ทำไมน้ำมันเบรกพร่อง ถึงไม่ควรเติมเด็ดขาด!
ทราบหรือไม่ว่าถ้าน้ำมันเบรกมีการพร่องไปจากปกติ ไม่ควรเติมน้ำมันเบรกด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะอะไร? บทความนี้ Sanook Auto มีคำตอบมาฝากกัน
น้ำมันเบรกพร่องไม่ควรเติมเองเพราะอะไร?
โดยปกติแล้วสาเหตุน้ำมันเบรกพร่องที่พบได้บ่อย คือ ผ้าเบรกสึกหรอ เพราะเมื่อผ้าเบรกมีลักษณะบางลง ลูกสูบในคาลิเปอร์เบรกจะถูกดันให้เคลื่อนที่ออกไปมากขึ้น เพื่อคงระยะที่เหมาะสมระหว่างผ้าเบรกและจานเบรก ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบรกสำรองในกระปุกถูกนำมาใช้งานบริเวณลูกสูบเพิ่มมากขึ้น และเป็นสาเหตุให้ระดับน้ำมันเบรกลดลงนั่นเอง
กรณีเช่นนี้เพียงแค่เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ ก็จะทำให้ปริมาณน้ำมันเบรกในกระปุกกลับมาเป็นปกติ โดยไม่จำเป็นต้องเติมแต่อย่างใด
น้ำมันเบรกพร่องแบบไหนต้องรีบเติม?
โดยปกติแล้วระดับน้ำมันเบรกจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่หากพบว่าน้ำมันพร่องลดระดับลงเรื่อยๆ หรือพร่องเกินกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ผ้าเบรกยังหนาอยู่ แบบนี้ควรรีบหาสาเหตุและแก้ไขโดยเร็ว ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุดังนี้
1. โอริงคาลิเปอร์เบรกเสื่อมสภาพ - มักพบคราบน้ำมันบริเวณคาลิเปอร์เบรก ซึ่งควรรีบจัดการแก้ไขโดยทันที
2. สายน้ำมันเบรกรั่ว - หากพบว่ามีคราบน้ำมันหรือรอยรั่วซึมบริเวณท่อทางเดินน้ำมันเบรก เป็นไปได้ว่าน้ำมันเบรกอาจรั่ว นำไปสู่อาการเบรกแตกได้
3. น้ำมันเบรกเสื่อมสภาพ - น้ำมันเบรกที่เสื่อมสภาพ เลยระยะเปลี่ยนถ่ายมายาวนาน จะมีสิ่งปนเปื้อนในปริมาณที่สูง อาจทำให้ลูกยางในกระบอกปั๊มล้อซึ่งทำหน้าที่ป้องกันน้ำมันรั่วเสื่อมสภาพ ส่งผลให้น้ำมันรั่วไหลออกมาได้
น้ำมันเบรกควรเปลี่ยนถ่ายทุกกี่กิโลเมตร?
โดยปกติแล้วน้ำมันเบรกควรเปลี่ยนถ่ายทุก 2 ปี หรือ 40,000 กม. หรือตามที่ระบุไว้ในคู่มือ เพื่อคงประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
ข้อควรระวัง! น้ำมันเบรกมีฤทธิ์กัดกร่อนสีรถอย่างรุนแรง หากพบว่ามีการรั่วซึม ควรรีบน้ำน้ำสะอาดมาล้างบริเวณที่โดนน้ำมันเบรกหยดใส่ทันที
คุณกำลังดู: ทำไมน้ำมันเบรกพร่อง ถึงไม่ควรเติมเด็ดขาด!
หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์