วัดสาขลา สมุทรปราการ พิกัดลับวัดสวยที่ซ่อนตัวอยู่สุดแผ่นดินฝั่งอ่าวไทย

30 ต.ค. 2566 | 09:48 น.

รีวิวเที่ยววัดสาขลา แหล่งท่องเที่ยวชุมชนสุดอันซีนของสมุทรปราการ ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียว

วัดสาขลา สมุทรปราการ พิกัดลับวัดสวยที่ซ่อนตัวอยู่สุดแผ่นดินฝั่งอ่าวไทย

วัดสาขลา และ หมู่บ้านสาขลา สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนของสมุทรปราการ เพราะโดยปกติแล้วหากพูดถึงที่เที่ยวสมุทรปราการ หลายๆ คนคงนึกถึงสถานตากอากาศบางปู เมืองโบราณ และฟาร์มจระเข้สมุทรปราการกันเป็นส่วนมาก แต่รู้หรือไม่ว่า พื้นที่ของหมู่บ้านสาขลานี้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ความสวยงามทางศิลปะพระพุทธศาสนา รวมไปถึงวิถีชีวิตของชาวเลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ที่นี่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมกันครับ

หมู่บ้านสาขลา แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นแผ่นดินแห่งสุดท้ายของสมุทรปราการก่อนจะออกสู่ทะเลอ่าวไทย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2325 โดยจะอยู่คนละฝั่งกับทางตัวเมืองสมุทรปราการโดยมีแม่น้ำเจ้าพระยากั้นกลางเอาไว้อยู่ ที่นี่เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีประวัติศาสตร์การมีอยู่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา เล่ากันว่าในอดีตนั้นหญิงสาวของหมู่บ้านนี้ได้ออกไปช่วยรบในสงคราม จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านสาวกล้า และเพี้ยนมาเป็นสาขลาเช่นทุกวันนี้ สำหรับการมาเที่ยวที่หมู่บ้านสาขลานี้จะแบ่งพาร์ทการท่องเที่ยวออกเป็นสองส่วนคือในส่วนของตัววัดสาขลา และการเยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณ

บริเวณของวัดสาขลา สมุทรปราการ ในตอนนี้ได้มีการพัฒนาและก่อสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้ประชาชนได้มาเคารพสักการะ ไม่ว่าจะเป็น พระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เป็นบริเวณหน้าวัด อีกทั้งยังมี ท้าวเวสสุวรรณ รูปปั้นพระนเรศวร องค์ราหู ที่เป็นที่เลื่อมใสของหลายๆ คน

นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นของเก่าของโบราณของหมู่บ้าน ได้แก่ องค์พระปรางค์เอียง หลวงพ่อโตวัดสาขลา และโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบใต้ฐานโบสถ์ให้ประชาชนได้ไปเดินลอดโบสถ์เพื่อเยี่ยมชมกันด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งวัดสวยที่เต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สายมูห้ามพลาดเลยครับ

และในพาร์ทของการเดินเที่ยวในหมู่บ้าน เราจะได้เห็นภาพของตลาดโบราณอายุเป็น 100 ร้อยปี ที่ยังคงไว้ซึ่งภาพอดีตอันแสนคลาสสิค บ้านเรือนทำจากไม้แบบดั้งเดิม ชาวบ้านนำสิ่งของมาขายกันอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูฝืนหรือถูกกระแสของการท่องเที่ยวมากลบวิถีชีวิตจนเกินไป

ตรงกลางหมู่บ้านจะมีคลองไหลผ่าน และชาวบ้านก็ตั้งบ้านเรือนกันอยู่ริมคลองแห่งนี้ มองแล้วเหมือนกับเมืองเวนิซที่ประเทศอิตาลีเลย (แต่น้ำไม่ใสเท่าอิตาลี) ชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตกับสายน้ำในทุกช่วงจริงๆ ตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานไปจนการทำมาหากิน อาชีพดั้งเดิมของหมู่บ้านสาขลาจะใช้สายน้ำในการทำนาเกลือ แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนสายน้ำให้กลายเป็นกิจการทำประมง ทั้งฟาร์มกุ้ง ฟาร์มหอย และฟาร์มปู เพราะฉะนั้นมาที่นี่คุณสามารถหาของทะเลสดๆ กินได้ในราคาถูกด้วยครับ

และเชื่อหรือไม่ว่าบรรยากาศและประสบการณ์ที่คุณจะได้รับนี้อยู่ห่างจากกรุงเทพฯไปเพียงแค่ประมาณ 1 ชม. เท่านั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่มีพร้อมทั้งความสวยงามของธรรมชาติ สถาปัตยกรรมของทางวัด รวมไปถึงวิถีชีวิตชุมชนที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม หากมีโอกาสสักครั้งลองแวะไปเที่ยวกันครับ Sanook Travel เราแนะนำเลย