สมศ. พาอินไซด์ผู้นำสถานศึกษา เปิดวิธีประเมินยุคใหม่ ที่ครูไทยอยากประเมิน
ท่ามกลางการตั้งคำถามถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ความพยายามด้านการศึกษาคือประเด็นที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขเสมอมา เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างให้เกิดขึ้นได้จริง เพราะการศึกษาคือเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ ยิ่งการศึกษามีคุณภาพมาตรฐานเท่าไหร่ โอกาสที่ประเทศไทยจะมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น และนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างทางการศึกษาในสังคมไทย อย่างไรก็ตาม การศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐานจำเป็นต้องมีการตรวจวัดและประเมินด้วยหลักเกณฑ์ที่น่าเชื่อถือ ทันสมัย และได้มาตรฐานสากล
เป็นเวลากว่า 23 ปีที่ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยให้มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่าสากล ผ่านการประเมินคุณภาพภายนอกซึ่งเป็นระบบที่เข้ามาช่วยสะท้อนสภาพที่แท้จริงของสถานศึกษาและคุณภาพการเรียนการสอนว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดหรือไม่ ทำให้สถานศึกษาได้เห็นจุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนาของตนเองได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นนอกเหนือจากนั้น การประเมินฯ ยังเป็นกลไกช่วยแนะแนวทางการยกระดับและพัฒนาให้แก่สถานศึกษาว่าควรจะพัฒนาไปในทิศทางใดอีกด้วย โดยใช้รูปแบบการประเมินที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทและเป้าหมายของสถานศึกษา เน้นสะท้อนภาพความเป็นจริง พร้อมให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์แก่สถานศึกษา ไม่ใช่การประเมินเพื่อตัดสินผลว่าผ่านหรือไม่ผ่าน แต่มุ่งให้สถานศึกษานำผลจากการประเมินไปประยุกต์ใช้ในการวางแผน กำหนดทิศทางการพัฒนา และปรับปรุงคุณภาพการศึกษา เพื่อให้เกิดการพัฒนาและเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
จากการติดตามผลการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาที่เข้ารับการประเมินทั่วประเทศ พบว่า มีสถานศึกษาจำนวนมากที่นำผลการประเมินของ สมศ. ไปใช้วางแผน ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน รวมถึงใช้ในการกำหนดเป้าหมายในแผนพัฒนา ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่สถานศึกษาที่นำผลการประเมินของ สมศ. ไปประยุกต์ใช้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ช่วยปิดจุดอ่อนเสริมจุดแข็ง อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาได้อย่างแท้จริง เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อีกทั้งยังได้เห็นความร่วมมือร่วมใจทั้งจากครูผู้สอน ผู้ประเมิน ผู้นำสถานศึกษา ที่พร้อมใจกันเฟ้นหาแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทต่างๆ เพื่อทำให้คุณภาพการศึกษาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
โรงเรียนอนุบาลวัดต้นสน (บุญมีโชติวิทยา) จังหวัดเพชรบุรี คือหนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจ “ภาณุพงศ์ เยี่ยมยงวรรณ” ผู้อำนวยการสถานศึกษา เปิดประสบการณ์ว่า ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. และข้อเสนอแนะที่ได้รับ ทำให้รู้ถึงจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาและข้อเสนอแนะที่ สมศ. นำเสนอไว้ได้ทันที และสามารถนำมากำหนดเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ และแนวทางการดำเนินงานในการพัฒนาสถานศึกษาร่วมกับผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่ายได้อย่างไร้รอยต่อโดยไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ โดยหลังจากโรงเรียนได้นำข้อเสนอแนะจาก สมศ. มาปรับใช้แล้ว ผลปรากฏว่าครูและนักเรียนมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น นักเรียนได้มีส่วนร่วมและสนุกสนานกับการเรียนมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ผลการเรียนดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ เบญจรัตน์ ธนเศรษฐ์สาคร ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดศรีปิงเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากโรงเรียนได้รับผลการประเมินคุณภาพภายนอกจาก สมศ. แล้วก็ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู และผู้เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งผลการประมินและร่วมกันวิเคราะห์หาแนวทางในการพัฒนาตามข้อเสนอแนะ โดยแบ่งเป็น 3 ด้านหลักๆ ได้แก่
- ด้านคุณภาพของผู้เรียน
- ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ
- ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
โดยหลังจากนำข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประเมินคุณภาพภายนอกไปปรับใช้พบว่า ผลสำเร็จจากการดำเนินงานโครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีความสุขทางร่างกายและจิตใจสูงกว่าค่าเป้าหมายที่สถานศึกษาตั้งไว้อย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารมีระบบบริหารคุณภาพแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานและมีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น ส่วนสถานศึกษามีการยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Active Learning เพิ่มเวลาให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น เป็นวิธีประเมินยุคใหม่ ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการพัฒนาโครงสร้างการศึกษาไทย
คุณกำลังดู: สมศ. พาอินไซด์ผู้นำสถานศึกษา เปิดวิธีประเมินยุคใหม่ ที่ครูไทยอยากประเมิน
หมวดหมู่: วัยรุ่น