รีวิว “Samsung Galaxy A34 / A54” คู่หูมือถือระดับกลางที่ไม่ต้องสุดมาก แต่ราคาน่าจับจอง

และแล้วก็ถึงเวลาที่ Sanook Hitech ได้สัมผัส 2 มือถือระดับกลางจาก Samsung อย่าง Samsung Galaxy A34 และ Samsung Galaxy A54 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ครบครันแต่ราคายังสบายกระเป๋า ทั้ง 2 รุ่นจะเป็นยังไงบ้าง จะลองมาให้ได้อ่านกัน

หลังจากที่ทีม Sanook Hitech ได้สัมผัสแรกกับมือถือรุ่น Samsung Galaxy A34 และ Samsung A54 และเล่าไปตั้งแต่พรีวิวไปเมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนอาจจะยังไม่เพียงพอซะแล้ว เพราะรายละเอียดของรุ่นนี้มีแบบน่าสนใจ สำหรับรอบนี้มีโอกาสได้รีวิวทั้งคู่ไปพร้อม ๆ กันให้ได้เห็นกันว่า คู่นี้ที่ดูเหมือน แต่จริง ๆ มีแอบต่างกัน จะมีอะไรบ้างที่ต้องดูกันบ้างพร้อมแล้วรับชมกันได้เลย

สเปกของ Samsung Galaxy A34

• ขนาดตัวเครื่อง 161.3 x 78.1 x 8.2  มิลลิเมตร 
• น้ำหนัก 199 กรัม  
• หน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super AMOLED
• ความละเอียดหน้าจอ : 1080 x 2400, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 1,000 nits
• กระจกหน้าจอ : ไม่ได้ระบุ
• มาตรฐานการกันน้ำ IP67 กันน้ำได้ 1 เมตร ได้นาน 30 นาที
• ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 1080 Octa Core | GPU : Mali G86 MC4
• RAM: 8GB
• ความจำในตัว :128GB
• เพิ่มความจำผ่าน MicroSD ความจุสูงสุด 1TB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + One UI 5.1
• การเชื่อมต่อ WiFi 6 (AX), GPS, 5G, Bluetooth 5.3, A-GPS, GPS,  NFC
• ช่องเสียบ USB-C
• รองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง + MicroSD
• ระบบเสียง : Stereo ทั้งบนและล่าง
• ระบบไมโครโฟน : 2 ตำแหน่งพร้อมกับระบบ Voice Focus
• กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   

• กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล 
• กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 123 องศา
• กล้อง Macro เข้าใกล้ได้ 4 เซนติเมตร ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, FHD 60 FPS, Slowmotion, Hyperlapse
• กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล  4K 30 FPS
• แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 25W
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือในหน้าจอ
• สี : ม่วง (Awesome Violet), เงิน (Awesome Silver), เทา (Awesome Graphite)

สเปกของ Samsung Galaxy A54

• ขนาดตัวเครื่อง 158.2 x 76.7 x 8.2 มิลลิเมตร 
• น้ำหนัก 202 กรัม  
• หน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super AMOLED
• ความละเอียดหน้าจอ : 1080 x 2400, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 1,000 nits
• กระจกหน้าจอ : ไม่ได้ระบุ
• มาตรฐานการกันน้ำ IP67 กันน้ำได้ 1 เมตร ได้นาน 30 นาที
• ชิปเซ็ต : Exynos 1380 Octa Core | GPU : ยังไม่มีข้อมูลในเวลานี้
• RAM: 8GB
• ความจำในตัว : เริ่มต้นที่ 128GB สูงสุด 256GB
• เพิ่มความจำผ่าน MicroSD ความจุสูงสุด 1TB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + One UI 5.1
• การเชื่อมต่อ WiFi 6 (AX), GPS, 5G, Bluetooth 5.3, A-GPS, GPS,  NFC
• ช่องเสียบ USB-C
• รองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง + MicroSD
• ระบบเสียง : Stereo ทั้งบนและล่าง
• ระบบไมโครโฟน : 2 ตำแหน่งพร้อมกับระบบ Voice Focus
• กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   

• กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มีขนาดพิกเซล 1.0 μm OIS 1.5 ค่า VDIS 833 Hz และ All Pixel AF
• กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 123 องศา
• กล้อง Macro เข้าใกล้ได้ 4 เซนติเมตร ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, FHD 60 FPS, Slowmotion, Hyperlapse
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล  4K 30 FPS Full HD 60 FPS
• แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 25W
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือในหน้าจอ
• สี : ม่วง (Awesome Violet), เขียวมะนาว (Awesome Lime), เทา (Awesome Graphite)

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Samsung Galaxy A34 / Samsung Galaxy A54

เมื่อนำทั้งคู่มาจับวางข้างๆ กันแล้วพบว่า Samsung Galaxy A34 และ Galaxy A54 จะแตกต่างกันอยู่สมควร โดยขอเริ่มกับ Galaxy A34 จะได้หน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว พร้อมกับของหน้าจอที่หนากว่าประมาณหนึ่ง และการออกแบบส่วนของ Notch หรือติ่งด้านบนเป็นทรงหยดน้ำ

แต่ว่า Samsung Galaxy A54 จะเป็นแบบเจาะรูเข้าไปข้างในทำให้ในส่วนนี้พื้นที่ของหหน้าจอที่สูญเสีย Samsung Galaxy A54 จะน้อยกว่า แต่ว่าหน้าจอขนาดจะเหลือ 6.4 นิ้ว เท่านั้น ยังดีที่ความสว่างอยู่ที่ 1,000 nits เท่ากัน ทั้งคู่

ส่วนล่างมาพร้อมกับปุ่มความคุมระบบปฏิบัติการ และสามารถเปลี่ยนได้ทั้งปุ่ม และการสัมผัสด้วยกัน

รอบตัวเครื่องทั้งคู่จะเหมือนกัน และที่ต้องบอกคือสำหรับคนที่เห็นรุ่นนี้และเทียบกับ Samsung Galaxy S23 และ Samsung Galaxy S23+ และมาเทียบกับตัวนี้ ข่าวดีคือมันคล้ายกันมากครับ แต่ว่าวัสดุที่ได้กลับกลายเป็นพลาสติก, ผิวด้านโดยฝั่งซ้ายที่เห็นจะโชว์สีเครื่องเท่านั้น

Galaxy A54

Galaxy A34

ฝั่งขวาจะมีปุ่มกดเปิด / ปิด และ เรียก Bixby ได้, ปุ่มปรับระดับเสียงถัดขึ้นไป

Galaxy A54

Galaxy A34

ส่วนบนมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ด และ MicroSD แต่รูปทรงต่างกันเพราะขนาดเครื่อง พร้อมกับไมโครโฟนตัวที่ 2

ด้านล่างมาพร้อมกับ USB-C พร้อมกับไมโครโฟนและลำโพงตัวหลักของ

ด้านหลังเป็นอีกจุดที่แตกต่างกันคือ Galaxy A54 จะถเป็นแบบเงาวับนึกว่าเป็นกระจก ส่วน Galaxy A34 จะเป็นแบบผิวด้าน จนหลายคนก็เอาไปเทียบกับ S23+ แล้วบอกว่ามันเหมือนกัน จริงๆ ไม่เหมือนกันนะครับอย่าเข้าใจผิด ปละมีกล้องหลังประกอบด้วยกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมกับ LED Flash ด้วย

ภาพรวมของดีไซน์ของ Samsung Galaxy A34 / Samsung Galaxy A54

ภาพรวมจากที่ได้สัมผัสถือว่ามีความแตกต่างจาก Galaxy A รุ่นก่อนเยอะพอสมควร ทั้งน้ำหนักที่เบากว่าเดิม แต่ว่า ความหนาของกล้องถือว่าเยอพประมาณหนึ่งโดยเฉพาะ A54 และกันน้ำในตัว แต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจคือสีสันของเครื่องที่ม้หเลือกเยอะมากได้แก่

• Galaxy A54 : ม่วง Awesome Violet, เขียวมะนาวหรือ Awesome Lime และ กราไฟต์ Awesome Graphite
• Galaxy A34 : เงิน Awesome Silver, ม่วง Awesome Violet และกราไฟต์ Awesome Graphite 

การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง

ทั้งคู่ได้หน้าจอแบบ Super AMOLED พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 1,000 nits ทั้งคู่ ดังนั้นการทำงานที่ออกมาถือว่าโดดเด่นเรื่องการแสดงผลสีสันอยู่พอสมควรเลยครับ

แถมลำโพงเป็นแบบ Dual Speaker ทั้งด้านบนและด้านล่างให้เสียงที่ออกมาดังกำลังดีจนเรียกว่ามาแบบจัดหนักจัดเต็ม และยังรองรับ และสำหรับคนที่ต้องการเสียบไมโครโฟนกับมือถือคู่นี้ ทำได้ด้วยนครับเสียงออกตามปกติครับ

ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม

 คะแนนด้านซ้ายเป็นของ Galaxy A34 | คะแนนด้านขวาเป็น Galaxy A54 มาเริ่มกันเลย

AnTuTu

Geekbench 6

3D Mark

จากคะแนนประสิทธิที่ออกมาพบว่า Samsung Galaxy A34 จะมีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า Galaxy A54 เล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อทดลองใช้งานจริงแล้ว พบว่าถ้าต้องทำงานหนักๆ ในรอบนี้ Galaxy A54 ที่ใช้ Exynos กลับลื่นไหลกว่าชัดเจน ซึ่งก็ประหลาดใจเหมือนกัน

ส่วนฟีเจอร์ในการเล่นเกมนั้นจะมาพร้อมกับ Game Launcher ที่เก็บเกมและเรียกเกมที่ต้องการเล่นในเวลาด่วน เป็นเกมง่ายๆ และ Game Booster อำนวยความสะดวกในการเล่นเกม เช่นการเปิด Apps, การอัดหน้าจอ การปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด 

การเชื่อมต่อ / การรองรับนำทาง

ในส่วนนี้ Samsung Galaxy A34 และ A54 ทำได้คล้ายๆ กันคือ 5G, Bluetooth 5.3 และ GPS, A-GPS เหมือนกันแต่ว่า Wi-Fi ของ Galaxy A34 จะรองรับแค่ Wi-Fi AC แต่ Galaxy A54 จะรองรับ Wi-Fi 6 ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดเท่านั้น แต่ภาพรวมออกมาถือว่าติดต่อสื่อสารได้รวดเร็ว และรองรับระบบ Voice Clear ทำให้เสียงที่พูดมีความคมชัดมากขึ้น

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย

สำหรับ Samsung Galaxy A34 / Galaxy A54 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1 ที่ลูกเล่นมาแบบเต็มที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพในตัวเดียวแถมยังสามารถใช้งานแบบ Multi Window และ Popup Screen เครื่องมือไม่ต้องสืบมีให้แบบครบครันครับ

 

ส่วนความปลอดภัย ทั้งคู่จะมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอแบบ Optical, ระบบสแกนใบหน้า และมีความปลอดภัยหลายชั้นผ่าน Samsung KNOX

เปิดกล้องลองถ่ายภาพ แต่ก่อนอื่นเราไปดูสเปกกันก่อน

Samsung Galaxy A34

• กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   

• กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล 
• กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 123 องศา
• กล้อง Macro เข้าใกล้ได้ 4 เซนติเมตร ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, FHD 60 FPS, Slowmotion, Hyperlapse
• กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล  4K 30 FPS

Samsung Galaxy A54

• กล้องมีหลังประกอบด้วย 2 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   

• กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มีขนาดพิกเซล 1.0 μm OIS 1.5 ค่า VDIS 833 Hz และ All Pixel AF
• กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 123 องศา
• กล้อง Macro เข้าใกล้ได้ 4 เซนติเมตร ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, FHD 60 FPS, Slowmotion, Hyperlapse
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล  4K 30 FPS Full HD 60 FPS

เมื่อเทียบกันทั้งคู่แล้ว Samsung Galaxy A54 จะได้เปรียบเรื่องของระบบโฟกัสมากกว่าเพราะสามารถทำงานได้รวดเร็วและจับรายละเอียดได้ดีกว่า Galaxy A34 ขัดเจน

ฟีเจอร์ของกล้อง Samsung Galaxy A34 / Samsung Galaxy A54

สำหรับลูกเล่นของกล้องทั้งหน้าและหลัง Samsung Galaxy A34 และ Galaxy A54 จะมาพร้อมกับ โหมดกล้องที่มาพร้อมกับ Scene Optimizer ช่วยในการถ่ายภาพ และยังรองรับโหมด FUN Mode ทำงานร่วมกับ Snapchat ส่วนโหมดอื่นๆ การถ่ายภาพ Portrait Mode ระบบโฟกัสอย่าง All Pixel AF ที่มีใน A54 ถือว่าทำให้ระบบโฟกัสชัดเจนมาก

ส่วนวีดีโอทั้งคู่รองรับวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30 FPS ส่วนวิดีโอ Full HD ทั้งด้านด้านนอกและด้านหลังเหมือนกัน และกล้องหลังรองรับ Super Slowmotion, Hyperlapse มาให้ด้วยครับ

แล้วกล้องหน้าแตกต่างกันแค่ไหนคำตอบคือ การถ่ายวิดีโอที่ Galaxy A54 จะมี Frame Rate 60 FPS ให้เลือกในแบบ FHD แต่ Galaxy A34 จะไม่มีให้เลือก

ตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy A34

 ตัวอย่างภาพจาก Samsung Galaxy A54 ที่ใช้คำว่าโหดมากตัวแค่นี้

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

 Galaxy A34

Galaxy A54

และมาถึงเรื่องแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy A34 และ Galaxy A54 กันบ้างครับทั้งคู่มีขนาด 5000 mAh เท่ากัน ถ้าใช้งานทั่วไปถือว่าพอๆ กันแต่ Galaxy A34 จะเหลือแบตเตอรี่น้อยกว่า Galaxy A54 เล็กน้อยแต่ถ้าเป็นการทดสอบประสิทธิภาพแบตเตอรี่จาก PCMark พบว่า Galaxy A34 กินไฟมากกว่า Galaxy A54 คาดว่าเหตุผลเพราะขนาดหน้าจอก็มีผล

อย่างไรก็ตามทั้งคู่จะมาพร้อมกับระบบชาร์จไฟกำลัง 25W เท่านั้น และเป็นแบบสายเท่านั้น

สรุปหลังลองใช้ Samsung Galaxy A34 และ Samsung Galaxy A54

หลังจากที่ได้ทดลองแล้วต้องบอกว่า Samsung Galaxy A34 และ Galaxy A54 ถือว่าเป็นมือถือที่จัดสเปกมาดีและเลือกได้ชัดเจนว่าจะเอาระหว่างจอใหญ่สเปกกลางๆ ไม่ได้สุดมาก ก็จัด Galaxy A34 ได้เลย แต่ถ้าใครต้องการมือถือเล็กที่สนใจสเปกต้องมาเต็มกล้องสวยว่า นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยครับ เพราะราคาของคู่นี้มีดังนี้

• Galaxy A54 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Awesome Lime, Awesome Graphite, Awesome Violet ในราคา 13,999 บาท
• Galaxy A34 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Awesome Graphite, Awesome Violet,  Awesome Silver ในราคา 11,999 บาท

หากข่าวดีสำหรับที่สนใจ Galaxy A54 ตอนนี้ยังมีโปรโมชั่น อัปเกรดความจุอยู่ครับ ดังนั้น ถ้าต้องสรุปของคู่นี้ เน้นคุ้มค่าจอใหญ่ ไม่ได้เน้นกล้องมากนัก A34 ประหยัดเงินได้เยอะ และ ถ้าจัดเต็มจริงๆ Galaxy A54 ครบกว่าสำหรับ Galaxy A Series ในช่วงนี้

จุดเด่น

• ดีไซน์สวยขึ้น แอบเหมือนรุ่นพี่
• ประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นเดิมชัดเจน
• ได้อัปเกรดนาน
• ได้กล้องดีมีประสิทธิภาพมาก
• แบตเตอรี่อึดกว่าเดิม
• หน้าจอสว่างและสวยงาม
• ราคาไม่เพิ่มจากเดิม
• กันน้ำ

ข้อสังเกต

• ถ้าอยากได้ ความจำในตัวเพิ่มอาจจะต้องรีบซื้อหน่อย
• ความแตกต่างไม่ได้ห่างกันเยอะนอกจากขนาดตัวเครื่อง

 

คุณกำลังดู: รีวิว “Samsung Galaxy A34 / A54” คู่หูมือถือระดับกลางที่ไม่ต้องสุดมาก แต่ราคาน่าจับจอง

หมวดหมู่: ทบทวน