“ปี๋ใหม่ผองไท” ศูนย์รวมใจในต่างแดน

“ปี๋ใหม่ผองไท” ศูนย์รวมใจในต่างแดน

“ใหม่สูงปี๋ใหม่ข้า” เสียงพิธีกรสาวชาวไทใหญ่บนเวที ประกาศให้แก่ผู้เข้าร่วมงานฉลองการเข้าสู่ปีที่ 2117 อันเป็นประเพณีที่จัดต่อกันมาอย่างยาวนานเกือบ 40 ปี

การจัดงานปีใหม่ของชาวไทใหญ่นั้นสิ่งสำคัญและนับเป็นหัวใจของการจัดงานคือ การได้พบปะกับผู้อาวุโสและญาติพี่น้องที่ต่างแยกย้ายกันไปประกอบอาชีพของตนเองจากทั่วสารทิศจะมารวมตัวกัน และเมื่อก้าวเข้าสู่งานแล้วแม้สถานที่จัดงานจะอยู่ในประเทศไทยแต่กลับสร้างความรู้สึกเสมือนข้ามไปสู่รัฐฉานอันเป็นมาตุภูมิของชาวไทใหญ่

เอกลักษณ์หนึ่งที่สามารถพบเห็นได้อย่างชัดเจนของผู้เข้าร่วมงานทุกคนคือ เครื่องแต่งกายแบบร่วมสมัย โดยผู้ชายจะนุ่งกางเกงแบบผ้าและเสื้อแบบไทใหญ่มีกระดุมจีนเรียงตามแนวสาบเสื้อ และสวมเครื่องศีรษะ ส่วนผู้หญิงจะนุ่งซิ่นและสวมเสื้อในลักษณะคล้ายกัน การแต่งกายในลักษณะนี้ชาวไทใหญ่มักจะแต่งกันในโอกาสพิเศษหรือมีกิจกรรมสำคัญเท่านั้น เรียกได้ว่าการจะได้พบเห็นการแต่งกายเต็มรูปแบบขนาดนี้นั้นไม่ง่ายนักเรียกว่าถ้าไม่ไปรัฐฉานก็คงต้องรอมีประเพณีสำคัญในลักษณะเดียวกันนี้จัดขึ้น

กิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในงาน มีตั้งแต่ประเพณีการแสดง “ก้าโต” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกวางตัวผู้ขนสีขาว มีนักแสดงเข้าไปสวมในชุด 1-2 คน เต้นเป็นจังหวะกับวงกลองยาวและฆ้อง คนไทยอาจจะคุ้นกับการแสดงในลักษณะคล้ายกันคือ การเชิดสิงโต ซึ่งก็มีความหมายไปในทิศทางเดียวกันคือ การเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความสุข ความยินดี ปรีดา แต่ด้วยความที่ชาวไทใหญ่ประกอบเกษตรกรรมมาแต่ดั้งเดิม ก้าโต จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ การเติบโต และเจริญรุ่งเรืองของชาวไทใหญ่ การแสดงนี้ก็เช่นเดียวกันคือ ไม่ได้พบเห็นบ่อยนัก และไม่แสดงกันถี่ จะเกิดขึ้นในโอกาสสำคัญ ประเพณีงานบุญ ไปจนกระทั่งการรับแขกบ้านแขกเมือง

นอกจากนี้ ในงานเฉลิมฉลอง “ใหม่สูงปี๋ใหม่ข้า” ยังมีการแสดงดนตรีจากศิลปินชั้นนำชาวไทใหญ่ที่ทำให้ผู้ฟังเสมือนได้อยู่ในมาตุภูมิของตน ได้สัมผัสศิลปินชั้นนำอย่างใกล้ชิด งานนี้เรียกว่า แม้ฝนจะเทกระหน่ำลงมาตั้งแต่หัวค่ำ แต่พี่น้องชาวไทใหญ่ไม่มีใครถอย ทั้งร้อง เต้น กลางสายฝนอย่างสนุกสนาน

และที่ขาดไม่ได้คือ อาหารไทใหญ่ อาหารที่เป็นเอกลักษณ์หลากหลาย วัตถุดิบส่วนใหญ่ทำจากพืช สะท้อนรากเหง้าของพี่น้องไทใหญ่ ที่ส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของรัฐฉานในการเพาะปลูกพืชหลากหลายชนิดแปรเปลี่ยนเป็นความเรียบง่ายในการบริโภค สิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่แฝงอยู่ในจิตวิญญาณของชาวไทใหญ่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่ยังรวมถึงชาวไทใหญ่ในรัฐฉานและในที่อื่นๆทั่วโลก ผ่านประเพณี อาหาร วัฒนธรรม และการบอกเล่าผ่านเนื้อเพลง เป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่ถูกส่งผ่าน และปลูกฝังไปยังรุ่นสู่รุ่น บทเพลงที่ไพเราะหนักแน่น และทรงพลังแต่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของชนชาติได้อย่างลึกซึ้ง

แม้ในปัจจุบันรัฐฉานจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเมียนมา แต่การพัฒนาในทุกมิติก็ยังคงดำเนินไปทั้งมิติทางสังคม มิติทางวัฒนธรรม และมิติการสื่อสาร การแสดงให้เห็นความเป็นจริงที่อยู่ภายใน และแก้ไขความเข้าใจที่ผิดต่อสายตาของบุคคลภายนอก สยบข่าวลือและเรื่องเล่าที่ส่งต่อกันมา ว่าชาวไทใหญ่แท้จริงแล้วยังมีด้านอื่นที่งดงามและน่าค้นหา

ประเพณีงานฉลองวันปีใหม่จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้น จากการถูกบิดเบือนหรือให้ข่าวในด้านลบจากอิทธิพลทางสงครามและความขัดแย้ง ในท้ายที่สุดแล้วความจริงจะปรากฏว่ารัฐฉานก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่มีใครหรือสิ่งใดที่จะเข้ามาทำลายได้เพราะสิ่งสำคัญคือรากเหง้าทางวัฒนธรรม ภาษา ขนบธรรมเนียมและประเพณี มีความอ่อนน้อมแต่แข็งแกร่งในตัวเอง

สิ่งสำคัญคือ ผู้คนที่คอยสนับสนุนและใช้เครื่องมือทางวัฒนธรรมอันละเอียดอ่อนแทรกเข้าไปยังพื้นที่แห่งความรู้สึก ณ สถานที่ที่ไร้ซึ่งความขัดแย้ง การแบ่งแยก และอิสรภาพ สู่การคืนอธิปไตยด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้.

คุณกำลังดู: “ปี๋ใหม่ผองไท” ศูนย์รวมใจในต่างแดน

หมวดหมู่: เที่ยว-กิน

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด