สงสัยไหมว่าทำไมเจ้าสาวต้องโยนช่อดอกไม้?

11 มี.ค. 2566 | 05:57 น.

หนึ่งในไฮไลต์ของงานแต่งงาน คือช่วงเวลาที่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ วินาทีที่ดอกไม้ออกจากมือ ล่องลอยไปในอากาศทุกคนต่างกรี๊ดกร๊าด เอื้อมมือไปคว้าช่อดอกไม้หากใครคว้าได้ เชื่อว่าจะได้แต่งงานเป็นคนต่อไป

รู้หรือไม่ว่าประเพณีการโยนช่อดอกไม้ในงานแต่งงาน มีมานานและยังได้รับความนิยมในหลายวัฒนธรรมอีกด้วย

จากการศึกษา คาดการณ์ว่าเริ่มมาจากชาวกรีกและโรมันโบราณ โดยในสมัยนั้นเจ้าสาวจะถือช่อดอกไม้เพื่อความสวยงาม ไม่ได้โยน ช่อที่ถือเริ่มจากช่อสมุนไพร เครื่องเทศต่างๆ เพราะเชื่อว่าในงานแต่งจะมีปีศาจแฝงตัวเข้ามาทำลายงานแต่ง

พวกสมุนไพรหรือเครื่องเทศจะช่วยไล่สิ่งชั่วร้าย ขับไล่ปีศาจออกไป จนมีการเปลี่ยนมาเป็นมงกุฏที่ทำจากดอกไม้หรือช่อดอกไม้แทนเพื่อความสวยงาม

เจ้าสาวถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความโชคดี เพราะได้พบความรัก ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำให้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทุกคนพยายามแย่งชิ้นส่วนของชุดเจ้าสาวเนื่องจากเชื่อว่าจะเป็นเครื่องรางแห่งโชค ทำให้งานมักจบด้วยความวุ่นวายและเจ้าสาวที่โดนฉุดกระชากจนสภาพดูไม่จืด

ด้วยเหตุนี้เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการโยนช่อดอกไม้แทน

ในปัจจุบันวัฒนธรรมการโยนช่อดอกไม้ก็ยังคงอยู่ เจ้าสาวมักเลือกดอกไม้ที่มีความหมายดีๆ เข้ากับตัวเอง อาจจะมีการดัดแปลงเป็นให้ดึงริบบิ้นบ้าง แจกดอกไม้คนละดอกบ้าง แต่ความหมายก็ยังคงเดิมเพราะเชื่อว่ามันคือความโชคดีที่จะถูกส่งต่อนั่นเอง