สัมผัสแรก ลองขับสั้นๆ กับ MAZDA NEW BT-50
ลองขับครั้งแรก MAZDA NEW BT-50 โปรไม่โปร ไม่ได้โม้มาดูกัน!
หลังจากทำตลาดในไทยมาตั้งแต่ปี 2555 ก็ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนโฉมเพราะผ่านมา 8 ปีแล้ว ล่าสุด ความร่วมมือกันระหว่าง Mazda และ Isuzu ก่อกำเนิดรถกระบะรุ่นใหม่ภายใต้เรือนร่างที่สวยงาม BT-50 รุ่นใหม่ ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับแชมป์รถปิกอัพ Isuzu new D-MAX รวมถึงเครื่องยนต์และระบบเกียร์ ชุดขับเคลื่อน ช่วงล่างกับงานตกแต่งภายในที่ยกมาทั้งยวงจาก new D-MAX แนวคิด KODO Design ทำให้เรือนร่างของ new BT-50 มีรูปลักษณ์ด้านหน้าคล้ายกับรถ Mazda รุ่น CX-8 เป็นงานออกแบบที่หวังจะครองใจนักขับที่ชอบรถกระบะ เอกลักษณ์เฉพาะของรถกระบะจาก Mazda มีรายละเอียดที่เรียบง่าย ตัวถังที่ปราศจากสติกเกอร์ทำให้เห็นเส้นสายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ความคมเข้มของหน้าตาแบบใหม่ใน new BT-50 เริ่มจากกระจังหน้าที่มีรูปทรงคล้ายกับรถเอสยูวีในตระกูล CX ชุดกระจังพลาสติกโครเมียมสีเงิน ตัดกับพลาสติกสีดำลงลึกในด้านของรายละเอียดที่สื่อให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบ ไฟหน้า Projector LED พร้อมไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light กันชนหน้า ออกแบบให้สอดรับกับแนวของกระจังหน้า พร้อมไฟตัดหมอกและไฟเลี้ยวที่อยู่ในกรอบไฟแนวตั้งบริเวณมุมทั้งสองข้างของกันชนหน้า ฝากระโปรงหน้าเป็นอีกจุดที่เชื่อมโยงกับชุดกระจังและแก้มข้าง แนวเส้นของฝากระโปรงจากขอบของไฟหน้า มีการยกสันนูนขึ้นเล็กน้อยเพื่อทำให้ส่วนหน้าของมันดูโฉบเฉี่ยวและสง่างาม
ด้านข้างตัวถังโดยเฉพาะรุ่นดับเบิ้ลแคป ใช้เส้นนำสายตาในแนวนอน ลากอยู่ด้านบนจากบริเวณแก้มข้าง ผ่านบานประตูทั้งสองไปจนถึงกระบะท้ายต่อเชื่อมกับขอบของไฟท้าย กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบ LED กาบบันไดสำหรับเหยียบขึ้นเพื่อเข้าไปในห้องโดยสารใช้วัสดุที่มีความคงทน ล้ออะลูมิเนียมลาย 5 ก้านแบบใหม่ สีเงินสลับสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางของ Bridgestone รุ่น Dueler HT 684 ไซส์ 265/60R18 110S มิติตัวถังของ Mazda new BT-50 มีขนาดความยาว 5,280 มิลลิเมตร เทียบกับความยาวของ Isuzu new D-MAX ที่ 5,265 มิลลิเมตร เทียบกับ BT-50 โฉมที่ผ่านมาซึ่งมีความยาว 5,365 มิลลิเมตร จะพบว่า BT-50 รุ่นใหม่นั้น สั้นกว่ารุ่นที่แล้วเล็กน้อย สำหรับความกว้างของตัวถังของ new BT-50 อยู่ที่ 1,870 มิลลิเมตรเทียบกับความกว้างของ Isuzu new D-MAX ที่ 1,870 มิลลิเมตร เท่ากันพอดิบพอดี และมีความกว้างมากกว่า BT-50 รุ่นที่แล้ว 50 มิลลิเมตร สัดส่วนความสูงของ new BT-50 อยู่ที่ 1,790 มิลลิเมตร เท่ากับความสูงของ new D-MAX แต่เตี้ยกว่า BT-50 รุ่นที่แล้ว 31 มิลลิเมตร ตัวเลขความยาวฐานล้อของ new BT-50 และ new D-MAX เท่ากันพอดิบพอดีที่ 3,125 มิลลิเมตร แต่ฐานล้อของรุ่นใหม่ สั้นกว่า BT-50 รุ่นที่แล้ว 105 มิลลิเมตร
บั้นท้ายเรียบง่าย ยกมาทั้งยวงจาก new D-MAX ไม่ว่าจะเป็นกระบะท้าย กันชนหลังและไฟท้าย ฝาท้ายกระบะติดตั้งมือจับที่เปิดฝาท้ายทำจากพลาสติกโครเมียมสีเงิน รุ่นสูงสุดติดตั้งกล้องมองหลังมาให้เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการขับถอยหลัง กันชนหลังเหล็กพ่นสีเดียวกับตัวถังพร้อมพลาสติกกันรอยเมื่อต้องเหยียบกันชนเพื่อขึ้นไปบนกระบะหลัง สำหรับล้อและยางอะไหล่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม (ใต้กระบะหลัง) ด้านบนของกระจกบังลมบานหลังบริเวณขอบ กึ่งกลางของหลังคามีการติดตั้งไฟเบรกดวงที่สาม หลอด LED เพื่อเพิ่มความคมชัดของไฟเบรกขณะที่มีการแตะเบรกเพื่อแจ้งเตือนให้กับรถคันข้างหลังได้รับรู้ ไฟท้ายมีทรงที่คล้ายกับ Isuzu new D-MAX แต่มีรายละเอียดภายในที่แตกต่างกัน จุดที่หยิบเอาของ new D-MAX มาใช้ก็คือ กันชนหลัง และมือจับที่เปิดฝาท้ายพร้อมกล้องมองหลังนั่นเอง
มาดูที่ห้องโดยสารกันบ้าง Mazda แจ้งในเอกสารว่า การออกแบบภายในห้องโดยสารของ new BT-50 มีการปรับให้สามารถเข้า-ออกจากประตูหลังได้สะดวกขึ้น เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัย Talescopic ปรับได้ 4 ทิศทาง ทั้งไกล-ใกล้ หรือสูง-ต่ำ วัสดุป้องกันเสียงถูกติดตั้งเพื่อลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ลดเสียงลมปะทะตัวถังบริเวณบานประตูหน้า ชิ้นส่วนของ new D-MAX ยังลามเข้ามาด้วยเช่น แดชบอร์ด คอนโซลที่ยกมาทั้งเซต เปลี่ยนแผงควบคุมอุณหภูมิใหม่ที่ดูหรูหรามีระดับคล้ายรถราคาแพง เป็นชุดควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอลปุ่มกดที่มีความสวยงามน่าใช้ จอแสดงผลกลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่มีฟังก์ชันมากมายก่ายกองใช้ไม่หมด เช่น เนวิเกเตอร์ กล้องมองหลัง การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ช่อง USB พวงมาลัย Mazda หน้าตาออกในแนวพวงมาลัยรถสปอร์ตเนื่องจากใช้ทรงแบบสามก้าน ด้านขวามือของก้านวงติดตั้งสวิตช์ของระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ด้านซ้ายมือ เป็นปุ่มปรับตั้งและเลือกฟังก์ชันต่างๆ ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์บลูทูธ ปุ่มสั่งงานด้วยระบบเสียง ปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงแบบ 4 ทิศทาง ก้านวงหุ้มหนังแท้จับได้กระชับมือดี
จุดที่ทำออกมาได้ดีสำหรับงานตกแต่งภายในของ Mazda new BT-50 ก็คือ เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ ตัวเบาะคนขับในรุ่นสูงสุดปรับไฟฟ้า แต่เบาะคนนั่งยังใช้การปรับด้วยมือเหมือนเดิม เบาะหนังมีรูระบายเพื่อลดความอับชื้น เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต พร้อมที่รองบริเวณหัวไหล่และด้านข้างของตัวเบาะที่ออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวขยับไปมาเมื่อเข้าโค้ง พนักเท้าแขนบริเวณถัดจากซุ้มเกียร์ ออกแบบให้เป็นกล่องเก็บของเล็กๆ ที่ใช้เก็บของกระจุกกระจิกได้ดี จุดต่อมาที่ทำออกมาดีก็คือ วัสดุหุ้มหลังคาด้านในของห้องโดยสาร เป็นวัสดุพวกใยสังเคราะห์สีดำ ออกแบบให้ช่วยซับเสียงไปในตัว หลังตาของ new BT-50 รุ่นสูงสุดมีลำโพงติดตั้งอยู่ด้านบนอีกต่างหาก จุดของไฟส่องสว่างด้านหน้าในห้องโดยสาร มีที่ใส่แว่นกันแดดมาให้เพื่อความสะดวกในการเก็บแว่นตาราคาแพง เบาะหลังมีพื้นที่ไม่มาก แต่ก็พอเพียงสำหรับผู้โดยสารสองคน พร้อมช่องแอร์ตรงกึ่งกลางระหว่างเบาะคู่หน้าเพื่อให้ลมเย็นกับคนที่นั่งอยู่ด้านหลังในวันที่มีอากาศร้อน
คันเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ออกแบบคล้ายหัวเกียร์ของรถเก๋งมากกว่าจะเป็นหัวเกียร์ของกระบะสายลุย ข้างซุ้มคันเกียร์ยังมีสวิตช์ช่วยขับขณะลงหรือขึ้นทางลาดชัน (Hill Descent Control and Hill Start Assist) ช่องเชื่อมต่อ USB มีมาให้หลายตำแหน่งรอบๆ ห้องโดยสารสำหรับการชาร์จสารพัดอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบพกพาขนาดเล็ก ใต้แผงควบคุมอุณหภูมิ เป็นที่อยู่ของปุ่มปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีให้เลือกทั้ง 2H 4H 4L ช่องเสียบไฟ DC 12V/120W ปุ่มกดเพื่อยกเลิกการทำงานของแอร์แบ็คที่ตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้า ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ช่องแอร์ทรงสี่เหลี่ยมล้อมกรอบด้วยพลาสติกสีเงิน อีกตำแหน่งที่มีการตั้งใจทำให้สวยงามก็คือ งานตกแต่งแผงประตูพร้อมมือจับที่เปิดประตูสีเงินทั้งสี่บาน หนังและพลาสติกที่นำมาใช้ดูดีมีราคากว่าของคู่แข่งแบบเห็นๆ
หลังจากแยกทางกับ Ford แล้วมาจูบปากกับ Isuzu เจ้า new BT-50
จึงมีขุมกำลัง 2 ความจุของ Isuzu new D-MAX ให้เลือก
เริ่มจากเครื่องยนต์ดีเซล 1.9DDi เทอร์โบ แถวเรียง 1.9 ลิตร
ปริมาตรความจุ 1898 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 80.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก
94.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5:1 ให้กำลังสูงสุด 110
กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า ที่ 3600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350
นิวตันเมตร ที่ 1800-2600 รอบต่อนาที เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 2.2
ลิตร ของ Ford ใน BT-50 โฉมที่แล้ว ก็พบว่า เครื่องดีเซล 2.2 ลิตร
ตัวเก่า มีแรงบิดมากกว่าเล็กน้อยที่ 375 นิวตันเมตร
แต่มีแรงม้าเท่ากันพอดีที่ 150 แรงม้า
เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ 3.0 ลิตร
อัดอากาศด้วยเทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรความจุ 2999 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ 95.4 มิลลิเมตร ช่วงชัก 104.9 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 16.3:1 กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ หรือ 190 แรงม้า
แรงบิด 450 นิวตันเมตร เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 3.2 ของ Ford
ที่ประจำการอยู่ใน BT-50 รุ่นท็อปสุดโฉมที่แล้วก็พบว่า เครื่องยนต์
3.2 ลิตรของ Ford ที่อยู่ใน BT-50 ตัวสุดท้ายมีกำลัง 200 แรงม้า
และมีแรงบิดมากกว่าที่ 470 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลังก็ยังยกชุดเกียร์ของ new D-MAX มาให้เลือกสองแบบ
ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ในการปรับจูนเกียร์ธรรมดา มีการเพิ่มความแข็งแรงของคันเกียร์
เพื่อทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความราบรื่น
ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติมีขนาดกะทัดรัด
ทอร์คคอนเวอร์เตอร์มีน้ำหนักเบาพร้อมระบบล็อกอัพที่ได้รับการปรับปรุงใหม่
มีการตอบสนองดีเมื่อเปลี่ยอัตราทด
ไหลลื่นเป็นธรรมชาติและช่วยประหยัดเชื้อเพลิง
สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้เพลาขับทำจากอะลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักเบาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์ส่งกำลังหรือ Transfer case ทำให้สามารถสลับโหมดการขับเคลื่อนและการทำงาน 4H/4L ได้เร็วขึ้น เมื่อใช้งานโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นขับทุกล้อยังมาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า electronic limited slip differential ระบบเบรกของ new BT-50 ด้านหน้าแบบดิสเบรก ขนาด 17 นิ้ว ส่วนด้านหลังยังคงใช้ดรัมเบรก ระบบรองรับ ด้านหน้าดับเบิ้ลวิชโบนปีกนกคู่ ด้านหลังแบบแหนบซ้อน โครงสร้างแชสซี มีการใช้โลหะเหล็กแบบเหนียวพิเศษ ติดตั้งระบบช่วยขับ Advanced Driver Assistance System (ระบบ ADAS เหมือนกับ new D-MAX)
ABSM
Advanced Blind Spot Monitoring :
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
ตัวระบบจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมไฟกะพริบเตือน
หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กำลังแซงขึ้นมาจากทางด้านหลัง
และอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่ทันสังเกต
RCTA
Rear Cross Traffic Alert :
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
โดยระบบจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมไฟกะพริบเตือนขณะถอยหลัง
หากระบบตรวจพบความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุจากรถที่กำลังเคลื่อนที่ตัดเข้ามาจากด้านหลัง
Parking Aid
ระบบช่วยจอด
กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเสียงแจ้งเตือนขณะถอยเข้าไปใกล้สิ่งกีดขวาง
HDC Hill Descent Control
ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
HAL
ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน
ABSM Advanced Blind Spot Monitoring
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
เป็นระบบเซนเซอร์เพื่อตรวจจับเมื่อมีรถเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังเมื่อเปลี่ยนเลน
โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย
ซึ่งเป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกันที่ใช้กับระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
(RCTA)
ที่ช่วยส่งสัญญาณเตือนคนขับเมื่อตรวจพบว่ามีรถยนต์กำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากทางด้านหลัง
Mazda new BT-50 รุ่นสูงสุด ติดตั้งเซนเซอร์ 4
ตัวบนกันชนด้านหน้าและด้านหลังจะช่วยกะระยะห่างระหว่างรถกับวัตถุ
โดยระบบจะส่งเสียงแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถเคลื่อนเข้าไปใกล้วัตถุจนถึงระยะห่างที่กำหนด
ถุงลมนิรภัย SRS 6 ตำแหน่ง
เริ่มต้นการขับทดสอบในสนามทดสอบนิรนาม ความยาวต่อรอบ 3 กิโลเมตร พร้อมๆ กับโค้งที่มีทั้งโค้งยาวความเร็วสูงและโค้งมุมแคบที่ต้องใช้พวงมาลัยเยอะขึ้น ผมเริ่มด้วยรถ Mazda new BT-50 รุ่นสูงสุด ดับเบิ้ลแค็บ 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ 3.0 DDi ของ Isuzu สถานีแรกสุดเป็นการขับเข้าออกจากไพล่อนในลักษณะสลาลม ก่อนออกตัวก็จัดการปิด ESP ทันที แต่ระบบรักษาเสถียรภาพของมันก็ไม่ได้ถูกยกเลิกจนหมด ยังมีแอบมาช่วยลดแรงบิดเมื่อรถเริ่มเสียอาการในโค้งอยู่เหมือนกัน เรียกว่าตามคุมกันตลอดเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วสูง อาการของพวงมาลัยเพาเวอร์ใน new BT-50 มีรีเลย์เล็กน้อย ตามนิสัยของรถกระบะที่ยังใช้พวงมาลัยเพาเวอร์สายพาน สำหรับประเทศไทย มีกระบะแค่ 2 แบรนด์เท่านั้นที่ใส่พวงมาลัยไฟฟ้ามาให้ นั่นก็คือ Ford Ranger และ Chevrolet Colorado
พวงมาลัยและช่วงล่าง รวมไปถึงเครื่องยนต์และเกียร์ที่นำมาจากแบรนด์ Isuzu มีประสิทธิภาพแค่พอใช้ได้ แตกต่างจากช่วงล่างของ Mazda BT-50 ตัวเก่าที่เกาะหนึบกว่า ในโค้งมุมแคบมีอาการโคลงตัวน้อยกว่า รวมถึงประสิทธิภาพของชุดบังคับเลี้ยวในรถรุ่นเก่าที่เหนือกว่าในด้านของความแม่นยำ new BT-50 ในร่างทรงของ Isuzu new D-MAX มีให้แค่ความนิ่มนวลและความสบายในการขับ แต่การถ่ายเทน้ำหนัก อาการโคลงตัว และความย้วยเมื่อเปลี่ยนทิศทางแบบฉับพลันทันที ผมชอบอารมณ์ของช่วงล่างและพวงมาลัยใน BT-50 ตัวเก่ามากกว่า สำหรับประสิทธิภาพของการเบรก เมื่อใช้เบรกฉุกเฉินแบบเต็มกำลัง ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้เบรกหลังจะยังคงใช้แบบดรัมเบรก แต่สามารถหยุดรถตามที่ต้องการได้ พลังในการเบรกเหมาะสมกับมวลน้ำหนัก แต่จะให้ดีและเหนือกว่าคู่แข่งทุกแบรนด์ ยัดเบรกหลังเป็นดิสเบรกก็จะดีกว่านี้อีกเยอะ
แรงบิดขณะเร่งความเร็วบนทางตรงยาวในสนามทดสอบนิรนาม ผมกดคันเร่งแช่ยาวจนความเร็วค่อยๆ ไต่ไปจนถึง 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เอาเข้าจริงๆ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ของ Isuzu จะขับสนุกและตอบสนองได้ดีกว่าเครื่องเล็กอย่าง 1.9 DDi ทำให้คิดถึงเครื่องบ้าพลังของ Ranger อยู่เหมือนกัน นั่นคือเครื่อง 2.0 ลิตรที่มีความจุน้อยกว่าเครื่อง Isuzu ถึง 1000 ซีซี. แต่ปรับแต่งมาจนสามารถเบ่งแรงบิดได้ถึง 500 นิวตันเมตร แรงบิด 450 นิวตันเมตร เพียงพอต่อการใช้งาน แต่อย่าลืมว่า แฟนคลับ BT-50 นั้น มาจากนักเลงกระบะสาย Performance กันทั้งนั้น BT-50 รุ่นเก่า มีประสิทธิภาพของแรงบิดจากเครื่องยนต์และอาการของระบบรองรับหรือช่วงล่าง เมื่อขับเร็วนั้นดีกว่า แต่ถ้าชอบความสบายผสมความหรู new BT-50 รุ่นใหม่ มีให้อย่างจุใจในเมื่อต้องเอาของจาก Isuzu มาใช้ จะให้สัมผัสหลังพวงมาลัยกลายเป็น Mazda คงยาก แต่ถ้า Mazda ไม่ยอมละทิ้งเลือดที่เข้มข้นของอารมณ์แบบ Zoom Zoom ขอความกรุณา ปรับจูนช่วงล่างใหม่ให้หนึบกว่านี้เถอะครับเพราะหน้าตานั้นมาครบแล้ว !!
ทุกอย่างของ new BT-50 นั้นโอเค และทำออกมาดีพอสมควร ยกเว้นช่วงล่างกับสัมผัสของพวงมาลัย ที่เป็นจุดแข็งของรถ Mazda แต่พอมาใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ Isuzu new D-MAX ช่วงล่างที่โดดเด่นกับพวงมาลัยอย่างคมและแม่นยำในรถรุ่นที่แล้ว กลับหายไปอย่างสิ้นเชิง ถ้าคุณเป็นคนที่ขับไม่เร็ว อาการดังกล่าวแทบจะไม่รู้สึก แต่ถ้าเป็นพวกเท้าหนักสายโหด ชอบใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง และเคยครอบครอง Mazda BT-50 โฉมที่แล้ว คุณจะรู้สึกได้ถึงความย้วยเมื่อลองขับ อาการย้วยที่มักจะมากับความสบายในสไตล์ที่นิ่มนวลนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ใช่กับสายพันธุ์ของยานยนต์จากสำนัก Skyactiv ครับ
รอราคาในวันเปิดตัวอีกทีนะครับว่าปล่อยค่าตัวที่แท้จริงออกมาแล้ว พอจะเอื้อมถึงกันหรือเปล่า ผมคิดว่า ราคาไม่น่าจะหนี Isuzu new D-MAX หรือไม่ก็อาจจะเปิดมาสูสีกันไปเลย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นปกติหรือรุ่นสูงสุด คาดว่า รุ่นสองประตู จะมีราคาที่พอรับได้ ส่วนรุ่นสี่ประตูขับเคลื่อนสี่ล้อน่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับคู่แข่งหรืออาจถูกกว่านิดๆ เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าซื้อให้กับเจ้า BT ตัวใหม่ รอหลังปีใหม่อีกไม่นานครับ.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
คุณกำลังดู: สัมผัสแรก ลองขับสั้นๆ กับ MAZDA NEW BT-50
หมวดหมู่: รถยนต์