วิธีไหว้ขอความรัก "วัดหลงซาน" ไต้หวัน คนโสดต้องได้เจอเนื้อคู่

เปิดวิธีไหว้ขอความรักจากผู้เฒ่าจันทราแห่ง "วัดหลงซาน" พิกัดมูชื่อดังในไต้หวัน คนโสดหนุ่มสาวจำนวนมากต่างเดินทางไปขอพรให้ได้พบเจอเนื้อคู่ พร้อมเสี่ยงทายขอด้ายแดงและเครื่องรางนำโชคพกติดตัว

วิธีไหว้ขอความรัก "วัดหลงซาน" ไต้หวัน คนโสดต้องได้เจอเนื้อคู่

วัดหลงซาน คือวัดศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงในไต้หวัน ไม่ใช่แค่ชาวไต้หวันที่นิยมเดินทางมาไหว้สักการะเพื่อขอพรเทพเจ้าจากวัดแห่งนี้ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากก็ยังแวะเวียนมาขอพรไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการขอพรเรื่องความรักที่วัดหลงซาน ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีชื่อเสียงสำหรับคนโสด เชื่อว่าหากใครได้มาไหว้ผู้เฒ่าจันทราเพื่อขอเนื้อคู่ ก็จะสมหวังในความรักตามที่โชคชะตาลิขิตไว้

ทีมข่าวไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ได้เดินทางไปยังวัดหลงซาน โดยจะพามาทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของพิกัดมูชื่อดังแห่งนี้ พร้อมแนะนำวิธีไหว้ขอความรักที่วัดหลงซานอย่างถูกต้อง ควรไปไหว้เทพองค์ไหน และมีขั้นตอนอย่างไร ติดตามได้จากบทความนี้

ประวัติวัดหลงซาน พิกัดมูอันดับต้นๆ ของไต้หวัน

วัดหลงซาน หรือวัดเหมิงเจี่ยหลงชาน เป็นวัดมหายานที่มีอายุเก่าแก่เกือบ 300 ปี ตั้งอยู่ในเขตว่านหัว กรุงไทเปของไต้หวัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1738 ในสมัยราชวงศ์ชิง โดยกลุ่มชาวจีนอพยพที่ต้องการสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไว้สำหรับไหว้สักการะเจ้าแม่กวนอิมและม่าจ้อโป๋ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่ช่วยปกปักรักษาให้รอดพ้นจากอันตราย

เนื่องจากชาวไต้หวันนับถือศาสนาที่หลากหลาย ส่วนมากจะเป็นศาสนาท้องถิ่นตามความเชื่อของแต่ละบุคคล ทำให้วัดหลงซานมีพระพุทธรูปและรูปเคารพเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ จนกลายเป็นศาสนสถานที่มีลักษณะแบบศาลเจ้าไต้หวัน ประชาชนนิยมเดินทางมาไหว้ขอพรเรื่องต่างๆ กับเทพเจ้าที่เชื่อว่าโดดเด่นในเรื่องนั้นๆ เช่น ขอพรเรื่องการงาน การเรียน ครอบครัว สุขภาพ ความร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ ขอบุตร และขอเนื้อคู่ เป็นต้น พร้อมกับเช่าเครื่องรางนำโชคแห่งวัดหลงซานกลับไปบูชา

ทุกวันจะมีชาวไต้หวันเดินทางมาวัดหลงซาน เพื่ออธิษฐานและสวดมนต์ให้โชคดีมีสิริมงคล
ทุกวันจะมีชาวไต้หวันเดินทางมาวัดหลงซาน เพื่ออธิษฐานและสวดมนต์ให้โชคดีมีสิริมงคล

นอกจากนี้ วัดหลงซานยังมีชื่อเสียงด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงาม แต่วัดหลงซานที่เห็นในปัจจุบันได้ผ่านการบูรณะและซ่อมแซมครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 1919-1924 ที่วัดเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อยในไต้หวัน รวมถึงในปี 1945 พื้นที่บางส่วนของวัดหลงซานถูกโจมตีด้วยระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปรากฏว่าองค์เจ้าแม่กวนอิมไม่ได้รับความเสียหาย ชาวไต้หวันจึงเลื่อมใสศรัทธา ทำให้มีการบูรณะเรื่อยมาจนกระทั่งเป็นวัดหลงซานอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

"ผู้เฒ่าจันทรา" ผู้กุมโชคชะตาคนหนุ่มสาวด้วยตำนานด้ายแดง

วัดหลงซานเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากและขอพรสิ่งใดก็จะสมปรารถนา แม้จะมีเทพเจ้าหลายองค์ที่เมตตาประทานพรให้ผู้มากราบไหว้สักการะในเรื่องต่างๆ แต่สำหรับผู้ที่มาขอพรเรื่องความรักที่วัดหลงซาน จะต้องไปไหว้ "ผู้เฒ่าจันทรา" เทพเจ้าแห่งตำนานด้ายแดงกุมชะตาบุพเพสันนิวาสของคนหนุ่มสาว โดยเชื่อว่าหากไปขอด้ายแดงกับผู้เฒ่าจันทราก็จะสมหวังในเรื่องความรักและจะได้พบเนื้อคู่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือหลายคนนิยมไป "ขอแฟน" จากที่นี่นั่นเอง

ประวัติผู้เฒ่าจันทรา มีความเชื่อมโยงกับตำนานความเชื่อเรื่อง "ด้ายแดง" หรือ "หงเชี่ยน" (红线) ของคนจีน ซึ่งเป็นเรื่องเล่ากึ่งตำนานในลัทธิเต๋าตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง โดยเชื่อว่าคนหนุ่มสาวต่างมีด้ายแดงล่องหนผูกที่นิ้วก้อยเชื่อมโยงไว้ด้วยกัน และมีผู้เฒ่าจันทราเป็นผู้คุมโชคชะตาแห่งด้ายแดง นำหนุ่มสาวไปสู่การได้พบเจอ ครองคู่ และแต่งงานกัน ทำให้ผู้เฒ่าจันทราเป็นที่นับถือของบรรดาคนโสด

"เย่ว์เหล่า" หรือ ผู้เฒ่าจันทราแห่งวัดหลงซาน หนุ่มสาวที่ได้พรสมปรารถนาจะนำขนมเค้กมาวางไว้หน้ารูปเคารพ

ตำนานเล่าว่าย้อนกลับไปเมื่อราว 1,300 ปีก่อน ณ เมืองหางโจว มีชายหนุ่มนามว่า "เหวยกู้" เป็นหนุ่มไร้คู่ครอง เนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิต จึงไม่มีผู้ใหญ่ไปสู่ขอหญิงสาวให้ได้ ทำให้เขารู้สึกผิดต่อบรรพชนเพราะไม่มีทายาทสืบตระกูล (ตามค่านิยมของชาวจีนในยุคนั้น) จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับชายชราเฒ่าผู้หนึ่ง ซึ่งมีผมและเคราสีขาวโพลน กำลังนั่งอ่านหนังสือประหลาดอยู่ใต้แสงจันทร์ โดยข้างๆ มีถุงที่บรรจุด้ายสีแดงไว้

เหวยกู้จึงเอ่ยปากถามว่า "ท่านกำลังอ่านหนังสืออะไร?"ชายชราจึงตอบกลับว่า "กำลังตรวจทานหนังสือบุพเพสันนิวาส" พร้อมกับบอกว่าเขามีหน้าที่ในการใช้ด้ายสีแดงผูกข้อเท้าหนุ่มสาวที่มีวาสนาต่อกันให้ได้มาครองคู่ ต่อให้อยู่ไกลกันนับพันลี้ก็จะต้องได้มาเจอกัน เหวยกู้จึงถามด้วยความสงสัยว่าภรรยาในอนาคตของตัวเองคือใคร แล้วได้รับคำตอบว่าเป็นบุตรสาวของแม่ค้าขายผักในเมืองทางตอนเหนือแห่งหนึ่ง

ต่อมาเหวยกู้ใช้ความพากเพียรจนได้เข้ารับราชการเป็นขุนนาง และมีผู้ใหญ่จัดให้แต่งงานกับบุตรสาวของผู้ตรวจการท่านหนึ่ง เหวยกู้จึงหวนนึกถึงคำทำนายของชายชราเมื่อหลายปีก่อน เขานึกว่าเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี แต่เมื่อได้พูดคุยกับภรรยาจึงได้ความว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ได้เป็นบุตรสาวของผู้ตรวจการ แต่เป็นบุตรสาวของแม่ค้าขายผัก ซึ่งบิดาเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ จึงขายผักกับแม่ด้วยความยากลำบาก จนกระทั่งผู้ตรวจการนำมาชุบเลี้ยง เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเหวยกู้ก็รู้ทันทีว่าสิ่งที่ชายชราผู้นั้นเคยพูดกับตัวเองเป็นเรื่องจริง

กล่องด้ายแดง จะวางไว้หน้ารูปปั้นผู้เฒ่าจันทรา ผู้ที่ได้รับพรก็จะสามารถหยิบถุงด้ายแดงพกติดตัวไว้ได้
กล่องด้ายแดง จะวางไว้หน้ารูปปั้นผู้เฒ่าจันทรา ผู้ที่ได้รับพรก็จะสามารถหยิบถุงด้ายแดงพกติดตัวไว้ได้

นับตั้งแต่นั้น เมื่อเรื่องราวนี้เผยแพร่ออกไป ผู้คนก็ต่างพากันเรียกขานชายชราลึกลับนั้นว่า "ผู้เฒ่าจันทรา" หรือที่คนจีนเรียกกันว่า "เย่ว์เหล่า" (月老) ซึ่งมาจากคำว่า "เย่ว์เซี่ยเหล่าเหริน" (月下老人) ที่หมายถึง ผู้เฒ่าใต้แสงจันทร์นั่นเอง ต่อมาอิทธิพลของตำนานนี้ก็นำมาสู่พิธีการผูกด้ายแดงที่นิ้วก้อยของคู่บ่าวสาวก่อนเข้าหอ รวมถึงการสร้างรูปปั้นผู้เฒ่าจันทราให้คนมาขอพรเรื่องความรัก

ความเชื่อเรื่องผู้เฒ่าจันทราและตำนานด้ายแดงเป็นที่แพร่หลายในเอเชีย แม้กระทั่งในแอนิเมชันญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Your Name (2016) ก็ยังมีเนื้อหาที่สะท้อนความเชื่อเรื่องนี้ เช่นเดียวกับวัดชื่อดังหลายแห่งที่มีชื่อเสียงเรื่องการไปขอพรความรัก และพกด้ายแดงเป็นเครื่องรางนำโชคติดตัว เช่น วัดหวังต้าเซียน (ฮ่องกง) วัดหลงซาน (ไต้หวัน) ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีรูปปั้นผู้เฒ่าจันทรา ที่วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพฯ เช่นกัน

วิธีไหว้ขอความรักวัดหลงซาน ทำตามได้ง่ายๆ ทีละขั้นตอน

1. เดินเข้าประตูวัดหลงซานทางด้านขวามือเท่านั้น ถือว่าเป็นประตูมังกร (ศาลเจ้าจีนต้องเดินเข้าทางขวามือ-เสริมมงคล และเดินออกทางด้านซ้าย-เอาสิ่งไม่ดีออกไป)

2. จุดแรกให้ไปไหว้ฟ้าดินก่อนตามความเชื่อของคนจีน ซึ่งก็คือการยืนหน้ากระถางธูปใหญ่กลางลานวัด แล้วหันหลังให้ศาลเจ้า หันหน้ากลับไปทางประตูใหญ่ (ปัจจุบันศาลเจ้าบางแห่งไม่นิยมให้จุดธูปแล้ว เนื่องจากเป็นการก่อมลพิษ แต่สามารถถือธูปเพื่อไหว้บูชาได้)

3. ไหว้สักการะเทพเจ้าแต่ละองค์ โดยเดินวนไปทางขวามือจะพบกับรูปเคารพของเทพเจ้าในเรื่องต่างๆ

4. สำหรับผู้ที่จะขอพรเรื่องความรัก ให้ไปยังจุดที่มีรูปเคารพของผู้เฒ่าจันทรา หรือ"เย่ว์เหล่า" (月老) ยืนรวบรวมสมาธิก่อนจะยกมืออธิษฐานขอพร

5. เคล็ดลับการขอพรความรักจากผู้เฒ่าจันทรา ให้บอกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด พร้อมบอกที่อยู่ด้วยว่ามาจากที่ไหน บางคนก็จะถือเคล็ดว่าจะต้องถอดหมวก ไม่มีอะไรปกปิดใบหน้าเพื่อให้ผู้เฒ่าจันทราได้เห็นใบหน้าของเราชัดๆ

6. ให้บอกลักษณะของเนื้อคู่ที่ต้องการสำหรับคนโสดเท่านั้น ควรบอกสิ่งที่ขอให้ชัดเจน และกำหนดเวลาที่แน่นอน พร้อมกับอธิษฐานขอด้ายแดง ขอให้ผู้เฒ่าจันทราบันดาลให้การขอพรสมหวัง

7. หลังจากนั้นให้หยิบ "ปัวะโป้ย" ที่มีลักษณะเป็นไม้ประกบคู่สีแดงขึ้นมาโยนเสี่ยงทาย โดยจะต้องประกบคู่แล้วโยนเสี่ยงทายลงบนพื้น เพื่อดูว่าผู้เฒ่าจันทราจะให้ด้ายแดงแก่เราหรือไม่ ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดโดยเราจะต้องโยนปัวะโป้ยจำนวน 3 ครั้ง

  • ให้ด้ายแดง :ปัวะโป้ยจะตกลงสู่พื้น และอยู่ในลักษณะคว่ำอัน-หงายอัน = สำเร็จตามคำขอ
  • ยังไม่แน่ใจ :ปัวะโป้ยจะตกลงสู่พื้น และอยู่ในลักษณะคว่ำทั้ง 2 อัน หรือหงายทั้ง 2 อัน = ให้เสี่ยงทายใหม่

อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนนี้บางคนก็ยึดถือว่าควรโยนปัวะโป้ยให้ออกมาในลักษณะคว่ำอัน-หงายอัน ทั้ง 3 ครั้งจึงจะสำเร็จตามคำขอ ในขณะที่บางคนก็ยึดถือว่าปัวะโป้ยจะต้องอยู่ในลักษณะคว่ำอัน-หงายอัน โดยมีโอกาสเพียง 3 ครั้งในการโยน หากครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่ได้ ก็แสดงว่าท่านยังไม่ประทานพรให้ในครั้งนี้ ยังไม่ถึงเวลาของเรา ควรหาโอกาสมาสักการะใหม่อีกครั้ง

"ปัวะโป้ย" ไม้ประกบคู่สีแดง ที่ต้องโยนเสี่ยงทายว่าเทพเจ้าจะให้พรแก่เราหรือไม่

8. หลังจากที่ปัวะโป้ยคว่ำอัน-หงายอันแล้ว ให้เดินไปหยิบ "ด้ายแดง" ในกล่องไม้หน้ารูปปั้นผู้เฒ่าจันทรา อาจจะสวมข้อมือ หรือพกติดตัวใส่กระเป๋าสตางค์ไว้เพื่อเสริมสิริมงคลด้านความรัก ให้ด้ายแดงแห่งโชคชะตาและบุพเพสันนิวาสดึงเนื้อคู่ให้มาพบกัน แม้จะอยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม

9. เดินไปใกล้ประตูทางออก จะมีจุดให้เช่าบูชาเครื่องรางเสริมดวงด้านความรัก หากใครไม่รู้ภาษาจีนก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีใบรายละเอียดประเภทของเครื่องรางกำกับไว้เป็นภาษาไทย สามารถแจ้งหมายเลขเครื่องรางที่ต้องการได้เลย ซึ่งจะมีทั้งการเสริมเรื่องความรัก ความร่ำรวย ความโชคดี และอีกมากมาย

10. ห้ามลืมเคล็ดลับขั้นตอนสำคัญคือให้นำเครื่องราง หรือหากมีด้ายแดง ให้แกะออกจากซอง แล้วนำไปวนในกระถางธูปใหญ่บริเวณหน้าลานวัด (จุดที่ไหว้ฟ้าดิน) ในขั้นตอนนี้หลายคนเรียกว่า "Activate" เพื่อให้เครื่องรางมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคล โดยจะต้องนำเครื่องรางทุกชิ้นไปวนรอบธูปจำนวน 3 ครั้งตามเข็มนาฬิกา ถือเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เครื่องรางนำโชค วัดหลงซาน ไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาด

ใกล้ประตูทางออกของวัดหลงซานจะมีจุดจำหน่ายเครื่องรางนำโชควัดหลงซาน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด หลายคนนิยมซื้อกลับไปบูชาเป็นเครื่องรางนำโชคในเรื่องต่างๆ รวมถึงยังเป็นของฝากที่มีชื่อเสียงของวัดหลงซาน

เครื่องรางแต่ละประเภทจะมีรูปทรง ลวดลาย และราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักกว่าร้อยบาท แน่นอนว่าเครื่องรางเสริมดวงความรักก็จะได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งมีราคาไม่แพง ประมาณ 40 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 40 กว่าบาทเท่านั้นเอง และอย่าลืมว่าหลังเช่าบูชาแล้วจะต้องนำไปวนรอบธูปจำนวน 3 รอบก่อนเสมอ

การเดินทางไปวัดหลงซาน ไต้หวัน

วัดหลงซาน ไปยังไง? วัดหลงซานเปิดตั้งแต่ 06.00-22.00 น. ส่วนการเดินทางไปวัดหลงซานในไทเปของไต้หวัน ก็สามารถทำได้ง่ายมาก เดินทางได้หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้

  • รถไฟธรรมดา : ลงสถานี "Wanhua"
  • รถไฟฟ้าไทเป : ลงสถานี "Lungshan Temple"
  • รถบัสไทเปสายสีแดง : ลงป้าย "MRT Lungshan Temple Station"
  • รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน : ลงสถานี Taipei แล้วต่อรถไฟฟ้าไทเปมาลงสถานี "Lungshan Temple"

อย่างไรก็ตาม นอกจาก "วัดหลงซาน"แล้ว ยังมีวัดชื่อดังอีกหลายแห่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านความรัก รวมถึงยังมีที่เที่ยวในไต้หวันที่น่าสนใจอีกมากมาย ติดตามได้ที่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์

เรื่องและภาพ: Tatiya K.
ขอบคุณข้อมูล :สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน

คุณกำลังดู: วิธีไหว้ขอความรัก "วัดหลงซาน" ไต้หวัน คนโสดต้องได้เจอเนื้อคู่

หมวดหมู่: วัฒนธรรม

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด