ปันปัน สุทัตตา เผยป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้ครึ่งซีก

ปันปัน สุทัตตา เผยเบญจเพสแรงมากป่วยปลายประสาทอักแสบ หน้าขยับไม่ได้ครึ่งซีก พร้อมเล่าวีรกรรมวัยเด็กกับความเอาแต่ใจจนทีมงานเอือมระอา จนได้ฉายาเด็กเปรต

ปันปัน สุทัตตา เผยป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้ครึ่งซีก

นักแสดงวัยรุ่นตัวตึงซีรีส์วัยรุ่นปันปัน สุทัตตา ที่วันนี้จะมาเปิดเผยอายุ 25 ปีแล้ว เบญจเพสแรงมากป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้ครึ่งซีก พร้อมอัปเดตสถานะหัวใจกับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ ไบรท์ อนันต์ ที่อายุห่างกันกว่า 14 ปี แถมย้อนเล่าวีรกรรมวัยเด็กกับความเอาแต่ใจจนทีมงานเอือมระอา ผ่านทางรายการ "คุยแซ่บ show" ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ในสคริปต์บอกว่าป่วยอยู่ แต่น่ารักสดใสแบบนี้ป่วยอะไร?
ปันปัน : ประมาณสัก 4 เดือนที่แล้ว อยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เหมือนปันกลับมาจากอเมริกา พอกลับมาถึงรู้สึกว่าพูดไม่ค่อยชัด รู้สึกว่าปากมันขยับไม่ได้ มองกระจกแล้วทำไมหน้าตาเราแปลกๆ หน้าตาเราเปลี่ยนไป แล้ววันต่อไปดูกระจกแล้วเหมือนปากมันเบี้ยวไปครึ่งซีกล่าง ก็เลยไปหาหมอ

ตอนนั้นรู้สึกยังไง?
ปันปัน : รู้สึกปกติเลย แต่เหมือนร่างกายเราสั่งมันขยับไม่ได้

โรคนี้เขาเรียกโรคปลายประสาทอักเสบ ถูกต้องไหม?
ปันปัน : ใช่

ทำไมอายุ 25 ถึงเป็นอะ?
ปันปัน : มันเป็นโรคที่เหมือนไวรัสตัวนึงที่ทุกคนมีอยู่แล้ว แล้วมันขึ้นมา เราอาจจะนอนน้อย เครียดหรืออะไรแบบนี้แล้วมันขึ้นมาเอง ทุกคนมีสิทธิ์เป็นหมด วันไหนที่เราภูมิตก แล้วมันก็ขึ้นมา

จุดไหนที่รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องไปหาแพทย์?
ปันปัน : วันรุ่งขึ้นไปเลย แล้วคำแรกที่หมอถามคือ ฉีดโบท็อกซ์มาเหรอ มันเป็นเหมือนหน้าเบี้ยวฉีดโบท็อกซ์

หมอไม่ได้พูดถึงโรคแต่ถามว่าปันปันฉีดโบท็อกซ์มาไหม?
ปันปัน : หนูบอกว่าไม่ได้ฉีดมานานมากแล้ว เขาเลยโอเค เข้ามาดูนู้น ดูนี่ ขยับไปน่าจะเป็นโรคนี้

วันนั้นเคาะแล้วว่าเป็นโรคนี้แน่นอน?
ปันปัน : ใช่ค่ะ ถ้าเกิดว่าโรคนี้เป็นแบบฟูลสตรีม มันจะเป็นแบบครึ่งหน้า มันจะขยับไม่ได้ มันจะตกลง

ปันปันอายุน้อยมากเลยนะ อะไรเป็นสาเหตุให้เป็นโรคนี้?
ปันปัน : หนูว่ามันเป็น genetic เพราะว่าล่าสุดพี่ชายเป็นเมื่อเดือนกว่าๆ ที่แล้ว กลับมาจากเมืองนอกเหมือนกัน อยู่ๆ เป็น แต่เขาเป็นครึ่งหน้าเลย ขยับไม่ได้ทั้งซีกเลย แต่หนูเป็นแค่ครึ่งล่าง

จริงๆ ไปเมืองนอกหรือเปล่าถึงเป็น?
ปันปัน : มันเป็นไวรัสที่อยู่ที่เมืองนอกหรือเปล่า ตอนแรกหนูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าสุดท้ายปันใช้เวลารักษานานเหมือนกันนะ ตอนนี้ก็ยังไม่เต็ม 100 นะ กว่าจะกลับมาพูดปกติ 3 เดือน

ใน 3 เดือนคุณหมอบอกว่ายังไงบ้าง?
ปันปัน : ตอนแรกที่ไป บอกว่า 2 อาทิตย์หายไหม เขาบอกว่าน้องเตรียมใจไว้ 6 เดือนแล้วกันนะ

แล้วเราทำยังไง มีละครต้องถ่าย?
ปันปัน : ตอนแรกค่อนข้างช็อก เลยรีบโทรบอกผู้จัดการว่าหนูเกิดโรคนี้ขึ้น หนูขยับหน้าไม่ได้ หนูก็วิดีโอคอลไปให้ดูสุดท้ายก็คิดว่าต้องยกทุกอย่างหมดเลย ยกอะไรที่เหมือนกับต้องพูด งานที่ทำได้คือถ่ายรูปภาพนิ่ง อะไรที่ไม่ต้องยิ้มไม่ต้องพูดเยอะ

เรายิ้มไม่ได้เลยเหรอ?
ปันปัน : ยิ้มได้ แต่หน้ามันเบี้ยว เหมือนครึ่งหน้าล่างมันไม่ขยับ

ถ้าจำไม่ผิดโรคนี้รักษาด้วยการเอาไฟฟ้าช็อต แล้วเราทำไหม?
ปันปัน : ช็อตทุกวัน ไปโรงพยาบาลแล้วเอาเครื่องช็อตที่หน้า เหมือนช็อตให้ปลายประสาทที่มันมาจากหูสั่นให้มันตื่นแล้วก็ฝังเข็ม ทำได้แค่นี้ แล้วก็กินยาบำรุงนิดหน่อย ช่วงเดือนแรกแทบจะไปโรงพยาบาลเกือบทุกวันเลย วันเว้นวันอย่างนี้ พอเดือนสองก็ค่อยๆ ลดลง เพราะว่าช็อตหน้าเยอะๆ ตากระตุก เพราะเครื่องมันใหญ่ วางปุ๊บมันครึ่งหน้าเลยกลายเป็นมันช็อตลูกตาเราด้วย กลับบ้านไปก็ตากระตุก หน้ากระตุกไปด้วย

ตอนนั้นกลัวไหม?
ปันปัน : ไม่ได้กลัว เพราะรู้สึกเดี๋ยวมันก็หาย เพราะเราเห็นตัวเอง ทุกอาทิตย์มันค่อยๆ ดีขึ้นนิดนึง

มีกลัวไหมว่า มันยิ้มไม่ได้ ถ้ามันไม่เหมือนเดิมแล้ว?
ปันปัน : ใช่ ช่วงนั้นใส่หน้ากากไปก่อน มันก็ช่วยได้

มันมีโอกาสจะเป็นอัมพฤกษ์ได้ไหม?
ปันปัน : ไม่ถึงขั้นนั้น เขาบอกเลยว่าเดี๋ยวมันก็หายเอง มันไม่ได้หนักขนาดนั้น

ส่วนอื่นคือขยับได้หมด?
ปันปัน : ปกติหมดเลยค่ะ ปันเป็นแค่เส้นเดียวตรงนี้เลย

เขาไป MRI ดูไหมว่าเส้นประสาทเส้นไหนของเราไม่ทำงาน?
ปันปัน : ไม่ขนาดนั้น คือคนที่เป็นครึ่งหน้าเขาจะนอนไม่ได้ เพราะตามันกะพริบไม่ได้ สมมติคนที่เป็นเต็มๆ คือกินข้าวไม่ได้ ดูดน้ำไม่ได้ เพราะปากมันไม่ติดกัน แต่หนูเป็นแค่นิดเดียว หนูอยู่ได้เกือบปกติเลย

มันไม่มีอะไรบอกเราก่อนเลยเหรอ?
ปันปัน : ไม่มีเลยค่ะ หนูอาจจะภูมิตก และเป็น genetic ด้วย ซึ่งพอพี่ชายเป็นชัดเลย

เรื่องละคร เราต้องยุบกองถ่ายนานเท่าไร?
ปันปัน : พอเป็นปุ๊บ จริงๆ เดือนหน้าต้องถ่ายซีรีส์ หนูยกไปเลยหนึ่งเดือน ตอนแรกบอก 2 อาทิตย์ แล้วพออีกอาทิตย์ดูอาการหนูว่าไม่น่ารอด ก็เลยเลื่อนไปหนึ่งเดือน แต่มันโชคดีที่ซีรีส์เป็นตอนๆ เขาก็ถ่ายของคนอื่นก่อน แล้วตอนถ่ายทีเซอร์ของหนูไปคือเน้นครึ่งหน้าอีกฝั่ง

แล้วตอนนี้อาการเป็นไง?
ปันปัน : ตอนนี้ปกติ 99.9

คุณหมอบอกไหมว่าหลังจากที่เราหายปกติแล้ว หลังจากนี้เราต้องระวังอะไร เพื่อไม่ให้มันกลับมาอีก?
ปันปัน : หมอพูดเหมือนโรคทุกๆ คนที่เป็น ดูแลตัวเอง นอนหลับให้เพียงพอ อย่าเครียด กินอาหารให้ดี เราไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เหมือนกับโรคทุกโรค เราก็แค่ดูแลสุขภาพให้ดี

มันกลับมาได้?
ปันปัน : กลับมาได้ ตอนที่เป็นนะ เป็นโรคที่ไม่ควรเป็นเลย ยิ้มก็ไม่ได้ ไปไหนเวลาหนูหัวเราะนะ เจอเพื่อนปุ๊บหนูเอามือปิดปาก คือมันเป็นความเคยชินไปแล้ว คือพอหัวเราะปุ๊บ ปากมันจะตลกไง ช่วงนั้นแทบไม่ออกไปไหนเลย

ป่วยแบบนี้เขาดูแลเราเป็นพิเศษยังไงบ้าง?
ปันปัน : จริงๆ มันไม่ได้เป็นโรคที่กินไม่ได้ นอนไม่ได้อะไรขนาดนั้น ใช้ชีวิตได้ปกติเลย แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่กันเอง อยู่ปกติเหมือนเดิมเลย ทำให้ตัวเองรู้สึกปกติที่สุด

ความรักคบมา 5 ปีแล้ว เจอกันได้ยังไง?
ปันปัน : ไปต่างจังหวัดเที่ยวกับเพื่อนหลายๆ คน แล้วบังเอิญไปเจอกัน

เจอปุ๊บคุยกันตั้งแต่ตอนนั้นเลยไหม?
ปันปัน : เหมือนตอนนั้นไปต่างจังหวัดกัน แล้วมีคนหลายคนมากๆ แล้ววันแรกที่เขาอยู่ไม่ได้คุยด้วย ไม่ได้สนใจอะไร

ตอนนั้นไม่เข้าตา?
ปันปัน : ไม่ได้สนใจ ไม่ได้มองเลยไปเที่ยวกับเพื่อน พอวันต่อไปเพื่อนเริ่มกลับ แล้วเราอยู่ต่อแล้วบังเอิญนั่งกินข้าวติดกัน แล้วเหมือนเพื่อนเริ่มเห็นว่าเอาล่ะ ผู้ชายเริ่ม

แล้วใครจีบก่อน?
ปันปัน : พอเห็นเพื่อนสนิทเขาอยู่ เริ่มคุย เริ่มอะไร ก็เริ่มเข้าห้องไปทีละคน สุดท้ายเหลือประมาณ 3 คน อีกคนหนึ่งนั่งเล่นอยู่ด้วย สักพักค่อยๆ หายไป

พอเหลือ 2 คนแล้วทำยังไง?
ปันปัน : ก็ไม่มีอะไร ก็นั่งคุยกันสักพัก พอทุกคนไปหมดก็แยกย้ายไปนอน มันดึก

แล้วมันสานต่อยังไง?
ปันปัน : วันต่อไปก็เจอ ทุกคนก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไปหัวหินกัน ทุกคนเหมือนรู้

ทุกคนรู้แล้วเรารู้ไหมว่าทำไมพี่คนนี้มาใกล้ชิดเราจังเลย?
ปันปัน : ก็รู้ว่ามานั่งคุยแล้วก็เพื่อนๆ เริ่มคุยกัน ตอนหลังก็เลยรู้ ตอนหลังเขาพยายามนัดกินข้าวเป็นกลุ่มแต่สุดท้ายมันก็ล่มอยู่ดี ต้องไปกันเอง

สุดท้ายไป 2 คนดูเหมือนทุกอย่างจะโอเค แต่กว่าจะ 5 ปีผ่านเวลาการปรับตัวมาเยอะมาก?
ปันปัน : เยอะๆ จริงๆ เหมือนทุกคู่แหละ คุยกันแรกๆ มันต้องปรับกันอยู่แล้ว เหมือนมันมีความต่างมาก เช่น ถ้านั่งย้อนไป 5 ปีตอนนั้นอยู่มหาวิทยาลัย ปี 3 เป็นเด็กอายุ 20 ที่เด็กมาก คือเรามองย้อนกลับไปเราเด็กมากเลย แล้วตอนนั้นเหมือนพี่เขาโตแล้ว

อายุห่างเท่าไหร่?
ปันปัน : 14 ปี

ตอนที่เริ่มจีบเขาทำยังไง?
ปันปัน : สมมติหนูไปเรียนหนังสือในห้องเรียนใช่ไหม เขาจะพิมพ์ไลน์มาว่าตั้งใจเรียนนะ แล้วหายไปทั้งวัน เหมือนเขาคิดว่าเราไปนั่งเรียนหนังสือจริงๆ แล้วเหมือนกับอายุเยอะมั้งเลยไม่ชอบแชต เน้นโทรศัพท์ แล้วบอกพี่ไปทำงานแล้วนะ แล้วหายไปทั้งวัน หนูไปพูดกับเพื่อนว่าเขาไม่อยากคุยกับเราป้ะ หรือว่ามันมีอะไรผิดหรือเปล่า เพราะว่าในวัยเราจะชอบแชต

แล้วเริ่มลงตัวเมื่อไหร่?
ปันปัน : หนูก็ถามเขาว่าไม่อยากคุยกับหนูเหรอ มันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เขาบอกว่าคิดว่าไปเรียนหนังสือไม่อยากกวน แก่มาก มันก็คือเจเรชั่นแก๊ป ที่หนูยกตัวอย่างให้ฟัง ว่าต้องปรับตัวยังไง แต่มันไม่ใช่ปัญหาเลย ตอนหลังเขาเริ่มคุยเยอะ พิมพ์มาทั้้งวัน

ชอบอะไรในตัวไบรท์?
ปันปัน : ด้วยความที่อยู่มานานแล้ว เขาอยู่ในช่วงที่เราโตมา 20-25 หนูรู้สึกว่าหนูเปลี่ยนไปเยอะมาก จากที่ 20 หนูเด็ก วัยรุ่นเที่ยวมันส์มาก เขาก็ทนได้นะ เขาก็อยู่ได้ ในช่วงที่หนูเหวี่ยงที่สุด ขึ้นลงแบบรถไฟเหาะ อารมณ์ขึ้นลง เขาก็อยู่ตรงนั้น หนูรู้สึกว่าถ้าเขาทนได้ขนาดนี้ก็ทนต่อไปนะ เพราะพ่อจะพูดตลอดเลยว่าปันปันคนอยู่ด้วยยากนะ เพราะว่าแกเป็นคนขี้เหวี่ยงมาก อารมณ์ขึ้นลงมาก

เราวางอนาคตกับคนคนนี้ไว้ยังไง?
ปันปัน : เรา 25 เอง ยังไม่ขนาดนั้น แค่รู้สึกว่ายังเด็กอยู่เลย

แล้วถ้าเราไปเรียนต่อล่ะ?
ปันปัน : ไม่ไปเมืองนอกแล้ว ตอนนี้เรียนต่อแล้ว ตอนนี้ต่อ ป.โท แล้วตัดสินใจต่อที่ไทยไปเลย

ตัดสินใจต่อที่ไทยเพราะว่า?
ปันปัน : ไม่เกี่ยว เพราะรู้สึกว่าถ้าเราไปเมืองนอกนาน หมายถึงละคร ซีรีส์ ที่ถ่ายอยู่มันต้องเว้นนาน ก็เลยคิดว่าอยู่ไทยต่อสะดวกกว่า

ถ้าทิ้งเมืองไทยไป งานกับเขาให้กี่เปอร์เซ็นต์?
ปันปัน : หนูว่าหนูต้องเลือกงานเยอะกว่านะ ให้งานอาจจะแบบ 70 เยอะไปไหม คือถ้าไปเมืองนอกแป๊บเดียว กลับมาเขาก็ยังอยู่ ถ้างานในวงการทิ้งไปนานเป็นปี สองปี มันไม่มีอะไรการันตี

ถ้าเรารักกันมากพอไกลแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว?
ปันปัน : รู้สึกว่าไม่เป็นปัญหามากเท่าไรอยู่แล้ว

ตอนเด็กๆ ถูกบูลลี่?
ปันปัน : เหมือนเด็กๆ ย้ายโรงเรียนจากโรงเรียนไทยไปโรงเรียนอินเตอร์ แล้วเหมือนโดนบูลลี่ คือโรงเรียนไทยเขาจะใส่รองเท้าสีดำ ถือกระติกน้ำไปเรียน มีแก้วน้ำของตัวเอง โรงเรียนไทยๆ พอย้ายไปอินเตอร์ ตอน ม.2 ก็เป็นฟิวแบบใส่กระโปรงสก๊อต รองเท้าอะไรก็ได้ เราไปเรียนวันแรกใส่รองเท้าสีดำ

แล้วทำไมโดนบูลลี่?
ปันปัน : เด็กใหม่ แบบเอ๋อๆ หน่อย ใส่รองเท้าสีดำ ถือกระติกน้ำ ก็เลยโดนเพื่อนบูลลี่ เหมือนตอนย้ายไปพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ด้วย แล้วโรงเรียนอินเตอร์จ๋า ทุกคนจะพูดภาษาอังกฤษกัน แล้วหนูก็จะพูดภาษาไทยกับคนอื่น เราพูดไม่ได้ เราตกใจ เขาจะช็อกมากๆ แรกๆ ก็เลยโดนบูลลี่

ตอนแรกถอดใจไหม กลับไปอยู่ที่เดิมก็ได้?
ปันปัน : ถอดใจ จำได้เลยว่าพอย้ายไปปุ๊บ 2 อาทิตย์แรกยังกลับไปสาธิตเกษตรอยู่เลย ยังไม่กล้าบอกเพื่อนเลยว่าย้ายโรงเรียนแล้วนะ คือเรากลับมาแล้วคิดว่าเอายังไงดี แม่ก็บอกว่าต้องย้าย

แล้วตอนไหนที่รู้สึกว่าเราจะอยู่โรงเรียนอินเตอร์?
ปันปัน : แม่สั่ง แม่บอกว่าย้ายไปเถอะลูก ย้ายกันหมด เพราะพี่ชายพี่สาวก็ไปด้วย

แล้วอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราโอเคอยู่โรงเรียนอินเตอร์?
ปันปัน : แม่จับย้ายก็ต้องย้าย ทำอะไรไม่ได้ โดนบูลลี่ไป 1 ปี ก็อยู่อย่างนั้นไป

แต่สุดท้ายก็ปรับตัวได้?
ปันปัน : พอเริ่มมีเพื่อน เริ่มมีอะไร จับจุดได้ เราก็อยู่ของเรา คนบูลลี่เขาคงเบื่อแล้วมั้ง เขาเลิกบูลลี่ไปเอง

อยากจะบอกอะไรกับคนที่อยู่ในช่วงปรับตัว?
ปันปัน : สมัยนั้น เฟซบุ๊กอะไรเริ่มมาแล้ว หนูก็โดนโซเชียลบูลลี่นะ เขาก็ขึ้นเฟซบุ๊กประมาณว่าอย่าไปยุ่งเลย อะไรประมาณนี้ แล้วพอเรายิ่งไม่สนใจ เขาก็จะเลิกบูลลี่เอง เหมือนให้เวลาผ่านไปสักพัก เราก็อย่าไปยุ่งกับเขา อย่าไปร้องไห้ อย่าทำให้เขารู้สึกว่าเราจะเป็นคนที่เขาจะบูลลี่ได้ตลอดไป

เราดูแลความรู้สึกเรายังไง?
ปันปัน : กลับบ้านร้องไห้ บอกแม่ วันนี้เขามาดักที่หลังโรงเรียนนะก็โดน เล่าให้แม่ฟ้ง แม่ก็บอกไม่เป็นไรช่างมัน ให้ไปบอกครูไหม เราก็บอกไม่ต้องๆ แค่บอกให้แม่รู้แล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น จริงๆ ถามว่าตอนนั้นแย่ไหม มันแย่ แต่ว่าพอเราได้คุยกับคนที่บ้าน ได้คุยกับผู้ใหญ่ ได้บอกให้เขารู้ แล้วเขารับรู้อย่างนี้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง แล้วเราก็เหมือนฮึบสู้ สู้ต่อไปแล้วมันก็ผ่านไปจริงๆ เหมือนคนก็จะเลิกยุ่งกับเราไป

แต่พอโตมาเราแสบมาก ปันปันเข้าวงการตอนอายุเท่าไร?
ปันปัน : เด็ก น่าจะประมาณ 4 ขวบ

แต่พอเป็นสาวทีมงานเขาตั้งฉายาเลยว่าเธอไม่ธรรมดามาก?
ปันปัน : ฉายาตั้งแต่เด็กเลย ก็คือฉายา "อีเด็กเปรต" อันนี้หนูไปถามพี่เลี้ยงตัวเองที่พาไปแคสต์งานตอนเด็กๆ เราก็จะเจอช่างแต่งหน้า ช่างทำผมเยอะ แล้วปันเป็นคนซน อยู่ไม่นิ่ง พอไปแต่งหน้าก็จะดุ๊กดิ๊กตลอด กว่าเขาจะแต่งหน้าเสร็จต้องเอาคนมาจับหัว 3 คน ช่างแต่งหน้าก็จะเรียกว่า เด็กเปรตมาอีกแล้ว แต่เขาพูดเป็นมุกขำๆ แต่เหมือนหนูอาจจะจำฝังใจมา

ทีมงานบอกว่าร้อนก็ไม่ทน?
ปันปัน : ร้อนนี่ไม่ต้องห่วงเลย ตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ก็ไม่ทน ไม่ชอบอากาศร้อน

ถ้าถ่ายเอาต์ดอร์ล่ะ?
ปันปัน : ไม่ทนจริงๆ ตอนหลังต้องพกพัดลมส่วนตัวเหมือนใส่ที่คอ พอเบรกปุ๊บทุกคนจะเดินมามัดผมให้ปันเลยแล้วเอาพัดลมมาเป่า เพราะเหงื่อจะออกเยอะมาก แล้วจะร้อน เป็นคนขี้ร้อน

เวลาไม่ทนเราทำยังไง ทีมงานเขารอเราอยู่อย่างนี้ พี่หนูไม่ถ่ายแล้วนะ?
ปันปัน : เด็กๆ เป็นอย่างนั้นเลย บอกจะให้ไปถ่ายข้างนอก บอกร้อนไม่ไปค่ะ อย่างนี้เลย

แล้วเขาทำยังไง?
ปันปัน : เขาก็จะเอาพัดลมแอร์มาเป่าไปช่วยเราไม่ให้เราร้อน

ตอนนี้ถ่ายหนัง ถ่ายซีรีส์ต้องมีห้องแอร์ให้เรา?
ปันปัน : ตอนนี้โอเค พอโตมาเริ่มโอเค โตขึ้นมาเริ่มเบาลง

สมัยก่อนร้อนมากคือเดินไปปิดไฟเลย?
ปันปัน : เคยเหมือนกัน เหมือนพอแสงไฟมันสาด เด็กๆ หนูไม่รู้ ไม่ชอบหนูก็เดินไปปิดไฟ

เราเริ่มรู้ตัวเองเมื่อไหร่ว่าเราเป็นแบบนั้น?
ปันปัน : พ่อเล่าคือหนูไม่ได้ทำจริงจัง ทำตลกๆ เหมือนเป็นเด็กซน เช่น เหมือนเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง สมมติปันเห็นบันไดก็จะเดินไปปืนบันได มุดบันได เอาหัวไปติดบันไดเลย เป็นเด็กอยู่ไม่สุข ไม่นั่งเฉยๆ พอเบรกปุ๊บก็จะไปขี่คอคนนู้น คนนี้แล้วตอนเด็กๆ เป็นคนชอบตุ๊ด ช่างหน้า ช่างผมไง ก็จะเดินไปเล่น ไปกอดแขนเขา ไปเกาะเขาตลอดเวลา จนเขาแบบรำคาญเรา

แล้วปิดไฟนี่อะไรทำให้เราอยากปิดไฟ?
ปันปัน : ทุกวันนี้หนูก็ปิดอยู่ แต่งหน้าอยู่ พอทุกคนแต่งหน้าเสร็จ หนูบอกว่าปิดไฟแล้วนะคะ หนูก็ปิดเลย มันแสบตา

แล้วที่ดึงสร้อยมุกขาดคืออะไร?
ปันปัน : ตอนเด็กๆ มีงานหนึ่งที่เขาเอาสร้อยมุกที่มันรัดคอมากๆ มารัด แล้วเขาบอกว่าต้องใส่ หนูบอกว่ามันรัดมากเลย หนูก็อึดอัด หนูก็ดึงแล้วมันก็ขาดหมดเลย แล้วเป็นมุกแท้ด้วย หนูฉีกเลยตอนเด็กๆ พี่เขาก็กรี๊ดแล้วเก็บ เจ้าของสร้อยก็กรี๊ดอยู่ตรงนั้น

ตอนนี้คือเปลี่ยนหมดแล้ว ที่เล่ามามันเป็นอดีต?
ปันปัน : ตั้งแต่เด็กจนถึง 10-12 แต่ตอนนี้อายุ 25 ปีแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้น

ถ้าไฟร้อนปิดไหม?
ปันปัน : ทนได้ เอาพัดลมมาเป่าตัวเอง

แอร์ไม่มีในที่ถ่ายทำโอเคไหม?
ปันปัน : เราก็เดินออกไปข้างนอก ไปพัด

อะไรที่ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต?
ปันปัน : เหมือนโตขึ้น แล้วพอเราเริ่มเรียนรู้ เริ่มทำงานกับคนเยอะขึ้น เราก็เข้าใจว่าการทำงานกับคนเยอะขึ้น เราจะมานึกถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ เราก็ต้องคำนึงถึงคนอื่นบ้าง 10 ขวบก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำเด็กๆ นะ สมมติใครบอกว่าปันปันทำไม่ดี ทำไม่ได้ โกรธงอนนะ แล้วไม่ทำเลยนะ เลิกเลย ต้องบอกว่าดีแล้วนะ แต่ขออีกนิดนึง คือเป็นเด็กแบบนี้จริงๆ

แล้วถ้าตอนนี้เขาบอกว่าทำไม่ดี ทำไม่ได้?
ปันปัน : หนูขอใหม่ก็ได้ค่ะ

หลังๆ ปันปันลงรูปเซ็กซี่บ่อย พ่อ แม่ คุณแฟนว่ายังไง เขาห้ามไหม?
ปันปัน : จริงๆ เวลาลงไปเราไม่ถามนะ คนแรกที่จะแคปมาคือแม่ แคปมาในกรุ๊ปครอบครัว ปันปันโป๊มาก สักพักพ่อจะตอบว่า อืม แต่หลังๆ เขาเลิกว่าแล้ว

ตอนแรกพอแม่บ่นเราก็ปล่อยไป?
ปันปัน : หนูอ่านแล้วไม่ตอบ

แล้วแฟนล่ะ?
ปันปัน : ไม่ว่า เป็นคนถ่าย

เพราะฉะนั้นคนที่ว่าในครอบครัวคือแม่?
ปันปัน : แม่จะชอบอ้างว่าเนี่ยพ่อโกรธมากเลยนะที่เธอลงรูปแบบนี้ แต่จริงๆ พ่อไม่โกรธ แม่เอาพ่อมาอ้าง

วันนี้เราโตเต็มที่แล้ว อยากบอกอะไรกับแม่?
ปันปัน : แม่มันก็มีบ้าง เวลาไปทะเลใส่ถ่ายรูป เราไม่ได้ใส่ตลอด เดี๋ยวเราก็เปลี่ยน

แน่นอนไม่ใช่ครอบครัว คนรักที่มอง คนอื่นก็จับจ้องเราเหมือนกัน ที่เขาจับจ้องเป็นพิเศษคืออะไร?
ปันปัน : ก็ซูมรูป จ้องนู้น จ้องนี่ แต่ก่อนเราลงรูปก็จะส่งให้เพื่อนซูมก่อน เราต้องสแกนตรงนี้ให้ผ่าน

ชาวเน็ตจะมาโฟกัสที่หน้าอกของเรา เราติดไหมตรงนี้?
ปันปัน : ไม่ติดนะ ก็คิดว่าร่างกายเรา หุ่นเราเป็นแบบนี้ ก็ไม่โป๊ดี

ทีมงานบอกว่าอาจจะมีสิทธิ์ทำหน้าอกจริงไหม?
ปันปัน : ไม่ทำๆ รู้สึกว่าโอเค ตอนนี้แฮปปี้ดีแล้ว หมายถึงแต่งตัวอะไรก็ดูไม่โป๊ หนูตัวขาว ใส่อะไรมันจะดูโป๊ง่ายมากเลย สมมติว่าเราหน้าอกใหญ่ ก็จะดูโป๊ไปอีก ตอนนี้รู้สึกว่าเราใส่อะไรมาดูไม่ได้โป๊มาก

ล่าสุดมีคนไดเร็กต์โชว์เพื่อนสนิทของตัวเองด้วย?
ปันปัน : ไดเร็กต์ไอจีมันจะมีแรนด้อมบ้าง วันดีคืนดีหนูก็จะกดเข้าไปดู ส่งรูปอะไรมา หรือพิมพ์ข้อความอนาจารก็มี

หมายถึงส่งรูปอะไรมา?
ปันปัน : เขาส่งมาให้เรา

อวัยวะเพศ?
ปันปัน : มี เราก็บล็อก เห็นแล้ว ก็อู้แล้วบล็อกทิ้ง

มีอะไรน่ากลัวไหม?
ปันปัน : มีเยอะมาก แบบอยากเลียจังเลย เราก็จะเห็นมันมีคนที่คุยกับตัวเองได้เนอะ หลังๆ หนูเข้าไปอ่านมันตลกดีเขาพิมพ์คนเดียวตอบคนเดียว หนูก็เอ็นดู สงสารปล่อยเขาพิมพ์ไป มันอาจจะเป็นความสุขของเขาก็ได้

แล้วอันไหนที่เรารู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องดำเนินการทางกฎหมาย?
ปันปัน : ไม่มีเลย รู้สึกว่าปล่อยเขาไป ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นคนของสังคม เราเอาตัวมาอยู่ตรงนี้ ต้องมีอยู่แล้ว เราจะไปฟ้องทุกคนก็ไม่ได้

คุณกำลังดู: ปันปัน สุทัตตา เผยป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้ครึ่งซีก

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด