สัมผัสแรก ทดสอบสั้น ยานยนต์กึ่งไฟฟ้า NISSAN KICKS e-POWER แปลกใจทำไมขับดี๊ดี!

ทดสอบสั้นใน Nissan Kicks e-POWER ช่วงล่างดีแต่มีเสียงเครื่อง 0-100 เร็วเอาเรื่อง 9.8 วินาที รุ่นท็อปราคา 1,049,000 บาท

สัมผัสแรก ทดสอบสั้น ยานยนต์กึ่งไฟฟ้า NISSAN KICKS e-POWER แปลกใจทำไมขับดี๊ดี!

เมื่อคุณต้องวิ่งเร็วๆ อย่างต่อเนื่อง ร่างกายก็ย่อมต้องการพลังงานในรูปของแคลอรีที่ใช้เผาผลาญ เปลี่ยนจากน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน เช่นเดียวกับ Nissan Kicks การทำตัวเป็นยานยนต์กึ่งไฟฟ้า ทำให้เกิดความต้องการพลังงานไฟฟ้าป้อนให้กับมอเตอร์พลังสูงเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน แต่พลังงานที่เก็บไว้ในแบตฯ ของยานยนต์ไฟฟ้าในยุคแรกนั้นมีไม่มากพอที่จะทำระยะทางได้ไกลเหมือนกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน รถไฟฟ้าที่สามารถวิ่งทางไกลเกิน 400 กิโลเมตรมีอยู่ไม่มากนักบนโลกใบนี้ แถมยังมีราคาที่ฟังแล้วสะดุ้ง แบตเตอรี่ในยุคเริ่มต้นของรถไฟฟ้ายังเก็บไฟได้ไม่มากพอและมีขนาดใหญ่เกินไป แบตฯ ของรถไฟฟ้าในปัจจุบันนอกจากจะใหญ่แล้ว ยังมีน้ำหนักเยอะมาก และน้ำหนักดังกล่าวก็กลายเป็นตัวการบั่นทอนทั้งอัตราเร่งและระยะทำการของรถไฟฟ้า แนวคิด e-Power ของ Nissan จึงถูกนำมาใช้กับรถครอสโอเวอร์รุ่นล่าสุด นั่นก็คือ Kicks โดยหันมาใช้เครื่องยนต์ตัวเล็กเพื่อปั่นไฟให้กับมอเตอร์ ลดขนาดของแบตเตอรี่ลงเนื่องจากไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้แบตฯ ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากและมีราคาสูงเหมือนแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf แบตฯ ขนาดจิ๋วของ Nissan Kicks มีขนาดเล็ก แค่เก็บไฟฟ้าเพื่อใช้วิ่งในย่านความเร็วต่ำสั้นๆ เมื่อคนขับเร่งความเร็ว เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ก็จะทำงานทันที เพื่อปั่นไฟให้กับมอเตอร์ เป็นแนวคิดที่คล้ายกับรถยนต์พลังานไฟฟ้าอย่าง BMW i3 range extender เมื่อคุณวิ่งใช้งานจนแบตเตอรี่ใกล้หมด เครื่องยนต์ตัวเล็กที่ใช้ในจักรยานยนต์ของ BMW Motorrad ขนาด 2 กระบอกสูบ จะติดตัวเองขึ้นมาเพื่อปั่นไฟให้มอเตอร์ แนวคิดดังกล่าวช่วยเพิ่มระยะทำการของ i3 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากที่วิ่งจนไฟใกล้หมดแบตฯ เกือบๆ 200 กิโลเมตร คุณจะไปต่อได้อีก 200 กิโลเมตร ด้วยการช่วยเหลือของเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ที่คอยปั่นไฟให้กับมอเตอร์ มันคล้ายกับ Nissan Kicks เพียงแต่ Kicks นั้นเน้นการทำงานของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ในการปั่นกระแสไฟฟ้ามากกว่าจะใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่

Nissan Kicks ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดอยู่ในกลุ่มเดียวกับยานยนต์อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด เช่นเดียวกับ Toyota C-HR / Honda HR-V / Mazda CX3 / MG ZS แต่แทนที่มันจะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเหมือนรถคู่แข่ง Kicks กลับทำตัวแปลกแยกด้วยการใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้า ป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อน หากไม่นับความพร้อมและข้อจำกัดพื้นฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถ EV 100% มักจะมีระยะทำการไม่เกิน 300 กิโลเมตร (ยกเว้น Tesra และ Audi e-Tron) หากขับใช้งานแต่ในเขตเมืองต่อวันไม่เกิน 100 กิโลเมตร ถือว่าตอบโจทย์การใช้งาน แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณพยายามขับรถไฟฟ้าออกทางไกล ก็จะต้องคำนวณระยะทางและระยะทำการของแบตเตอรี่ให้ดี การชาร์จแบตฯ ของรถ EV 100% ไม่ได้รวดเร็วทันอกทันใจเหมือนการเติมเชื้อเพลิง และการชาร์จเร็วด้วยสถานีชาร์จต่างจังหวัดอย่างน้อยๆ ก็ต้องมี 1 ชั่วโมง สำหรับการประจุไฟให้ได้ 80% เพื่อวิ่งต่อ และเมื่อชาร์จกับอุปกรณ์ชาร์จ WallBox ใช้เวลานานกว่าการชาร์จรถยนต์ Plug in Hybrid เนื่องจากความจุของแบตเตอรี่ทำให้ต้องเสียบชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน

e-Power เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ที่ถือเป็นเอกสิทธิของ Nissan เปิดตัวในปี พ.ศ.2560 มีความแตกต่างจากระบบขับเคลื่อนที่ใช้ไฟฟ้า 100% เครื่องยนต์ e-Power มีส่วนประกอบสองส่วนคือ มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็ก ซึ่งเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กไม่ได้มีหน้าที่ขับเคลื่อนรถโดยตรง แต่จะรับหน้าที่ช่วยปั่นไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อต้องการใช้พลังงาน โดยระบบขับเคลื่อนแบบนี้ไม่ต้องใช้การประจุไฟฟ้าจากสถานีชาร์จภายนอก หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือมันเป็นรถไฟฟ้าที่ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จไฟเข้าแบตฯ เนื่องจากมีเครื่องยนต์เอาไว้ปั่นไฟ แค่เติมน้ำมัน ขับด้วยความเร็วต่ำในเมือง เครื่องยนต์ก็จะติดๆ ดับๆ ไปตามสภาพการของการขับเคลื่อน และเมื่อขับเร็วขึ้น มอเตอร์ต้องการไฟมากขึ้นจากความเร็วที่เพิ่มขึ้น เครื่องยนต์ก็จะทำงานตลอดเวลาเพื่อทำให้มีกระแสไฟมากพอในการทำความเร็ว

ข้อดีของ e-Power ก็คือ เมื่อขับใช้งานจะมีความเงียบมากกว่า มีการสั่นสะเทือนที่น้อยกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ด้วยความที่พยายามทำตัวเป็นยานยนต์กึ่งไฟฟ้าผสานกับเครื่องยนต์ที่เปรียบเหมือนเครื่องปั่นไฟไม่ได้มีหน้าที่หมุนล้อ ไม่มีที่เสียบชาร์จไฟ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาสถานีชาร์จไฟฟ้า Kicks สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยตัวของมันเองจากเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร นอกจากนี้ ระบบ e-Pedal ออกแบบให้สามารถออกตัว เร่ง และลดความเร็ว ได้โดยใช้เพียงแป้นเหยียบเดียวในการขับขี่ วิศวกรของ Nissan แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะสร้างรถยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษต่ำ Kicks e-Power ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้มันเป็นรถที่เหมาะกับการขับใช้งานในเมือง แนวคิด e-Power เครื่องยนต์ตัวเล็กมีหน้าที่แค่ปั่นกระแสไฟฟ้าเข้าไปในแบตเตอรี่แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้เอามาใช้ขับเคลื่อนแต่อย่างใดทั้งสิ้น ฟังดูคล้ายกับแนวคิดของรถ BMW i3 รุ่น range extender ซึ่งวางเครื่องยนต์ 2 สูบเอาไว้คอยปั่นไฟป้อนมอเตอร์ขับเคลื่อน โดยที่เครื่องยนต์ตัวเล็กไม่ได้ใช้ขับเคลื่อนเสริมแรงร่วมกับมอเตอร์ e-Power ของ Nissan ยังเข้าไปจัดการกับระบบประหยัดพลังงาน การคายมลพิษที่ต่ำของเครื่องขนาดเล็กช่วยทำให้สภาพแวดล้อมด้านอากาศในเมืองใหญ่ดีขึ้น แม้จะยังมีเครื่องยนต์แต่ก็ไม่ได้ใช้เครื่องตัวเล็กขับเคลื่อนล้อหน้า มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่วิศวกรของ Nissan มีความภาคภูมิใจซึ่งใช้สำหรับขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์นั้นใช้งานได้จริง แต่ก็ไม่ได้ดึงหนักเหมือนรถ Hybrid ทั่วไปที่มีการผสานกำลังของเครื่องยนต์และมอเตอร์เทแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หน้า เนื่องจากน้ำหนักของแบตเตอรี่และชุดมอเตอร์ที่เพิ่มเข้ามาทำให้มันตัวหนักกว่า Almera รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร อยู่พอสมควร

ขั้นตอนการทำงานของระบบขับเคลื่อน e-Power เมื่อกดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ หากมีไฟในแบตเตอรี่มากพอที่จะใช้ขับเคลื่อนสั้นๆ ในย่านความเร็วต่ำ เครื่องยนต์ของมันก็จะยังไม่ทำงาน เมื่อไฟในแบตฯ เหลือน้อยลง เครื่องยนต์ตัวเล็กแค่ 3 สูบ จะเริ่มต้นรับหน้าที่ปั่นไฟโดยมีตัวแปลงกระแสไฟฟ้าหรือ Inverter ทำการแปลงกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อน แนวคิดดังกล่าวถูกนำไปใช้ใน Nissan Note และรถ Mini MPV อย่าง Nissan Serena โดย Kicks ถือว่าเป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดที่ใช้ระบบขับเคลื่อนที่พัฒนามานานกว่า 6 ปีแล้ว เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 3 สูบของมันมีความจุแค่ 1,198 ซีซี. ปั่นไฟผ่าน Inverter ป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ระบบ e-Power ของ Nissan Kicks มีเรี่ยวแรงประมาณ 95 กิโลวัตต์ หรือ 129 แรงม้า เป็นแรงจากมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ โดยที่เครื่องยนต์ไม่ได้มาเกี่ยวข้องกับการปั่นให้ล้อหมุนแต่อย่างใดทั้งสิ้น สำหรับแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 260 นิวตันเมตร เมื่อเทียบกับแรงบิดของเครื่องยนต์จะคล้ายกับแรงบิดจากเครื่องดีเซลตัวเล็ก Mazda Skyactiv-D 1.5 ลิตร ซึ่งมีแรงบิดประมาณ 250 นิวตันเมตร แรงบิดจากมอเตอร์ของ Kicks แรงกว่า 10 นิวตันเมตร ถือว่ามีกำลังแรงฉุดลากอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 9.8 วินาที กระฉับกระเฉงเอาเรื่องเหมือนกัน

เครื่องยนต์ที่กลายเป็นเครื่องปั่นไฟ คือเครื่อง HR12DE ตัวเล็กกระจิ๋วหลิว แบบแถวเรียง 3 กระบอกสูบ 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบต่อนาที และเมื่อมีเครื่องยนต์คอยปั่นไฟป้อนให้มอเตอร์ แบตเตอรี่ของ Kicks จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แบตฯ ลูกโต ที่ทั้งหนักและแพง แบตฯ ของ Kicks มีขนาดเล็กเพื่อการลดน้ำหนัก สิ่งที่ต้องแลกกลับคืนก็คือ Kicks ยังเป็นรถยนต์ที่มีมลภาวะ เนื่องจากเครื่องยนต์ยังต้องคาย Co2 เมื่อมันทำงานเพื่อปั่นกระแสไฟ ค่ามลพิษที่ไม่สูงเนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ตัวเล็ก ทำให้แนวคิดระบบขับเคลื่อนแบบ range extender ตอบโจทย์การใช้งานของคนเมือง ซึ่งมีทั้งขับในเมืองและขับออกทางไกลในวันหยุด โดยไม่ต้องกลัวว่าแบตเตอรี่จะมีไฟไม่พอ แค่สงสัยว่าทำไมเครื่องยนต์ของมันติดบ่อยจัง!

แบตเตอรี่ขนาดเล็กแบบ Lithium-ion ความจุ 1.57 kWh แรงเคลื่อนไฟฟ้า 292 Volt ติดตั้งไว้ที่พื้นรถใต้เบาะหน้า แบตเตอรี่มีแค่ 4 Module ซึ่งในแต่ Module จะมีเซลล์แบตเตอรี่ 20 เซลล์ รวมกันเป็น 80 เซลล์ แบตฯ รับประกันอายุการใช้งาน 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร ระบบ e-Power มอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ รับประกันอายุการใช้งาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร นานเอาเรื่องเหมือนกัน แบตฯแบบ 4 โมดูลใช้การเปลี่ยนแบบยกแผงไม่สามารถเปลี่ยนที่ละชิ้นได้แต่ชุดแบตเตอรี่ของ Nissan Kicks ก็ไม่ได้มีราคาแพงมากมายอะไร อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้

การทดสอบ Nissan Kicks สั้นๆ ในสนามปทุมธานีสปีดเวย์ ไม่ได้เป็นการทดสอบเพื่อหาอัตราสิ้นเปลือง แต่เป็นการจับความรู้สึกหลังพวงมาลัย การทำงานของระบบขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการเร่ง เลี้ยว หรือเบรก รวมถึงการทรงตัวในสถานีสลาลมและสถานีเปลี่ยนเลนฉุกเฉิน Kicks เป็นรถกึ่งไฟฟ้าที่ยังคงปล่อยมลพิษออกมาบ้างแต่ไม่มากเท่ากับรถยนต์คู่แข่งที่ใช้เครื่องสันดาปภายในขนาดใหญ่กว่า โดยไม่มีทั้งแบตฯ และมอเตอร์ (ยกเว้น Toyota C-HR Hybrid) Kicks เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่เซตช่วงล่างมาดี พวงมาลัยไฟฟ้าอัตราทดแปรผันไปตามความเร็วเที่ยงตรงแม่นยำใช้ได้ การถ่ายเทน้ำหนักทั้งเลี้ยว เร่งและเบรกเร็วๆ อยู่ในเกณฑ์ดี รวมไปถึงการทรงตัวในย่านความเร็วสูงก็ยังเหนือชั้นกว่า Nissan New Almera ไม่ว่าคุณจะขับมันแบบไหน Kicks ก็ให้ความสนุกกับคุณทุกครั้งเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย

จุดที่ระบบขับเคลื่อน e-Power ของ Nissan kicks มีส่วนคล้ายรถ EV100% ก็คือ การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ เครื่องยนต์มีหน้าที่แค่ปั่นไฟใส่แบตฯ เพื่อจ่ายกระแสไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่การเลือกใช้แบตฯ ขนาดเล็กทำให้เครื่องยนต์ของมันจะติดๆ ดับๆ ไปตลอดทาง เมื่อใช้ความเร็วหรือต้องการเร่งแซง เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นมาเพื่อปั่นไฟให้เพียงพอต่อการเร่งแบบเต็มกำลัง ทุกครั้งที่ถอนคันเร่ง e-Pedal จะทำงานด้วยการหน่วงความเร็วคล้ายการเบรกเบาๆ เมื่อขับจนคุ้นชินก็สามารถใช้แค่คันเร่งอย่างเดียว โดยกดคันเร่งเมื่อต้องการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และยกคันเร่งเมื่อต้องการชะลอความเร็ว เมื่อค่อยๆ ถอนเท้าออกจากแป้นคันเร่ง e-Pedal จะสั่งงานให้มอเตอร์ทำการหน่วงความเร็ว การหน่วงดังกล่าวจะเป็นการชาร์จกระแสไฟไปในตัว ช่วยลดภาระในการขับท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด e-Pedal สามารถสั่งเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ

โอเวอร์แฮงก์หน้าที่สั้นกุดพร้อมรัศมีวงเลี้ยวแค่ 5.1 เมตร แรงบิดจากมอเตอร์ระดับ 270 นิวตัน-เมตร ทำให้ Nissan Kicks มีความปราดเปรียวโดยเฉพาะการขับใช้งานในเมืองที่มีรถราคับคั่งและมีการจราจรติดขัดต้องขับแบบเดี๋ยวเร่งเดี๋ยวเบรกไปตลอดทาง ซึ่งถือเป็นงานถนัดของ Kicks เมื่อผมลองขับเข้าไพล่อนในลักษณะสลาลม การถ่ายเทน้ำหนัก ช่วงล่างและพวงมาลัยที่ปรับแต่งมาดี ทำให้การควบคุมยานยนต์กึ่งไฟฟ้าของ Nissan คันนี้เต็มไปด้วยความสนุก ไม่น่าเชื่อว่าพวงมาลัยไฟฟ้าในรถเล็กหน้าตาน่ารักคันนี้จะเซตมาดี คุณสามารถเล็งขอบของไพล่อนแล้วพุ่งเข้าไปหามันด้วยความเร็วโดยที่ไม่ต้องมาคอยระแวงว่าพวงมาลัยของมันจะทำให้เกิดความผิดพลาดจากการเล็งที่เฉียดไพล่อนระดับเส้นยาแดงผ่าแปด พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นรถเล็กที่มีพวงมาลัยแม่นเอาเรื่อง เล็งไปทางไหนก็ไปทางนั้นแบบไม่มีขาดหรือเกิน ความแม่นของพวงมาลัยขณะที่ขับลัดเลาะกรวยยางแบบซ้ายทีขวาทีทำให้สื่อมวลชนหลายคนที่ได้ลองขับเกิดความประหลาดใจ

ช่วงล่างเซตมาเพื่อความสบาย ให้อารมณ์ครอสโอเวอร์ที่ไม่ได้นุ่มจนย้วยหรือแข็งเป็นไม้กระดาน ความพอดีของช่วงล่างที่เกิดจากความเข้าใจในการปรับตั้งส่งผลให้ระบบรองรับของมันทำได้เกือบจะใกล้เคียงกับช่วงล่างของ Toyota C-HR ระยะยืดและยุบของโช้คกับการทำงานของสปริงสอดรับกับขนาดและน้ำหนักอย่างที่สุด การถ่ายเทน้ำหนักในโค้งกลายเป็นเรื่องสนุกแทนที่จะทำให้เกิดอาการหวาดเสียวเหมือน Nissan บางรุ่นที่ผมเคยลอง Kicks มีช่วงล่างที่มาดมั่นเอามากๆ ใส่มาหนักๆ จนยางแหกปากดังลั่นสนามแต่การยึดเกาะของมันก็ไม่ได้คลายตัวหรือลดลงแม้แต่นิดเดียว

ระบบควบคุมการทรงตัวมีส่วนช่วยทำให้ Kicks สอบผ่าน และทำคะแนนได้สูงเมื่อลองขับในสนามทดสอบปทุมธานีสปีดเวย์ นอกจากช่วงล่างและพวงมาลัย รวมถึงระบบรักษาเสถียรภาพของตัวรถแล้ว มอเตอร์ที่รับไฟมาจากเครื่องยนต์ยังมีแรงบิดมากพอที่จะทำให้เกิดความกระฉับกระเฉง คุณอาจรำคาญเสียงเครื่องยนต์บ้างเมื่อใช้ความเร็วสูงแต่การที่มันไม่ต้องง้อการชาร์จไฟ แค่เติมน้ำมันที่มีปั๊มอยู่กลาดกลื่นเต็มบ้านเต็มเมือง คุณจะไปที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้ถ้ามีปั๊มให้เติมเชื้อเพลิง แนวคิด e-Power แม้จะยังคงปล่อยมลพิษออกมาบ้างแต่ก็ไม่มากเท่ากับรถคู่แข่ง องคาพยพที่ดีของมันกับเทคนิคใหม่ในระบบขับเคลื่อนทำให้ Kicks มีความน่าใช้งานอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายในสวยงามโดยเฉพาะรุ่นเบาะทูโทน แต่ราคาที่แพงไปนิดในรุ่นสูงสุดทำให้ออกตัวยากอยู่เหมือนกัน นี่ถ้ารุ่นท็อปมีราคาไม่ถึงล้านรับรองว่าขายดีอย่างแน่นอนละครับ หลังจากขับสั้นๆในสนามทดสอบ ต่อไปก็จะเป็นการขับทางไกลเพื่อดูการตอบสนองของระบบต่างๆ รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองว่าจะกินกันขนาดไหนเมื่อขับเร็ว ตัวเลขที่เคลมมา 23 กิโล-ลิตร ต่ำเกินไปและน่าจะขับแบบคลานบนทางราบมากกว่าจะเอามาไต่ขึ้นลงเนินสูงชัน เดี๋ยวได้เจอกันครับท่านผู้ชม

มิติตัวถัง สูง 1,615 มิลลิเมตร ยาว 4,290 มิลลิเมตรกว้าง 1,760 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,615 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยว 5.1 เมตร ช่วงล่างหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบพาวเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)

ห้องโดยสารเรียบง่ายน่าใช้งาน แดชบอร์ดและคอนโซลมีความคล้ายคลึงกับ Nissan Almera แต่มีวัสดุที่ดูดีกว่า การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในของ Kicks เป็นไปในแนวทางของ Nissan ก็คือ เน้นความกว้างขวางนั่งสบายไม่อึดอัด แต่เบาะหลังนั้นตั้งชันไปนิด ถ้าไม่นับคุณภาพของวัสดุ ห้องโดยสารของ Kicks ก็มีอุปกรณ์ครบครัน และมีพื้นที่ภายในค่อนข้างโปร่งโล่ง โดยเฉพาะพื้นที่เบาะคู่หน้า เบาะแบบทูโทนหุ้มหนังสังเคราะห์ที่มีฟองน้ำภายในอย่างนุ่มทำให้นั่งขับไกลๆได้สบายตัว ส่วนพื้นที่วางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะก็มีให้อย่างพอเพียง นั่งแล้วไม่ค่อยอึดอัดเท่าไร เบาะหลังพับราบได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

พวงมาลัยสามก้าน หุ้มหนังตกแต่งด้วยสีเงินสไตล์สปอร์ตปรับระดับได้ ก้านวงติดตั้งสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และระบบโทรศัพท์ กับสวิตช์ควบคุมหน้าจอมาตรวัดแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT เป็นมาตรวัดแบบเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital ผ่านจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว ส่วนจอมอนิเตอร์กลางขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect หน้าจอสั่งงานด้วยระบบสัมผัส พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth®, USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Apple CarPlay® (สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS) ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth

Nissan Kicks e-Power รุ่นและราคา

Nissan Kicks e-Power 1.2 ลิตร รุ่น S 889,000 บาท
Nissan Kicks e-Power 1.2 ลิตร รุ่น E 949,000 บาท
Nissan Kicks e-Power 1.2 ลิตร รุ่น V 999,000 บาท
Nissan Kicks e-Power 1.2 ลิตร รุ่น VL 1,049,000 บาท

NISSAN KICKS e-POWER
เครื่องยนต์ (สำหรับการสร้างกระแสไฟฟ้า) - ประเภทเชื้อเพลิง เบนซิน
มอเตอร์ไฟฟ้า (สำหรับขับเคลื่อน) - แรงบิดสูงสุด260 นิวตัน-เมตร 26.5 กก.-ม. ที่ 3,008 รอบต่อนาที
มอเตอร์ไฟฟ้า (สำหรับขับเคลื่อน) - แรงม้าสูงสุด 129 พีเอส (95 กิโลวัตต์) ที่ 3,008 รอบต่อนาที
ประเภทการส่ง แบบอัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction
รหัสมอเตอร์ EM57

เครื่องยนต์ HR12DE แบบเครื่องยนต์ ระบบเครื่องยนต์ 3 สูบแถวเรียง DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว CVTC (Continuously Variable valve Timing Control) ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ (ECCS) 32 bit
ความกว้างกระบอกสูบ 78.0 มิลลิเมตร ระยะชัก 83.6 มิลลิเมตร
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,198 ซีซี
แรงม้าสูงสุด,79 พีเอส (60 กิโลวัตต์)ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด,103 นิวตันเมตร (11 กก.-ม.) ที่ 3,600 - 5,200 รอบต่อนาที
อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1
ความจุถังเชื้อเพลิง 41 ลิตร

มิติตัวถัง
ความสูง 1,615 มิลลิเมตร
ความยาว 4,290 มิลลิเมตร
ความกว้าง 1,760 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 2,615 มิลลิเมตร
รัศมีวงเลี้ยว 5.1 เมตร

ระบบช่วงล่าง
หน้า แบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง ทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง

ระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)

ล้อ และ ยาง
ขนาดยาง 205/55 R17
ขนาดล้อ ล้ออัลลอย 17 x 6.5 J
ยางอะไหล่ ชุดซ่อมยางแบบฉุกเฉิน

ระบบเบรก
หน้า ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
กระจังหน้าสีดำเงาตกแต่งพร้อมขอบโครเมียม
กันชนหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถ
แผงกันกระแทกประตูด้านข้าง - สีดำ พร้อมแถบสีเงิน
มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
ไฟหน้าแบบ LED พร้อม LED Signature Light
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟหน้า Follow-me-home
สวิตช์ปรับระดับไฟหน้า
ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
ไฟท้ายแบบ LED Signature Light พร้อมไฟเบรกแบบ LED
กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
กระจกข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ
ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง / ระบบปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
ราวหลังคา
สปอยเลอร์หลัง
เสาอากาศแบบ Shark fin antenna

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำ
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบแยกพับ 60 : 40
วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้า - หุ้มวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ แบบเดินตะเข็บด้าย
วัสดุตกแต่งภายในบริเวณช่องแอร์ด้านข้าง - ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และ วัสดุสีดำ เปียโน แบล็ก
วัสดุตกแต่งคอนโซลกลาง - ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ
วัสดุตกแต่งภายในบริเวณหัวเกียร์ - ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และ วัสดุสีดำ เปียโน แบล็ก
พนักวางแขนด้านหน้าพร้อมที่เก็บของและช่องจ่ายไฟแบบ USB 2 ตำแหน่ง
พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยสีเงิน สไตล์สปอร์ต พร้อมปรับระดับได้
พวงมาลัยพร้อมสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และระบบโทรศัพท์บนพวงมาลัย และสวิตช์ควบคุมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT
กุญแจรีโมตอัจฉริยะ (Intelligent Key - I-Key)
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push Start Button)
ปุ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ (Drive mode switch)
ปุ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า (EV mode switch)
ระบบการขับขี่แบบคันเร่งเดียว One Pedal
มาตรวัดแบบเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital ผ่านหน้าจอ TFT
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว
มาตรวัดอุณหภูมิภายนอก
กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ
ที่บังแดดด้านหน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า ด้านคนขับ - พร้อมไฟส่องสว่าง
ที่บังแดดด้านหน้า พร้อมกระจกแต่งหน้าและไฟส่องสว่าง ด้านผู้โดยสาร
วัสดุตกแต่งแผงประตู - หนังสีดำ
มือจับเปิดประตูด้านในแบบโครเมียม
ช่องเก็บเอกสารหลังเบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
พนักพิงศีรษะสำหรับเบาะนั่งด้านหน้า แบบปรับสูง-ต่ำได้
พนักพิงศีรษะสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง 3 ตำแหน่ง แบบปรับสูง-ต่ำได้
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
ไฟห้องสัมภาระท้าย
ที่วางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง
ช่องวางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้าและหลัง 4 ตำแหน่ง
กล่องเก็บของด้านหน้ามือจับด้านใน 4 ตำแหน่ง : คนขับ x 1, ผู้โดยสารตอนหน้า x 1, ผู้โดยสารตอนหลัง x 2
แผงบังสัมภาระด้านท้าย
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V
ระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth®, USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Apple CarPlay® (สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS)
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน
ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags)
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก Anti-lock Braking System (ABS)
ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution System (EBD)
ระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist (BA)
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
ระบบ Auto Brake Hold
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
ระบบกุญแจ Immobilizer
สัญญาณกันขโมย
ปุ่มควบคุมระบบเซ็นทรัลล็อก
เข็มขัดนิรภัยคนขับ ELR แบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติแบบสองทิศทาง (Double Pre-tentioner with Load Limiter)
เข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า ELR แบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ (Single Pre-tentioner with Load Limiter)
เข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลัง ELR แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังจากภายในรถ
ระบบโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย Zone Body Concept
ไฟเบรกดวงที่สาม

ระบบความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility (NIM) - Intelligent Safety
ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC)

ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA)

ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า Intelligent Forward Collision Warning (FCW)

ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน Intelligent Emergency Braking (IEB)

ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert (DAA)

กล้องมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM)

กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน พร้อมกล้องส่องภาพจากภายนอก Intelligent Rear View Monitor (IRVM)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Intelligent Cruise Control (ICC)

ระบบเตือนจุดอับสายตาบนกระจกมองข้าง Blind Spot Warning system (BSW)

ระบบเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert (RCTA)

เทคโนโลยีช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Intelligent Ride Control (IRC)

เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control (ITC)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/




คุณกำลังดู: สัมผัสแรก ทดสอบสั้น ยานยนต์กึ่งไฟฟ้า NISSAN KICKS e-POWER แปลกใจทำไมขับดี๊ดี!

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว