-21 น่าจะเป็น 10 กว่าปีแล้วครับ สนิทเหมือนน้องสาว เห็นโตมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบครับ
ห่วงหาอาทรมีการช่วยเหลือกันมาตลอด?
ไผ่ : เปรียบเหมือนเราเห็นต้นไม้ต้นนึงที่โตขึ้นมา แต่พอวันนึงอาจไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ เราเห็นเขาเป็นต้นไม้ที่เติบโตไปก็มีความผูกพัน สนิทสนมกันอยู่แล้วครับ
ประเด็นล่าสุดที่เกิดในชีวิตดิว เชื่อว่าคนที่รู้ดีที่สุดกับบรรดาคนรอบข้าง นอกจากหวานเจี๊ยบ ก็คือคุณ?
ไผ่ : ผมว่ามีอะไรก็ปรึกษากันดีกว่า ผมไม่ได้ช่วยเขาอย่างเดียว บางทีเขาก็ช่วยผมเรื่องงานต่างๆ ที่ผ่านมา เราช่วยกันมาตลอด ไม่ว่าจะสถานการณ์โควิดหรืออะไร แกก็ร่วมทำบุญ ช่วยเหลือประชาชนก็ทำมาตลอด นี่ก็ส่วนนึง
ในวันที่มีประเด็นเกิดขึ้น ดิวออกมาเปิดข้อมูลตระกูล บ. ซึ่งมีส่วนพัวพันกับธุรกิจสีเทา เปิดเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 วันนั้นคุณไผ่เห็นมั้ย รู้มาก่อนมั้ยว่าเธอจะลง?
ไผ่ : ผมต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าวันที่แกลงผมไม่รู้ เพราะช่วงหลังๆ เราก็ต้องเคารพว่าเขามีครอบครัว เราจะไปคุยบ่อยๆ มันก็ไม่เหมาะไม่ควร เราไม่เห็น แต่หลังจากมีอันนี้ออกมาเราก็ถามเขา ว่าทำไมถึงทำอันนี้ หรือเกิดอะไรขึ้น และยังได้เตือนเขาในส่วนว่าเรารู้อยู่แล้วว่าถ้าเล่นอย่างนี้ มันเล่นค่อนข้างแรง พอเล่นแรงไป ผมยังพูดกับเขาว่าถ้าทำแบบนี้เหมือนเทหมดหน้าตักนะ ถ้าทำอะไรไม่ได้เราจะเดือดร้อนนะ เราก็เตือนแล้ว แต่น้องก็สู้ คิดว่าน้องจะทำเต็มที่
ทำไมคิดว่าดิวถ้าจะทำเหมือนเทหมดหน้าตัก?
ไผ่ : เราก็ต้องเข้าใจ อย่างที่เห็นออกมา ผมก็รับทราบกันอยู่แล้ว เครือข่ายมันค่อนข้างใหญ่ ไม่ใช่แค่คนสองสามคน แต่วันนี้เราไปว่าเขาผิดยังก็ยังไม่ถูก แต่เรารู้ว่าเป็นเครือข่ายค่อนข้างใหญ่และเป็นเรื่องรับรู้กันทุกคนอยู่แล้วว่าเป็นยังไง เพียงแต่สังคมจะยอมรับว่ามีอยู่จริงหรือไม่ นี่ส่วนนึงที่ทำให้เรารู้ว่าถ้าเราไปเล่นเขาแรง อย่างแรกถ้าวันนี้เขาหลุดมาเขาก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์เลย รวมถึงเราอาจโดนอะไรกลับก็ได้ เมื่อกี้เห็นหลักฐานอะไรมา จริงๆ มันมียิ่งกว่านี้ มีเหตุการณ์อะไรที่ผ่านมาตรงไหนเราช่วยได้ก็ช่วย รวมถึงเราเคยมีเหตุการณ์ปะทะกันบ้าง (หัวเราะ
ปะทะกับ 4 บ. เนี่ยเหรอ?
ไผ่ : มีเถียงกัน เจอกันตามห้าง มีคุยกัน ก็เคยมีกันมาแล้ว
คุณไผ่รับรู้ว่าคุณดิว มีประเด็นถูกทำร้ายร่างกายจากหนึ่งใน 4 บ.ตลอด?
ไผ่ : การทำร้ายร่างกายเรารับทราบมา เรารับรู้มา แต่ประเด็นที่เราไม่ออกมาพูดตั้งแต่วันนั้น ผมก็เข้าใจดิวนะ ดิวแบกความที่ทุกคนมองเขาเป็นผู้หญิงสวย เป็นดารา เป็นตัวแม่หรืออะไรก็ตาม แล้ววงการบันเทิงจะมีภาพแบบนี้ออกมา อาจออกมาแล้วไม่ดีก็ได้ หรืออาจออกมาดีก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอยากให้เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดแน่นอน ถามว่ารูปล่ะ ที่ผมมีไม่ใช่อะไรนะครับ เขากลัวโดนลบจากโทรศัพท์ เขาก็เลยฝากไว้ ให้ผมเก็บเอาไว้ให้หน่อยนะ
ดิวเริ่มถูกทำร้ายร่างกายเมื่อไหร่?
ไผ่ : ต้องบอกก่อนดิวเวลาคบใครเขาค่อนข้างจริงจัง และสู้เต็มที่ จริงๆ ผมรู้มานานมากแล้ว ตอนเขาหัวแตกน่าจะแผลแรก แต่พอเราถามเขาไม่บอก แต่พอผมถามเขาบอกว่ารูปภาพตกใส่ แต่เราก็รู้แล้วแหละว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่ดิวจะไปติดรูป แต่เขาก็พยายามสู้กับมัน
ระหว่างที่มีการสัมภาษณ์ หรือก่อนสัมภาษณ์ ผมได้ขออนุญาตคุณดิวแล้วว่าจะขอคุยกับคุณไผ่ คุยเรื่องราวของเธอ คุณดิวอนุญาต และน่าจะชมอยู่ด้วย ถ้าเกิดมีอะไรบางอย่างที่อยากพูด เขาบอกจะส่งข้อความหาผมหรือคุณไผ่เอง ประเด็นที่เกิดหลังจากนั้น มีคำถามคำนึงจากสังคมเยอะแยกมากมายว่า ระหว่างคุณดิวถูกทำร้ายร่างกาย ทำไมไม่เอาตัวออกมา พอจะรู้ตรงนั้นมั้ย?
ไผ่ : ผมบอกแล้วไงครับ ดิวเขาเป็นคนพยายามต่อสู้เวลารักใคร และเขาไม่ใช่คนที่อยากเปลี่ยนคนรักไปเรื่อยๆ ผมพูดในฐานะพี่ชาย ผมรู้นิสัยเขา พอวันนึงมันหนักเข้า ผมไม่อยากว่าใคร แต่เชื่อว่าอาการพวกนี้เกิดขึ้นคงไม่ใช่จากจิตอย่างเดียว คงต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่น เดี๋ยวให้คุณหมอวิเคราะห์ดีกว่า
ประเด็นที่เกิดขึ้น มีเรื่องความรุนแรงเกิดขึ้น เช่นกรณีที่มีการขู่ฆ่ากัน ขอเปิดแชตที่มีการพูดคุยกัน บอกว่ากูไม่จำเป็นต้องดีกับคนไม่ดี ยิ่งเลิกกันแล้วไม่สนจ้า ดิวบอกว่าเราคุยกันดีๆ เขาบอกไม่มีอะไรต้องคุยดีกับมึง เราเห็นตรงกันแล้วว่าเราควรเลิกกัน เรามีอะไรให้เกลียดกัน ดิวทำอะไรให้เหรอ อีกฝ่ายตอบว่ากูคุยกับอี..ตัวปัญหา ไม่ใช่มึงที่ปกติ ถ้าดิวทำดิวขอโทษ แต่เราเลิกกันแล้วคุยกันดีๆ เขาบอกคนอย่างมึงต้องเลี้ยงด้วยมือด้วยตีน ทำดีด้วยแล้วอวดเก่ง กูไม่ต้องกลัวใคร ไม่ต้องเกรงใจ หรือไว้หน้าใคร เพราะกูมาทำด้วยตัวเอง กูทำใหม่ได้อีกเสมอ ดิวบอกใจเย็นๆ เถอะ คำนี้มึงควรพูดกับตัวเอง ถ้าใจเย็นคงไม่มาถึงจุดนี้ กูเลือกแล้ว พรุ่งนี้รู้กัน คนไหนกูทำไม่ได้ กูจะยิงมันด้วยตัวกูเอง ดิวบอกใจเย็นแล้ว เขาบอกสายไปแล้ว แล้วส่งอีโมจินิ้วกลาง ถ้าใจเย็นคงไม่มาถึงจุดนี้ กูเลือกแล้ว พรุ่งนี้รู้กัน กูกลับมาเดินเมื่อไหร่พวกมึงเตรียมฉิบหายได้เลย ถ้ายังไม่รู้ตัวก็เรื่องของพวกมึง ดิวก็บอกว่าเฮียเบนซ์ใจเย็นๆ นะ เราเลิกกันเพราะดิวไม่ใช่สำหรับเฮียเบนซ์ ไม่เกี่ยวกับว่าต้องใจร้อนอะไรอื่นๆ ดิวก็ยื้อมานานจนลืมมองไปว่าดิวไม่ใช่จริงๆ ก็เหมือนที่คุณไผ่พูดว่าดิวยื้อมานาน ดิวก็รักของเขาในตอนนั้น คุณไผ่เคยรับรู้เรื่องพวกนี้มั้ย?
ไผ่ : ผมเห็นมานานแล้วเรื่องพวกนี้ตอนเขาเลิกกันชัดเจน ผมก็เห็นมาตลอดอยู่แล้ว
ครั้งนั้นเห็นบอกว่าดิวเองเคยถูกขัง ครั้งนึงในอดีตเชื่อว่าถ้าย้อนกลับไป ถามคนในวงการที่เคยร่วมงานกับดิว อริสรา มาสาย หายตัว ไม่สบาย ปวดท้อง คือเยอะมาก หลายคนก็คิดว่าดิวปาร์ตี้หนักมาไม่ได้ ดิวเฟียสต่างๆ นานา สุดท้ายไม่ใช่อย่างนั้น สุดท้ายคือคนที่เขาคบด้วยไม่ปล่อยให้มาทำงาน วิธีการคือเมื่อไหร่ดิวจะออกไปทำงาน ไม่ให้ไป พอดิวบอกไม่ได้วันนี้ต้องถ่าย ก็ต่อยหน้าไม่ให้ออกไปทำงาน ไผ่รู้มั้ย?
ไผ่ : ถ้าถึงขนาดนี้ผมก็พอได้ยินบ้าง แต่ตอนเขาคบกันผมแทบไม่ได้ไปยุ่งกับตรงนั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ วันไหนเขามีปัญหาหรือมา เราก็ให้คำปรึกษามากกว่า แต่จริงๆ คนๆ นี้เป็นยังไง เขารู้กันหมดอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลก สิ่งที่เห็นมา ผมก็มองว่าหมาเห่ามันไม่กัด
วันไหนตัดสินใจเข้าไปช่วยดูแลเรื่องนี้?
ไผ่ : วันที่เขาเลิกรากันจริงๆ แล้วเขามาปรึกษา ผมเป็นที่ปรึกษามากกว่า ตรงไหนเราซัปพอร์ตได้ หรือตรงไหนที่คิดว่าเกินกว่าเหตุ เราก็ไปปราม จะเป็นลักษณะนั้นมากกว่า
วันที่หนักที่สุด?
ไผ่ : มีหลังๆ ที่แกเข้าไอซียู ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอะไร ผมก็ไปเยี่ยม คุณแม่เขาก็ร้องห่มร้องไห้ เราก็นั่งคุยกัน แต่พอคุยกันวันนั้นก็ยังมีเรื่องติดพัน คนอยู่ด้วยกัน ก็ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยเขาถึงจะขาดกัน
คุณเคยเข้าไปช่วยด้วย?
ไผ่ : อย่าเพิ่งไปพูดอย่างนั้นเลย ก็ทำหน้าที่พี่ชายมากกว่า เราไม่อยากไปแตะอะไรตรงนั้นมาก
กรณีที่คนพูดกันเยอะแยะมากมายว่าที่ดิวทำแบบนี้เพราะดิวเองไปแบล็กเมล์ ต้องการได้เงินจากเขา คุณมองยังไง?
ไผ่ : ประโยคนี้ผมไม่เคยถามเขาเหมือนกัน ผมคงไม่ถามน้องหรอกจะไปแบล็กเมล์เขาหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าการแบล็กเมล์คงต้องไม่ใช่ออกมาแบบนี้ เพราะออกมาแบบนี้มันออกมาสู่สาธารณะ มันทำไม่ได้ ผมมองว่าวันนี้เป็นเรื่องอึดอัดใจที่เขาบอก ผู้หญิงคนนึงที่ต้องเห็นแผลของตัวเอง ผมอยู่กับเขามาตั้งแต่เด็ก ผมเห็นหน้าตาเขาตลอด ถ้ามองดีๆ หน้าเขาวันนี้เบี้ยวๆ จะเห็นรูปจะเห็นว่าบวมตรงไหน ลองไปดูดีๆ แล้วเขาต้องทนอยู่กับเรื่องพวกนี้ ผมว่ามันอึดอัดเขา ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพยายามจะทำ แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้มันจุดติด เขาเคยออกมาพูดเรื่องผับเที่ยวกลางคืนปิดดึก เขาพยายามพูดมาหลายครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้มันติด
ล่าสุดมี ตร.ไปที่ร้านทำเล็บคุณดิว คุณไผ่ทราบมั้ย?
ไผ่ : เรื่องน่าจะเกิดสองวันที่แล้ว ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นตร. เราก็ตกใจ นี่ก็ส่วนนึงรวมกับที่ออกมาโพสต์ กับรูปที่ทำให้เห็นชัดขึ้น เราเห็น เพราะดิวส่งมาว่ามีคนสองคน ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเป็นตร. เข้าไปในร้าน เป็นชายฉกรรจ์เข้ามาถามว่าเจ้าของร้านเป็นใคร พรุ่งนี้จะพาคนมาทำเล็บ ซึ่งดูทรงแล้วก็รู้ แล้วร้านนั้นเพื่อนๆ ดาราเขาลงทุนกันเป็นผู้หญิงหมดเลย เราก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้ เราถึงโพสต์ออกมาเพราะห่วงเรื่องนี้ ตอนหลังไปๆ มาๆ เป็นเจ้าหน้าที่ตร. ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก เจ้าหน้าที่ตร.จะไปตรวจร้านทำเล็บ ถ้าบอกว่าไม่รู้ว่าเป็นร้านของดิว ก็ต้องอาจออกไปถามร้านทำเล็บร้านอื่นด้วยว่าเขาเข้าไปแบบนี้หรือเปล่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้ผมออกมาโพสต์
ผกก.ทองหล่อบอกว่าไปตรวจเฉยๆ ตามหน้าที่?
ไผ่ : ตร.มีทั้งดีและไม่ดี คนทำงานเรื่องจับกุม ชุดทำงานจับกุมครั้งนี้ แกทำดีมาก เรื่องรวบรวมหลักฐาน เพราะการขอหมายค้นผมเชื่อว่ายาก หลักฐานต้องถึง ผมเห็นประเด็นก่อนหน้านี้ที่ไม่มีใครพูด เขามีหุ้นส่วนผับเดอร์ตี้อะไรสักที่ วันนั้นก่อนตร.จะลง ผับนี้ปิดก่อนที่ตร.จะถึง แล้วมันอยู่ที่สน.ทองหล่อ ตอนนี้ผมเช็กข้อมูลแล้ว ส่วนตร.สองคนที่เข้าไป ผมเชื่อว่าต้องมีคำสั่งลงมา อยู่ดีๆ จะลงไปตรวจเองก็คงไม่ใช่ แต่เมื่อกี้ได้คุยกับกรรมาธิการตร. เขาจะตอบยังไงก็ไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวให้มาคุยกับผมก่อนดีกว่าว่ายังไง เดี๋ยวจะเชิญสองคนนี้มานั่งคุยด้วยแล้วแหละ
ร้อยวันพันปีที่ร้านบอกไม่เคยมีตร.มาดู วงในบอกว่าเป็นลูกน้องคนนึงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง?
ไผ่ : รองผู้กำกับท่านนึง เขาว่ากันมา ที่มีส่วนกับผับด้วย ก็อยากเตือนว่าเรื่องนี้ยังไม่รู้ใครถูกใครผิด อย่าออกตัวช่วยกันเลยเราเป็นเจ้าหน้าที่ก็อย่าไปช่วยเหลือคนกระทำความผิดเลย ส่วนตร.สองคนนั้นจะเชิญมาคุยด้วย เขาต้องมา
กลุ่มพี่น้องตระกูล บ. ครั้งนึงเคยมีวิวาทะกับคุณ และจะเอาเงินมาฟาดหัวคุณด้วย?
ไผ่ : ก็มีคนพูดมาประมาณแบบนั้น ผมก็ไม่อยากว่าเขามาก ไม่อยากพูดเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เราก็ไม่ได้สนใจตรงนั้นอยู่แล้ว พวกผมทำงานไม่ใช่เคสดิวเคสแรก เราเคยทำเคสที่ถูกทำร้ายในครอบครัว พวกเรารวมถึงท่านธรรมนัส เล็งเห็นตรงนี้อยู่แล้ว
ถามอาจารย์ กรณีผู้หญิงถูกทำร้ายจนฝังใจ ผ่านมาสามสี่ปีแล้วค่อยกดปุ่ม?
นพ.วรตม์ : สามสี่ปีถือว่าเร็วมากนะครับ จริงๆ บางคนฝังใจเป็น 10-20 ปีเลยก็เป็นไปได้ เมื่อจิตใจเศร้าใจ คนถูกกระทำความรุนแรง ความกลัว ความโกรธ ความเศร้า หรือโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดความรุนแรงหรือเปล่า ชั้นเป็นต้นเหตุเพราะทำไม่ดีหรือเปล่า บางคนสิ้นไร้ไม้ตอก จากคนที่ทำอะไรได้มากมาย ความมั่นใจในตัวเองหายไปหมด ความรู้สึกแบบนี้ถ้าถูกเก็บไม่ถูกเปิดมาเลย มันก็จะสะสมไปเรื่อยๆ ที่เขาเงียบไปอาจไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรแล้ว แค่อาจไม่มีจังหวะหรือมีคนมาช่วยในการเปิด จนระเบิดออกมา
ผู้หญิงคนนึงคบผู้ชายคนนึงมาเกือบๆ 2 ปี แล้วโดนแบบนี้ มีบาดแผลที่หน้า มีร่องรอยเขียวช้ำที่แขน มีร่องรอยบาดแผลที่หัวเข่า แต่ภาพสำคัญคือลองดูรอยสักของใครคนนึงด้านหลัง นี่คือร่องรอยบาดแผลโดนเย็บบนศีรษะ แตกขนาดนี้ กำปั้นทุบคงไม่ใช่ ต่อยแบบนี้จะมีแตกมั้ย?
ไผ่ : น่าจะปืนตบครับ
เหมือนโดนของแข็ง ไม่มีคม ร่องรอยบวมช้ำหมด ขาคุณดิว แล้วดูเลือดที่ไหลลงมา หยดถึงพื้น นี่คือความรุนแรงที่คุณดิวโดนมาตลอดระยะเวลาเกือบๆ 2 ปี ขาเป็นแผลฉีกอ้า ผู้หญิงคนนึงที่ถูกกระทำแบบนี้ เหมือนตกอยู่ในนรกทั้งเป็น เอาตัวออกมาไม่ได้เพราะเขาก็รักของเขา ในแชตคุณดิวพูดว่าดิวพยายามยื้อแล้ว ดิวผิดเองที่พยายามยื้อแล้วคิดว่าจะไปด้วยกันได้ แต่ไปไม่ได้ ก็อยากให้เลิกกันด้วยดี แต่อีกฝ่ายไม่ยอม ข่มขู่ด้วยการจะยิงต่างๆ นานา แล้วด่าด้วยบอกว่ามึงสมควรโดนมือโดนตีน นี่เป็นสาเหตุนึงที่ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน วันนั้นเขาทุกข์ทรมานแต่ไม่ได้แจ้งความ ทราบมั้ยทำไมยังไม่แจ้งความ?
ไผ่ : วันนั้นเขามีสถานะเป็นดารา และคงไม่อยากให้ใครเห็นเขาในมุมนี้ คงเป็นมุมมองและช่วงเวลา แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่เขาออกมาลุกมาสู้ เขาอาจมีครอบครัวแล้วด้วย เขาก็มีความคิดของเขา
เขาก็เก็บเอาไว้และเป็นแผลในใจ อยากให้อาจารย์อธิบายมุมนี้?
นพ.วรตม์ : ตามสถิติ ผู้หญิง 10 คนถูกทำร้ายร่างกายในครอบครัวเชื่อมั้ยว่า 9 คนไม่พูด มีแค่คนๆ เดียวเท่านั้นที่พูดออกมา สามสาเหตุหลักๆ หนึ่งไม่รู้ สองไม่กล้า สามไม่เชื่อ หนึ่งไม่รู้จะไปบอกใคร บางคนไม่รู้ว่า สายด่วน 1300 ช่วยเหลือสังคมรับแจ้งเรื่องนี้ สองไม่กล้าครับ กลัว เอาจริงๆ ดูแชตเมื่อกี้ผมเห็นแล้วยังขนลุกเลย เราคนธรรมดาเห็นแล้วยังกลัว หรือคนรอบข้าง เพื่อนๆ เขาเห็นบางทีก็ไม่กล้าบ้าง เขาจะโอเคหรือเปล่า มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หรือบอกว่าคุณไผ่เห็นตั้งนานทำไมไม่กล้า เพราะบางทีอาจคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเรา หรือบางทีคิดว่ามันน่ากลัว สุดท้ายคือไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าไปบอกใครแล้วจะเกิดการจัดการได้ ไม่เชื่อในระบบ ไม่เชื่อในการแจ้งความ กลัวว่าสุดท้ายแจ้งไปก็ไม่เกิดอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี
เมื่อสักครู่ตอนพักเบรกไป มันเครียด ตัวชา เหมือนจะเป็นลม มันเครียดพอมาเสพเรื่องนี้ แล้วยิ่งเป็นคนใกล้ตัว เป็นน้อง?
นพ.วรตม์ : มันเป็นเรื่องคนใกล้ตัวเรา เรื่องของเราบางทีเราสัมผัสได้ความเจ็บปวดของคนถูกกระทำมันเป็นยังไง จะเห็นว่าเรื่องความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องที่คนมีอารมณ์ร่วมเยอะ เพราะหลายคนเคยถูกกระทำ แต่ไม่มีสิทธิ์ออกมาพูด หรือเราไม่ได้ถูกกระทำก็ตาม แต่เป็นคนที่เรารัก ห่วงใยมาโดยตลอดถูกกระทำ แน่นอนอารมณ์มันก็มา เราโกรธเสียใจแทน คิดดูว่าคนที่ถูกกระทำจะเสียใจขนาดไหน
กรณีดิว การผ่านไปสามปีแล้วมากดปุ่ม แล้วมีคนบอกว่าสามปีทำไมเพิ่งมาพูด มองยังไง?
นพ.วรตม์ : หลายคนที่ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว เป็นครอบครัวที่เขารัก ลองคิดตัวเราเอง สมมติคุณถูกพ่อแม่กระทำความรุนแรง คุณรักเขามากๆ คุณก็ไม่อยากบอกใคร แล้วก็เกิดคำถามด้วยว่าเราทำผิดเองหรือเปล่า มันเกิดกระบวนการความคิดที่ผิดเพี้ยนไปหมด ยิ่งคนถูกทำความรุนแรงซ้ำๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณค่าความเป็นมนุษย์มันน้อยลงเรื่อยๆ จนทำให้รู้สึกว่าฉันไม่สามารถขอความช่วยเหลือใครได้ การที่เก็บไว้หนึ่งปี สองปี สามปีไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขารู้สึกว่าเขาไม่ควรขอความช่วยเหลือจากใคร
แล้วการที่เขาปลดล็อกแบบนี้?
นพ. วรตม์ : อาจเป็นจังหวะ คนเรียกร้องขอความช่วยเหลือ อาจเป็นจังหวะพอดีที่เขาขอได้ อย่างเขาไม่เชื่อว่าใครจะช่วยเหลือเขาได้ แต่พอวันนึงอำนาจมีผู้อำนวจลดน้อยถอยลง ก็อาจเป็นจังหวะนั้นที่เขาตะโกนขอความช่วยเหลือได้ ถ้ามองว่าเป็นการเอาคืนก็จะดูเป็นการเอาคืน แต่ถ้ามองว่าเป็นการขอความช่วยเหลือ มันก็เป็นการขอความช่วยเหลือ
จากนี้ดิวจะทำยังไงต่อไป?
นพ.วรตม์ : อย่างน้อยผมเชื่อว่าสิ่งที่คุณดิวได้ปลดปล่อยออกมา มันช่วยเรื่องที่ค้างคาในใจตัวเอง ผมว่ากระบวนการตามกฎหมายก็ต้องเห็น เพราะมีหลักฐานมากมาย มีหลายคนซัปพอร์ต ผมเชื่อว่าคุณดิวต้องดูแลจิตใจตัวเอง เพราะบางครั้งการระเบิดออกมา มันมีผลกระทบตามมาพอสมควร ถ้าได้ปรึกษาใครสักคนหรือได้ระบาย แต่เชื่อว่าตอนนี้จะมีหลายคนยอมรับฟังเรื่องนี้ เพราะคุณดิวกล้าแล้ว
ไผ่ : เรื่องนี้ที่ออกมาแบบนี้จนถึงรูปทั้งหมด ดิวไม่ได้ต้องการให้ถึงขนาดนี้ เพียงแต่เขาต้องปกป้องครอบครัวเขา เพราะครอบครัวเขาโดนใส่กลับมา แล้วเรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญกับระบบของสังคม ถ้าอีกหน่อยทุกคนที่ออกมาโดนแบบนี้ ต่อไปจะเหลือคนที่ออกมาพูดกับสังคมอีกกี่คน ผมว่าอีกหน่อยถ้าเป็นแบบนี้ไม่เหลือคนออกมาพูด คนตั้งคำถามต้องถามตัวเอง ถ้าเจอแบบนี้ คุณจะกล้าทำแบบนี้เหมือนเขามั้ย ผมเชื่อว่าหลายคนที่กลัวและไม่กล้า รูปและแชตทุกอย่างเขาเก็บมานาน ผมเคยถามว่าเขาจะเอาออกมามั้ย เขาบอกว่าไม่ แต่วันนึงที่เขาจนแต้ม เขาจนมุม เขาก็ต้องเอาออกมา มันน่าสงสารกว่าอีกในมุมมองของผม
มีอีกภาพที่คุยกันแล้ว เป็นภาพที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงเสียชีวิตได้ เป็นภาพรอยนิ้ว ที่บ่งบอกว่าเธอกำลังถูกบีบคอ มันป่าเถื่อน?
นพ.วรตม์ : ครับ จริงๆ มนุษย์ยุคนี้เราพัฒนาเรื่องการสื่อสารมาแล้ว ผ่านยุคอยู่ในถ้ำกันมานาน สมัยก่อนตัดสินด้วยกำลัง แต่มนุษย์ยุคนี้พัฒนาเรื่องการสื่อสาร ฉะนั้นเรื่องความรุนแรงไม่จำเป็นและหลีกเลี่ยงได้
มีข้อครหาว่าดิวเอาเงินเขามา เขาบอกมีหลักฐานโอนเงินให้ดิว คุณดิวบอกว่าไม่น่าเป็นแบบนั้น คุณไผ่ก็รู้เรื่อง ?
ไผ่ : ณ วันนี้เรื่องที่ออกมาทั้งหมดเป็นสองมุมอยู่แล้ว ไฟที่เราจุดมาจะลามไปทุกที่ ซึ่งผมคุยกับดิวแล้ว ผมเชื่อว่าวันนี้ รวมถึงสามีเขาก็ต้องเข้าการตรวจสอบอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าถ้าถึงการตรวจสอบ ก็จะได้ใสทั้งหมด ก็เป็นสิ่งที่ดี ตรงนี้เชื่อว่าถ้าจะออกมาสาวกันไปสาวกันมา เดี๋ยวก็จะได้เห็นเอง ถ้ามันมี แต่การคบคนสองคน ผู้หญิงโดนขนาดนี้แล้วเกิดในตอนที่รักกัน ผมว่ามันเป็นอะไรที่ซับซ้อน
มุมคุณดิวก็ชัดเจน มีสัญญาเงินกู้ฉบับนึง มีตัวเงินที่ย้อนกลับไปที่คุณดิว มีการกู้ยืมกันตั้งแต่แรก ภาพชายคนนั้นเซ็นเอกสาร วันที่ 10 ม.ค. 64 เป็นสัญญาการชำระเงินคืน 9.8 ล้านบาท ผมเคยถามคุณดิวเหมือนกัน ดิวบอกว่าเอาตรงๆ นะ คนรักกัน ในวันนั้นถามว่าเขามีให้หนูมั้ย ก็มี มันเป็นเรื่องคนรักกัน คุณไผ่คบแฟนก็ต้องให้แฟนเหมือนกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา เงินส่วนไหนยืมกันก็อีกเรื่องนึง แต่เขาเป็นแค่แฟน วันนี้สิ่งที่พูดคุยกันอยู่อยากจะบอกว่าระวังเรื่องการเบี่ยงประเด็น ประเด็นวันนี้เราต้องมองเรื่องราวธุรกิจสีเทา มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ล่าสุดมีคนมาเคลียร์แล้ว เป็นตัวกลางมาเคลียร์กัน ที่โหนกระแสได้ลงไปแล้ว เชื่อว่าทั้งหมดทุกคนเห็นหมดแล้ว ในนั้นระบุชื่อบิ๊ก เชื่อเฮียไม่ได้ทำร้ายใคร คนกลางคนนี้คือลูกนายพลคนนึง เป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับเรื่องนี้ แต่รับหน้ามาเคลียร์ให้ ประเด็นแยกไปหลายประเด็น หนึ่งธุรกิจสีเทา ใครมีส่วนกับกระบวนการนั้นบ้าง ได้ข่าวว่ามีวงการมีสีมาเกี่ยวข้อง?
ไผ่ : ใช่ครับ ตอนนี้น่าห่วงที่สุดคือเรื่องแบ็กกัน เพราะเขาทำสองธุรกิจหลัก หนึ่งคือธุรกิจเทาๆ
ปวดหัวมากกับการทำเรื่องนี้ ยอมรับเลยว่าจิตตก แล้วเครียดจริงๆ เมื่อกี้ทำรายการอยู่ ตัวชาเหมือนคนจะเป็นลม ใจเต้นหวิวไปหมดเลย ก็ต้องพักเบรกไป เอายาดมมาดม กินน้ำแดง มันรู้สึกแย่มาก ยิ่งเห็นภาพเห็นอะไร มันสุดจริงๆ?
นพ.วรตม์ : ผมเชื่อว่าประชาชนที่ดูอยู่หลายๆ คนก็มีความรู้สึกร่วมพอๆ กัน ถ้าเขาเห็นเรื่องการถูกทำร้าย เรื่องนี้เราก็ไม่อยากเห็น เราไม่ชอบความรุนแรงอยู่แล้ว ยิ่งพอเห็นผู้หญิงด้วยกัน ก็ต้องเตือนว่าหลายๆ คนอาจมีอาการเหมือนพี่หนุ่มก็ได้ ถ้ามีอาจต้องไปพักก่อนสักนิดนึง ไปจิบน้ำจิบท่าจะได้ไม่มีอาการแบบนั้น
เรื่องวงการนี้มีเรื่องสีเทามั้ย?
ไผ่ : การที่เขามีส่วนในการเปิดผับก็ค่อนข้างใกล้ชิดตร.อยู่แล้ว รวมถึงทำเว็บไซต์ ถ้าเขาทำจริงนะ กระบวนการใกล้ชิดอยู่แล้ว ทำให้เขามีความสนิทสนมกับตร. ผมถึงบอกว่าเราจะทำอะไรค่อนข้างลำบาก แต่ก็คิดว่าประเทศไทยวันนี้ต้องทำเรื่องนี้จริงจัง เพราะเงินที่เขาได้กันเป็นพันๆ ล้าน มหาศาลจากการพนันล้วนๆ ส่วนใหญ่เงินจากกระเป๋าลูกๆ หลานๆ เด็ก แต่ก่อนเสพยา แต่เดี๋ยวนี้ไม่มียาก็มาทำอันนี้กันหมด ก็เป็นเงินจากครอบครัว พอเสียเงินตรงนี้ไปครอบครัวก็ล่มสลายเหมือนกัน เราคิดว่าน่าจะจริงจังตรงนี้
เรื่องคุณดิว คุณไผ่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลยังไง เพราะตอนนี้เรื่องความปลอดภัย ดิวก็น่ากังวลเรื่องนี้ด้วย?
ไผ่ : ตอนนี้สามหลักใหญ่ๆ หลักแรกคือเปิดโปงเว็บไซต์ สองคือการโดนทำร้าย สามคือความปลอดภัย สำหรับผมสองอย่างแรกเชื่อว่าตร.คงทำงานกันอยู่แล้ว เรื่องเว็บไซต์มีตร.ชุดทำงานเขายังทำดีอยู่ เราก็คอยเกาะติด และประสานหลายๆ ภาคส่วน ท่านธรรมนัสก็คุยกันแล้วเราจะมาดูเต็มที่ สองเรื่องการโดนทำร้าย อันนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เราก็จะมาดูว่าจะทำยังไงได้ แต่อายุความ 10 ปีนะครับทำร้ายร่างกาย ยังแจ้งได้ แต่ข่มขู่ได้ไม่ถึงปี อาจจะเกินแล้ว ข่มขู่ในไลน์อาจทำอะไรไม่ได้แล้ว สุดท้ายเรื่องความปลอดภัย ผมคงต้องช่วยเหลือ แต่ไม่รู้จะทำได้ขนาดไหน ขอดูก่อนเมื่อวันที่ดิวกลับมา แต่วันนี้ดีที่ดิวยังอยู่ต่างประเทศอยู่
อยากเตือนอะไรคนที่กระทำความรุนแรง หรือคนที่ถูกกระทำความรุนแรงแบบนี้ แล้วอาจตกอยู่ในสภาพดิว กล้ำกลืนฝืนใจมาหลายปี?
นพ.วรตม์ : สิ่งที่คุณดิวพูดเป็นตัวแทนใครหลายๆ คนที่ไม่กล้าออกมาพูดมาก่อน แล้วเหตุการณ์นี้ผมเชื่อว่ามีคนติดตามมากมาย และผู้หญิงที่ถูกทำร้ายจะมีความหวังขึ้นมา ว่าเขาจะทำอะไรบางอย่างได้บ้างหรือเปล่าในเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ สำหรับคนประสบความรุนแรงอยากบอกว่าไม่มีสิทธิ์ใดๆ ที่ใครจะมาทำความรุนแรงกับคุณ ไม่มีใครควรได้รับสิทธิ์นั้น ฉะนั้นถ้าเราถูกใช้ความรุนแรง สามารถขอความช่วยเหลือจากใครสักคนได้ ไม่ว่าจะสายด่วน 1300 ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อเอาตัวคุณเองออกจากความรุนแรงนั้น ก่อนที่คุณจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต หรือสุขภาพกายจนคุณเสียชีวิตนะครับ
อาจมีคนเบี่ยงประเด็น ประเด็นหลักๆ คือธุรกิจสีเทาต้องชัดเจน มีใครร่วมมือบ้าง จับแล้วต่อไปจะหลุดมั้ย จำเป็นต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ตอนนี้สังคมกำลังจับจ้อง สองเรื่องคุณดิวถูกทำร้ายร่างกาย หลายคนบอกว่าเปิดทำไมเรื่องนี้ คุณดิวก็บอกไปแล้วว่าเธอเหมือนเป็นแผลอยู่ในใจ เธอย่อยไม่ได้ เหมือนกินเข้าไปแล้วจุกอยู่ตรงนั้น ถ้าพูดภาษาผมก็เหมือนล้วงคอให้มันออกมา มันแล้วแต่บริบท วิธีการแต่ละคน เชื่อว่าคุณดิวโทษตัวเองไปแล้ว ว่าเธอทำให้คนรอบข้างได้รับผลกระทบ เธอขอโทษ แต่หลักสำคัญเธอกำลังบอกว่ามีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย และเธอจะบอกว่าทั้ง 4 คนรับรู้มาตลอดว่าเธอถูกกระทำอะไรบ้างจากพี่ชายคนโตของบ้านหลังนี้ แต่ไม่มีใครช่วยเหลือเธอเลย จนวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา เธอรู้ว่าหนึ่งในนั้นกำลังจะแต่งงานและมีความสุข ทำไมเธอต้องนั่งจมอยู่กับความทุกข์แบบนั้น เธอแค่ล้วงคอให้อ้วกออกมาเท่านั้นเอง นี่คือที่มาที่ไปของดิว อริสรา?
ไผ่ : แต่เชื่อว่าถ้าเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ต่อไปจะไม่มีใครออกมาพูดอีกแล้ว ผมก็ต้องฝากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดีๆ จริงๆ แล้วเราก็รับทราบหลายๆ อย่าง เรื่องเจ้าหน้าที่วันนี้ต้องยอมรับว่าความไว้วางใจของประชาชนมันต่ำ ถ้าเคสนี้พิสูจน์ทำให้ถูกต้องได้ แล้วใครที่พยายามช่วยอยู่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องดีกว่า ผมเชื่อว่าไม่คุ้มค่าที่จะออกตัวตอนนี้ ปล่อยให้รันไป จบยังไงก็เคารพในขั้นศาลตรงนั้นน่าจะเหมาะสมที่สุด
คุณหมออยากเตือนอะไร?
นพ.วรตม์ : ความรุนแรงในครอบครัว เป็นปัญหาที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน อยากให้มองว่ามนุษย์เราสามารถใช้การเจรจาได้ ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่จะใช้ความรุนแรง เราพูดคุยลดความรุนแรงในครอบครัว คนที่ทำอยู่ก็สามารถหยุดได้ คนถูกกระทำก็เรียกร้องให้หยุดได้ อย่าเอาตัวเองไปอยู่ในการกระทำซ้ำๆ ขอความช่วยเหลือจากใครสักคน ทั้งด้านจิตใจ และกฎหมายครับ
ล่าสุดดิวส่งข้อความมาว่าขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณที่เข้าใจ คิดว่ากฎหมายจะช่วยให้อะไรๆ กระจ่างขึ้น ส่วนตัวของดิวขอเซฟใจตัวเองในการเปิดแผลของตัวเองก่อน เธอจะบอกว่าทั้งหมดที่เปิดออกมาก็เหมือนเปิดแผลเหมือนกัน เธอก็ต้องเซฟใจตัวเองเพราะเธอก็เจ็บกับการเปิด แต่ไม่เปิดก็ไม่ได้ มันก็ต้องแลก เพราะมาถึงตรงนี้แล้ว มีอะไรอยากเตือนคุณดิว?
นพ.วรตม์ : อยากให้กำลังใจ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครสักคนที่จะออกมาพูด บางทีการพูดก็มีผลตามมามากมาย แต่ใครที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้วมีความกล้าแบบนี้น่าชื่นชม เชื่อว่าจะเป็นกำลังใจให้ใครอีกหลายคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกั้น ทำให้เขากล้าลุกขึ้นมาเพื่อออกจากสถานการณ์ครับ
ล่าสุดมีอีกคนส่งข้อมูลอีกด้านให้ทางโน้นทางนี้ เหมือนเปิดอีกเรื่องบิดอีกเรื่อง คุณไผ่พร้อมชนนะ?
ไผ่ : พร้อมชวนครับ ไม่ใช่ดิวก็ทำครับ ธรรมดาเราก็ทำอยู่แล้ว
เขาบอกเอาเงินฟาดหน้าคุณไผ่?
ไผ่ : เขาคงมีเงินไม่มากพอครับ (หัวเราะ)
เจอหลายๆ ครั้ง กับ บ. มีเรื่องกันมั้ย เคยด่าเขามั้ย?
ไผ่ : เคยไปถาม ทำไมปากดี
ตบมั้ย?
ไผ่ : ไม่ตบครับ เดี๋ยวเขาแจ้งความ (หัวเราะ) ตอนนั้นที่ถามเขาก็บอกว่าเปล่าครับ ตอนนั้นมันอยู่ในห้าง ผมก็แข่งรถกับกลุ่มเขาอยู่แล้ว แต่ผมแข่งคนละแบบ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นยังไง วันนี้เน้นย้ำสังคมอย่าไปเชิดชูกับคนที่ทำแบบนี้ บางครั้งเราไปเชิดชูที่ตัวเงิน ขับรถดี ขับรถสวย มันก็ต้องหยุดกันนะ ทำสิ่งที่ถูกต้องดีที่สุด
4 บ. ก็ถือว่ายังบริสุทธิ์ เพราะเขายังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการ คุณเบนซ์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ต้องรอว่าจะมอบตัวเมื่อไหร่ ส่วนอีกหนึ่งคน ลาออกจากการเป็นตร. ส่วนอีกคนก็เลื่อนการแต่งงาน แต่ตร.ก็ต้องไปตามให้ได้ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง แตกหน่อไปถึงลูกนายพล ก็ต้องตีกรอบให้อยู่?
ไผ่ : ไม่ผิดไม่หนีหรอกครับ ถ้าตั้งหลักก็นานไป ไอจีก็ปิด เห็นๆ กันอยู่ ก็กลับมาสู้เถอะครับ มันไม่ได้อะไรหรอก ถ้าออกมาตั้งแต่แรกอาจไม่ถึงเรื่องทำร้ายร่างกายก็ได้ อาจไม่ถึงขนาดนี้
คุณกำลังดู: "ไผ่ ลิกค์" เปิดใจสามปีสุดช้ำ "ดิว อริสรา" ถูกทำร้ายร่างกายหนัก ชีวิตเหมือนตกนรก
หมวดหมู่: ความบันเทิง