วิธีประหยัดน้ำมันในยุคเชื้อเพลิงแพงแสบไส้!

ขับยังไงไม่ให้กินน้ำมัน ไม่ต้องดันก็ประหยัดได้แล้ว!!

วิธีประหยัดน้ำมันในยุคเชื้อเพลิงแพงแสบไส้!

ราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลงมา ส่งผลกับผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ จากการที่ไทยต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ เนื่องจากไม่มีแหล่งพลังงานฟอสซิลที่ถูกกลั่นมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ หากอยากใช้รถแบบประหยัดเงินในกระเป๋า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่น้ำมันมีราคาแพง ก็มีวิธีการขับขี่และวิธีใช้งานรถยนต์ส่วนตัวให้กินเชื้อเพลิงเท่าที่จำเป็น การขับแบบประหยัดเชื้อเพลิง นอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเพื่อเอาไว้ผ่อนรถแล้ว ยังช่วยลดการสึกหรอ เพิ่มอายุการใช้งานรถยนต์ให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย รถยนต์สมัยใหม่มีระบบต่างๆ ที่ช่วยทำให้อัตราสิ้นเปลืองลดลงอยู่แล้ว ถ้าบวกกับแนวทางการขับแบบประหยัด ก็จะยิ่งทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรลงไปได้พอสมควร

อย่าขับเร็ว
การขับเร็วจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าขับไปเรื่อยๆ โดยใช้คันเร่งแบบค่อยเป็นค่อยไป ถ้าขับช้าก็ไม่ควรไปเกะกะรถร่วมทาง ใช้ช่องทางจราจรของรถช้าเพื่อลดอุบัติเหตุ การขับโดยใช้คันเร่งอย่างระมัดระวัง จะช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันได้ดี เมื่อใช้ความเร็วในเมืองตามกฎหมายกำหนด ก็จะทำให้ลกอัตราสิ้นเปลืองลงไป แถมยังมีระยะเบรกมากพอ สำหรับความเร็วในเขตเมือง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านหน้าโรงเรียนก็ลดลงมาเหลือ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับออกทางไกลบนไฮเวย์ ใช้ความเร็วที่ 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะช่วยทำให้รถของคุณประหยัดขึ้นได้อีกเยอะมากกว่าการขับเร็ว

หมั่นตรวจสอบแรงดันลมยาง
ลมยางที่อ่อนเกินไป นอกจากจะอันตรายต่อการขับขี่แล้ว ยังเป็นตัวการที่ทำให้รถกินน้ำมันมากยิ่งขึ้น ควรเติมลมยาง หรือคอยตรวจสอบแรงดันลมยาง ไม่ให้อ่อนมากจนเกินไป เติมให้แข็งกว่าที่กำหนดเล็กน้อย เช่น ให้เติมที่ 32 ก็เติมเพิ่มสัก 33-34 การเติมลมยางให้แข็งเข้าไว้ แต่เติมมากจนเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแข็งกระด้าง กระเด้ง-กระแทก เมื่อวิ่งผ่านทางไม่เรียบ แต่ลมยางที่ถูกต้องตามมาตรฐานช่วยยืดอายุยาง และช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง จะขับออกทางไกลก็เติมลมเผื่อเอาไว้สักหน่อย นอกจากจะช่วยทำให้ยางไม่มีอุณหภูมิสูงเกินไปขณะวิ่งด้วยความเร็ว ยังช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย ยางที่มีลมอ่อนจะเสี่ยงต่อการระเบิดและทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

ออกตัวแบบปกติไม่เร่งรีบ
การออกตัวเมื่อจอดรอสัญญาณไฟจราจรเป็นคันแรก ไม่ควรใช้คันเร่งอย่างเต็มที่ ใช้วิธีค่อยๆ กดคันเร่งไปเรื่อยๆ เพิ่มความเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไป เครื่องยนต์และเกียร์จะทำงานไม่หนักมากด้วยการออกตัวอย่างนิ่มนวล แถมยังได้อัตราสิ้นเปลืองเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยในยุคน้ำมันแพง ให้ใช้คันเร่งตอนออกตัวแบบค่อยๆ กดจะทำให้ประหยัดน้ำมันได้ดี

สำรวจสภาพการจราจรก่อนออกเดินทาง
ก่อนจะออกเดินทางไปในเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ลองเปิดแอปฯ รายงานสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจสอบสภาพการจราจรตลอดเส้นทางว่าโล่ง หรือติดหนึบเป็นชั่วโมง เมื่อส่องด้วยแอปฯ แล้วเห็นว่าแดงทั้งเส้น ก็ควรหาทางหลีกเลี่ยง ไม่ควรขับฝ่าเข้าไปในเขตรถติด หากไม่มีความจำเป็น

ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรอนานๆ
ระบบ Auto start/stop ที่ติดตั้งมาให้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ควรเปิดใช้งาน มันอาจทำให้คุณรำคาญกับการติดๆ ดับๆ ของเครื่องยนต์ แต่ช่วยทำให้ประหยัดน้ำมัน และช่วยทำให้อากาศในกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ที่มีรถติดสะอาดมากขึ้นอีกนิด นอกจากจะประหยัด และทำให้มลพิษในอากาศลดลงแล้ว เครื่องยนต์ยังมีโอกาสพักการทำงาน (แต่ระบบ Auto start/stop นั้น ไดร์สตาร์ตจะทำงานพร่ำเพรื่อมากเกินไปเหมือนกัน)

ไม่ต้องวอร์มเครื่องยนต์นานๆ
เมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ตอนเช้า รอเดี๋ยวเดียวให้รอบเครื่องลดลงก็สามารถขับออกไปได้เลย ไม่ต้องรอจนความร้อนขึ้นถึงขีดกึ่งกลาง ออกจากที่พักเพื่อไปทำงานก็ใช้ความเร็วต่ำ เมื่อเครื่องยนต์ยังไม่ถึงเกณฑ์อุณหภูมิการทำงาน ก็ไม่ควรกดคันเร่งลากรอบลากเกียร์เพื่อไปให้เร็วขึ้น ขับไปเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ความร้อนของเครื่องยนต์ก็เข้าสู่เกณฑ์ปกติ ไม่จอดเดินเบาอยู่กับที่นานเกินไป ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์ แถมยังก่อมลพิษอีกด้วย

ปรับอุณหภูมิระบบแอร์ติดรถให้เหมาะสม
สำหรับคนขี้หนาว ไม่ชอบอากาศเย็น หรือไม่ชอบแอร์ที่เป่าใส่หน้า ก็สามารถปรับอุณหภูมิระบบปรับอากาศของรถยนต์ โดยตั้งเอาไว้ที่ 25 องศาฯ หากฝนตก และอุณหภูมิภายนอกไม่ร้อนมากจนเกินไป การปรับไปที่ 25 องศาเซลเซียส ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ตัดการทำงานในบางจังหวะ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้ อาจไม่มากเท่ากับการใช้คันเร่ง แต่ก็ทำให้ประหยัดน้ำมันได้อีก 5% เมื่อคอมเพรสเซอร์แอร์หยุดทำงาน การกินกำลังเครื่องยนต์ก็จะลดลง (นิดเดียว)

เอาสิ่งของ-สัมภาระที่ไม่จำเป็นออกจากรถ
ข้าวของเครื่องใช้ในรถของคุณผู้หญิงจะเยอะมาก เช่น รองเท้าที่โยนไว้ท้ายรถ แฟ้มเอกสาร ตำราเรียน หนังสือนิตยสาร หรือกระเป๋าของใช้กระจุกกระจิก หากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานในวันนั้น ก็ขนออกจากรถบ้าง บางรายเล่นขนลังใบยักษ์ข้างในก็ใส่สิ่งของสารพัด ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้ก็ยังมายัดเอาไว้ในรถแบบนี้ น้ำหนักบรรทุกก็จะเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: วิธีประหยัดน้ำมันในยุคเชื้อเพลิงแพงแสบไส้!

หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์

แชร์ข่าว