ผู้ป่วย "โรคไต" กับอาหารที่ควร-ไม่ควรรับประทาน
แพทย์แนะ 5 อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต รวมถึงอาหารที่ผู้ป่วยโรคไตต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวยิ่งต้องดูแลใส่ใจเรื่องพฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นพิเศษ ในแต่ละวันควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และระมัดระวังในการเลือกชนิดอาหาร
Hello คุณหมอ นำ 5 อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต มาฝากกันค่ะ รวมถึงอาหารที่ผู้ป่วยโรคไตต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือมีอาการแย่ลงกว่าเดิม
โรคไต (Kidney disease)
โรคไต เกิดจาก ความผิดปกติของไตที่ไม่สามารถกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้ โดยปกติทั่วไปไตมีหน้าที่คัดกรองสารอาหารต่าง ๆ ภายในเลือดและกำจัดของเสียจากเลือดและน้ำส่วนเกินออกมาในรูปแบบปัสสาวะ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปัสสาวะได้น้อยลง เป็นต้น
อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต
การรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของไตได้ นอกจากนี้คุณควรปรึกษาแพทย์และนักโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำในการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรค เช่น การจำกัดปริมาณฟอสฟอรัสและแคลเซียม ลดการบริโภคโพแทสเซียม เป็นต้น
5 อาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับผู้ป่วยโรคไต
การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อไต อาจช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยชะลอและลดความเสื่อมของไต ซึ่งอาหารที่มีประโยชน์ต่อไต มีดังต่อไปนี้
ปลากะพงขาว
ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคไต การรับประทานปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยลดระดับไขมันในเลือดและควบคุมความดันโลหิต แต่ไม่ควรรับประทานมากจนเกินไปเพื่อรักษาระดับฟอสฟอรัสในร่างกาย
ปลากะพงขาวสุก ปริมาณ 85 กรัม ประกอบด้วย
- โซเดียม 74 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 279 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 211 มิลลิกรัม
องุ่นแดง
นอกจากรสชาติที่อร่อย หวาน ขององุ่นแดงแล้ว ยังอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เรียกว่า สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ และยังมีประโยชน์ต่อการบำรุงสุขภาพหัวใจ
องุ่นแดง ปริมาณ 75 กรัม ประกอบด้วย
- โซเดียม 1.5 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 144 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 15 มิลลิกรัม
ไข่ขาว
ถึงแม้ว่าไข่แดงจะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าไข่ขาว แต่ไข่แดงมีปริมาณฟอสฟอรัสสูงกว่า การเลือกรับประทานไข่ขาวจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ไข่ขาวอุดมไปด้วยโปรตีนซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อการบำรุงไต โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยการฟอกไต ซึ่งมีความต้องการสารอาหารประเภทโปรตีน
ไข่ขาว 2 ฟองใหญ่ ปริมาณ 66 กรัม ประกอบด้วย
- โซเดียม 110 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 108 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 10 มิลลิกรัม
กระเทียม
ผู้ที่เป็นโรคไตจำเป็นต้องจำกัดปริมาณโซเดียมเพื่อไม่ให้ไตทำงานหนัก การรับประทานกระเทียมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารแทนเกลือหรือน้ำปลา นอกจากนี้กระเทียมยังอุดมด้วยวิตามินซี และวิตามินบี 6 ซึ่งมีสารประกอบที่เรียกว่า กำมะถัน มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ
กระเทียม 3 กลีบ 9 กรัม ประกอบด้วย
- โซเดียม 1.5 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 36 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม
น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพในการนำมาปรุงอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต เพราะ น้ำมันมะกอกมีไขมันอิ่มตัวเชิงเดียว ที่เรียกว่า กรดโอเลอิก (Oleic acid) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ปริมาณ 13.5 กรัม ประกอบด้วย
- โซเดียม 0.3 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 0.1 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 0 มิลลิกรัม
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยโรคไต
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยโรคไต มีดังนี้
อาหารที่มีปริมาณฟอสฟอรัส และแคลเซียมสูง
การรับประทานอาหารที่มีปริมาณฟอสฟอรัสสูง อาจทำให้ไตเสื่อมสภาพได้ไวยิ่งขึ้น เช่น
- ผลิตภัณฑ์ประเภทนม
- พืชตระกูลถั่ว ธัญพืช
- เนื้อสัตว์ตระกูลสัตว์ปีกและปลา
อาหารที่มีปริมาณด้วยโพแทสเซียมสูง
ถึงแม้ว่าโพแทสเซียมจะมีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ หากคุณเป็นโรคไตการบริโภคอาหารที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูงอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนนำไปสู่โรคหัวใจได้ เช่น
- มะเขือเทศ
- แครอทดิบ
- ตระกูลผักใบเขียว (ยกเว้นผักคะน้า)
- แตงโม
อย่างไรก็ตามแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วอาหารบางชนิดจะช่วยบำรุงไตให้แข็งแรง แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคไตทั้งหมด ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
คุณกำลังดู: ผู้ป่วย "โรคไต" กับอาหารที่ควร-ไม่ควรรับประทาน
หมวดหมู่: สุขภาพ