รีวิว “Sony ULT Wear” หูฟังเฮดโฟน สุดครอบคลุม ที่เบสหนักสุดแค่กดปุ่มเดียว

Sony ULT Wear หูฟังไร้สายใหม่ล่าสุดจาก Sony ที่เบสหนักได้แค่ปุ่มเดียว กับค่าตัว 6,990 บาท

รีวิว “Sony ULT Wear” หูฟังเฮดโฟน สุดครอบคลุม ที่เบสหนักสุดแค่กดปุ่มเดียว

ถ้าพูดถึงหูฟังของ Sony หลายๆ คนก็อาจจะนึกถึงหูฟังแบบ Headphone ที่ทำกันมานานอย่างตระกูล WH-1000X ที่ Sanook Hitech รีวิวไปหลายรุ่น ที่ราคาแพงเป็นหมื่นแล้วอยากได้ถูกหน้าตาใกล้กัน แต่เบสต้องจัดเต็มกว่านี้ล่ะ ขอแนะนำกับ Sony ULT Wear

Sony ULT Wear (WH-ULT900N) สเปก

  • ขนาด : 23.5 x 20.3 x 6.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 255 กรัม
  • ขนาด Driver : Dynamic Driver 40 mm. แบบแม่เหล็ก นีโอดิเมียม
  • การตอบสนองความถี่ : 5Hz – 20,000 Hz
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
  • ไมโครโฟน : 2 ตัว
  • ระบบ Noise Cancelation : ชิป Integrated Processor V1 พร้อมกับ Dual Noise Sensor
  • คุณภาพเสียง : SBC, AAC, LDAC, DSEE
  • พอร์ต : USB-C + ช่องเสียบหูฟัง
  • แบตเตอรี่ : 1060 mAh
  • สี : ดำ และ ขาวออกครีม

batch_20240528_151612

batch_20240528_152853
batch_20240528_152923
batch_img20240527234558

  • ของในกล่อง
    • กล่องเก็บหูฟัง
    • หูฟัง Sony ULT Wear
    • สาย USB-C
    • สายเสียบหูฟัง
    • คู่มือการใช้งาน

ดีไซน์ของ Sony ULT Wear

batch_20240528_151631

หน้าตาแรกเห็นผมใช้คำว่าเหมือนกับนำ Sony WH-1000XM3 และ M4 มาปรับปรุงใหม่ โดยตัวครอบภายนอกหน้าตาเป็นวงกลมที่ดูใหญ่นอกจากนี้ที่สังเกตได้ชัดเจนคือ ทั้ง 2 ข้างด้านตรงหูฟังมีลำโพงขนาดใหญ่ 2 ตัวด้วยกัน

batch_20240528_151720
batch_20240528_151724

ปุ่มควบคุมต่างๆ จะอยู่ทางด้านซ้ายทั้งหมด กดได้สะดวก มีทั้งปุ่ม Power, NC/Ambient Mode, ULT, ไฟสถานะ, ช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง

batch_20240528_153134

แต่เซ็นเซอร์การสัมผัสอยู่ฝั่งขวานะ

batch_20240528_151639

ด้านในบุนุ่มด้วยนวมขนาดกำลังเหมาะพร้อมกับด้านบนที่มีฟองน้ำที่แน่นเวลาใส่จังหวะแรก แต่ก็นุ่มเมื่อใช้งานนานๆ ทั้งหมดนี้ ถอดเปลี่ยนไม่ได้ การปรับจะเป็นแบบก้านดึงแต่เป็นเขี้ยวล็อคนะ แต่ก็แม่นยำอยู่

ฟีเจอร์ที่น่าใช้ Sony ULT Wear

Sony ULT Wear ไม่ได้มีหน้าตาที่เหมือนกันรุ่นท็อปก็จริง แต่ฟีเจอร์ใส่มาก็เยอะจนรุ่นพี่มองตั้งแต่

batch_img_20240528_152224

  • ระบบตรวจจับการสวมใส่
  • ระบบการสัมผัสด้านข้าง(ขวา) ทำได้ตั้งแต่ปรับเสียง, เปลี่ยน Track เพลง, หยุด – เล่นเพลง และรับสาย / วางสาย
  • มีระบบ ตัดเสียงรบกวนและ Ambient Mode
  • ใช้ชิป Integrated Processor V1 ให้การทำงานกับ Dual Noise Reduction ได้ดี
  • รองรับระบบ 360 Reality Audio พร้อมกับ Head Tracking (ใช้ได้กับบาง Apps)
  • รองรับ Spotify Tap แตะแล้วเล่น Track โปรได้
  • ปรับไมโครโฟนใหม่พร้อมกับระบบ Beamforming และมี Wind Noise Reduction
  • รองรับ Dolby ATMOS
  • รองรับ Google Fast Pair ต่อได้ง่ายกับมือถือ Android

 batch_screenshot_20240530_081

แถมการควบคุมก็ยังสามารถทำได้งานผ่าน Apps Sony Headphone ที่ปรับได้ลึกล้ำรวมถึงการปรับ EQ ที่มี Preset สำเร็จ หรือจะปรับตามใจล็อกได้ 2 Profile เลย และกำหนดเรื่องของสถานที่ว่าแบบไหนให้ระบบ NC ทำงานได้ไหนด้วย

คุณภาพเสียงจากที่ฟัง

batch_20240528_153033

จากที่ได้ทดลองฟังนั้นต้องบอกว่า Sony ULT Wear ให้เสียงที่ดังคมชัดกับ Driver ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควรถึง 40 มิลลิเมตร ใหญ่กว่าหูฟังแบบ TWS แต่พอๆ กันกับ Driver Headphone ทั่วไป แต่ว่าเนื่องจากค่าต่างๆ ที่ได้นั้นถ้าเราไม่กด ULT เสียงก็จะออกมาแบนๆ หน่อย ต้องปรับ Equalizer ช่วยถึงจะมีมิติ

batch_20240528_151724

แต่ปุ่ม ULT ก็จะทำให้หูฟังรุ่นนี้มีเสียงต่างกัน 3 แบบคือ

  • ไม่กด = ไม่มี Bass
  • กดครั้งที่ 1 = เบส จะอยู่ในระดับ 1 – 3 ของ Apps (แต่ในกราฟของ Apps ไม่ได้บอก) เท่ากับจะเพิ่ม อถรรส ในการฟังเพลงได้ดีขึ้น Impact กับจังหวะเพลงปกติได้ดีกว่า เป็นระดับที่ผู้เขียนชอบเลย
  • กดครั้งที่ 2 = เบสหนักมาก ตัว Apps จะถึงระดับ 10 ตึบๆ สะใจ เหมากับสาย EDM และ Hip Hop หรือเพลงจังหวะสนุกๆ ผมว่าได้เลยแต่ว่า อาจจะมากไปสำหรับบางคน

อย่างไรก็ตาม Sony ULT Wear อาจจะไม่ได้เหมาะกับคนที่ฟังเพลงสายละมุนมากนัก เพราะว่า จากที่ลองปรับแล้ว มันคือการเอารุ่น Extra Bass มาต่อยอดปรับเสียงโทนและรายละเอียดได้ดีกว่า แต่อาจจะไม่ได้รองรับ Hi-Res Audio เหมือนกับ WH-1000X Series เขานะ

ส่วนไมโครโฟน รุ่นนี้การคุยสนทนาสถานที่ปกติ ทำได้ดีเลย พร้อมกับมะบบตัดเสียงลมด้วย และยังพอใช้ประชุมต้องเงียบหน่อยเพราะว่า ถ้าเกิดไม่ได้อยู่ในห้องเงียบเสียงรอบข้างจะเข้ามาพอสมควร  

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ

batch_20240528_152853

อายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ได้นานสุด 50 ชั่วโมง หากปิด NC แต่ถ้าเปิด จะลดเหลือ 30 ชั่วโมง แถมชาร์จไฟนั้นถ้าเสียบ 3 นาทีใช้งานได้ 1.5 ชั่วโมง เสียบนาน 10 นาที ใช้งานจนได้ 5 ชั่วโมง และ Full Charge 3.5 ชั่วโมงครับ

สรุปหลังได้ใช้งาน Sony ULT Wear มาสัก 1 สัปดาห์

batch_img20240527234910

SONY ULT Wear เป็นอีกหูฟังที่เน้นการสวมใส่สบายน้ำหนักไม่มากแต่ฟีเจอร์อัดแน่นไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง WH-1000X Series เพียงแต่อาจจะหายไปบางอย่างเพราะราคาของมันที่ถูกกว่านั่นเอง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้สำหรับคนมีงบไม่ถึงหมื่น มันพอครับ

ราคาของ Sony ULT Wear

batch_20240528_152844

ทาง Sony Thai เปิดราคาหูฟังรุ่นนี้ที่ 6,990 บาท ซึ่งถ้าใครซื้อทันก่อนหน้าสิ้นเดือนพฤษภาคม 2024 ก็ได้รับลำโพงจิ๋วไปด้วย แต่ถ้าไม่ทัน Sony ก็มีการยืดประกันออกไปอีก 3 เดือน โดยลงทะเบียนได้ข้างกล่องครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์สวย
  • ฟีเจอร์ไม่แพ้รุ่นพี่
  • ราคาสมเหตุสมผล
  • ใช้งานง่ายปรับได้เยอะ
  • ปุ่ม ULT กดเร่งเบสทันใจ
  • Apps มีและใช้งานไม่ยาก

ข้อสังเกต

  • ไม่ได้รองรับ Hi-Res Audio นะ
  • ไมโครโฟนแอบมีเสียงรบกวนเข้ามาบ้างb

คุณกำลังดู: รีวิว “Sony ULT Wear” หูฟังเฮดโฟน สุดครอบคลุม ที่เบสหนักสุดแค่กดปุ่มเดียว

หมวดหมู่: ทบทวน

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด