เวิลด์คัพของ ‘อัศวินสีส้ม’ บทพิสูจน์ที่เพิ่งเริ่มต้น

เวิลด์คัพของ 'อัศวินสีส้ม' บทพิสูจน์ที่เพิ่งเริ่มต้น เนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในทีมใหญ่ของวงการลูกหนังโลก แต่ก็เป็นเหมือนยักษ์ที่ดุไม่สุด เพราะถึงแม้จะมีนักเตะพรสวรรค์สูงมากมาย แต่ก็ไม่เคยไปถึงแชมป์โลก แ...

เวิลด์คัพของ ‘อัศวินสีส้ม’ บทพิสูจน์ที่เพิ่งเริ่มต้น

เวิลด์คัพของ ‘อัศวินสีส้ม’ บทพิสูจน์ที่เพิ่งเริ่มต้น

เนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในทีมใหญ่ของวงการลูกหนังโลก แต่ก็เป็นเหมือนยักษ์ที่ดุไม่สุด เพราะถึงแม้จะมีนักเตะพรสวรรค์สูงมากมาย แต่ก็ไม่เคยไปถึงแชมป์โลก แชมป์รายการระดับเมเจอร์ที่เคยได้มา คือ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เมื่อปี 1988 แต่ก็ผ่านมา 34 ปี แฟนบอลยุคใหม่ก็ไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกนั้น

มาถึงฟุตบอลโลก 2022 หลุยส์ ฟาน กัล ได้โอกาสกลับมาคุมทีมกังหันสีส้มเป็นคำรบที่ 3 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นได้ประกาศวางมือจากการเป็นโค้ชฟุตบอลไปแล้ว ซึ่งฟาน กัล เคยพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2010 มาแล้ว แต่กลับแพ้ให้สเปนชุดไร้เทียมทาน ทำให้ยังต้องรอความสำเร็จในเวิลด์คัพมาถึงทุกวันนี้
ทีมกังหันสีส้มคว้าแชมป์กลุ่มเอ ด้วยการชนะกาตาร์, เซเนกัล และเสมอเอกวาดอร์ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม ไปเจอกับสหรัฐอเมริกา ทีมรองแชมป์กลุ่มบี ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ไม่ยากจนเกินไป

ถ้าจะบอกว่าเนเธอร์แลนด์ชุดนี้มีนักเตะชั้นยอดหลายคนคงไม่ผิดนัก แต่ถ้านับกันจริงๆ และเทียบกับยุคก่อนๆ ต้องยอมรับว่า ดูด้อยกว่าที่เคยเป็น

ปัญหาเรื่องผู้รักษาประตูที่เหมือนจะไม่มีนายด่านระดับเวิลด์คลาส เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ที่ได้รับความไว้วางใจจากฟาน กัล มาตลอด กลับมีปัญหากับกุนซือจอมเฮี้ยบ จนไม่มีชื่อในทีมชาติมาสักระยะ สุดท้ายก็เป็นโอกาสของ อันดรีส น็อพเพิร์ต นายทวารของฮีเรนวีน ที่ไม่เคยติดทีมชาติมาก่อนเลย แต่ได้เป็นมือหนึ่งทั้ง 3 เกมในรอบสุดท้าย และเสียไปเพียงประตูเดียว

ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตา เวอร์จิล ฟาน ไดค์, มัทไธจ์ เดอ ลิกต์, แฟรงกี้ เดอ ยอง, ดาลีย์ บลินด์, เมมฟิส เดปาย ที่เป็นแกนหลักของทีมมาแต่ไหนแต่ไร ก็เล่นได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น

แต่ก็มีนักเตะที่สร้างผลงานเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง คือ โคดี้ กักโป แนวรุกจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ที่มีสถิติการจบสกอร์และแอสซิสต์ในระดับชั้นนำของยุโรปก่อนมาลุยบอลโลก มาโชว์ฟอร์มไร้เทียม ยิง 3 ประตู ใน 3 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม และสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะดัตช์ที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกหนแรก แล้วยิงประตูในรอบแบ่งกลุ่มได้ทุกนัด

ฟาน กัลบอกว่า นักเตะชุดปัจจุบันถ้าเทียบกับชุดที่คว้าอันดับ 3 เมื่อปี 2014 ต้องบอกว่าลูกทีมในปี 2022 ดูดีกว่า ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะมี อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลีย์ สไนเดอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ถ้ามองแบบภาพรวม เชื่อว่าประสบการณ์ของหลายคนในตอนนี้ จะรับมือกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ดีกว่า และรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะได้ประตูในช่วงเวลาที่ต้องการ

อย่างไรก็ตามปัญหาของกังหันสีส้ม คือ การยิงประตูที่พึ่งพานักเตะไม่กี่คนเป็นหลัก ความอันตรายในแดนหน้าที่ยังไม่หลากหลาย มีนักเตะเพียง 3 คนเท่านั้นที่ทำประตูได้ในรอบแรก กักโป, เดอ ยอง, เดวี่ คลาสเซ่น ขณะที่ เมมฟิส เดปาย, สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, เวาต์ เวกฮอร์สต์ ที่ได้รับโอกาส กลับยิงไม่ได้เลย

บางคนอาจจะบอกว่า ไม่สำคัญว่าใครจะยิง ขอแค่มีคนยิงก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าดูอาวุธในแนวรุกของทีมใหญ่ ทั้งสเปน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส หรือแม้แต่โครเอเชีย ช่วยกันทำเกมและจบสกอร์ได้หลายคน

เนเธอร์แลนด์ยังเจอคู่แข่งที่ไม่โหดใน 3 เกมแรก และในรอบ 16 ทีม สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่น่าจะเป็นคู่แข่งที่ยากขนาดนั้น

บทพิสูจน์ที่แท้จริงของทัพอัศวินสีส้ม น่าจะเริ่มต้นกันที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อกไปก่อน

ถึงแม้จะมีทีมที่ดีพอจะดับฝันพวกเขาได้อยู่หลายทีม แต่คู่แข่งเหล่านั้นก็คงหวั่นใจที่จะต้องเจออัศวินสีส้มเหมือนกัน

คุณกำลังดู: เวิลด์คัพของ ‘อัศวินสีส้ม’ บทพิสูจน์ที่เพิ่งเริ่มต้น

หมวดหมู่: กีฬา

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด