รีวิว Amazfit GTR4 - สมาร์ทวอตช์ฟีเจอร์ครบทางเลือกสำหรับงบประมาณต่ำหมื่น
Amazfit GTR4 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะลำดับล่าสุดที่เปิดตัวออกมา ความน่าสนใจของนาฬิกาเรือนนี้ ถือเป็นการยกระดับคุณภาพจากรุ่นก่อนๆ เพิ่มขึ้นมากทีเดียว
Amazfit GTR4 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะลำดับล่าสุดของแบรนด์ Amazfit ความน่าสนใจของนาฬิกาเรือนนี้ ถือเป็นการยกระดับคุณภาพจากรุ่นก่อนๆ เพิ่มขึ้นมากทีเดียว
แต่ในภาพรวม Amazfit GTR4 ก็ยังมีปัญหาอยู่ในเรื่องของ App companion หรือแอปฯ ที่จะซิงค์กับสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android ก็ยังคงทำได้ไม่ดีนัก
อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ Amazfit นั่นคือ การทำระดับราคาที่ไม่แพงนัก และยังมีราคาที่ถูกกว่าผู้ผลิตที่มาจากแบรนด์อย่างแอปเปิล หรือฝั่งกูเกิล-ซัมซุง พอสมควร
ในส่วนการรีวิว Amazfit GTR4 มีดังนี้
การออกแบบ Amazfit GTR4
ตัวเรือนนาฬิกาของ Amazfit GTR4 ทำได้ดีทีเดียว มีการออกแบบที่สวยงาม มีความสปอร์ต วัสดุประกอบงานแข็งแรง โดยมีขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่ ไม่เล็กจนเกินไป
แต่ในด้านการออกแบบก็อาจมีจุดที่ขัดใจอยู่เล็กน้อย นั่นคือ สายยางซิลิโคนดูธรรมดา ไม่มีความหวือหวา แต่เมื่อเทียบกับระดับราคาแล้วก็ถือว่าพอมองข้ามได้
บริเวณหน้าปัดมีปุ่มกดด้วยกัน 2 ปุ่ม ด้านบนเป็นปุ่มหลัก เม็ดมะยมสีแดง เป็นพื้นที่แสดงผลของหน้าเมนู ปุ่มด้านล่างเป็นเป็นทางลัดเข้าสู่แอปพลิเคชันออกกำลังกาย ซึ่งสามารถปรับแต่งส่วนนี้ได้เอง ถ้าหากไม่ได้ชื่นชอบการออกกำลังกาย
นอกจากนี้ ตัวเรือนยังใช้หน้าจอแบบ AMOLED รองรับการใช้งานในที่แดดจ้า แดดจัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Amazfit GTR4 ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในรูปแบบกลางแจ้งอยู่ก่อนแล้ว
อินเตอร์เฟซและแอปพลิเคชันของ GTR4
การทำงานของ Amazfit GTR4 ไม่สามารถใช้การหมุนขอบนาฬิกาเหมือนกับทางซัมซุงได้ โดยการทำงานจะเน้นไปที่การสัมผัสบนหน้าจอเป็นหลัก ซึ่งการตอบสนองทำได้ว่องไว ไม่พบอาการหน่วง
จุดที่เป็นปัญหาของ Amazfit GTR4 คงเป็นเรื่องเดิมๆ ของแบรนด์ Amazfit เพราะแอปพลิเคชันเริ่มต้น (Default) ไม่สามารถเชื่อมต่อหรือซิงค์กับแอปพลิเคชันอื่นที่อยู่บนสมาร์ทโฟนได้ โดยเฉพาะแอปฯ สำคัญอย่างปฏิทิน หรือแอปฯ To-Do List หรือแอปฯ Task ต่างๆ ไปจนถึงแอปฯ พยากรณ์อากาศ เป็นต้น จึงทำให้ผู้ใช้งานยังคงใช้งานได้ไม่สะดวกนัก และต้องสลับไปใช้บนสมาร์ทโฟน
ดังนั้นแล้วในจุดนี้ นาฬิกาอัจฉริยะที่พัฒนาโดยแอปเปิล, ซัมซุง และกูเกิล อาจตอบโจทย์ในแง่ของการทำงาน-การใช้งานอย่างไร้รอยต่อมากกว่า
ต่อมาเป็นแอปพลิเคชันดั้งเดิมที่ให้มานับตั้งแต่เปิดใช้งานนาฬิกา ส่วนนี้ต้องยอมรับว่า ค่อนข้างรก และอัดแน่นมาเยอะจนเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ตัวผู้ใช้งานต้องสละเวลาในช่วงเซตอัพนาฬิกาค่อยๆ เลือกเมนู และฟังก์ชันการใช้งานที่จำเป็น ส่วนไหนไม่ใช้งานก็ต้องไล่ลบออกจากหน้าเมนู กรณีนี้ ไม่เว้นแม้แต่ฟังก์ชันการออกกำลังกายที่เยอะเหลือเกิน
ในส่วนการทำงานของ Amazfit GTR4 จะต้องเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Zepp ซึ่งจะบ่งบอกข้อมูลเชิงลึกด้านการออกกำลังกาย สถิติและคุณภาพการนอน รวมถึงการปรับแต่งหน้าตาของหน้าปัดนาฬิกาอีกด้วย
แบตเตอรี่ GTR4
ขนาดของแบตเตอรี่ที่ Amzfit ให้มาของ GTR4 อยู่ที่ 475 mAh ถือว่าให้มาเยอะทีเดียว แล้วก็เพียงพอต่อการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ต่อการชาร์จประจุเต็มหนึ่งครั้งใช้งานได้นาน 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย ไปจนถึงเกือบๆ 3 สัปดาห์ ในกรณีที่ไม่ได้เปิด Always-on Display
เพียงแต่ว่า Amazfit GTR4 ไม่มีเทคโนโลยีรองรับการชาร์จไว แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นอะไร เพราะตามปกติแล้วการชาร์จเต็มประจุของ GTR4 ก็ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง แบตเตอรี่ก็ชาร์จเต็มประจุเรียบร้อยแล้ว
บทสรุป Amazfit GTR4
ในภาพรวม Amazfit GTR4 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่น่าสนใจ เพราะมีระดับราคาต่ำหมื่นที่ 7,990 บาท มีจุดเด่นในเรื่องของแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้หลายสัปดาห์ รองรับการออกกำลังกายเยอะมาก ตอบโจทย์คนที่รักการออกกำลังกาย
ด้านการออกแบบก็ถือว่าเป็นแนวสปอร์ต ไม่ได้ดูเทอะทะ สามารถใช้ใส่ได้ทุกรูปแบบ กล่าวคือ Amazfit GTR4 เป็นสมาร์ทวอตช์ที่ดูเหมือนนาฬิกาทั่วไป
ข้อเสียก็ยังเป็นเรื่องเดิมๆ นั่นคือ การออกแบบซอฟต์แวร์ที่ยังทำได้ไม่ดี การซิงค์กับแอปฯ อื่นๆ ยังทำไม่ได้ แล้วก็ยังมีเรื่องของอินเตอร์เฟซที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน จึงทำให้ตอนตั้งค่าการใช้งานเครื่อง ต้องเสียเวลาปรับแต่งเยอะพอสมควร
ถ้าหากข้อเสียที่ว่านี้ ผู้ใช้งานกังวลใจเป็นอย่างมาก ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการหันไปใช้งานนาฬิกาอัจฉริยะที่ตรงกับยี่ห้อสมาร์ทโฟนที่คุณกำลังใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล, ซัมซุง หรือกูเกิล.
คุณกำลังดู: รีวิว Amazfit GTR4 - สมาร์ทวอตช์ฟีเจอร์ครบทางเลือกสำหรับงบประมาณต่ำหมื่น
หมวดหมู่: เทคโนโลยีใหม่